“จรัญ” เชื่อศาลรธน.ปรามเคลื่อนไหวเกินขอบเขต

สำนักงานกกต. 12 พ.ย.-“จรัญ” มองศาลรธน.วินิจฉัย 3 แกนนำล้มล้างการปกครอง เพื่อปรามให้หยุด หลังเคลื่อนไหวเกินขอบเขต ชี้บทลงโทษรุนแรง รับถูกขู่แต่ไม่กลัว พร้อมตายทุกวัน


นายจรัญ ภักดีธนากุล ผู้อำนายการหลักสูตรนิติศาสตร์มหาบัณทิต มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต อดีตตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ กล่าวตอนหนึ่งระหว่างบรรยายพิเศษให้นักศึกษาหลักสูตรการพัฒนาการเมืองและการเลือกตั้งระดับสูงรุ่นที่ 12(พตส.12) หัวข้อธรรมาภิบาลกับการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปด้านการเมือง ซึ่งนักศึกษาสอบถามถึงความเห็นของคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ 3 แกนนำม็อบราษฎรล้มล้างการปกครอง ซึ่งนายจรัญ กล่าวว่า คำวินิจฉัยของศาลต้องการจะเตือน ป้องปรามว่าการกระทำของกลุ่มที่ออกมาเคลื่อนไหวไม่มีขอบเขต ผิดกฎหมายและมีความผิดระดับร้ายแรง เพราะตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 ถือว่าร้ายแรงมาก จึงอยากให้ถอยกันให้หมด

นายจรัญ กล่าวว่า คำวินิจฉัยชัดเจนว่ามีผลเฉพาะคนที่ทำผิดคือผู้ถูกร้องทั้ง 3 คนเท่านั้น ไม่มีผลผูกพันคนอื่น แต่อาจจะมีคนตกใจ โดยเฉพาะกลุ่มเครือข่ายที่เคยสนับสนุน เพราะที่ผ่านมาคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญผูกพันทุกองค์กร คำวินิจฉัยครั้งนี้ถูกแยกออกเป็นสองส่วน คือคำวินิจฉัยที่เป็นประเด็นโดยตรง(มีผลผูกพันกับทุกองค์กร) และคำวินิจฉัยที่การนำประเด็นต่าง ๆ มาขยายเหตุผลว่าศาลผ่านกระบวนการความคิดประมวลมาต่าง ๆ จึงนำมาแสดงเหมือนชักแม่น้ำทั้ง 5 มาให้ประชาชนทราบ เพราะศาลยึกหลักมาโดยตลอดว่าจะไม่ชี้แจงหลังการพิจารณา ดังนั้น เหตุผลที่เป็นองค์ประกอบจึงไม่มีผลผูกพัน”


“ก่อนหน้าที่ศาลรัฐธรรมนูญจะอ่านคำวินิจฉัย มีสื่อมวลชนมาสัมภาษณ์เกี่ยวกับประเด็นการเสนอแก้ ม112 ซึ่งคนไม่เห็นด้วยและต้องการยกเลิกและแก้ไข ซึ่งสอดคล้องและเป็นไปในแนวทางเดียวกันกับศาลรัฐธรรมนูญ ผมยอมรับว่าผมก็ถูกขู่ เช่นกัน แต่ขอบอกเลยว่าไม่มีใครเค้ากลัวคำขู่หรอกครับ คนทำงานมาถึงขนาดนี้ พร้อมตายได้ทุกวัน เพราะตอนนี้ที่อยู่ก็ถือเป็นกำไร แต่คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ คือของจริง ไม่ใช่คำขู่” นายจรัญ กล่าว

นายจรัญ กล่าวว่า ขอวิเคราะห์คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในครั้งนี้  เพราะต้องการปราม เพราะไม่ต้องการให้ลุกลาม ไปมากกว่านี้ เพราะถ้าไม่พอใจรัฐบาล โค่นล้มรัฐบาลไป ไม่ควรต้องมาเกี่ยวข้องกับประมุขของชาติ ดังนั้น ขออย่าตกใจ และขอให้มั่นใจว่าคนในวงการตุลาการจะไม่บ้าจี้ ให้เกิดความรุนแรงทางใดทางหนึ่ง มั่นใจว่าเมื่อคำตัดสินออกมาแบบนี้ เหตุการณ์จะสงบขึ้น.-สำนักข่าวไทย 


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง