มท.1 สั่งเตรียมพร้อมป้องกันอุบัติเหตุ ไฟไหม้วันลอยกระทง

กทม. 30 ต.ค.-มท.1 เป็นห่วงประชาชนช่วงวันเพ็ญเดือน 12 สั่งการทุกจังหวัด – กทม. เตรียมพร้อมป้องกันอุบัติเหตุและไฟไหม้ในวันลอยกระทง ควบคู่มาตรการควบคุมการระบาดโควิด-19 อย่างเคร่งครัด

วันนี้ (30 ต.ค.64) พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะผู้บัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ เปิดเผยว่า ในวันศุกร์ที่ 19 พฤศจิกายน 2564 นี้ ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 เป็นวันลอยกระทง ซึ่งตามประเพณีไทย ในแต่ละจังหวัดและกรุงเทพมหานคร จะจัดสถานที่ให้พี่น้องประชาชน ได้ลอยกระทงตามประเพณี ในช่วงเวลาที่ต่างกันไป โดยคาดว่าจะมีพี่น้องประชาชนนิยมเดินทางไปร่วมกันลอยกระทงกันเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะบริเวณริมน้ำ โป๊ะ ท่าเรือโดยสาร ซึ่งมักจะเกิดอุบัติเหตุทั้งทางถนน ทางน้ำ และเหตุไฟไหม้อยู่เป็นประจำ สร้างความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนเป็นอย่างมาก


พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ตนได้สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด เตรียมความพร้อมป้องกันอันตรายให้พี่น้องประชาชนที่จะเดินทางไปร่วมประเพณีลอยกระทง  ทั้งด้านการจราจรบนท้องถนน ทางน้ำ รวมถึงอันตรายจากพลุ ประทัด ดอกไม้ไฟ โดยเข้มงวด กวดขัน การออกใบอนุญาตหรือต่ออายุใบอนุญาต ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานที่เก็บ ทำ หรือขายดอกไม้ไฟ ให้เป็นไปตามกฎหมายโดยเคร่งครัด และให้เร่งตรวจตราสถานที่ โป๊ะ ท่าเรือโดยสาร หากพบว่ามีสภาพไม่ปลอดภัย ต้องซ่อมแซมให้มีความมั่นคงแข็งแรง รวมถึงดูแลเต็นท์ และสถานที่จัดงานให้ปลอดภัย พร้อมกำชับให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่จะจัดงานวันลอยกระทง เตรียมการป้องกันและระวังไม่ให้เกิดอุบัติภัย ทั้งหน่วยเคลื่อนที่เร็ว อุปกรณ์ดับเพลิง อุปกรณ์กู้ภัย ทั้งทางบก ทางน้ำ หน่วยบริการการแพทย์ฉุกเฉินให้พร้อมช่วยเหลือประชาชนได้อย่างรวดเร็วและทันท่วงที

พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ในวันลอยกระทง 19 พฤศจิกายน 2564 ให้จัดชุดปฏิบัติการโดยบูรณาการร่วมทุกภาคส่วนในพื้นที่ เฝ้าระวังสถานที่ที่เสี่ยงต่อการเกิดอัดคีภัย และอุบัติภัยอื่น โดยเฉพาะตามริมน้ำ โป๊ะ ท่าเรือโดยสาร ที่เป็นจุดเสี่ยงอันตราย พร้อมอำนวยความสะดวกด้านจราจร รักษาความสงบเรียบร้อย รวมถึงความปลอดภัยของผู้โดยสาร ควบคู่กับมาตรการป้องกันและควบคุมโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัด ทั้งการตรวจวัดอุณหภูมิ การสวมหน้ากากอนามัย รักษาระยะห่างระหว่างกัน ล้างมือด้วยน้ำสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ล้างมืออย่างสม่ำเสมอ และเร่งสร้างการรับรู้และกระตุ้นเตือนให้พี่น้องประชาชนได้เข้าใจแนวปฏิบัติตามกฎหมาย และตระหนักถึงอันตราย ผลกระทบที่อาจเกิดจากการจุดพลุ ประทัด ดอกไม้ไฟ การปล่อยโคมลอย โคมควัน และเชิญชวนประชาชนจิตอาสา ร่วมทำความสะอาด เก็บขยะตามสถานที่จัดงาน ตามแหล่งน้ำ เพื่อป้องกันการเกิดสิ่งกีดขวางทางน้ำและรักษาระบบนิเวศน์ต่อไป


“ในขณะนี้ยังอยู่ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จึงขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการระบาดโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ หากพี่น้องประชาชนพบเห็นการทะเลาะวิวาท หรือเหตุความไม่สงบในงานลอยกระทง สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ หรือโทร. 191 และหากพบเหตุไฟไหม้ หรืออุบัติภัย แจ้งสายด่วนอัคคีภัย โทร. 199 หรือสายด่วนนิรภัย โทร. 1784 ได้ทันที” พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวในช่วงท้าย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 เข้าพบนายกฯ

“โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 เข้าพบ “แพทองธาร” นายกฯ ชื่นชมเป็นคนเก่ง-มองโลกบวก เป็นหน้าตาของประเทศ นำเสนอวัฒนธรรม-ซอฟต์พาวเวอร์ ผ่านการประกวด พร้อมชวนร่วมงานรัฐบาล สร้างแรงบันดาลใจเด็กๆ ขณะที่ นายกฯ เขินถูกชมว่าตัวจริงสวย

ล้มล้างการปกครอง

ศาล รธน.มีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้อง “ทักษิณ-พท.” ล้มล้างการปกครอง

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ขอให้ศาลวินิจฉัยว่า “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ล้มล้างการปกครอง

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่