ศบค.ระวังคลัสเตอร์งานกฐินหลังพบหลายจังหวัด

ทำเนียบ 8 พ.ย.-ศบค. เผยติดเชื้อโควิดเพิ่ม 7,592 ราย เสียชีวิต 39 คน ย้ำทุกพื้นที่เข้มงวดงานกฐิน หลังพบคลัสเตอร์หลายจังหวัด ขณะที่การเปิดเรียน รอความเห็น คกก.ควบคุมโรค แต่ละพื้นที่แตกต่างกัน ขอโรงเรียนเตรียมความพร้อม

พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. รายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด 19 วันนี้ เพิ่มขึ้น 7,592 ราย ผู้ป่วยยืนยันสะสม 1,946,728 ราย หายป่วยเพิ่ม 7,595 ราย รวมหายป่วยแล้ว 1,830,037 ราย รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล 98,425 ราย เป็นผู้ป่วยอาการหนัก 1,997 ราย, ใส่เครื่องช่วยหายใจ 441 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 39 คน ผู้เสียชีวิตสะสมรวม 19,609 คน ผู้ป่วยยืนยันสะสมรอกใหม่ ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2563 – 8 พฤศจิกายน 2564 โดยผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้น 7,592 ราย เป็นผู้ที่ติดเชื้อในประเทศ 6,871 ราย จากระบบเฝ้าระวังและบริการ 6,743 ราย, จากการค้นหาเชิงรุกในชุมชน 128 ราย, จากเรือนจำ 711 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศ 10 ราย


สำหรับผู้เสียชีวิตวันนี้ ร้อยละ 90 ของยังคงอยู่ในกลุ่ม 60 ปีขึ้นไป รวมทั้งมีโรคประจำตัว  ยังไม่ได้รับวัคซีน หรือได้รับวัคซีนไม่ครบ 2 โดส ขณะที่การควบคุมการแพร่ระบาดทั่วประเทศลดลงอย่างต่อเนื่อง รวมถึงในพื้นที่ 4 จังหวัดภาคใต้

พญ.อภิสมัย กล่าวอีกว่า ส่วนรายงานพบผู้ติดเชื้อเป็นคลัสเตอร์  ศปก.ศบค. เป็นห่วงงานทอดกฐินที่เน้นย้ำตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา วันนี้(8 พ.ย.) พบการติดเชื้อในหลายจังหวัด เช่น ยโสธร ร้อยเอ็ด ศรีสะเกษ ประจวบคีรีขันธ์ สิงห์บุรี  กาญจนบุรี สตูล รวมทั้ง งานศพ ที่จังหวัดกาฬสินธุ์ กาญจนบุรี พัทลุง สงขลา จึงขอความร่วมมือไปยังจังหวัด วัด รวมถึงประชาชนในพื้นที่ ที่จะเดินทางข้ามพื้นที่ไปร่วมงานทอดกฐิน ขอให้ระมัดระวังป้องกันตนเองขั้นสูงสุด และขอให้ปฏิบัติตามมาตรการสาธารณะสุขภายในวัดอย่างเข้มงวด


นอกจากนี้ยังพบการติดเชื้อเป็นคลัสเตอร์ในแคมป์คนงานก่อสร้าง ที่ กทม. เชียงใหม่ ขอนแก่น นครนายก จันทบุรี ประจวบคีรีขันธ์และสงขลา โรงงาน สถานประกอบการ ขอนแก่น สมุทรปราการ ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี พัทลุง และคลัสเตอร์ ตลาด ที่จังหวัดเชียงใหม่ 65 ราย สุรินทร์ อุดรธานี พิษณุโลก จันทบุรี ชลบุรี ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี ราชบุรี และสงขลา

พญ.อภิสมัย กล่าวว่า ภาพรวมการฉีดวัคซีนทั่วประเทศ 80,499,612 โดส แบ่งเป็นวัคซีนเข็มที่ 1 สะสม 43,990,610 ราย วัคซีนเข็มที่ 2 สะสม 33,912,537 รายเข็มที่ 3 สะสม 2,596,465 ราย

 “การฉีดวัคซีนในพื้นที่นำร่องท่องเที่ยวที่จังหวัดยังฉีดไม่ได้ตามเป้าหมาย จึงขอให้เร่งระดมฉีดวัคซีนให้ได้ตามที่กำหนด ส่วนจังหวัดที่ฉีดเกินเป้าหมายแล้ว ยังคงเน้นย้ำให้เร่งระดมฉีดวัคซีนต่อไป เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่มีความปลอดภัย โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุ ผู้ป่วย 7 โรคเรื้อรัง และหญิงตั้งครรภ์ ตลอดจนครู และบุคลากรทางการศึกษา พนักงานขับรถสาธารณะ ขอให้แต่จังหวัดพิจารณาตามความเหมาะสมของแต่ละพื้นที่”ผู้ช่วยโฆษก ศบค. กล่าว


ส่วนการเดินทางเข้าราชอาณาจักรของนักท่องเที่ยว ตั้งแต่วันที่ 1-7 พฤศจิกายน สะสม 22,832 ราย มาจากหลายประเทศ เช่น เยอรมันนี  สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ รัสเซีย ผ่านท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เชียงใหม่ ภูเก็ต และสมุย โดยแบ่งเป็นนักท่องเที่ยวที่ไม่ต้องกักตัว 14,278 ราย เข้าระบบ แซนบล็อกซ์ 7,483 ราย เข้าสถานกักกัน 7-10 วัน 1,071 ราย ซึ่งในจำนวนผู้ที่เดินทางเข้าประเทศ พบผู้ติดเชื้อ 20 คน อย่างไรก็ตามผู้ที่ได้รับอนุญาตที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ต้องกักตัว เพื่อประโยชน์ด้านเศรษฐกิจควบคู่กับความมั่นคงด้านสาธารณสุขซึ่งเป็นแผลเปิดประเทศของรัฐบาล การแพร่ระบาดที่ยังมีอยู่ แม้ด้านสาธารณสุข ยังสามารถรับได้ แต่ยังต้องเน้นย้ำให้ภาครัฐ ผู้ประกอบการ ต้องระมัดระวังเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด รวมถึงขอความร่วมมือกับประชาชน ระมัดระวังตนเองด้วย

พญ.อภิสมัย กล่าวว่า วันนี้(8 พ.ย.) ศปก.ศบค. จะประชุมร่วมกับหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งการพิจารณาโรงพยาบาล ผู้ปฏิบัติงาน เมื่อนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาแล้วจะต้องได้รับการตรวจ RT-PCR เมื่อเป็นผลลบ จึงจะเดินทางท่องเที่ยวได้ ซึ่งที่ผ่านมาการทำงานอาจจะล่าช้า โดยจะพยายามดำเนินการให้เร็วขึ้น เช่น ผลตรวจ RT-PCR  จะพยายามให้รอผลน้อยกว่า 6 ชั่วโมง การอนุมัติผู้ลงทะเบียนผ่าน Thailand pass ขอให้ดาวน์โหลด QR code เพื่อให้การลงทะเบียนไปด้วยความเรียบร้อย และรวดเร็วขึ้น รวมทั้งผู้ที่เกี่ยวข้อง ทั้งสายการบิน Call Center สถานประกอบการในพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว ที่อาจมีความขัดข้องในช่วงสัปดาห์แรก ศปก.ศบค. จะประชุมเพื่อหาวิธีการทำให้การเดินทางเข้าประเทศของนักท่องเที่ยว ราบรื่น และรวดเร็ว มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

ผู้ช่วยโฆษก ศบค. ยังเปิดเผยว่า ที่ประชุม ศปก.ศบค.ยังเป็นห่วงช่วงเทศกาล งานประเพณี ขอให้เน้นย้ำให้ทุกพื้นที่ที่จัดงานเฝ้าระวังมาตรการ covid free setting สำหรับร้านอาหาร โรงแรม ที่จำเป็นจะต้องเปิดรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติในเร็วๆนี้ ขอให้เข้มงวดมาตรการที่ ศบค. กำหนด       

สำหรับการเปิดเรียนแบบ on site ในแต่ละพื้นที่ ขอให้เป็นไปตามความเห็นของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ซึ่งสามารถลงรายละเอียดได้แตกต่างกันในแต่ละอำเภอ แต่ละพื้นที่ โดยกระทรวงสาธารณสุข เน้นย้ำให้แต่ละโรงเรียนเตรียมความพร้อมก่อนที่จะเปิดเรียน ครูและบุคลากรจะต้องฉีดวัคซีนได้ครอบคลุม รวมถึงโรงเรียนจะต้องประเมินความพร้อมตนเอง ด้วยคำถามถาม stop covid plus การเรียนการสอนขอให้จัดแบบ small bubble ไม่ อนุญาตให้มีกิจกรรมรวมกลุ่มที่อาจมีนักเรียนหลายชั้นมารวมกันในห้องประชุมใหญ่ จัดระบบการให้บริการอาหาร รวมถึงอนามัยสิ่งแวดล้อม การระบายอากาศ การทำความสะอาด รวมถึงทบทวนแผนเผชิญเหตุ กรณีพบนักเรียนติดเชื้อ โดยไม่ต้องปิดเรียนทั้งหมด  ส่วนการที่บางโรงเรียนให้มีการตรวจ ATK ถึง 2 ครั้ง ซึ่งอาจจะมากกว่า มาตรฐานที่กำหนด นั้นถือเป็นเรื่องดี แต่ทั้งนี้ ต้องอยู่ที่ความพร้อม และ ประเด็นค่าใช้จ่าย ด้วย แต่ การตรวจ ATK เฉพาะกลุ่มเสี่ยง และสามารถนำค่าใช้จ่ายในการตรวจ ATK ไปลดหย่อนภาษีได้ 1.5 เท่า-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.ตร.รับทราบเหตุปะทะเดือดสงขลา ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กต่าย” พยักหน้ารับทราบ เหตุปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ พื้นที่ จ.สงขลา ระบุขอเข้าประชุมก่อน พลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาประชุมร่วมกับกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ที่อาคารรัฐสภา โดยผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า ได้รับรายงานเรื่องการปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ ที่บ้านห้วยเต่า สงขลา แล้วหรือไม่ โดยพลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พยักหน้า แต่ไม่ได้ตอบคำถาม ระบุเพียงว่าขอเข้าประชุมก่อน -สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์ ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์โผล่วันจับ “ทิดอลงกต” ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ พบพิรุธ ยังไม่มารายงานตัว พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กล่าวถึงความคืบหน้าคดีทิดอลงกต วัดพระบาทน้ำพุ ที่มีการเปิดเผยออกมาว่า ตลกชื่อ 3 พยางค์ มีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินวัดพระบาทน้ำพุด้วย ว่า มีตลกอีก 1 คนที่ยังเป็นเป้าหมายยังไม่ได้มาแสดงตัวและยังไม่ได้มาให้การ พนักงานสอบสวนจะเรียกมาเอง ซึ่งพบพิรุธเยอะว่าทำอะไรที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายหรือไม่เป็นไปตามวิธีการที่ทำในการเข้าไปช่วยเหลือ ทิดอลงกต ในการขนย้ายสิ่งของ ซึ่งเป็นเอกสารสำคัญ และไม่เหมือนดาราท่านอื่น ที่เป็นการรับจ้างงาน แต่คนนี้น่าจะเป็นคนที่สนิทส่วนตัว เป็นคนที่เคยถูกดำเนินคดีอยู่ เมื่อถามว่าเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้เลยใช่หรือไม่ พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ กล่าวว่าเป็นคนลึกลับซับซ้อน ซึ่งเป็นคนที่เคยโผล่ให้เห็นในวันที่ทิดอลงกตถูกจับ -สำนักข่าวไทย

พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที จนท.สวนสัตว์ ลงจากรถ แล้วถูกสิงโตตะปบรุมขย้ำ

กทม. 10 ก.ย.-พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที สิงโตตะปบเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ จากนั้นสิงโตอีก 5 ตัว รุมขย้ำ โดยที่เจ้าตัวไม่ได้ขัดขืนหรือร้องขอความช่วยเหลือ พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตอาจารย์และแพทย์ศัลยกรรม โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า หรือเป็นที่รู้จักในฐานะหมอที่มาช่วยเหลือในคดีการเสียชีวิตของแตงโม ซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ระบุว่า วันนี้ตนมาเที่ยวสวนสัตว์ โดยได้ขับรถเข้าไปในโซนซาฟารี ขณะนั้นมีรถนักท่องเที่ยวหลายคันเข้าชม เมื่อมาถึงบริเวณโซนสิงโต ก็พบว่ามีรถของเจ้าหน้าที่รายหนึ่งซึ่งเป็นรถของสวนสัตว์จอดอยู่คันเดียว ตอนนั้นตนเองก็รู้สึกผิดสังเกต เพราะช่วงเวลาดังกล่าวไม่ใช่ช่วงเวลาให้อาหารสัตว์และเจ้าหน้าที่รายนี้อยู่คนเดียว ได้ลงมายืนข้างล่างของรถ ฝั่งคนขับ โดยเปิดประตูทิ้งไว้ แต่ไม่ได้ทำอะไร แค่ยืนเฉยๆ ลักษณะยืนหันหน้า เข้าหารถ หันหลังให้สัตว์ ซึ่งตนก็รู้สึกแปลกอย่างมาก อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมีต้นไม้บัง ตนก็เลยไม่เห็นว่าในมือถืออะไร จากนั้นประมาณ 3 นาที ก็มีสิงโตตัวหนึ่งค่อยๆ ย่องมาทางข้างหลังช้าๆ ก่อนจะตะครุบเข้าข้างหลังเจ้าหน้าที่รายดังกล่าวทันที โดยที่เจ้าหน้าที่รายดังกล่าวไม่ได้มีท่าที ขัดขืน ดิ้นรนต่อสู้ หรือร้องขอชีวิตแต่อย่างใด หลังจากนั้น สิงโตตัวอื่นๆ ก็ค่อยๆ เดินตามมารุมกัดตามที่ปรากฏในคลิป ตนเองไม่รู้จะต้องทำอย่างไร ทำได้เพียงแต่บีบแตรรถ เช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวคันอื่น ที่ช่วยกันบีบแตร ผ่านไปประมาณ 10 […]

สิงโตสวนสัตว์เอกชน ลาก จนท.ไปรุมกัด สาหัส

กทม. 10 ก.ย.-สิงโตในสวนสัตว์เอกชน ทำร้ายเจ้าหน้าที่ ลากไปรุมกัด อาการสาหัส นักท่องเที่ยวบันทึกเหตุการณ์ไว้ได้ พ.ต.อ.นิรุชพล โยธามาตย์ ผกก.สน.คันนายาว เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (10 ก.ย.68) ได้รับรายงานว่า เกิดเหตุสิงโตทำร้ายเจ้าหน้าที่ ภายในสวนสัตว์ของเอกชน จากการตรวจสอบพบว่า เจ้าหน้าที่ลงไปให้อาหาร โดยไม่ปฏิบัติตามกฎของบริษัท จึงทำให้ถูกสิงโตรุมทำร้าย เบื้องต้นอาการสาหัส นำตัวส่งโรงพยาบาล ประสานพนักงานสอบสวนเชิญตัวเจ้าหน้าที่ของสวนสัตว์มาสอบปากคำ และลงบันทึกประจำวัน โดยยังไม่มีญาติของเจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายมาแจ้งความแต่อย่างใด ทั้งนี้ ในคลิปเป็นเหตุการณ์ที่นักท่องเที่ยวบันทึกไว้ได้ บริเวณส่วนจัดแสดงสิงโต มีรั้วขนาดใหญ่เปิดให้รถเข้า-ออก เป็นพื้นที่เปิด ให้นักท่องเที่ยวขับรถเข้าไปด้านใน มีป้ายกำกับชัดเจนห้ามเปิดกระจกและห้ามลงจากรถ ด้านในจะมีรถของสวนสัตว์จอดดูแลความปลอดภัย และบางช่วงมีการจัดแสดงโชว์ให้อาหารสิงโตที่อยู่ด้านใน.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

รวบ ผอ.กองช่าง เรียกรับสินบน แลกใบอนุญาตถมดิน-สร้างหอพัก

ปทุมธานี 11 ก.ย. – หลักฐานคาโต๊ะ! ป.ป.ช. สนธิกำลังตำรวจ บุกจับ ผอ.กองช่างเทศบาลหลักหก จ.ปทุมธานี คาห้องทำงาน พร้อมเงินสดของกลาง 1.9 แสนบาท หลังเรียกรับสินบน แลกใบอนุญาตถมดิน-สร้างหอพัก 8 ชั้น ด้านเจ้าตัวปฏิเสธ อ้างผู้เสียหายนำมาให้เอง เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. ภาค 1 นำโดย น.ส.ชฎารัตน์ อนรรฆอร รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภาค 1 วางแผนร่วมกับชุดสืบสวนสำนักงาน ป.ป.ช. และตำรวจสืบสวนภูธรภาค นำหมายศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 เข้าตรวจค้น พร้อมจับกุมนายวีระเชษฐ์ อายุ 59 ปี ผู้อำนวยการกองช่าง เทศบาลตำบลหลักหก จ.ปทุมธานี ภายในห้องทำงาน เทศบาลตำบลหลักหก หลังมีพฤติการณ์เรียกรับเงินจากผู้ขออนุญาตถมดินและขออนุญาตก่อสร้างอาคาร พร้อมตรวจยึดเงินของกลาง ซุกซ่อนอยู่ที่พื้นใต้ลิ้นชักโต๊ะทำงาน 190,000 บาท เบื้องต้นจากการตรวจหมายเลขธนบัตร ตรงกับสำเนาธนบัตรที่ผู้เสียหายนำไปมอบให้กับนายวีระเชษฐ์ ก่อนหน้านี้ และเจ้าหน้าที่ได้ถ่ายสำเนาและลงรายงานประจำวันเกี่ยวกับคดีไว้เป็นหลักฐาน […]

ปิดล้อมไล่ล่าผู้ก่อเหตุ หลังปะทะเดือดสะบ้าย้อย 2 ระลอก

สงขลา 11 ก.ย. – เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง วางกำลังปิดล้อมพื้นที่บ้านห้วยเต่า อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา ไล่ล่ากลุ่มก่อความไม่สงบ หลังเหตุปะทะเดือด 2 ระลอก พบผู้ก่อเหตุมีหมายจับคดีความมั่นคง หลังเหตุปะทะเดือด 2 ระลอก ระหว่างเจ้าหน้าที่กับกลุ่มก่อความไม่สงบ ในพื้นที่บ้านห้วยเต่า อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ทั้งทหาร ตำรวจ วางกำลังบนถนนเส้นทางเข้าออกพื้นที่ปะทะ ไม่ให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าเขตปะทะอย่างเด็ดขาด เนื่องจากสถานการณ์ยังไม่นิ่ง ยังคงมีการปิดล้อมบริเวณเนินเขา เพื่อไล่ล่ากลุ่มผู้ก่อเหตุ มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่พบรอยเลือดและกระเป๋าเป้ถูกทิ้งไว้บนเนินเขา บริเวณจุดปะทะ คาดว่ากลุ่มคนร้ายน่าจะได้รับบาดเจ็บด้วย สำหรับกลุ่มคนร้ายที่ปะทะกับเจ้าหน้าที่ เบื้องต้นมีข้อมูลว่า เป็นกลุ่มของนายกอเซ็ง ลาเตะยามา อายุ 35 ปี ชาว อ.ยะหา จ.ยะลา ผู้ต้องหาคดีความมั่นคง ซึ่งมีหมายจับ 7 หมาย และนายฮุสนี ยีกะเส็ม อายุ 34 ปี ชาว อ.เทพา จ.สงขลา มีหมายจับ […]

กักสิงโตสวนสัตว์ดัง-ปรับพฤติกรรม

กรุงเทพฯ 11 ก.ย. – เจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ สั่งกักสิงโตสวนสัตว์ดัง เพื่อปรับพฤติกรรม แยกเพศ-เฝ้าสังเกตใกล้ชิด เจ้าหน้าที่จากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ลงพื้นที่สวนสัตว์ดัง ย่านคลองสามวา กรุงเทพฯ หลังเกิดเหตุสิงโตทำร้ายเจ้าหน้าที่ดูแลสัตว์เสียชีวิต โดยได้สั่งการให้กักสิงโตทั้งหมดในฝูงที่ก่อเหตุไว้ในกรงชั่วคราว แยกสิงโตเพศผู้และเพศเมีย เพื่อเฝ้าสังเกตพฤติกรรมในระยะใกล้ สำหรับสิงโตที่เข้าตะปบเจ้าหน้าที่จนเสียชีวิต เป็นตัวผู้ โดยสิงโตร่วมฝูงมี 7 ตัว แต่ที่เข้ารุมกัดเจ้าหน้าที่มี 5 ตัว ได้แก่ 1) ทรัมป์ (เพศผู้) ตัวตะปบ 2) ไบท์ (เพศผู้) ตัวตาม 3) อ้อน (เพศเมีย) ตัวตาม 4) อ้าย (เพศเมีย) ตัวตาม 5) ยาว (เพศเมีย) ตัวตาม ทั้งนี้ สิงโตทุกตัวอายุประมาณ 10 ปี พร้อมกันนี้ สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กำลังตรวจสอบมาตรการความปลอดภัย และจะไม่อนุญาตให้เปิดส่วนจัดแสดงสัตว์ดุร้าย […]

เร่งฟื้นฟูความเสียหายเหตุกระบะชนเสาไฟฟ้า

เชียงใหม่ 11 ก.ย. – เร่งฟื้นฟูความเสียหายเหตุกระบะชนเสาไฟฟ้าล้ม ถนนหนองฮ่อ ต.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ ชาวบ้านกังวล หลังทราบว่าประกันรถกระบะคันต้นเหตุ คุ้มครองความเสียหายแค่ 600,000 บาท วอนการไฟฟ้า หรือ อบต.ช้างเผือก ยื่นมือช่วยเหลือ ตลอดช่วงเช้าวันนี้ (11 ก.ย.) เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ยังคงระดมกำลังฟื้นฟูระบบไฟฟ้าบนถนนหนองฮ่อ ต.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ โดยขุดหลุมติดตั้งเสาไฟฟ้าแรงสูงและแรงต่ำทดแทนต้นเดิมที่ล้มเสียหายจากอุบัติเหตุ ตลอดเส้นทางเป็นระยะทาง 595 เมตร พร้อมเก็บซากอุปกรณ์ตามร้านค้าและบ้านเรือนประชาชนที่ได้รับความเสียหาย คาดว่าจะใช้เวลาอีก 3 วันจะดำเนินการแล้วเสร็จ ขณะที่ระบบไฟฟ้าถูกแก้ไขจนสามารถจ่ายไฟได้ครบทุกหลังคาเรือนแล้วตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา ว่าที่ร้อยตรี ปรีชาพล ปาละโมงค์ หนึ่งในเจ้าของร้านที่ได้รับความเสียหาย บอกว่า ช่างมาประเมินความเสียหายที่เกิดขึ้นกับหลังคาและโครงสร้าง ประมาณ 150,000 บาท แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องการชดใช้เยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้น ทำให้ยังเปิดร้านไม่ได้ ขาดรายได้ แถมยังมีค่าใช้จ่ายอีกมาก และจนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับการติดต่อแสดงความรับผิดชอบจากนายจ้างของกระบะส่งน้ำ ตอนนี้ทุกคนกังวลมาก เพราะทราบว่าประกันรถที่เกิดอุบัติเหตุคุ้มครองความเสียหายเพียง 600,000 บาท ไม่เพียงพอกับมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน จึงทยอยเข้าแจ้งความกันไว้แล้ว ขอเรียกร้องให้ทางการไฟฟ้า หรือ […]