ทำเนียบรัฐบาล 15 พ.ย.-โฆษก ศบค. เผยติดเชื้อใหม่ 6,343 ราย เสียชีวิต 45 ราย ย้ำมาตรการป้องกันตัวเองแบบครอบจักรวาลต้องต่อเนื่อง เตรียมจัดสัปดาห์ฉีดวัคซีนแห่งชาติ 27 พ.ย.-5 ธ.ค. ให้หลายหน่วยงานเร่งประชาสัมพันธ์ หามาตรการจูงใจให้ ปชช.ฉีดวัคซีนมากขึ้น
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงภาพรวมการติดเชื้อในวันนี้ (15 พ.ย.) ว่า จำนวน 6,343 ราย ในจำนวนนี้ติดเชื้อในเรือนจำถึง 188 ราย ซึ่งเป็นสถานที่แออัด จึงเป็นการยืนยันว่าไม่ควรเดินทางหรือไปอยู่ในสถานที่แออัด ส่วนผู้ป่วยอยู่ระหว่างการรักษาตัว 94,163 ราย โดยเป็นผู้ป่วยหนัก 1,776 ราย ใส่เครื่องช่วยหายใจ 417 ราย ส่วนผู้เสียชีวิต 45 ราย โดยเป็นผู้สูงอายุเกิน 60 ปีขึ้นไป 31 ราย ผู้ป่วยเรื้อรัง 12 ราย รวมคิดเป็น 96% จากผู้เสียชีวิตทั้งหมด
โฆษก ศบค. กล่าวว่า สำหรับผู้ติดเชื้อที่แยกแต่ละคลัสเตอร์ พบคลัสเตอร์เรือนจำสูงสุดอยู่ที่จังหวัดศรีสะเกษ 105 คน นอกจากนี้ยังพบคลัสเตอร์คนงานก่อสร้าง ทั้งที่จังหวัดเชียงใหม่ 20 ราย อุดรธานี 6 ราย และสระบุรี 8 ราย และยังพบคลัสเตอร์อื่น ๆ ต่อเนื่อง เช่น พิธีกรรมทางศาสนา ตลาดหรือศูนย์ฝึกทางทหารและตำรวจ โดยคลัสเตอร์เหล่านี้กระจายอยู่ทั่วประเทศ เป็นการสะท้อนว่าในทุกที่ที่จะเดินทางไปยังคงมีความเสี่ยงติดเชื้อ ดังนั้น มาตรการป้องกันตัวเองแบบครอบจักรวาล จึงเป็นสิ่งที่อยากเน้นย้ำให้ทุกคนต้องปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า สำหรับข้อกำหนดสำคัญต่าง ๆ ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะ ผอ.ศบค. ลงนามและจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 16 พฤศจิกายนนี้ ได้แก่ การกำหนดพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด จำนวน 6 จังหวัด ประกอบด้วย จ.ตาก จ.นครศรีธรรมราช จ.นราธิวาส จ.ปัตตานี จ.ยะลา และ จ.สงขลา ซึ่งจังหวัดที่ควบคุมสูงสุดเข้มงวดยังคงประกาศห้ามออกนอกเคหสถาน ในเวลา 23.00-03.00 น. จะมีผลบังคับใช้ถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2564 นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ลงนามคำสั่งที่ 22/64 เพิ่มโครงสร้าง ศบค. โดยตั้ง ศปก. ด้านการท่องเที่ยวและกีฬา มีปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธาน
โฆษก ศบค. กล่าวว่า ส่วนภาพรวมการฉีดวัคซีนวันนี้ มีการฉีดเพิ่ม 545,174 โดส ทำให้มีตัวเลขสะสมทั้งสิ้น 85 ล้านโดสเศษ หรือคิดเป็น 63% ของจำนวนประชากร ซึ่งยังต่ำกว่าเป้าที่ตั้งไว้ภายในเดือนพฤศจิกายน ที่ต้องการให้ครอบคลุมจำนวนประชากร 70% จึงต้องติดตามต่อไป อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณารายละเอียดพบว่า ขณะนี้ยังมีบางจังหวัดตัวเลขการฉีดวัคซีนเข็ม 1 ต่ำกว่าเป้า โดย 10 จังหวัดแรกที่ฉีดวัคซีนน้อย ได้แก่ จ.นครพนม จ.หนองบัวลำภู จ.บึงกาฬ จ.สกลนคร จ.กาฬสินธุ์ จ.แม่ฮ่องสอน จ.สุรินทร์ จ.ร้อยเอ็ด จ.ยโสธร และ จ.อ่างทอง
“วันนี้มีคำถามว่า บางพื้นที่จำนวนคนฉีดวัคซีนน้อย แต่กลับประกาศเปิดประเทศ ดังนั้น ต้องเพิ่มเป้าหมายการฉีดวัคซีน จึงมีแนวคิดที่จะรณรงค์ให้เพิ่มจำนวนการฉีดวัคซีน โดยจัดสัปดาห์การฉีดวัคซีนแห่งชาติ ระหว่างวันที่ 27 พฤศจิกายน – 5 ธันวาคม 2564 โดยเป็นข้อเสนอและเตรียมมาตรการต่าง ๆ ไว้ เช่น ให้กระทรวงสาธารณสุขเตรียมบุคลากรฉีดวัคซีน ให้กระทรวงมหาดไทยนำกลุ่มเป้าหมายมาฉีดวัคซีน ส่วนสถานศึกษา คณะแพทยศาสตร์ให้ความรู้กับประชาชน ขณะที่เอกชนอาจส่งเสริมการฉีดวัคซีน เช่น การลดราคาสินค้าและบริการให้ประชาชนที่แสดงเอกสารว่าฉีดวัคซีนแล้ว ขณะที่ ศบค.เองอาจดำเนินการเหมือนต่างประเทศ เช่น การออกข้อกำหนดว่าเมื่อเดินทางไปในสถานที่สาธารณะ ต้องแสดงเอกสารว่าฉีดวัคซีนแล้ว” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว
โฆษก ศบค. กล่าวถึงภาพรวมหลังเปิดประเทศว่า มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศไทยแล้ว 50,074 ราย ในจำนวนนี้พบผู้ติดเชื้อ 56 ราย หรือคิดเป็น 0.11% ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขติดเชื้อที่ต่ำมาก โดยนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าประเทศส่วนใหญ่มาจากสหรัฐอเมริกา สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อังกฤษ และเยอรมนี ทั้งยังพบว่านักท่องเที่ยวที่เข้ามาอยากไปเที่ยว กิน ดื่ม ในสถานที่ที่มีความปลอดภัยและได้มาตรฐาน ซึ่งขณะนี้พบว่ามีสถานบริการในกรุงเทพฯ ที่ได้รับมาตรฐานปลอดภัยความสะอาด (SHA) ทั้งสิ้น 7,274 ราย และได้รับมาตรฐานร้านสะอาดและพนักงานฉีดวัคซีนแล้ว (SHA+) 1,006 ราย จึงเป็นโจทย์ที่น่าสนใจว่า จากนี้ไปจะมีมาตรการหรือการกระตุ้นให้สถานประกอบการต่าง ๆ เหล่านี้เพิ่มหรือยกระดับให้ได้รับมาตรฐาน SHA+ เพิ่มขึ้น เพื่อสร้างความมั่นใจและจูงใจให้นักท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้น.-สำนักข่าวไทย
