“เสกสกล” ใช้ตำแหน่งเดิมพันไล่แอมเนสตี้พ้นปท.

ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ฯ 25 พ.ย.-“เสกสกล” รับหนังสือกลุ่มปกป้องสถาบันฯ ร้องตรวจสอบ-ขับแอมเนสตี้จากประเทศ พร้อมร่วมปราศรัย ล่าล้านชื่อ ใช้ตำแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรีฯ เป็นเดิมพัน  


นายนพดล พรหมภาสิต ตัวแทนกลุ่มพสกนิกรปกป้องสถาบัน และนายอานนท์ กลิ่นแก้ว ตัวแทนกลุ่มศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) พร้อมด้วยผู้ชุมนุมประมาณ 50 คน ยื่นหนังสือถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ผ่านนายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ขอให้รัฐบาลตรวจสอบและจัดการตามกฎหมายกับองค์กรแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย ว่า มีพฤติกรรมเข้าข่ายกระทบความมั่นคงของประเทศและสถาบันพระมหากษัตริย์หรือไม่ ขอให้ตรวจสอบเส้นทางการเงินรวมทั้งให้ขับองค์กรดังกล่าวออกนอกประเทศ

นายนพดล กล่าวว่า ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายนว่าการกระทำของนายอานนท์ นำภา นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือไมค์  น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือรุ้ง เป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อ ล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 วรรคหนึ่ง แต่ปรากฏว่าแอมเนสตี้ฯ ได้ประกาศแคมเปญ เขียนจดหมายล้านฉบับถึงทั่วโลก จี้ทางการไทยให้หยุดดำเนินคดีกับน.ส.ปนัสยา ซึ่งถือว่าเข้ามาแทรกแซงกิจการภายในของประเทศ และจงใจไม่ปฏิบัติตามกฎหมายของประเทศไทย เนื่องจากคำตัดสินหรือคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญผูกพันทุกองค์กร อีกทั้งการกระทำของแอมเนสตี้ฯ ยังอาจถือได้ว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังและให้การสนับสนุนคนหรือกลุ่มบุคคลให้กระทำการจาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้


นายนพดล กล่าวว่า จากเหตุผลข้างต้นน่าจะเพียงพอแล้วที่รัฐบาลต้องให้ความสำคัญกับเรื่องนี้โดยเร่งด่วน ด้วยการให้องค์กรนี้พ้นออกไปจากประเทศไทย หากมีข้อมูลและหลักฐานที่เชื่อได้ว่าองค์กรนี้มีจุดมุ่งหมายแทรกแซงกิจการภายในของไทย และก่อนที่สถาบันพระมหากษัตริย์จะถูกล่วงละเมิดไปมากกว่านี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากรับหนังสือแล้ว นายเสกสกลร่วมปราศรัยด้วยท่าทีดุดัน ว่า ได้ตรวจสอบข้อมูลกับกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทยแล้วพบว่าการจดทะเบียนองค์กรไม่ถูกต้องกับวัตถุประสงค์ จึงขอให้เพิกถอนใบอนุญาตองค์กรนี้ โดยหลังจากนี้จะล่ารายชื่อ 1 ล้านรายชื่อทั่วประเทศเพื่อขับไล่แอมเนสตี้ฯ ให้พ้นจากประเทศไทย ซึ่งมี 2 แนวทางคือ 1. เราจะกดดันด้วยกฎหมาย เพื่อจัดการกับแอมเนสตี้ฯ ที่ไม่รักษากฎหมายของไทย จึงต้องเอาเข้าคุก หรือเอาออกนอกประเทศ หรือไม่ก็ยุบองค์กรดังกล่าวให้ได้ และ 2. กดดันด้วยพลังพี่น้องประชาชนที่จงรักภักดีกับสถาบันให้หยุดการกระทำที่ทำอยู่

“ผมขอสัญญากับมวลชนว่าผมไม่ยึดติดตำแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี คนอย่างแรมโบ้ อีสานมีความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ใครที่คิดมาทำลายแผ่นดิน ชาติ ศาสนา และคิดล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ ผมพร้อมพลีชีพกับพี่น้องประชาชน ถ้าผมไล่แอมเนสตี้ฯ ออกนอกประเทศไม่ได้ จะลาออกจากตำแหน่งแต่ไม่ออกจากประเทศ เพื่อมาขับเคลื่อนร่วมกับพี่น้องประชาชนและไล่แอมเนสตี้ฯ ออกไป และขอให้คำมั่นว่า ผมจะสู้ร่วมกับพี่น้องประชาชนที่ปกป้องสถาบันจนกว่าพวกมันจะพ้นจากประเทศไทย” นายเสกสกล กล่าว


ผู้สื่อข่าวรายงาน ระหว่างการยื่นหนังสือผู้ชุมนุมได้มีการแสดงพลัง พร้อมใจกันตะโกนขับไล่แอมเนสตี้ฯ ออกจากประเทศไทย และยังปราศรัยโจมตีการเคลื่อนไหวของแอมเนสตี้ฯ และมวลชนกลุ่มราษฎรที่เคลื่อนไหวให้ปฏิรูปสถาบันในสถานที่ต่าง ๆ ทั้งยังมีข้อสังเกตว่า การชุมนุมกลุ่มพสกนิกรปกป้องสถาบันครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจอำนวยความสะดวกให้ผู้ชุมนุมเข้ามาทำกิจกรรมดังกล่าวในบริเวณศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ฝั่งตรงข้ามทำเนียบรัฐบาล แตกต่างจากเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายนที่ผ่านมาที่เจ้าหน้าที่ตำรวจปิดถนนโดยรอบทำเนียบรัฐบาล เพื่อไม่ให้กลุ่มสหภาพคนทำงานบันเทิงประมาณ 10 คน เข้ามายื่นหนังสือให้พล.อ.ประยุทธ์ เพื่อขอเปิดสถานบันเทิงในวันที่ 1 ธันวาคม และส่งผลให้การจราจรโดยรอบติดขัด.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไม่เอาไว้! ต่างด้าวสร้างปัญหาให้บุคลากรการแพทย์เมืองปาย

ผบช.สตม. ลั่น ไม่เอาไว้! ต่างด้าวสร้างปัญหาให้บุคลากรการแพทย์เมืองปาย เพิกถอนใบอนุญาต ผลักดันออกนอกประเทศทันที

ตรวจสอบ The Park เขาหลัก งบก่อสร้าง 140 ล้าน คุ้มค่าหรือไม่?

สำนักข่าวไทย ได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านให้ช่วยเข้าไปตรวจสอบการก่อสร้างโครงการศูนย์กลางการท่องเที่ยวและนันทนาการชายฝั่งแห่งเมืองพังงา หรือ The Park เขาหลัก ริมหาดบางเนียง หลังมีข้อมูลว่าเป็นโครงการที่ก่อสร้างด้วยงบกว่าร้อยล้านบาท แต่ปัจจุบันกลับไม่ได้ใช้ประโยชน์ และถูกปล่อยให้อยู่ในสภาพรกร้าง

ลูกสาวสารภาพจุดไฟเผาพ่อวัย 73 ดับคากระท่อม

ลูกสาวเปิดปากสารภาพจุดไฟเผาพ่อวัย 73 ปี เสียชีวิตในกระท่อม ข้างลานรับซื้อข้าวเปลือก ต.โนนศิลาเลิง อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์

พิรงรองคุก2ปี

คุก 2 ปี “พิรงรอง” กสทช. คดี “ทรู” ฟ้องกลั่นแกล้ง

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี “พิรงรอง” กรรมการ กสทช. ไม่รอลงอาญา ผิดมาตรา 157 ชี้มีเจตนากลั่นแกล้ง “ทรูไอดี” ให้ได้รับความเสียหาย กรณีออกหนังสือเตือนโฆษณาแทรกในทีวีดิจิทัล

ข่าวแนะนำ

เปิดวินาทีระเบิดรถกระเช้าเทศบาลรือเสาะ

เปิดนาทีระเบิดรถกระเช้าที่จอดอยู่ในที่จอดรถของเทศบาลตำบลรือเสาะ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ช่วงเที่ยงวานนี้ (6 ก.พ.) จนพังเสียหาย

เมียวดีระส่ำ! ปั๊มเหลือน้ำมันสำรองได้อีก 3-4 วัน

เมียวดีระส่ำหนัก หลังไทยตัดกระแสไฟฟ้า-อินเทอร์เน็ต-น้ำมันข้ามชายแดน โดยเฉพาะน้ำมันขาดแคลนหนัก ปั๊มน้ำมันกว่า 20 แห่ง เหลือน้ำมันสำรองได้อีก 3-4 วัน ประธานหอการค้าเมียวดี เรียกร้องรัฐบาลไทยทบทวน อยากให้ 2 ประเทศ ร่วมกันปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้ถูกจุด