ยันไม่เอื้อประโยชน์กลุ่มทุนควบรวมสองค่ายมือถือ


รัฐสภา 25 พ.ย.- “ก้าวไกล” ถามความชัดเจนหน่วยงานใดตรวจสอบ สองบิ๊กค่ายมือถือควบรวมกิจการ หวั่นเกิดอำนาจเหนือการตลาด ด้าน รมว.ดีอีเอส แจงรัฐบาลเกาะติดศึกษาเรื่องนี้ พร้อมหามาตรการกำกับดูแลไม่ให้เกิดผลกระทบต่อประชาชน ยัน ไม่ได้เอื้อประโยชน์กลุ่มทุน



การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม โดย นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้ตั้งกระทู้ถามสดด้วยวาจา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เรื่องการควบรวมระหว่างทรูกับดีแทค โดยมีนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม มาชี้แจงแทนนายกรัฐมนตรี


นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า อำนาจขอบเขตในการพิจารณารายละเอียดผลกระทบจากการควบรวมครั้งนี้เป็นของใครระหว่างคณะกรรมการแข่นขันทางการค้า (กขค.) หรือ กสทช. ทั้งนี้สิ่งที่ควรป้องกันไม่ให้เกิดขึ้น คือ การแลกเปลี่ยนข้อมูลทางการค้าไม่ให้เกิดขึ้น เพราะถือเป็นอันตรายต่อสภาวะการแข่งขันอย่างมาก และในต่างประเทศก็มีคดีแบบนี้เป็นจำนวนมหาศาล ตอนนี้เป็นเหมือนสภาพสูญญากาศทางกฎหมาย การตีความกฎหมายจะทำให้ธุรกิจโทรคมนาคม ไม่มีหน่วยงานรัฐใดที่มีอำนาจยับยั้งการควบรวมได้ ทำให้เกิดอำนาจเหนือตลาดได้ และไม่มีองค์กรใดที่บอกตนเองมีอำนาจตรวจสอบ ซึ่งรัฐบาลไม่ควรปัดความรับผิอชอบ โดยรัฐบาลจะเรียกหน่วยงานทั้งสองมาชี้แจงหรือไม่ และหน่วยงานใดจะเป็นผู้ตรวจสอบได้ หรือรัฐบาลจะปล่อยให้มีการควบรวมโดยไม่มีการตรวจสอบทางกฎหมายเลย อีกทั้งจะป้องกันกรณีเกิดการผูกขาดทางธุรกิจอย่างไรและรัฐบาลเห็นด้วยกับการควบรวมครั้งนี้หรือไม่ เพราะการควบรวมธุรกิจโทรคมนาคมในต่างประเทศทำให้ค่าบริการสูงขึ้นในระยะยาว โดยเฉพาะธุรกิจจาก 3 เหลือ 2 ธุรกิจ เพราะเป็นรายใหญ่กับรายใหญ่อาจจะเกิดการผูกขาดได้ และอาจเกิดผลกระทบกับประชาชน



ด้านรัฐมนตรีดีอีเอส กล่าวชี้แจงยืนยันว่า รัฐบาลมีความห่วงใยในการควบรวมสองกิจการที่ส่งผลให้ผู้ประกอบการรายใหญ่อันดับสองและอันดับสามกลายเป็นอันดับหนึ่ง ทำให้โครงสร้างการแข่งขันทางตลาดเปลี่ยนแปลงไปอย่างมีนัยยะสำคัญ โดยนายกฯให้ผู้เกี่ยวข้องเข้าไปศึกษา ติดตาม และพยายามดูว่าเรามีอำนาจอะไรบ้างที่เข้าไปยับยั้งหรือแก้ไขปัญหานี้ได้ หากเกิดผลกระทบต่อประชาชน ทั้งนี้ยอมรับว่าทุกธุรกิจย่อมมีการแข่งขัน แต่ธุรกิจโทรคมนาคมไม่เหมือนธุรกิจทั่วไป เพราะนี่คือสาธารณูปโภคพื้นฐาน ยืนยันว่ารัฐบาลเป็นห่วงเรื่องนี้และติดตามตลอด ซึ่งตอนนี้อยู่ในขั้นรวมกิจการที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงพาณิชย์ เพราะเป็นการรวมบริษัท ยังไม่ถึงขั้นการรวมธุรกิจระบบโอเปเรเตอร์ของระบบมือถือ แต่เมื่อเล็งเห็นว่าจะมีผลกระทบเกิดขึ้น ทางรัฐบาลได้ประสาน กสทช. และหน่วยงานดีอีเอสศึกษาเรื่องนี้อยู่ว่าจะมีมาตรการกำกับดูแลอย่างไร ทั้งนี้ธุรกิจการสื่อสารไม่ได้มีเจ้าเดียวในประเทศไทยที่ต้องมีการแข่งขันด้านราคา โอกาสฮั้วหรือทำอำนาจเหนือตลาด กดดันผู้บริโภคต้องมีการกำกับดูแลโดยกสทช. และเราติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด แต่ทั้งนี้หากถามว่ารัฐบาลเห็นด้วยกับการควบรวมธุรกิจหรือไม่นั้น คงตอบไม่ได้ เพราะการที่เอกชนวางแผนธุรกิจเขา เราไม่สามารถไปทราบหรือห้ามได้ หากห้ามแล้วเขาขาดทุน มันถือเป็นเสรีภาพของบริษัทที่เป็นหลักเชิงการค้าและการลงทุนที่รัฐบาลไม่ควรไปยุ่ง ซึ่งรัฐบาลมีหน้าที่ดูแลไม่ให้กระทบประชาชนเท่านั้น ยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้เอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มทุนใด เราทราบดีว่าสาธารณูปโภคที่มีลงทุนสูงและแข่งขันกันตลอดเวลา เราต้องให้โอกาสเขาได้ติดและตัดสินใจธุรกิจของเขา ภายใต้การกำกับดูแลของกสทช. ที่มีการกำหนดราคาค่าใช้จ่ายขั้นต่ำ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม.-สำนักข่าวไทย.

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

ฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ส่งสุขรับปีใหม่

ส่งความสุขรับปีใหม่ กับฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ศิลปินลูกทุ่งเกือบ 100 ชีวิต ร่วมโชว์จัดเต็ม

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

เด้ง ตร.จราจร ปมคลิปรับเงินแลกไม่เขียนใบสั่ง

ผบก.ภ.จว.นนทบุรี สั่งย้าย “รอง สว.จร.สภ.รัตนาธิเบศร์” เซ่นคลิปรับเงินแลกไม่ออกใบสั่ง พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงภายใน 3 วัน ด้านเจ้าตัวอ้างไม่เห็นเงินที่วางบนโต๊ะในตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจร