ก้าวสู่ปีที่ 23 ป.ป.ช.เร่งสางคดีค้างเก่า

กรุงเทพฯ 18 พ.ย. – ป.ป.ช. ก้าวสู่ปีที่ 23 “วัชรพล” ย้ำทำงานด้วยความ “ซื่อสัตย์-สุจริต-โปร่งใส” ให้สังคมรักและศรัทธา เร่งสางคดีค้างเก่า บังคับใช้กฎหมายลบคำสบประมาททำงานช้า


พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานกรรมการป.ป.ช. และกรรมการ ป.ป.ช. พร้อมทั้งผู้บริหาร ร่วมในพิธีวันสถาปนาสำนักงาน ป.ป.ช. ครบรอบ 22 ปี ในพิธีสงฆ์และพิธีพราหมณ์   พล.ต.อ.วัชรพล  กล่าวมอบนโยบายให้กับเจ้าหน้าที่  เพื่อขับเคลื่อนในปีต่อไป  ขอชื่นชมและขอบคุณ เจ้าหน้าที่ป.ป.ช.ทุกคน ที่ตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา ที่ได้ทุ่มเททำงาน  ถึงแม้จะมีสถานการณ์โรคโควิด-19  แต่ยังมีผลงานด้านการไต่สวนที่มากขึ้นเป็น  2  เท่า  เมื่อเปรียบเทียบระหว่างปี  2563 ที่สามารถสะสางได้ 700 กว่าคดี   และในปี 2564 ซึ่งเป็นปีที่เราต้องเวิร์ก ฟรอม โฮม 100 เปอร์เซ็นต์ แต่เราก็สามารถทำได้ 1,500 คดี   ในปีนี้ตนจึงบอกทุกคนว่าต้องทำให้ได้ในอัตราเดิม  ต้องทำงานกันเหนื่อยหน่อย  เพราะถ้าในปี 2565 ทำได้กว่า 1,500 คดี ต่อไปป.ป.ช. ก็จะมีแต่คดีใหม่ๆ ไม่มีเรื่องค้างเก่า

ประธาน ป.ป.ช. กล่าวว่า ถ้าเราทำคดีใหม่ๆ ได้อย่างรวดเร็ว  สิ่งที่จะตามมาคือจะสามารถสร้างกระบวนการป้องปรามได้  การบังคับใช้กฎหมายจะมีประสิทธิภาพ และรวดเร็ว   ขณะนี้พยายามสร้างให้ทุกคนตระหนักรู้ว่าทุกคนต้องมีบทบาท และหน้าที่ ทุ่มเทเสียสละ มีความภาคภูมิใจ   ในการเป็นเจ้าพนักงาน ป.ป.ช.  ร่วมถึงสำนักงาน ป.ป.ช.จังหวัด  สำนักไต่สวน  สำนักตรวจสอบทรัพย์สิน   ทุกๆ สำนักต้องเข้าใจในนโยบายการทำงาน รวดเร็ว โปร่งใส  ให้มีการวางแผนจัดการ   ให้งานในส่วนของตัวเองได้รับการบริหารจัดการ  ตามที่คณะกรรมการวางแถวทางไว้ ว่าลดระยะเวลาในการทำงาน  ดำรงความเป็นธรรม ทำงานด้วยความโปร่งใส  ที่จะตรวจสอบ และสามารถให้ข้อมูลกับสังคม เพื่อเป็นการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์  โดยเน้นการบริหารงานอย่างมีส่วนร่วม  ดังนั้นเมื่อทุกคนวางแผนการทำงานของตัวเองตามหลักการทำงาน  วางแผนดำเนินการ  ประเมินและปรับปรุง ในหน้าที่ของตัวเอง หากทุกคนทำได้อย่างนี้ งานจะมีแต่พัฒนา ซึ่งเราต้องไม่หยุดที่จะพัฒนาตัวเอง


พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวว่า การทำงานของ ป.ป.ช.ต้องทำงานทั้ง  เอาท์พุท และ เอาท์คัม เช่น  สามารถสะสางได้ 1,500 คดี ก็ต้องดูว่าชี้มูลได้กี่คดี  เมื่อส่งไปยังอัยการแล้ว ก็ต้องติดตามกระบวนการด้วยว่า อัยการสูงสุดว่าอย่างไร  เห็นด้วยกับคดีที่ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดหรือไม่  หากอัยการไม่เห็นด้วย  และตั้งข้อไม่สมบูรณ์  ป.ป.ช.ก็จะตั้งกรรมการไปทำงานร่วมกันเพื่อให้สมบูรณ์  หากอัยการไม่ฟ้อง เราก็ต้องดูว่ามีกี่เรื่องที่เขาไม่ฟ้อง เราต้องมีการติดตามรายละเอียดทั้งหมด เพื่อดูที่ผลลัพธ์ของงาน และหากอัยการไม่ฟ้อง ป.ป.ช.ก็ฟ้องเอง  ดังนั้นต้องดูว่าเมื่อ ป.ป.ช. เอาท์พุตออกมาแล้ว  ก็ต้องไปดูเอาท์คัมว่าอัยการเห็นด้วยกับเรากี่เปอร์เซ็นต์  และที่เขาไม่เห็นด้วย คดีไหนข้อหาเป็นอย่างไร และเนื้อหาเป็นอย่างไร ก็จะกลายเป็นบทเรียนที่เราจะนำมาเป็นตัวอย่างในการเรียนรู้การทำงานของ ป.ป.ช.เอง ต้องติดตามทุกสเต็ปจนกระทั่งคดีถึงที่สุด  

 ประธาน ป.ป.ช. กล่าวว่า ขณะนี้ปัญหาที่ยังเหลืออยู่คือ การตรวจรับคำกล่าวหา และเรื่องตรวจสอบที่ค้างอยู่อีกมาก  ซึ่งในปีนี้มีนโยบายเร่งเรื่องตรวจสอบที่ค้างเก่า  โดยมีเป้าหมายว่าต่อไปการตรวจสอบต้องไม่เกิน 1 ปี  ไต่สวนก็ต้องเร็วที่สุด โดยขึ้นอยู่กับขนาดของคดี เล็ก กลาง ใหญ่  ให้มีหัวใจว่าทำงานอย่างมีเป้าหมาย โปร่งใส ตรวจสอบได้ เผยแพร่ข้อมูลให้กับประชาชนพร้อมกับให้สื่อมวลชนเป็นหูเป็นตาช่วยเรา และจะทำให้เราทำงานได้ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต

ผู้สื่อข่าวถามว่าการทำงานตรวจสอบนักการเมือง  ป.ป.ช.ยังจะทำเข้มข้นเหมือนเดิมหรือไม่  พล.ต.อ.วัชรพล  กล่าวว่า ในการทำงานของ ป.ป.ช.ไม่ได้พุ่งเป้าไปที่นักการเมือง  เรามีหน้าที่ไต่สวนวินิจฉัย ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ องค์กรอิสระ และเจ้าหน้าที่รัฐ  หากคดีไหนสังคมสนใจ คดีที่เกิดความเสียหายต่อระบบส่วนรวม นั่นคือ งานของป.ป.ช.    เมื่อป.ป.ช.ทำงานเช่นนี้ทำให้เกิดกระแสสังคมว่าเราเอาจริงแล้ว  ขณะเดียวกันสิ่งที่สำคัญคือ ป.ป.ช.ต้องให้ความเป็นธรรม โปร่งใส่ ตรวจสอบได้ คนของ ป.ป.ช. ต้องมีมาตรฐาน ซื่อสัตย์ สุจริต เป็นแบบอย่างได้


“ ยืนยันว่า ไม่ได้ดูที่ชื่อหรือนามสกุลผู้ถูกกล่าวหา  แต่จะต้องวิเคราะห์ว่าเรื่องใดมีผลกระทบต่อสังคมส่วนรวม  เรื่องใดที่จะทำให้เกิดกระแสในการต่อต้าน  ทำให้เกิดภาพพจน์ที่ดีต่อสังคม  ไม่ได้ดูว่าเป็นคดีของกลุ่มไหน  หรือจ้องดำเนินการเฉพาะกลุ่มเฉพาะบุคคล  เมื่อเราดูว่าเรื่องนั้นเป็นเรื่องที่ผู้คนสนใจ  เราก็จะวิเคราะห์ถึงความคุ้มค่าของงาน โดยให้ความเป็นธรรมกับทุกคน  ทุกคดี  ยึดหัวใจที่สำคัญคือ ความโปร่งใส ตรวจสอบได้  เจ้าหน้าที่เราต้องทำงานด้วยความภาคภูมิใจ เสียสละ เพราะงานนี้ไม่มีใครอยากทำ เนื่องจากไม่มีใครชื่นชม  มีแต่จะชอบมากหรือชอบน้อย  หรือไม่ชอบเลย มีน้อยมากที่จะชอบหรือจะรัก ป.ป.ช.   ดังนั้นเราต้องคิดว่าทำอย่างไรที่จะให้คนและสังคมศรัทธา “ พล.ต.อ.วัชรพล  กล่าว .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

New Zealanders march towards Wellington to protest Indigenous treaty bill

ชาวเมารีเต้นฮากาประท้วงร่าง กม.นิวซีแลนด์

เวลลิงตัน 15 พ.ย.- ผู้คนในหลายเมืองทั่วนิวซีแลนด์เข้าร่วมการเดินขบวนมุ่งหน้าไปยังกรุงเวลลิงตัน เพื่อประท้วงร่างกฎหมายลิดรอนสิทธิของชนพื้นเมือง โดยมีการเต้นฮากาที่เป็นวัฒนธรรมของชาวเมารีในระหว่างการประท้วงด้วย รัฐสภานิวซีแลนด์ผ่านความเห็นชอบในเบื้องต้นเมื่อวานนี้ เรื่องการตีความใหม่สนธิสัญญาอายุ 184 ปี ที่มกุฎราชกุมารอังกฤษกับหัวหน้าชาวเมารีมากกว่า 500 คนลงนามในปี พ.ศ.2383 กำหนดเรื่องการปกครองนิวซีแลนด์ร่วมกัน ซึ่งเป็นแนวทางในการออกกฎหมายและนโยบายของประเทศมาจนถึงปัจจุบัน ความเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้เกิดการชุมนุมประท้วงตามเมืองต่าง ๆ ทั่วนิวซีแลนด์ โดยมีการจัดเดินขบวนเป็นเวลา 9 วันมุ่งไปยังกรุงเวลลิงตัน คาดว่าขบวนจะถึงเมืองหลวงในวันที่ 19 พฤศจิกายน ตำรวจแถลงวันนี้ว่า มีคนประมาณ 10,000 คน เข้าร่วมการเดินขบวนในเมืองโรโตรัว ห่างจากกรุงเวลลิงตันไปทางเหนือราว 450 กิโลเมตร ผู้ประท้วงแต่งกายในชุดชนพื้นเมือง มีการเต้นฮากาที่เป็นวัฒนธรรมของชาวเมารี โดยได้รับการต้อนรับจากคนจำนวนมากที่มาโบกธงเมารีและร่วมร้องเพลง.-814.-สำนักข่าวไทย

วัดอรุณฯ เนืองแน่น นักท่องเที่ยวแห่ร่วมงานลอยกระทง

นักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติแน่นวัดอรุณฯ ร่วมงานประเพณีลอยกระทง 2567 “ลอยกระทง วิถีไทย ปลอดภัย ใส่ใจสิ่งแวดล้อม” มีน้องหมูเด้ง Thai Cuteness นำนักท่องเที่ยวแต่งชุดไทยสืบสานคุณค่าวัฒนธรรม นางสาวไทย(ดินสอสี) ชวนรำวงลอยกระทง 6 ภาษา ผลักดันเทศกาลไทยสู่ World Event หมุดหมายสำคัญของนักท่องเที่ยวทั่วโลก

“เจ๊พัช” ขอโทษรัฐมนตรีน้ำ ยืนยันไม่รู้จักส่วนตัว

“กฤษอนงค์” โพสต์ขออภัยรัฐมนตรีน้ำและคุณพ่อ ปมคลิปเสียงแอบอ้าง พร้อมขอน้อมรับผิดไว้แต่เพียงผู้เดียว แจงเป็นการสนทนาแนวทางส่งเสริมอาชีพเท่านั้น

“จิราพร” มอบทนายนำคลิปเข้าแจ้งจับนักร้องเรียนหญิงอ้างชื่อรีดทรัพย์

ทนายความ “รมต.” นำคลิปเข้าแจ้งจับนักร้องเรียนหญิง อ้างชื่อเรียกรับเงินกลุ่ม “ดิไอคอน” ยืนยันไม่เคยรู้จักกัน

ข่าวแนะนำ

ซูเปอร์มูน

ทั่วโลกแห่ชมซูเปอร์มูนครั้งสุดท้ายของปีนี้

เมื่อคืนที่ผ่านมาผู้คนทั่วโลกมีโอกาสได้ชมดวงจันทร์ที่เรียกว่าซูเปอร์มูนซึ่งเกิดขึ้นเป็นครั้งสุดท้ายของปีนี้

หารือสีจิ้นผิง

นายกฯ หารือ “สี จิ้นผิง” ขยายความร่วมมือการค้า-ลงทุน

นายกรัฐมนตรี หารือ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องขยายความร่วมมือด้านเศรษฐกิจการค้าการลงทุนระหว่างกันให้มากขึ้น พร้อมแลกเปลี่ยนการแก้ไขปัญหาความยากจนของประชาชนสองประเทศ พร้อมอัญเชิญพระเขี้ยวแก้วจากปักกิ่งประดิษฐานท้องสนามหลวง