รัฐสภา 24 พ.ย.-ฝ่ายค้าน วัดพลังรัฐบาลแต่เช้า เสนอนับองค์ประชุม หลัง “ไพบูลย์” โทษฝ่ายค้านขาดประชุมมากที่สุด แต่สุดท้ายองค์ประชุมเกินกึ่งหนึ่งเดินหน้าประชุมต่อ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มี นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ในวันนี้ (24 พ.ย.) มีวาระสำคัญในการพิจารณาเรื่องด่วน 3 เรื่อง ได้แก่ ร่างพระราชบัญญัติเครื่องสำอาง ร่างพระราชบัญญัติอาหาร และร่างพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด โดยวิปรัฐบาล ได้เสนอให้เลื่อนญัตติขอสภาผู้แทนราษฎร ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการตั้งสถานบันเทิงแบบครบวงจร มาพิจารณาต่อจากนี้ เพื่อหาแหล่งรายได้ใหม่จากนักท่องเที่ยว แต่ฝ่ายค้านไม่เห็นด้วย และขอให้สภาผู้แทนราษฎร พิจารณาตามวาระการประชุมเดิม ทำให้ที่ประชุมต้องตรวจสอบองค์ประชุม เพื่อลงมติ โดยมีผู้แสดงตน 268 คน แต่ในการลงมติ มีผู้เห็นด้วยตามที่วิปรัฐบาลเสนอ 234 เสียง ต่อ 80 เสียง ทำให้ที่ประชุมจะพิจารณาญัตติด่วนขอสภาผู้แทนราษฎร ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการตั้งสถานบันเทิงแบบครบวงจร มาพิจารณาต่อจากนี้
โดยก่อนเข้าสู่วาระการประชุม ส.ส.ฝ่ายค้าน และฝ่ายรัฐบาล ได้มีการโต้เถียงกันอีกครั้ง หลัง นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ตั้งข้อสงสัยต่อผลการลงมติที่เกิดขึ้น โดยที่นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ เรียกร้องให้มีการเผยแพร่รายชื่อ ส.ส.ที่ไม่เข้าร่วมประชุม เพื่อให้รับทราบว่า ส.ส.พรรคร่วมฝ่ายค้าน ขาดการประชุมมากที่สุด ก่อนจะถูก ส.ส.ฝ่ายค้านประท้วงให้ถอนคำพูด ซึ่งแม้นายไพบูลย์ จะยอมถอนคำพูด แต่ ส.ส.ฝ่ายค้าน ก็ยังคงไม่พอใจ ก่อนที่นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย เสนอนับองค์ประชุมแบบขานชื่อ
ด้าน นายนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.นครสรรค์ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานวิปรัฐบาล เสนอญัตติให้ที่ประชุม นับองค์ประชุมแบบบัตรกดแสดงตน เพื่อความรวดเร็ว และสามารถเดินหน้าการประชุมต่อไปได้ ทำให้ที่ประชุมต้องมีการลงมติอีกครั้ง เพื่อสรุปว่า จะนับองค์ประชุมด้วยการขานชื่อ หรือการกดบัตรแสดงตน แต่ก่อนการลงมติ ส.ส.ยังคงโต้เถียงกันไม่จบสิ้น จนทำให้ประธานวิปรัฐบาล เสนอพักการประชุม เพื่อพูดคุยกับฝ่ายค้าน
ภายหลังเข้าสู่การประชุม นายจุลพันธ์ ยังคงยืนยัน ฝ่ายค้าน ยังคงย้ำให้มีการตรวจสอบองค์ประชุมแบบขานชื่อ และขอบคุณวิปรัฐบาล ที่รับปาก จะไม่ให้มีการกระทบกระทั่งกัน ระหว่างฝ่ายค้าน และฝ่ายรัฐบาลอีก โดยที่นายนิโรธ ยอมถอนญัตติการนับองค์ประชุมด้วยการกดบัตรแสดงตนออกจากที่ประชุม ทำให้ที่ประชุม เข้าสู่การขานชื่อ ส.ส.เพื่อตรวจสอบองค์ประชุม
ทั้งนี้ ในระหว่างการตรวจสอบองค์ประชุมแบบขานชื่อ ตามที่ฝ่ายค้านเสนอนั้น ปรากฏว่า มีเพียง ส.ส.รัฐบาล ที่อยู่แสดงตน โดยที่ ส.ส.พรรคฝ่ายค้าน ได้วอล์คเอ้าท์ออกจากห้องประชุม ไม่ได้อยู่ร่วมเป็นองค์ประชุมด้วย อย่างไรก็ตามเมื่อนับองค์ประชุมชื่อปรากฏว่ามีส.ส. อยู่ในห้องประชุม 264คน ซึ่งขณะนี้มีสมาชิก 475 คน กึ่งหนึ่งคือ238คน เท่ากับ องค์ประชุมจึงได้เดินหน้าพิจารณาร่างพระราชบัญญัติเครื่องสำอางต่อ.-สำนักข่าวไทย