วปอ. 11 พ.ย.-นายกฯ เปิดการศึกษาหลักสูตร วปอ. รุ่นที่ 64 ย้ำทุกคนแลกเปลี่ยนความรู้ประสบการณ์ แนะดึงเยาวชนเข้ามามีส่วนร่วม นำยุทธศาสตร์ชาติมาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อการขับเคลื่อนประเทศชาติ
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีเปิดการศึกษาหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) รุ่นที่ 64 ที่สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ ถนนวิภาวดีรังสิต โดยมีผู้เข้ารับการศึกษา จำนวน 288 คน และนักศึกษาจากมิตรประเทศ ได้แก่ ราชอาณาจักรกัมพูชา สาธารณรัฐอินเดีย สาธารณรัฐอินโดนีเซีย สหพันธรัฐมาเลเซีย สาธารณรัฐอิสลามปากีสถาน สหราชอาณาจักร และสาธารณรัฐสังคม นิยมเวียดนาม เข้าร่วม
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หวังว่าตลอดระยะเวลาของการเข้ารับการศึกษา นักศึกษาทุกคนจะนำเอาความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์ของแต่ละคนมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติ พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวบรรยายเรื่อง “บทบาทของภาครัฐ เอกชน และการเมือง ในการรักษาความมั่นคงแห่งชาติ” ย้ำไทยมีพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง อาหารและทรัพยากรธรรมชาติมีความอุดมสมบูรณ์ ภาคอุตสาหกรรมและบริการที่มีความสามารถในการแข่งขันทัดเทียมนานาประเทศ รัฐบาลเตรียมความพร้อมประเทศในการรองรับการพัฒนาอย่างก้าวหน้าของประเทศและประชาคมโลก รวมทั้งป้องกันภัยคุกคามรูปแบบใหม่ที่เรียกว่าความมั่นคงแบบองค์รวม ซึ่งมาจากทั้งปัจจัยภายในประเทศ เช่น ความเหลื่อมล้ำในมิติต่างๆ การเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ สาธารณภัยและภัยพิบัติต่างๆ และปัจจัยภายนอกประเทศ เช่น ข้อกำหนด กฎหมาย หรือพันธกรณีระหว่างประเทศ การแย่งชิงแรงงานและเงินทุน ภาวะโลกร้อน ก่อให้เกิดภัยธรรมชาติที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น รัฐบาลจึงได้มีการกำหนดแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และแผนปฏิรูปประเทศ เพื่อยกระดับการพัฒนาให้บรรลุตามวิสัยทัศน์ ประเทศไทยมีความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน เป็นประเทศพัฒนาแล้ว ภายใต้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ผ่านกลไกประชารัฐ
นายกรัฐมนตรี เน้นย้ำว่า การป้องกันประเทศชาติให้พ้นจากการรุกรานนั้น ทุกภาคส่วนมีบทบาทที่ต้องร่วมมือร่วมใจกัน เพื่อให้ไทยเป็นผู้เล่นสำคัญในเวทีโลก ยกระดับศักยภาพการเป็นผู้ประกอบการธุรกิจ การป้องกันการทุจริตและประพฤติมิชอบ สนับสนุนในการวิจัยและพัฒนานวัตกรรม ตามทิศทางการปรับเปลี่ยนโครงสร้าง เศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม และการขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจแบบ BCG ที่สอดคล้องกับทิศทางนโยบายของนานาชาติ ในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก รวมถึงแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือนของประเทศอย่างจริงจัง ซึ่งได้มอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการให้ข้าราชการเข้าไปแก้ปัญหาหนี้รายครัวเรือนให้กับประชาชน ภายใต้แนวคิด “1 ข้าราชการ รับผิดชอบ 1 ครัวเรือนยากจน” เพื่อให้เกิดผลเป็นรูปธรรม
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า อยากให้นักศึกษา วปอ. ช่วยกันระดมความคิด ดึงกลุ่มเด็กเยาวชน ซึ่งเป็นกลุ่มพลังทางความคิดที่สำคัญในการพัฒนาประเทศในอนาคต มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ให้ข้อคิดเห็น และเติมเต็มประสบการณ์ร่วมกัน เพื่อเตรียมพร้อมรับมือในอนาคต ทั้งเรื่องสภาวะโลกร้อน การเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ หรือการนำแนวคิดเศรษฐกิจแบบ BCG ซึ่งเป็นวาระหลักของการประชุมเอเปคในปีหน้า มาประยุกต์ใช้ให้เกิดผลเป็นรูปธรรม รวมทั้งน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและพระราโชบาย สืบสาน รักษา ต่อยอด พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 มาปฏิบัติ และร่วมกันรักษาแผ่นดินไทยนี้ไว้ตลอดไป.-สำนักข่าวไทย