ทำเนียบรัฐบาล 12 พ.ย.- นายกฯ กล่าวปาฐกถาประชุม APEC CEO Summit ย้ำไทยมุ่งมั่นเปิดกว้างสำหรับทุกโอกาสเชื่อมโยงทุกมิติ สมดุลทุกด้าน พร้อมรับไม้เป็นเจ้าภาพต่อปีหน้า เร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจเข้มแข็งหลังโควิด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 07.06 น. ตามเวลาประเทศไทย (หรือเท่ากับเวลา 13.06 น. ของเมืองโอ๊คแลนด์ ประเทศนิวซีแลนด์ ) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวปาฐกถาในการประชุม APEC CEO Summit ภายใต้หัวข้อประเด็นสำคัญการเป็นเจ้าภาพของไทยในปี 2565 (Thailand Priorities for APEC 2022) ที่ทำเนียบรัฐบาลผ่านระบบการประชุมทางไกล
นายกรัฐมนตรี กล่าวแสดงความยินดีกับสภาที่ปรึกษาทางธุรกิจเอเปค (ABAC – Leaders’ Dialogue) นิวซีแลนด์ที่จัดการประชุมครั้งนี้ได้เป็นอย่างดี โดยในปี 2564 เป็นอีกปีที่ท้าทายเนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ยังคงส่งผลกระทบอย่างรุนแรง อย่างไรก็ดี APEC ภายใต้การเป็นเจ้าภาพของนิวซีแลนด์ และด้วยจิตวิญญาณแห่งความร่วมมือ ได้พิสูจน์ว่า APEC สามารถยืนหยัดเอาชนะความท้าทายต่าง ๆ ฟื้นฟูการสาธารณสุข เปิดพรมแดน และพลิกฟื้นเศรษฐกิจ โดยมีเป้าหมายเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชน โลกที่เราอยู่อาศัย และความมั่งคั่งร่วมกัน โดยตัวอย่างความสำเร็จของ APEC คือ ความพยายามร่วมกันในการเพิ่มการเข้าถึงวัคซีน และการอำนวยความสะดวกในการขนส่งวัคซีนและเวชภัณฑ์ ซึ่งในประเด็นนี้ต้องขอขอบคุณการสนับสนุนจากภาคเอกชนด้วย
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เวลานี้เป็นโอกาสการเปลี่ยนทัศนคติไปสู่ความพอดี สร้างสังคมหลังการแพร่ระบาดที่มีความยั่งยืนและสมดุล โดยประเทศไทยได้นำโมเดลการพัฒนาเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียนและเศรษฐกิจสีเขียว (BCG) มาใช้เป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ชาติในการฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังโควิด-19 และโมเดลนี้จะขับเคลื่อนประเด็นสำคัญการเป็นเจ้าภาพ APEC ของไทย
“ไทยมุ่งมั่นสานต่อการทำงานที่ผ่านมาของ APEC และเชื่อมโยงกับวิสัยทัศน์ปุตราจายา ค.ศ. 2040 โดยแปลงวิสัยทัศน์ไปสู่การปฏิบัติ ผ่านปัจจัยขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจ 3 ประการ ได้แก่ 1) การค้าและการลงทุน 2) ดิจิทัลและนวัตกรรม และ 3) ความยั่งยืนและการมีส่วนร่วม โดยรับรองแผนปฏิบัติการของวิสัยทัศน์ปุตราจายาในคืนนี้จะเป็นความสำเร็จที่สำคัญของนิวซีแลนด์ในการแปลงวิสัยทัศน์ของผู้นำ APEC ไปสู่แผนการทำงานที่เป็นรูปธรรมและปฏิบัติได้จริง” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในปี 2565 ประเทศไทยมุ่งมั่นจะทำให้ APEC เปิดกว้างสำหรับทุกโอกาส เชื่อมโยงในทุกมิติ และ สมดุลในทุกด้าน วาระการเป็นเจ้าภาพ APEC ของไทยจะสอดคล้องกับเป้าหมายและการดำเนินการที่มีอยู่แล้วของ APEC แต่นำเสนอภายใต้แนวคิดแบบใหม่ โดยประเด็นสำคัญมีอยู่ 3 ประการ ดังนี้ ประการแรก การอำนวยความสะดวกการค้าและการลงทุน สานต่อการเปิดตลาดผ่านการส่งเสริมระบบการค้าพหุภาคี พยายามฟื้นการหารือเรื่องการจัดทำเขตการค้าเสรีในเอเชีย-แปซิฟิก (FTAAP) หลังยุคโควิด-19 ส่งเสริมการรวมตัวทางเศรษฐกิจในภูมิภาค ใช้ประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงไปสู่ดิจิทัล และการรับมือกับประเด็นทางการค้าใหม่ ๆ ซึ่งไทยหวังว่าจะได้ทำงานอย่างแข็งขันร่วมกับภาคเอกชนในเรื่องนี้
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ประการที่สอง การฟื้นฟูความเชื่อมโยง ไทยให้ความสำคัญกับการฟื้นฟูการเดินทางข้ามพรมแดนที่ปลอดภัยและไร้รอยต่อ โดยไทยจะผลักดันและจะดำเนินการตามคำแนะนำของ ABAC จัดตั้งคณะทำงานด้านการเดินทางอย่างปลอดภัย เพื่อร่วมมือกันเชื่อมโยงภูมิภาคเข้าด้วยกันอีกครั้ง ประการที่สาม การส่งเสริมการเติบโตที่ยั่งยืนและครอบคลุม ไทยยืนยันว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจของ APEC จะครอบคลุมและยั่งยืน โดยในที่ประชุม COP26
“เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้นำประเทศต่าง ๆ ได้ยืนยันความมุ่งมั่นร่วมกันเพื่อนำไปสู่การสร้างความยั่งยืนและการมีสภาพภูมิอากาศที่ดี โดยไทยจะศึกษาโมเดลทางเศรษฐกิจ และการดำเนินการทางเศรษฐกิจต่าง ๆ รวมถึง โมเดลเศรษฐกิจ BCG ซึ่งให้ความสำคัญกับการจัดการการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อมในภูมิภาค ควบคู่ไปกับการเติบโตทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งและยืดหยุ่น” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วาระการเป็นเจ้าภาพ APEC ของไทยได้สะท้อนข้อเรียกร้องของภาคธุรกิจที่ต้องการให้ฟื้นฟูเศรษฐกิจ รวมทั้งทำให้เศรษฐกิจเข้มแข็งและมีความยืดหยุ่นมากขึ้น เพื่อการฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว ยืนยันว่าไทยจะสานต่องานของ APEC และมอบมุมมองใหม่ต่อประเด็นอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะในบริบทของโลกหลังโควิด-19.-สำนักข่าวไทย