ทำเนียบรัฐบาล 24 พ.ย.-โฆษกรัฐบาล เผยนายกฯ ปลื้มกระแสใช้จ่าย “คนละครึ่งเฟส 3-ยิ่งใช้ยิ่งได้” โค้งสุดท้ายก่อนสิ้นปีดีต่อเนื่อง ย้ำรัฐบาลมุ่งมั่นพลิกโฉมประเทศกระตุ้นบริโภค บรรเทาเดือดร้อนประชาชน
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมปลาบปลื้มกระแสการใช้จ่ายของประชาชนผ่านมาตรการใช้จ่ายลดค่าครองชีพของรัฐ ที่รัฐบาลเพิ่มวงเงินสนับสนุนเพื่อช่วยลดภาระการจับจ่ายใช้สอยในชีวิตประจำวันของประชาชน ช่วยกระตุ้นฟื้นฟูเศรษฐกิจ จากผลกระทบสถานการณ์โควิด-19 ได้แก่ โครงการคนละครึ่งเฟส 3 โครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ รวมทั้งเพิ่มกำลังซื้อในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยอดการใช้จ่ายของแต่ละโครงการผู้ใช้สิทธิสะสมรวม 41.2 ล้านคน ยอดใช้จ่ายสะสม รวม 191,685.3 ล้านบาท แบ่งเป็น 1) โครงการคนละครึ่ง เฟส 3 มีผู้ใช้สิทธิสะสม 26.13 ล้านคน ยอดใช้จ่ายสะสม 169,488.9 ล้านบาท แบ่งเป็นส่วนที่ประชาชนจ่ายสะสม 86,115 ล้านบาท และรัฐร่วมจ่ายสะสม 83,373.9 ล้านบาท 2)โครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ มีผู้ใช้สิทธิสะสม 90,799 คน ยอดใช้จ่ายส่วนประชาชนสะสม 3,445.8 ล้านบาท และยอดใช้จ่ายด้วย e-voucher สะสม 184.5 ล้านบาท 3)โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ มีผู้ใช้สิทธิสะสม 13.55 ล้านคน ยอดใช้จ่ายสะสม 17,123.1 ล้านบาท และ 4) โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ มีผู้ใช้สิทธิสะสม 1.43 ล้านคน ยอดใช้จ่ายสะสม 1,443 ล้านบาท
“ในส่วนของผู้ประกอบการร้านอาหารและเครื่องดื่มในโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 และโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ที่ขายอาหารและเครื่องดื่มผ่านผู้ให้บริการฟู้ดเดลิเวอรี่แพลตฟอร์ม ล่าสุดมีจำนวนกว่า 75,000 ราย ประชาชนสามารถใช้จ่ายในโครงการต่างๆ ได้จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2564 สำหรับโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้สามารถลงทะเบียนรับสิทธิ ผ่านเว็บไซต์ www.ยิ่งใช้ยิ่งได้.com หรือผ่าน g-Wallet บนแอพพลิเคชันเป๋าตังจนกว่าจะครบ 1 ล้านสิทธิ” นายธนกร กล่าว
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ภาพรวมเศรษฐกิจกลับมาคึกคักหลังจากรัฐบาลมีมาตรการผ่อนคลาย ซึ่งนายกรัฐมนตรีพอใจกระแสตอบรับและการใช้จ่ายของประชาชนที่มีความเชื่อมั่นในรัฐบาล โดยออกมาใช้ชีวิตแบบ New Normal ซึ่งรัฐบาลยังคงมุ่งมั่นทำงานเพื่อพลิกโฉมประเทศไทยผ่านมาตรการและโครงการต่าง ๆ มาตรการเยียวยา มาตรการฟื้นฟูและกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ บรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชน
“แต่ละโครงการได้รับเสียงชื่นชมจากต่างชาติ เช่น โครงการคนละครึ่ง เราเที่ยวด้วยกัน ฯลฯ ที่ทำให้ทั้งผู้ซื้อ-ผู้รับบริการและผู้ประกอบการ ร้านค้า หาบเร่ แผงลอย ต่างได้รับประโยชน์ สร้างเม็ดเงินสะพัดในระบบเศรษฐกิจ คู่ขนานไปกับนโยบายการเปิดประเทศ สร้างความเชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยวและนักลงทุนต่างชาติได้ เชื่อมั่นว่าอีก 1 เดือนข้างหน้า เศรษฐกิจไทยจะยิ่งคึกคัก เป็นช่วงเวลาที่ประชาชนไทยทุกคนมีความสุขในเทศกาลปีใหม่อย่างแน่นอน” นายธนกร กล่าว.-สำนักข่าวไทย