เร่งประชาสัมพันธ์ให้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้ง อบต.

สำนักงานกกต. 4 พ.ย.- กกต.ปลื้มผลสำรวจคนจะออกไปใช้สิทธิเลือกตั้ง อบต. ร้อยละ 53 เตรียมเร่งประชาสัมพันธ์ดันให้ถึงร้อยละ 80 พบโควิด-19 ปัจจัยสำคัญของการตัดสินใจออกไปใช้สิทธิ ขณะที่ร้อยละ 50 ไม่แน่ใจเลือกตั้งสุจริต


พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายธนสุวิทย์ ทับหิรัญรักษ์ ที่ปรึกษา อปท.นิวส์ ร่วมแถลงข่าวผลการสำรวจการรับรู้ข้อมูลข่าวสารการเลือกตั้งองค์การบริหารส่วนตำบล หัวข้อ “ถามใจคนท้องถิ่น ใช้สิทธิเลือกตั้ง อบต.” เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ปรับปรุงการรณรงค์เผยแพร่และประชาสัมพันธ์ให้เกิดประสิทธิภาพ ก่อนจะถึงวันเลือกตั้งในปลายเดือน พ.ย.นี้

พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าวว่า ผลสำรวจที่ออกมาเป็นประโยชน์ต่อการทำงานของ กกต. ทำให้ทราบว่า ที่ผ่านมามีจุดไหนที่ กกต.ควรจะไปเพิ่มเติมก่อนวันเลือกตั้ง ซึ่ง กกต.ต้องการให้มีผู้ออกมาใช้สิทธิให้มาก เพราะจำนวนผู้มาใช้สิทธิเป็นตัวบ่งชี้ถึงการพัฒนาประชาธิปไตย อย่างในเรื่องปัญหาโควิด-19 ที่ผลสำรวจระบุว่าเป็นปัจจัยสำคัญต่อการตัดสินใจออกไปใช้สิทธิ ทางสำนักงาน กกต. ก็จะนำข้อมูลดังกล่าวไปพิจารณาว่าจะมีมาตรการอย่างไรที่จะทำให้ประชาชนเกิดความมั่นใจและออกมาใช้สิทธิให้มาก ซึ่งในการเลือกตั้งครั้งต่อๆ ไป อาจจะทำสำรวจในลักษณะนี้อีก เพื่อเป็นข้อมูลให้สำนักงานในการพัฒนาประชาสัมพันธ์การเลือกตั้งให้เข้าถึงประชาชนมากที่สุด


นายธนสุวิทย์ กล่าวว่า ได้สำรวจระหว่างวันที่ 19-25 ต.ค.64 โดยกำหนดพื้นที่เป้าหมาย 5 ภาค ภาคละ 3 จังหวัด จากข้อมูลผู้ใช้สิทธิเลือกตั้ง อบต. ครั้งหลังสุด คือ ภาคเหนือ จ.ลำพูน ลำปาง กำแพงเพชร ภาคกลางและปริมณฑล จ.เพชรบุรี สมุทรสาคร สมุทรปราการ ภาคกลางและตะวันออก จ.สระบุรี ลพบุรี ชลบุรี ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.มหาสารคาม ยโสธร อุดรธานี และภาคใต้ จ.ชุมพร สงขลา ประจวบคีรีขันธ์ รวม 15 จังหวัด จังหวัดละ 150 ราย รวมกลุ่มตัวอย่างทั้งสิ้น 2,756 คน

นายธนสุวิทย์ กล่าวว่า จากการสำรวจร้อยละ 86 ทราบแล้วว่าจะมีเลือกตั้ง อบต. วันไหน มีเพียงร้อยละ 14 ที่บอกว่าไม่ทราบ ซึ่งกลุ่มตัวอย่างที่ทราบว่ามีการเลือกตั้ง ส่วนใหญ่ทราบจากสื่อสังคมออนไลน์ รองลงมา คือ ป้ายประชาสัมพันธ์เชิญชวน และรู้จากผู้นำชุมชน เจ้าหน้าที่ อบต.  

นายธนสุวิทย์ กล่าวว่า ส่วนคำถามว่า การเลือกตั้ง อบต. ทำให้นึกถึงเรื่องใดมากที่สุด ร้อยละ 50 ตอบว่าการพัฒนาท้องถิ่น ร้อยละ 26 นึกถึงประชาธิปไตย และร้อยละ 25 นึกถึงสิทธิของคนในท้องถิ่น นอกจากนี้ ร้อยละ 58 เห็นว่าการเลือกตั้ง อบต. มีผลต่อการยกระดับคุณภาพชีวิตของตนเอง มีเพียงร้อยละ 26 ตอบว่าไม่แน่ใจ และร้อยละ 16 ตอบว่าไม่มีผล ส่วนความเชื่อมั่นว่า การเลือกตั้ง อบต.ครั้งนี้ มีความสุจริต โปร่งใสหรือไม่ มีเพียงร้อยละ 31 ที่เชื่อมั่น ร้อยละ 50 ไม่แน่ใจ และร้อยละ 19 ไม่เชื่อมั่น


นายธนสุวิทย์ กล่าวว่า ส่วนคำถามวันเลือกตั้งที่ 28 พ.ย.64 จะไปเลือกตั้งหรือไม่ ผลสำรวจถึงร้อยละ 53 ตอบว่าไปแน่นอน ร้อยละ 27 คิดว่าจะไป มีร้อยละ 17 ที่ยังไม่แน่ใจ และร้อยละ 3 ที่บอกว่าไม่ไป ส่วนปัจจัยที่จะมีผลต่อการไปใช้สิทธิเลือกตั้ง อบต.หรือไม่ ส่วนใหญ่ร้อยละ 51 ระบุว่า โควิด-19 ร้อยละ 17 มองเรื่องความสะดวกในการเดินทาง และร้อยละ 12 มองเรื่องฝนฟ้าอากาศและผู้สมัครรับเลือกตั้ง ที่เหลือร้อยละ 8 คือ ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง

“สำหรับปัจจัยใดจะส่งผลต่อการเลือกตั้ง อบต.ครั้งนี้ ส่วนใหญ่ร้อยละ 34 ตอบว่าเป็นนโยบายการหาเสียง รองลงมา ร้อยละ 27 คือ คุณสมบัติของผู้สมัคร ร้อยละ 20 คือ วิธีการและกลยุทธ์ในการหาเสียง ร้อยละ 12 ระบุว่า อิทธิพลของนักการเมือง และร้อยละ 7 บอกว่า เงินที่ใช้หาเสียง เมื่อสอบถามกลุ่มตัวอย่างว่า เคยพบปะพูดคุยกับอดีตนายกหรือสมาชิก อบต. เพื่อเสนอแนวคิดในการแก้ปัญหาหรือพัฒนาท้องถิ่นหรือไม่ มีเพียงร้อยละ 39 บอกว่าเคย และร้อยละ 61บอกว่าไม่เคย” นายธนสุวิทย์ กล่าว

นายธนสุวิทย์ กล่าวว่า จากข้อมูลดังกล่าวที่กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 27 ระบุว่าคิดว่าจะไป และร้อยละ 17 ยังไม่แน่ใจว่าจะไปใช้สิทธิเลือกตั้ง อบต.ในวันที่ 28 พ.ย. และร้อยละ 51 ระบุว่า ปัญหาโควิด-19 เป็นปัจจัยที่มีผลต่อการออกไปใช้สิทธิ เห็นว่าถ้า กกต.เร่งประชาสัมพันธ์ทำให้ประชาชนเห็นถึงความสำคัญของการเลือกตั้ง อบต. สร้างความเชื่อมั่นว่าจะปลอดภัยเมื่อออกไปใช้สิทธิ จะทำให้ตัวเลขของผู้ที่คิดว่าจะไป และยังไม่แน่ใจว่าจะไปใช้สิทธิในวันที่ 28 พ.ย.หรือไม่ เปลี่ยนใจไปใช้สิทธิ ซึ่งเมื่อตัวเลขของคน 2 กลุ่มนี้ รวมกับผู้ที่ตอบยืนยันว่าจะไปใช้สิทธิแน่นอน ซึ่งขณะนี้มีอยู่ร้อยละ 53 จะทำให้ผู้ที่จะออกไปใช้สิทธิมีสูงถึงร้อยละ 80 ได้.-สำนักข่าวไทย  

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพ “ดีเจเตเต้” ถูกอุ้มมัดมือไพล่หลังทิ้งกลางไร่อ้อย

กาญจนบุรี 18 พ.ค. – พบแล้วศพ “ดีเจเตเต้” ถูกอุ้มมัดมือไพล่หลัง นำศพทิ้งกลางไร่อ้อย เมืองกาญจน์ หลังครอบครัวแจ้งช่วยตามหาตัวตั้งแต่คืนวันที่ 14 พ.ค. ตั้งปมสังหารเรื่องชู้สาว ความคืบหน้ากรณี “ดีเจเตเต้” ถูกขับรถตามประกบ ก่อนอุ้มขึ้นรถหายตัวไป เหตุเกิดเมื่อเวลา 03.53 น. ของวันที่ 14 พ.ค. ภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่งริมถนนแสงชูโต ต.ท่ามะขาม อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ซึ่งหลังเกิดเหตุพ่อของดีเจเตเต้ ได้ออกมาอัดคลิปลงเฟซ บุ๊กเพื่อขอความช่วยเหลือในการตามหาตัวลูกชายที่หายตัวไป ก่อนที่ล่าสุดจะพบว่า กลายเป็นศพอยู่กลางไร่อ้อยเชิงเขาบ้านทุ่งนานางหรอก โดยวันนี้เวลาประมาณ 10.30 น. นายธนพล เสือส่าน กำนันบ้านทุ่งนานางหรอก ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบศพอยู่บริเวณไร่อ้อย หมู่ 3 บ้านทุ่งนานางหรอก ต.ลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี คนที่ไปเจอ เป็นน้าชายของนายกอล์ฟคนในหมู่บ้าน ที่ออกไปหาของป่าแล้วไปเจอศพ ในสภาพนอนตะแคง ถูกมือถูกมัดไขว้หลัง แล้วมาบอกหลานชายคือนายกอล์ฟไปดูด้วยกัน แล้วนายกอล์ฟจึงแจ้งให้กำนันทราบ ทางกำนันก็แจ้งเรื่องต่อไปยังตำรวจ สภ.ลาดหญ้า ซึ่งเบื้องต้นศพสวมเสื้อผ้าตรงกับที่เป็นข่าว […]

หาความจริง “แก๊งแม่ชีพันล้าน” ยันไม่ใช่เรื่องจริง

สมุทรสาคร 18 พ.ค. – วงการสงฆ์ยังไม่แผ่ว กระแสแก๊งแม่ชีพันล้านโผล่อีก สำนักพุทธลงตรวจสอบแล้ว แม่ชีที่ถูกกล่าวหา ตอบได้ทุกคำถาม ยืนยันไม่ใช่เรื่องจริง จากกระแสเมื่อวานนี้ (17 พ.ค.) มีเพจหนึ่งนำภาพกลุ่มแม่ชีหลายภาพพร้อมกองธนบัตร และภาพแม่ชีที่แอดมินระบุอ้างว่าเป็นการใส่วิกผม มาโพสต์ลงโซเชียล พร้อข้อความเขียนแจงอย่างละเอียดว่า กรณีมีเพจดังโพสต์ภาพแม่ชีพร้อมข้อความระบุข้อความเด็ดว่า ทำนองว่า “แก๊งแม่ชีพันล้านคุมวัดเบ็ดเสร็จไร้เงาพระ! 1. แม่ชี 2 พี่น้องบริหารวัดลำพังไม่มีไวยาวัจกร ไม่มีกรรมการ ไม่มีมัคทายก ครอบครองที่ดินนับพันไร่แต่ชื่อเจ้าของไม่ใช่วัด บางแปลงเป็นชื่อแม่ชี อาจเข้าข่าย “ถือครองแทน” หรือใช้วัดบังหน้า? ยอดกฐินปีละเกือบ 100 ล้าน! รายชื่อผู้บริจาคซ้ำๆ เดิมๆ ส่วนใหญ่เป็นแม่ชี-คนในวัด ไม่มีอาชีพ ไม่มีธุรกิจ แต่ “บริจาคเป็นล้านทุกปี” ระบบโบนัสแม่ชีสาวช่วยหาทุนได้มาก พาเที่ยวรีสอร์ตหรูปีละครั้ง ใส่วิกเต็มยศ นั้น วันนี้ผู้สื่อข่าวพร้อม นส.สวาท แซ่ตัน ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา จ.สมุทรสาคร นายอิทธิธร สีเหลือง นักวิชาการศาสนาปฏิบัติการ เดินทางไปที่วัดที่แม่ชีในภาพบวชอยู่ ต.บางโทรัด […]

รวบแม่บ้านควบตำแหน่งกรรมการบริษัท เลี่ยงภาษีกว่า 180 ล้าน

กทม. 18 พ.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง รวบแม่บ้านควบตำแหน่งกรรมการบริษัทชิปปิ้ง เลี่ยงภาษีกว่า 180 ล้านบาท พบก่อเหตุคล้ายกันในบริษัทฯ อีก 2 แห่ง รวมรัฐเสียหายกว่า 430 ล้านบาท ตำรวจสอบสวนกลาง โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) นำเจ้าหน้าเข้าจับกุม นางสมบุญ อายุ 54 ปี ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1051/2568 ลงวันที่ 18 กุมภาพันธ์2568 ในความผิดฐาน “ร่วมกันเจตนาหลีกเลี่ยงหรือพยายามหลีกเลี่ยงภาษีมูลค่าเพิ่มกระทำการใดๆ โดยความเท็จ โดยฉ้อโกงหรืออุบาย หรือโดยวิธีการอื่นใดทำนองเดียวกัน ที่ลานจอดรถหน้าอพาร์ทเมนต์ พื้นที่ ม.2 ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี พฤติการณ์ ของ น.ส.สมบุญ ผู้ต้องหา ตรวจสอบพบว่า เป็นหนึ่งในกรรมการ บริษัท แห่งหนึ่งประกอบกิจการเป็นตัวแทนนำเข้าสินค้าและดำเนินพิธีการศุลกากรเพื่อนำสินค้าออกจากท่าเรือ แต่จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ พบว่าบริษัทฯดังกล่าวมีพฤติการณ์ปิดบังซ่อนเร้นที่มาของรายได้ รวมถึงค่าใช้จ่ายของบริษัทฯ โดย บริษัทมักจะไม่มีการออกใบกำกับภาษีขายและใบเสร็จรับเงินสำหรับค่าบริการให้แก่ลูกค้าแต่อย่างใด และการจ่ายเงินค่าจ้างให้แก่ลูกจ้างของบริษัทฯ มักจะจ่ายเป็นเงินสดให้ลูกจ้างเป็นรายสัปดาห์ […]

สาวใจเด็ด โดดจยย.รับจ้าง วิ่งตามรถตัวเองหลังตามหา 1 ปี

กทม. 18 พ.ค. – สาวใจเด็ด โดดลงจากมอเตอร์ไซค์รับจ้าง วิ่งไล่รถตัวเอง หลังตามหาและผ่อนกุญแจเปล่ามานานกว่า 1 ปี พบเพื่อนสนิทนำรถไปค้ำประกันกับเจ้าหนี้ จากกรณีคลิปที่มีการแชร์ในโซเซียล ขณะผู้หญิงใส่เสื้อลายกำลังวิ่งไล่ตามรถเก๋งสีขาว พร้อมตะโกนให้คนช่วย จนพลเมืองดี ช่วยกันเข้ามารายล้อมรถและคนขับรถเก๋งต้องเลี้ยวเข้าซอย เพื่อลงมาเคลียร์ ก่อนเกิดเหตุชุลมุนขึ้น เมื่อวานนี้ (17 พ.ค.) ล่าสุดทีมข่าวเปิดใจ สาวที่ปรากฏในคลิป เล่าถึงสาเหตุที่ต้องเข้าไปขวางรถยนต์คันนี้ เพราะว่าเมื่อประมาณเดือนพฤษภาคม ปี 2567 ตนเองได้ซื้อรถเก๋งคันนี้ ทะเบียนขอนแก่น และนำรถไปฝากจอดไว้ที่คอนโดแห่งหนึ่งย่านห้วยขวาง ซึ่งเป็นห้องของแฟนเพื่อนสนิท แต่หลังจากที่นำรถไปฝาก ก็ไม่เคยได้พบรถตัวเองอีกเลย โดยเพื่อนสนิท อ้างว่าแฟนเอาไปขับ ทุกครั้งที่ทวงถามหารถ จะมีการบ่ายเบี่ยงต่างๆ นานา จนในที่สุด ตนเองก็เข้าแจ้งความ ลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สน.ห้วยขวาง ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2567 เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยตามหารถ เวลาผ่านไปประมาณ 1 ปี ก็ยังตามหาไม่ได้ ตนเองจึงต้องผ่อนกุญแจเปล่า มาเป็นระยะเวลา 1 ปีเต็ม […]

ข่าวแนะนำ

ออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการอุ้มฆ่า “ดีเจเตเต้”

กาญจนบุรี 19 พ.ค. – ออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการแล้ว 4 ราย อุ้มฆ่า “ดีเจเตเต้” ตั้งข้อหาหนักหลายกระทง ล่าสุด ครอบครัวรับศพแล้ว เผยผลชันสูตร กระสุนเจาะศีรษะ 2 นัด เป็นเหตุเสียชีวิต พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 เดินทางลงพื้นที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อร่วมประชุมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนคลี่คลายคดีล่าตัวแก๊งอุ้มฆ่า นายวราพงษ์ ขุนศรีจตุรงค์ หรือ ดีเจเตเต้ อายุ 33 ปี โดยภายหลังการประชุม พล.ต.ต.พรชัย ชลอเดช ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยว่า ขณะนี้จับกุม นายธนเดช หนึ่งในผู้ร่วมขบวนการอุ้มฆ่า ดีเจเตเต้ แล้ว ส่วนอีก 4 คน ศาลอนุมัติหมายจับ ประกอบด้วย นายณรงค์เดช, นายภคณัท, นายนพพิจิตร และนายธราเทพ ทั้งหมดมีภูมิลำเนาอยู่ในเขตอำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี ใน 5 ข้อหาหนัก ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่น […]

ขุดลึกลงไป 5 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหาย

กทม. 19 พ.ค.-ทีมค้นหาฝังแผ่นเหล็กชีทไพล์ รอบหลุมเสาเข็ม เพื่อขุดค้นหาผู้ประสบเหตุ ซึ่งขุดลึกลงไป 5 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหาย เวลา 17.00 น. เจ้าหน้าที่ทีมค้นหา ทั้ง กรมป้องกัน และบรรเทาสาธารณะภัย (ปภ.) Usar Thailand เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู และบริษัทรับเหมาเจาะเสาเข็ม ได้ใช้แบคโฮ เริ่มฝังแผ่นเหล็กชีทไพล์ ความยาวประมาณ 16 เมตร รอบหลุมเสาเข็ม 4 ด้าน เพื่อป้องกันดินสไลด์ปิดทับปากหลุมที่รถแบ็คโฮจะทำการขุด เพื่อค้นหาผู้ประสบเหตุ โดยการฝั่งแผ่นชีทไพล์ รอบหลุมเสาเข็ม เนื่องจากการประเมินของเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญทางด้านวิศวกรรม พบว่าดินที่สไลด์ลงมาส่งผลกระทบรุนแรงต่อโครงสร้างอาคาร และเสาไฟฟ้า ในบริเวณที่เกิดเหตุ ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันปัญหาอาคารทรุดตัว เอน และ พังถล่ม จึงจำเป็นต้องนำแผ่นชีทไพล์มากั้น ก่อนทำการขุดดิน และเริ่มค้นหาผู้ประสบเหตุ และหลังจากฝังชีทไพล์ เสร็จสิ้นในเวลา 18.30 น. โดยก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ได้นำเครื่องโซน่า ลงไปในหลุม เพื่อค้นหาร่างผู้ประสบเหตุ ซึ่งจากการใช้ โซน่าสแกน ร่างของผู้ประสบเหตุ ฝังอยู่ในหลุมลึก […]

ตามหา “เจ๊แก้ว” ใส่ทอง 20 บาท หายตัวไป 2 วัน

สุราษฎร์ธานี 19 พ.ค. – ยังไร้วี่แวว “เจ๊แก้ว” เจ้าของแผงทุเรียน หายตัว 2 วัน พร้อมทองหนัก 20 บาท-เงินสด 1 แสน สามีวอนตำรวจ-พลังโชเชียลช่วยตามหา หวั่นเกิดเหตุร้าย เมื่อวานนี้ (18 พ.ค.) ญาติของ น.ส.สุจิตรา หรือเจ๊แก้ว อายุ 43 ปี เจ้าของแผงทุเรียนในตลาดโพธิ์หวาย ต.บางกุ้ง อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี ว่า น.ส.สุจิตรา หายตัวไปวันที่ 17 พฤษภาคม หลังจากเสร็จงานที่แผงทุเรียน และกำลังขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้าน ซึ่งอยู่ห่างกันประมาณ 2 กม. ช่วงเวลาประมาณ 19.40 น. น้องสาวของเจ๊แก้ว เล่าว่า วันนั้นตนได้โทรศัพท์คุยกับพี่สาวและทราบว่าพี่สาวกำลังจะออกจากแผงทุเรียนเพื่อที่จะกลับบ้าน หลังจากนั้นก็เห็นผิดสังเกตว่าพี่สาวยังมาไม่ถึงบ้านเลยพยายามโทรหาแต่ก็ไม่มีคนรับ ปกติแล้วพี่สาวได้สวมใส่สร้อยคอทองคำน้ำหนัก 5 บาท เลทข้อมือทองคำน้ำหนัก 10 บาท […]

“บิ๊กเต่า” นำทีมตรวจเงินวัดไร่ขิง พบบัญชีวัดเพิ่มอีกรวม 49 บัญชี

นครปฐม 19 พ.ค. – “บิ๊กเต่า” นำทีมตรวจเงินวัดไร่ขิง พบตู้บริจาค 185 ตู้ บัญชีวัดรวม 49 บัญชี รอตรวจสอบเส้นเงินที่ชัดเจน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้นำกำลังตำรวจ เจ้าหน้าที่ สตง. และเจ้าหน้าที่สำนักพระพุทธศาสนา เข้าตรวจสอบข้อมูลการเงินเพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม ภายในห้องการเงิน วัดไร่ขิง ก่อนที่ในช่วงบ่ายพระครูปฐมธีรวัฒน์ (บัญชา ฐิตธมฺโม) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง ได้เป็นตัวแทนนำ จนท.ออกมาชี้จุดตั้งตู้บริจาคปัจจัยที่ตั้งอยู่ภายในบริเวณวัด พบว่ามีตู้บริจาคทั้งหมด 185 ตู้ ซึ่งหลังจากใช้เวลาตรวจสอบบัญชีเพิ่มเติมกว่า 8 ชั่วโมง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยว่าการตรวจสอบในวันนี้ ไม่ได้ เป็นการสอบปากคำ แต่เป็นเพียงการเรียกทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบัญชีการเงินของวัดประมาณ 10 คน รวมถึงเจ้าหน้าที่ธนาคารจาก 4 ธนาคาร เข้ามาให้ข้อมูล เพื่อหาข้อสรุปว่า บัญชีของวัดมีกี่บัญชี ซึ่งทำให้พบบัญชีวัดเพิ่มขึ้นจากที่พบก่อนหน้านี้ 20 กว่าบัญชี (ใน 20 กว่า มีบัญชีส่วนตัวของอดีตเจ้าอาวาส […]