รัฐสภา 18 พ.ย.- “สันติ” แจงสภาฯ เร่งจัดหาผู้ซื้อข้าวรายย่อยในต่างประเทศ หวังเพิ่มมูลค่าข้าวชาวนา
นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ชี้แจงต่อที่ประชุมสภาฯ ช่วงกระทู้ถามสดของนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ต่อปัญหาของรัฐบาลที่เยียวยาให้เกษตรกรชาวนา ตามนโยบายประกันราคาข้าวล่าช้า และความชัดเจนต่อการยกเลิกโครงการดังกล่าว หลังจากที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ระบุควรทบทวน ว่า เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติกรอบวงเงิน 1.3 หมื่นล้านบาท เพื่อจัดสรรให้ชาวนาตามโครงการประกันราคาข้าว และจ่ายให้ชาวนาแล้ว 2 งวด คือเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายนและวันที่ 10 พฤศจิกายน โดยให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธกส.) ดำเนินการ อย่างไรก็ตามยอมรับว่า ยังมีเงินที่คงค้างจัดสรรให้ชาวนาอีก 7.6 หมื่นล้านบาท กระทรวงการคลังได้สั่งการไปยังหน่วยงานต่างๆ ให้สำรวจการใช้งบประมาณที่ไม่จำเป็นเร่งด่วน หรือไม่จำเป็นให้ปิดโครงการ และนำเงินคืนกระทรวงการคลัง เพื่อให้มีกรอบวงเงิน เพื่อจัดสรรให้ชาวนาได้มีใช้ต่อเนื่อง
“กระทรวงการคลังให้ความสำคัญ ว่ากรณีที่ชาวนาขายข้าว ขายพืชผลเกษตร ได้ราคาสูง ต่ำบ้าง กระทรวงการคลังเร่งรัดแจ้งไปยังหน่วยงานต่างๆ ต้องพัฒนาเกษตรกรให้เข้มแข็ง โดยเฉพาะลดต้นทุนเพาะปลูก รวมกลุ่มเป็นเกษตรแปลงใหญ่ อุตสาหกรรมทำนา จะทำให้ลดต้นทุนได้ รวมถึงแปรรูปเพิ่มมูลค่าข้าวเปลือก จะทำให้ผลิตภัณฑ์มีมูลค่าสูง ทั้งนี้ข้าวของไทยพึ่งพาผู้ส่งออกรายใหญ่เท่านั้น จึงได้ขอให้กระทรวงการคลังดำเนินการหาผู้ซื้อรายย่อยในต่างประเทศด้วย อย่างไรก็ดีการชดเชยระยะสั้นยังมีความจำเป็น เพื่อช่วยชาวนา”นายสันติ กล่าว
ทั้งนี้ นายยุทธพงศ์ ได้ตั้งคำถามต่อการประกาศนโยบายของรัฐบาล ว่าเมื่อประกาศนโยบายต้องดำเนินการให้ได้ ไม่ใช่ระบุว่าไม่มีเงิน โดยพบว่ารัฐบาลยังมีค่าเก็บเกี่ยวค้างจ่ายให้เกษตรกรอีก 5.4 หมื่นล้านบาท สำหรับคำชี้แจงตนไม่เห็นความหวังว่า ชาวนาจะได้เงินเมื่อไร.- สำนักข่าวไทย