รัฐสภา 25 พ.ย.-“ดอน” ตอบกระทู้หลังฝ่ายค้านถามไปเมียนมาลับ ๆ ล่อ ๆ รับรองรัฐบาลทหาร ยันมีตัวแทนกาชาดสากลร่วมคณะ มอบของตามหลักมนุษยธรรม ไม่เป็นข่าวเพราะไม่ได้หิวแสง ย้ำนานาชาติเข้าใจท่าทีไทย ข่าวมอบวัคซีนเฟกนิวส์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎรเป็นประธานการประชุม ได้พิจารณากระทู้ถามสด นายดอน ปรมัติวินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เกี่ยวกับการเยือนประเทศเมียนมาเมื่อ 14 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ซึ่งถามโดยนายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ที่ตั้งข้อสังเกตกรณีที่ตัวแทนรัฐบาลไทยไปเมียนมาและเข้าพบผู้นำรัฐบาลทหารของประเทศเมียนมา สร้างผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศไทย อีกทั้งยังเป็นการเยือนแบบลับๆ ล่อ ๆ ที่ถูกมองว่าทำไปเพื่อรับรองรัฐบาลทหารเมียนมาและการเจรจาผลประโยชน์
นายดอน ชี้แจงว่า การเดินทางไปประเทศเมียนมาดังกล่าวไม่ได้ทำแบบลับ ๆ ล่อ ๆ แต่ไม่จำเป็นต้องโพนทะนา เพราะกระทรวงการต่างประเทศไม่ใช่หน่วยงานที่ “หิวแสง” อีกทั้งการเดินทางไปประเทศเมียนมาของตนนั้น เนื่องจากเคยทำงานในโต๊ะเมียนมา กระทรวงการต่างประเทศนานถึง 40 ปี จึงทราบพัฒนาการต่าง ๆ โดยมีตัวแทนของกาชาดสากลร่วมเดินทางไปด้วย โดยมอบสิ่งของ เวชภัณฑ์ที่ได้รับบริจาคจากภาคเอกชน รวม17 องค์กร ทั้งองค์กรต่างชาติ เช่น ยูนิเซฟ ดับบลิวเอชโอ องค์กรการกุศลคริสเตียน รวมถึงมูลนิธิของไทย เช่น มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง เป็นต้น
“ไทยมีเส้นทางพิเศษ คือ ศูนย์ช่วยเหลือทางไกลด้านโลจิสติกส์ฉุกเฉินหรือเดลซ่า โดยมีของบริจาครวม 17 ตัน แต่รอบแรกขนไปได้เพียง 15 ตัน ส่วนที่เหลือจะขนส่งตามไปอีกครั้ง นอกจากนั้นรหารือประเด็นเดียวคือการช่วยเหลือเมียนมา ผมไปในฐานะเพื่อนบ้าน ตามหลักสิทธิมนุษยธรรม และเพื่อผลประโยชน์ของประเทศ อีกทั้งประเทศเมียนมาร์เป็นประเทศเพื่อนบ้านที่มีความสำคัญด้านยุทธศาสตร์ เพราะมีชายแดนติดต่อไทยกว่า 2.4พันกิโลเมตร ทั้งนี้ ประเทศไทยได้รับคำร้องขอจากกลุ่มประเทศอาเซียน และการเรียกร้องจากนานานประเทศ หลังจากที่เดินทางไปประชุมที่สหรัฐอเมริกาให้เข้ามาช่วยดูแล จึงเป็นการไปด้วยความจำเป็น และตกลงว่าไม่ให้มีข่าว แต่เมื่อมีข่าวจากฝั่งเเมียนมา จึงต้องชี้แจง” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าว
ส่วนกรณีที่มีข่าวระบุว่าไทยบริจาควัคซีนที่ได้รับบริจาคมาให้เมียนมา นายดอน กล่าวว่า เป็นข่าวปล่อย ซึ่งข้อเท็จจริงไม่มีสิ่งของจากรัฐบาล มีเพียงของบริจาคจากภาคเอกชน ไม่มีวัคซีน ซึ่งหากจะรับหรือจะให้ ต้องมีกระบวนการ เช่น ทำเอ็มโอยูระะหว่างเจ้าของวัคซีนด้วย ซึ่งเป็นกติกาสากล อีกทั้งการให้หรือรับต้องผ่านความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี(ครม.) ด้วย
“สิ่งเหล่านี้เป็นกฎทั่วไป ที่นั่งเทียนหรือบอกข่าวชาวบ้าน ให้ข้อคิดเห็น เป็นข้อมูลที่ผิดพลาดคือ เฟกนิวส์ ซึ่งเกิดขึ้นทุกวันในบ้านเรา สำหรับนักเล่าข่าว สื่อหรือใครก็ตามในแวดวง เมื่อได้ยินก็ขยายความออกไปในเชิงบิดเบือน ถึงขึ้นเป็นเฟกนิวส์ ผมยืนยันว่าไม่ได้ไปแบบลับ ๆ ล่อ ๆ แต่การทำงานของกระทรวงการต่างประเทศไม่จำเป็นต้องป่าวประกาศ การทำงานหวังความสำเร็จ เป็นประโยชน์กับประเทศ และประชาชนไม่ว่าฝ่ายใด ทำด้วยความรอบคอบ ไม่ต้องการแสง” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าว
ส่วนข้อสังเกตว่าเป็นการรับรองสถานะของรัฐบาลทหารเมียนมาซึ่งเป็นท่าทีที่นานาชาติไม่ยอมรับ นายดอน กล่าวว่า การเมืองระหว่างประเทศไม่มีอะไรแน่นอน (Absolute) ความพยายามที่สร้างสรรค์ สามารถทำคู่ขนานกับความขัดแย้งได้ เหมือนเคยมีคำกล่าวว่า ไฟท์ ไฟท์ ทอล์ก ทอล์ก คือ พยายามคุยกันตลอดเวลา ด้านการต่างประเทศ นั้น ตนยอมรับว่ามีผู้แทนพิเศษเอ็นเอสจี ขอให้ไทยเป็นตัวกลางเกือบทุกเรื่อง
“สำหรับผู้แทนสหรัฐที่เดินทางมาประเทศไทย ไปเป็นข่าวที่สิงคโปร์ แต่ไทยไม่ให้ข่าว ซึ่งมีประเด็นขอให้ช่วย โดยต้องการให้ไทยเป็นผู้นำอาเซียนในการประสานกับเมียนมา แต่เป็นเรื่องที่ไม่ได้พูดหรือเปิดเผยได้ ซึ่งการพูดคุยกับเมียนมาที่ผ่านมา เป็นประโยชน์และเมียนมาเห็นด้วยในหลักการที่จะร่วมมือกับอาเซียนและนานาชาติ ดูแลปัญหาทุกข์สุขของประชาชน ซึ่งสิ่งที่คุยกับเมียนมาได้รับความเห็นชอบในหลักการ และได้พูดกับประเทศตะวันตกหลายประเทศ ซึ่งทุกประเทศอยากมีส่วนร่วม” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าว
นายดอน ตอบประเด็นที่สหรัฐอเมริกาไม่เชิญประเทศไทยร่วมประชุมสุดยอดเพื่อประชาธิปไตย ซึ่งถูกตั้งข้อสังเกตว่าเป็นเพราะท่าทีไทยหลังเยือนเเมียนมา ว่า ไม่เชิญไม่แปลก บางเรื่องดีใจที่ไม่ได้รับเชิญ แต่หากเชิญ เราต้องพิจารณาว่าจะไปหรือไม่ เพราะหลายกรณีเป็นดาบสองคม ไม่ใช่ไม่มีคำเชิญแล้วต้องเสียใจ ในโลกความเป็นจริงไม่เป็นแบบนั้น ความจริงของชีวิตต่างประเทศไม่ได้เป็นอย่างที่หลายคนเข้าใจ ตนอยากนัดทานข้าวกับผู้ถามกระทู้ เพื่อเล่าให้ฟังในหลายมุม
ทั้งนี้ นายสุทิน ปฏิเสธคำชวนของนายดอน และกล่าวว่าขอให้ใช้เวทีของสภาฯ ชี้แจง หากประชุมโดยเปิดเผยไม่ได้ ขอให้ประชุมลับได้ พร้อมตั้งคำถามถึงท่าทีของไทยต่อการรัฐประหารในประเทศเมียนมา และการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง ซึ่งนายดอน กล่าวว่า ประเทศอาเซียนเรียกร้องรัฐบาลเมียนมาคืนอำนาจ ซึ่งเรารู้ว่าเป็นไปไม่ได้ แต่การปรองดองให้มีอำนาจร่วมกันทำได้ หากพยายามหาช่องทางคุยกับผู้มีผลประโยชน์ร่วมกันจัดสรรอำนาจระหว่างกัน เราเดินทางนี้และหลายประเทศเข้าใจ ในโลกเป็นจริงกับต่างประเทศ มี bad cop. และ Best Cop. ซึ่งหลายประเทศมองว่าไทยคือ Good Cop.-สำนักข่าวไทย