“มงคลกิตติ์” เห็นด้วยยุบ 250 ส.ว. เสนอเพิ่ม 250 ส.ส.แทน

รัฐสภา 16 พ.ย.- “มงคลกิตติ์” การันตีร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน เห็นด้วยยุบ 250 ส.ว. แต่เสนอเพิ่ม 250 ส.ส.แทน อ้างยึดโยงกับประชาชนมากกว่า แนะ “พล.อ.ประยุทธ์” ลงพื้นที่ฟังเสียงสะท้อนประชาชนด้วยตนเอง

เมื่อเวลา 16.28 น. วันที่ 16 พ.ย. ที่รัฐสภา ในการประชุมร่วมรัฐสภา ครั้งที่ 2 สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง เพื่อพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ….ฉบับภาคประชาชน นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยศรีวิไลย์ อภิปรายว่า รัฐธรรมนูญปี 2560 มาจากการยึดอำนาจของคณะรัฐประหาร นำโดยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีสองสมัย ซึ่งใกล้จะครบ 8 ปีในวันที่ 23 ส.ค. 2565 ซึ่งตั้งแต่วันที่ 22 พ.ค. 2557 เป็นต้นมามีบทบัญญัติรับรองการกระทำการเป็นกบฏตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 113 และได้นิรโทษกรรมตนเองกับพวกไว้ในรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2557 ฉบับชั่วคราวในมาตรา 48 และมีรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 มาตรา 279 รองรับ ทั้งนี้มีอย่างที่ไหนที่เอา ส.ว. 250 คนที่ตนเองเลือกมากับมือโหวตให้ตนเองเป็นนายกรัฐมนตรีร่วมกับ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล เดิมทีตนเห็นว่าประเทศไทยควรมีสมาชิกวุฒิสภาไว้กลั่นกรองกฎหมายเพื่อความรอบคอบ เพราะบางที ส.ส.อาจไม่รอบคอบพอ แต่วุฒิสภาหมายถึงสภาฯ ที่มีแต่ผู้ทรงคุณวุฒิ ไม่มีเจ้าของ มีความอิสระทางการเมือง ที่สำคัญต้องคิดตรงกับประชาชน ซึ่งไม่ใช่ ส.ว. 250 คนชุดปัจจุบันที่โยงกับหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ และส.ว.กลุ่มนี้มีความซื่อสัตย์ภักดีกับ พลเอกประยุทธ์ อย่างสุดลิ่มทิ่มประตู ยกตัวอย่างเมื่อวันที่ 24 มิ.ย. 2564 มีการประชุมวุฒิสภา พลเอกประยุทธ์ ได้ถาม ส.ว.ที่มาร่วมประชุมว่าในที่นี้มีใครไม่เชื่อมั่นตนหรือไม่ ปรากฏว่าไม่มีใครยกมือ ถ้าอย่างนั้นตนอยากให้นายกรัฐมนตรี ลองไปถามประชาชนบ้าง หรือไม่ก็เปิด Comment Facebook ส่วนตัวของนายกรัฐมนตรี ก็จะรู้ว่าประชาชนรักท่านแค่ไหน หากนายกรัฐมนตรีกลัวว่าจะโกหกก็ไปคนเดียวหรือไปลูกน้องกับซักสองคนตามชุมชนต่างๆ นั่งรถเมล์ ไปไร่นา หรือตามชุมชนที่อยู่ริมตลิ่งน้ำท่วมทุกวันใน จ.นนทบุรี กรุงเทพมหานคร หรือจังหวัดอื่นๆ ไปตามตลาดหรือห้างสรรพสินค้า ก็ได้ ไปถามว่าอยากสนับสนุนนายกฯ คนนี้ ให้อยู่ยาวหรือไม่ ท่านก็จะรู้คำตอบเอง เพื่อไปฟังกับหูเชือกกับตาและยอมรับว่ามันคือเรื่องจริง


นายมงคลกิตติ์ กล่าวต่อว่า คนเรานั้นมีสูงย่อมมีต่ำ มีอำนาจย่อมหมดอำนาจ มีวาสนาย่อมหมดวาสนา มีบุญก็ย่อมหมดบุญ อย่าฝืนต่อไป เราจะได้เห็นว่า ส.ว. 250 คน ไม่มีส่วนใดที่ยึดโยงกับประชาชน ตนเห็นด้วยกับร่างที่เสนอมาให้ยกเลิก ส.ว. ถือว่าเป็นการประหยัดงบประมาณ แต่ถ้าจะให้ดีหากยกเลิก ส.ว.ไปแล้วตนมีความคิดส่วนตัวว่าควรจะเพิ่ม ส.ส.อีก 250 คน เพราะยึดโยงกับประชาชนมากกว่า อีกทั้งส.ว.ชุดปัจจุบันมีความสำคัญอย่างมาก เพราะเป็นคนรับรองการสรรหาองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ ทั้งที่องค์กรอิสระที่ต้องมีความเป็นกลางทางการเมือง เพื่อไม่ใช่ผลประโยชน์ทางการเมืองฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด เพื่อทำงานตรวจสอบและถ่วงดุลรักษาบ้านเมืองเอาไว้ ส่วนแผนยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศนั้น เมื่อดูแล้วไม่ทันกับสถานการณ์และเหตุการณ์ปัจจุบัน เพราะบุคคลที่เข้าไปดำรงตำแหน่งไม่หลากหลาย ไม่ครบถ้วนทุกช่วงวัย สมควรต้องปรับปรุงควรใช้คนให้ถูกกับงานเหมาะกับอนาคต ไม่ใช่กำหนดอนาคตให้เหมือนกับในอดีต ส่วนการเพิ่มเติมบทที่ 16 ในการลบล้างผลพ่วงการรัฐประหารและการป้องกันการต่อต้านรัฐประหารนั้น ถึงแม้จะรับร่างผ่านไปแต่ถ้ามีกลุ่มทหารหรือกลุ่มบุคคลที่กระหายอำนาจ กลัวว่าจะสูญเสียอำนาจ อีกทั้งกลุ่มทหารกลุ่มนี้ยังมีอำนาจในการควบคุมอาวุธยุทโธปกรณ์ของรัฐจำนวนมากเขียนดีแค่ไหนก็ไม่สามารถห้ามสันดานคนแบบนี้ได้ มีวิธีเดียวที่จะต่อต้านการรัฐประหารได้คือประชาชนทุกคนต้องร่วมมือกันไม่จ่ายภาษีทุกรูปแบบให้กับรัฐบาลที่มาจากคณะรัฐประหาร ถ้าไม่มีเงินมันก็อยู่ไม่ได้ ในการบริหารประเทศหรือใช้วิธีอะไรอารยะขัดขืน จอดรถกลางถนนเพื่อต่อต้านการรัฐประหารให้ผู้นำรัฐประหารออกไปและให้ทหารกลับบ้านเก่า

นายมงคลกิตติ์ กล่าวอีกว่า แต่สถานการณ์ปัจจุบันไม่เหมือนเมื่อก่อนเพราะประเทศไทยมีหนี้สิน นายกรัฐมนตรีคนต่อไปต้องเป็นเซลล์แมนที่ดี และมีคุณสมบัติ ต้องไม่มาจากการรัฐประหาร ตลอดระยะเวลา 8 ปีที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ บริหารงานไม่เป็น กู้เงินเป็นอย่างเดียว เพื่อมาแจกและซื้ออาวุธ ดังนั้นทางรอดของประเทศไทยต้องมีนายกฯ มาจากพลเรือนที่เป็นพ่อค้ามีอาชีพอื่นๆ ก็ได้ ยกเว้นทหาร ดังนั้นขอให้ประชาชนสบายใจว่ารัฐประหารจะไม่เกิดขึ้นอีก เพราะรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขนี้เป็นเนื้อหาที่ดี ตนอยากให้ผ่านวาระ 1 วาระ 2 วาระ 3 แต่ผ่านไปแล้วก็ต้องตามรัฐธรรมนูญ ปี 2560 มาตรา 256 (8) ที่ผ่านการทำประชามติ เพราะเป็นการแก้ไขที่มาอำนาจของผู้คุณสมบัติของผู้ดำรงตำแหน่งในรัฐธรรมนูญหลายองค์กร ซึ่งตนเชื่อว่าประชาชนจะให้ผ่าน แต่ในรัฐสภาแห่งนี้ฝ่ายรัฐบาล และ ส.ว.ชุดปัจจุบันเกือบทั้งหมดคงจะไม่ให้ผ่านตั้งแต่วาระแรก ส่วนตัวตนและพรรคไทยศิวิไลย์ให้ผ่านวาระแรก เพราะมีเจตนาที่ดี ตนการันตี .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ทหารไทยยอมรับได้กลิ่นศพทหารกัมพูชาจริง

ศรีสะเกษ 5 ส.ค. – วันนี้ยังมีการเก็บกู้ระเบิดที่กัมพูชายิงเข้ามาในพื้นที่พลเรือนฝั่งไทย ส่วนเมื่อคืนนี้ (4 ส.ค.) เป็นคืนแรกของการประชุม GBC ชุด ชรบ.หมู่บ้านแนวชายแดน อ.กันทรลักษ์ จึงออกตรวจตราเข้มข้น ขณะที่ทหารแนวหน้ายอมรับได้กลิ่นศพทหารกัมพูชาจริง ทีมข่าวมีโอกาสได้พูดคุยกับทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา สอบถามถึงเรื่องที่กำลังเป็นประเด็น คือกลิ่นศพของทหารกัมพูชา ทหารยอมรับว่ามีกลิ่นจริง และมีศพทหารกัมพูชาถูกทิ้งไว้จริง แต่ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะอยู่ในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ หากมีหน้ากากอนามัยเชื่อว่าจะช่วยบรรเทาได้บ้าง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีหน้ากาก N95 ส่งถึงพื้นที่บ้างแล้ว พร้อมขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ส่งกำลังใจ ทหารยังพร้อมปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ วันนี้ทีมข่าวยังเกาะติดภารกิจเก็บกู้ระเบิดที่กัมพูชายิงใส่พื้นที่พลเรือนของไทยใน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ จุดแรก จรวด BM-21 ถูกกัมพูชายิงตกใส่ลงทุ่งนาของชาวบ้าน พื้นที่ ต.ทุ่งใหญ่ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม วันเดียวกับที่ยิงใส่ปั๊ม ปตท.บ้านผือ โดยห่างกันราว 1 กิโลเมตร ส่วนอีกจุดเป็นการทำลายลูกจรวด PG-7 ที่ถูกยิงจากเครื่องยิงจรวด RPG ตกลงในสวนยางพาราของชาวบ้าน ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ ที่ถูกพบในสภาพพร้อมทำงาน จุดนี้อยู่ห่างจากชายแดนกัมพูชาเพียง […]

เปิดศักยภาพ Gripen เขี้ยวเล็บใหม่กองทัพอากาศไทย

5 ส.ค. – เปิดคุณสมบัติโดดเด่นของ “กริพเพน” เครื่องบินรบฝูงใหม่ ซึ่งกองทัพอากาศและประเทศไทยกำลังจะทำสัญญาจัดซื้อจากสวีเดน .-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ขึ้นภูมะเขือ ย้ำกำลังพลไม่ประมาท นำร้องเพลงชาติไทย

5 ส.ค.- แม่ทัพภาค 2 ตรวจเยี่ยมภูมะเขือ ย้ำกำลังพลไม่ประมาท ปกป้องอธิปไตย พร้อมร่วมร้องเพลงชาติ เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 5 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่หน่วยเฉพาะกิจที่ 1 กองกำลังสุรนารี พื้นที่ภูมะเขือ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ โดยได้ทำการเดินลาดตระเวน ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจกำลังพลที่วางกำลังฐานปฏิบัติการ ทั้งนี้ มีพระสงฆ์จำนวน 3 รูปจากวัดใกล้เคียง มารอแม่ทัพภาคที่ 2 เพื่อมอบวัตถุมงคลและให้กำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ พร้อมให้พรกำลังพลทุกนาย ให้แคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตรายต่างๆ จากนั้นแม่ทัพภาคที่ 2 ได้ฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ในพื้นที่ภูมะเขือ โดยเน้นย้ำให้อยู่ในความไม่ประมาท ปฏิบัติหน้าที่รักษาอธิปไตยของชาติ ด้วยความปลอดภัยและให้ดูแลรักษาสุขภาพให้ดี จากนั้น พล.ท.บุญสิน ได้ให้กำลังพลเปลี่ยนธงชาติไทยผืนใหญ่กว่าเดิม นำร้องเพลงชาติบนยอดภูมะเขือร่วมกัน ก่อนเดินทางกลับได้มอบเครื่องอุปโภคบริโภคและถ่ายรูปร่วมกับกำลังพล -สำนักข่าวไทย

ครม.เคาะเยียวยาผู้เสียชีวิตเหตุชายแดน รายละ 8-10 ล้าน

กรุงเทพฯ 5 ส.ค. – ครม. อนุมัติเงินเยียวยาผู้เสียชีวิตจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา รายละ 8-10 ล้านบาท พร้อมตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข่าวปลอม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการกระชุม ครม. วาระสำคัญของรัฐบาล “ก้าวผ่านสองวิกฤติ เดินหน้าไปด้วยกัน” โดยระบุว่า รัฐบาลขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อการสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักของครอบครัวทุกๆ ครอบครัว แม้ว่าความสูญเสียที่เกิดขึ้นจะประเมินเป็นมูลค่ามิได้ แต่รัฐบาลจะขอผนึกกำลังจากทุกภาคส่วน เพื่อชดเชยความสูญเสียต่อชีวิต ทรัพย์สิน และรายได้ของพี่น้องประชาชนทุกคนที่ได้รับผลกระทบ โดยคณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติเงินเยียวยาให้แก่ครอบครัวทหารที่เสียชีวิต รวมรายละ 10 ล้านบาท และครอบครัวประชาชนที่เสียชีวิต รวมรายละ 8 ล้านบาท พร้อมทั้งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบและวิเคราะห์ข่าวในสื่อสังคมออนไลน์ เพื่อป้องกันข่าวปลอม ที่มุ่งหมายจะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศและความปลอดภัยของประชาชน รวมถึงสถานการณ์ที่ไทยเราต้องประสบกับมาตรการภาษีการค้าจากสหรัฐอเมริกา ขอยืนยันว่าได้ดำเนินการในเรื่องดังกล่าวอย่างรอบคอบและต่อเนื่อง โดยยึดหลักผลประโยชน์ของประเทศเป็นสำคัญ ส่วนการที่สหรัฐอเมริกาประกาศอัตราภาษีการค้าของไทยที่ร้อยละ 19 ทำให้ไทยยังคงมีศักยภาพแข่งขันได้ในเวทีโลก และยังคงความได้เปรียบประเทศคู่แข่งขันในภูมิภาค รัฐบาลจึงได้กำหนดมาตรการทางการเงิน ทั้งมาตรการ Soft loan มาตรการพักชำระหนี้ การส่งเสริมให้คนไทยใช้สินค้าที่ผลิตภายในประเทศ และการตั้งงบประมาณเพื่อสนับสนุนและรองรับการปรับตัวของผู้ประกอบการไทย ทั้งรายใหญ่และรายย่อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสร้างความเข้มแข็งให้แก่พี่น้องเกษตรกรไทย เพื่อให้มั่นใจว่าทุกคนจะสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงนี้ไปด้วยกันได้อย่างมั่นคง […]