ศบค.ยกเลิกเคอร์ฟิวทั่วประเทศ เว้นแดงเข้ม 7 จว.

ทำเนียบรัฐบาล 29 ต.ค.-ศบค.ยกเลิกเคอร์ฟิวทั่วประเทศ ยกเว้นโซนแดงเข้ม คง 5 ทุ่ม-ตี 3 ปรับพื้นที่สีแดงเข้มเหลือ 7 จังหวัด-พื้นที่แดงเพิ่มเป็น 38 จังหวัด ขณะ กทม.-ปริมณฑล WFH ร้อยละ70


นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงผลการประชุมศบค.ชุดใหญ่ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีแลรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะ ผอ.ศบค.เป็นประธาน ว่า ศบค.เห็นชอบปรับระดับของพื้นที่สถานการณ์ย่อยในพื้นที่ทั่วราชอาณาจักร ดังนี้ พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (แดงเข้ม) เดิม 23 จังหวัด ปรับลดเป็น 7 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดจันทบุรี จังหวัดตาก จังหวัดนครศรีธรรมราช จังหวัดนราธิวาส จังหวัดปัตตานี จังหวัดยะลา และจังหวัดสงขลา

 “พื้นที่ควบคุมสูงสุด (สีแดง)เดิม 30 จังหวัด ปรับเพิ่มเป็น 38 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดกาญจนบุรี จังหวัดขอนแก่น จังหวัดชลบุรี จังหวัดชุมพร จังหวัดเชียงราย จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดฉะเชิงเทรา จังหวัดตรัง จังหวัดตราด จังหวัดนครปฐม จังหวัดนครนายก จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดนครสวรรค์ จังหวัดนนทบุรี จังหวัดปทุมธานี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดปราจีนบุรี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพัทลุง จังหวัดพิจิตร จังหวัดพิษณุโลก จังหวัดเพชรบุรี จังหวัดเพชรบูรณ์ จังหวัดระนอง จังหวัดระยอง จังหวัดราชบุรี จังหวัดลพบุรี จังหวัดสตูลจังหวัดสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรสงคราม จังหวัดสมุทรสาคร จังหวัดสระบุรี จังหวัดสระแก้ว จังหวัดสุพรรณบุรี จังหวัดสุราษฎร์ธานี จังหวัดอ่างทอง จังหวัดอุดรธานี และจังหวัดอุบลราชธานี” โฆษก ศบค. กล่าว


นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ส่วนพื้นที่ควบคุม (สีส้ม) จากเดิม 24 ปรับเป็น  23 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดกาฬสินธุ์ จังหวัดกำแพงเพชร จังหวัดชัยนาท จังหวัดชัยภูมิ จังหวัดบุรีรัมย์ จังหวัดพะเยา จังหวัดแพร่ จังหวัดมหาสารคาม จังหวัดแม่ฮ่องสอน จังหวัดยโสธร จังหวัดร้อยเอ็ด จังหวัดลำปาง จังหวัดลำพูน จังหวัดเลย จังหวัดสิงห์บุรี จังหวัดสุโขทัย จังหวัดสุรินทร์ จังหวัดหนองคาย จังหวัดหนองบัวลำภู จังหวัดอุตรดิตถ์ จังหวัดอุทัยธานี จังหวัดอำนาจเจริญ และจังหวัดศรีสะเกษ พื้นที่เฝ้าระวังสูง(สีเหลือง) 5 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดนครพนม จังหวัดน่าน จังหวัดบึงกาฬ จังหวัดมุกดาหาร และจังหวัดสกลนคร และพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว (สีฟ้า) 4 จังหวัด ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร จังหวัดกระบี่ จังหวัดพังงา และจังหวัดภูเก็ต

“ที่ประชุม ศบค.เห็นชอบยกเลิกการห้ามออกนอกเคหสถานทุกพื้นที่ แต่ยังให้คงในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) เวลา 23.00-03.00 น. และยังคง Work from home อย่างน้อยร้อยะ 50 ในหน่วยงานรัฐ ผู้ประกอบการภาคเอกชนปรับเพิ่มได้ตามความเหมาะสม และยังคงห้ามจัดกิจกรรมรวมกลุ่มคนมากกว่า 50 คน สำหรับสถานรับเลี้ยงเด็กและดูแลผู้สูงอายุให้เปิดแบบไปและกลับ” โฆษกศบค. กล่าว

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า สำหรับสถานที่เล่นกีฬาหรือแข่งขันกีฬา เปิดตามเวลาปกติ แต่ไม่เกินเวลา 22.00 น. กีฬาในร่มไม่มีผู้ชม กีฬากลางแจ้งมีผู้ชมไม่เกิน 25% ส่วนโรงภาพยนตร์ โรงมรสพ การแสดงพื้นบ้าน หรือสถานที่ลักษณะเดียวกัน จำกัดจำนวนผู้ชม ห้ามบริโภคอาหาร พื้นที่มีเครื่องปรับอากาศจำนวนผู้ชม 50% พื้นที่โลก 75% ขณะที่ศูนย์แสดงสินค้า ศูนย์ประชุม หรือสถานที่จัดนิทรรศการ รวมถึงสถานที่ลักษณะเดียวกันในห้างสรรพสินค้า และโรงแรม จัดประชุมไม่เกิน 500 คน ให้เหมาะสมกับขนาดพื้นที่ต้องไม่แออัด สำหรับศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า และซิตี้มอลล์ เปิดได้ตามปกติ แต่ไม่เกินเวลา 22.00 น. งดกิจกรรมส่งเสริมการขาย ปิดบริการตู้เกม เครื่องเล่น ร้านเกม สวนสนุก และสวนน้ำ


โฆษก ศบค. กล่าวว่า ร้านสะดวกซื้อ ตลาด และตลาดนัด เปิดตามเวลาปกติ แต่ไม่เกินเวลา 22.00 น. หากเปิดบริการเครื่องเล่นสวนสนุก ต้องผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ส่วนร้านอาหารทั้งในและนอกศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า หรือสถานที่อื่นใดที่มีร้านอาหาร เปิดตามเวลาปกติ แต่ไม่เกินเวลา 22.00 น. งดจำหน่ายและดื่มสุราในร้าน ส่วนร้านเสริมสวย ร้านนวด สปา สถานเสริมความงาม ร้านสัก เปิดบริการได้ตามปกติ แต่ไม่เกินเวลา 22.00 น. ยกเว้นการใช้ไอน้ำ เนื่องจากสามารถแพร่เชื้อโรคได้

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า สำหรับพื้นที่ควบคุมสูงสุด (สีแดง) ไม่ห้ามออกนอกเคหสถาน  Work from home หน่วยงานของรัฐ ผู้ประกอบการภาคเอกชนดำเนินการได้ตามความเหมาะสม ยกเว้นกรุงเทพฯ และปริมณฑลอย่างน้อย 70% ส่วนการจัดกิจกรรมรวมกลุ่มห้ามจัดกิจกรรมรวมคนมากกว่า 200 คน สถานรับเลี้ยงเด็กและสถานดูแลผู้สูงอายุ เปิดดำเนินการได้ตามปกติ ส่วนสถานที่เล่นกีฬา หรือแข่งขันกีฬา เปิดตามเวลาปกติ แต่ไม่เกินเวลา 23.00 น. กีฬาในร่ม ผู้ชมไม่เกิน 25% กีฬากลางแจ้ง ผู้ชมไม่เกิด 50% ส่วนโรงภาพยนต์ โรงมรสพ การแสดงพื้นบ้าน หรือสถานที่ลักษณะเดียวกัน พื้นที่ที่มีเครื่องปรับอากาศจำกัดจำนวนผู้ชม 75% ส่วนพื้นที่โล่งจำนวนผู้ชมเป็นไปตามขนาดพื้นที่ 

“ส่วนศูนย์แสดงสินค้า ศูนย์ประชุม หรือสถานที่จัดนิทรรศการรวมถึงสถานที่ลักษณะเดียวกันในห้างสรรพสินค้าและโรงแรม สามารถจัดประชุม จัดมหกรรมด้านกีฬาและจัดแสดงสินค้า โดยไม่มีการชิมอาหารไม่เกิน 500 คน ตามขนาดพื้นที่ ขณะที่ศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า ซิตี้มอลล์เปิดได้ตามเวลาปกติ งดกิจกรรมส่งเสริมการขาย เปิดตู้เกม เครื่องเล่น ร้านเกม แต่ไม่เปิดสวนสนุกและสวนน้ำส่วนร้านสะดวกซื้อ ตลาด และตลาดนัด เปิดตามเวลาปกติ ส่วนร้านอาหารทั้งในและนอกศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้าหรือสถานที่อื่นใดที่มีร้านอาหาร บริโภคในร้านได้ เปิดตามเวลาปกติไม่เกินเวลา 23.00 น. และงดการจำหน่ายและงดดื่มสุราในร้าน และร้านเสริมสวย ร้านนวด สปา สถานเสริมความงาม และร้านสัก เปิดบริการได้ตามปกติ แต่ไม่เกินเวลา 23.00 น.” โฆษก ศบค. กล่าว

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ส่วนพื้นที่ควบคุม (สีส้ม) ไม่ห้ามออกนอกเคหสถาน  Work from home หน่วยงานของรัฐ ผู้ประกอบการภาคเอกชนดำเนินการได้ตามความเหมาะสม ยกเว้นกรุงเทพฯ และปริมณฑลอย่างน้อย 70% ห้ามจัดกิจกรรมรวมกลุ่มคนมากกว่า 500 คน สถานรับเลี้ยงเด็กและสถานดูแลผู้สูงอายุ เปิดดำเนินการตามปกติ ส่วนสถานที่เล่นกีฬา หรือแข่งขันกีฬา เปิดบริการได้ตามเวลาปกติจัดการแข่งขันได้แต่จำกัดจำนวนผู้ชม กีฬาในร่มผู้ชมไม่เกิน 50% กีฬากลางแจ้งไม่เกิน 75% ส่วนโรงภาพยนตร์ โรงมรสพ การแสดงพื้นบ้าน หรือสถานที่ลักษณะเดียวกัน เปิดได้ตามปกติ จำนวนผู้ชมตามมาตรการที่กำหนด

“ขณะที่ศูนย์แสดงสินค้า ศูนย์ประชุม หรือสถานที่จัดนิทรรศการ รวมถึงสถานที่ลักษณะเดียวกันในห้างสรรพสินค้าและในโรงแรม จัดประชุมจัดมหกรรมด้านกีฬา จัดแสดงสินค้าชิมอาหารได้และจัดงานอื่นๆ ได้จัดแสดงสินค้าได้ แต่ไม่เกิน1,000 คน ด้านศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า และซิตี้มอลล์ เปิดได้ตามเวลาปกติ เปิดสวนสนุก และสวนน้ำได้ เฉพาะพื้นที่โล่ง ร้านสะดวกซื้อ ตลาด และตลาดนัด เปิดบริการได้ตามเวลาปกติ ส่วนร้านอาหารทั้งในและนอกศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า หรือสถานที่อื่นใดที่มีร้านอาหารบริโภคในร้านได้ เปิดได้ปกติ ให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดพิจารณากำหนดเวลาปิดตามสถานการณ์ในพื้นที่ และงดจำหน่ายและดื่มสุราในร้าน และร้านเสริมสวย ร้านนวดสปา สถานเสริมความงาม และร้านสัก เปิดบริการได้ตามปกติ แต่ไม่เกินเวลา24.00 น.” โฆษก ศบค. กล่าว

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวถึงพื้นที่เฝ้าระวังสูง (สีเหลือง) ห้ามออกนอกเคหสถาน  Work from home  หน่วยงานของรัฐผู้ประกอบการภาคเอกชนดำเนินการได้ตามความเหมาะสม ยกเว้นกรุงเทพฯ และปริมณฑลอย่างน้อย 70% ห้ามจัดกิจกรรมรวมกลุ่มคนมากกว่า 1,000 คน สถานรับเลี้ยงเด็กและสถานดูแลผู้สูงอายุ เปิดดำเนินการตามปกติ ส่วนสถานที่เล่นกีฬา หรือแข่งขันกีฬา เปิดบริการได้ตามเวลาปกติ จัดการแข่งขันได้ แต่จำกัดจำนวนผู้ชม กีฬาในร่มผู้ชมไม่เกิน 75% กีฬากลางแจ้งผู้ชมตามความจุของสนามและมาตรการเว้นระยะห่าง ส่วนโรงภาพยนตร์ โรงมรสพ การแสดงพื้นบ้าน หรือสถานที่ลักษณะเดียวกัน เปิดได้ตามปกติจำนวนผู้ชมตามมาตรการที่กำหนด

“ศูนย์แสดงสินค้า ศูนย์ประชุม หรือสถานที่จัดนิทรรศการ รวมถึงสถานที่ลักษณะเดียวกันในห้างสรรพสินค้าและในโรงแรม สามารถจัดงานได้ตามความเหมาะสม ขณะที่ศูนย์การค้าห้างสรรพสินค้า และซิตี้มอลล์  เปิดบริการได้ตามปกติ ส่วนร้านอาหารทั้งในและนอกศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้าหรือสถานที่อื่นใดที่มีร้านอาหาร สามารถบริโภคในร้านได้ เปิดได้ตามปกติ แต่ให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดหรือคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพฯ พิจารณากำหนดเวลาปิดตามสถานการณ์พื้นที่ และร้านเสริมสวย ร้านนวดสปาสถานเสริมความงาม และร้านสัก เปิดบริการได้ตามปกติ” โฆษก ศบค. กล่าว

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ส่วนพื้นที่เฝ้าระวังและพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยว (สีฟ้า)ทุกกิจกรรม และกิจการ เปิดได้ตามความเหมาะสม จัดกิจกรรมการรวมกลุ่มตามความเหมาะสม  Work from home หน่วยงานของรัฐ ผู้ประกอบการภาคเอกชนดำเนินการได้ตามความเหมาะสม ยกเว้นกรุงเทพฯ และปริมณฑลอย่างน้อย 70% เปิดบริการและจัดการแข่งขันได้ตามปกติตามมาตรการที่กำหนด แต่ในส่วนของร้านอาหารทั้งในและนอกศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้าหรือสถานที่อื่นใดที่มีร้านอาหาร ให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด หรือคณะกรรมการโรคติดต่อ กทม.พิจารณาปิดตามสถานการณ์พื้นที่ ทั้งนี้ มาตรการทั้งหมดจะเริ่มในวันที่ 1 พ.ย.นี้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ออกหมายจับ 5 คนแก๊ง “เสือปุ่น” ปล้นเงินสด 3.4 ล้าน

กทม. 1 ก.ค.-ออกหมายจับ 5 คนแก๊ง “เสือปุ่น” ปล้นเงินสด 3.4 ล้านตุ๋นแลกคริปโตฯ ชุดสืบปูพรมล่า จากกรณีกลุ่มคนร้าย 7 คน ก่อเหตุปล้นทรัพย์ เงินสด 3.4 ล้านบาท โดยใช้อาวุธมีดจี้ ข่มขู่ผู้เสียหาย 3 คน ที่มาซื้อเงินคริปโตเคอร์เรนซี่ สกุลเวิน USDT จำนวน 100,000 ดอลล่า ภายในลานจอดรถศูนย์การค้าชื่อดังย่านลาดพร้าว แขวงและเขตจตุจักร กทม. เมื่อช่วงเวลา 19.30 น. ของวานนี้ (30 มิ.ย.) ภายหลัง พล.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. และ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. นำชุดสืบสวนเร่งรัดติดตามตัว จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 ราย คือ นายเฌอพัชญ์ หรือหนาว อายุ 25 ปี […]

“ทักษิณ” พร้อมลูกสาว เดินทางออกจากศาลอาญา หลังสืบพยานนัดแรก

1 ก.ค. – บรรยากาศที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ภายหลังนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าสืบพยานโจทก์นัดแรกในคดีหมายเลขดำ อ.1860/2567 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายทักษิณ เป็นจำเลยในความผิด ฐานดูหมิ่นสถาบันฯ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ม.112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ เมื่อเวลา 12.10 น. นายทักษิณ พร้อมด้วย น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ หรือเอม ได้เดินทางกลับโดยใช้ประตูด้านข้างของศาลอาญา ก่อนขึ้นรถออกไป โดยเลี้ยวออกไปทางประตูของศาลแพ่ง และเลี้ยวออกถนนพหลโยธินโดยทันที โดยมีกลุ่มมวลชนสวมเสื้อสีแดงยืนคอยให้กำลังใจอยู่บริเวณริมฟุตบาธบริเวณประตูทางออกอยู่จำนวนหนึ่ง ทั้งนี้มีนางเพญ พินิจอักษร ชาวจังหวัดศรีสะเกษ ถือรูปนายทักษิณ โดยมีการเขียนข้อความในภาพว่าขอส่งกำลังใจให้นายกฯในดวงใจ พร้อมถือพวงมาลัยดอกมะลิพวงใหญ่ และมีกลุ่มมวลชนสวมเสื้อสีแดงกลุ่ม 50 เขตแดน กทม. มาให้กำลังใจด้วยเช่นเดียวกัน จากนั้น นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัว นายทักษิณ ได้เดินมาทำความเข้าใจกับสื่อมวลชนหลังจากที่ศาลอาญาได้มีการพักการสืบพยาน ว่า ขอให้สื่อมวลชนใช้วิจารณญาณว่าจะอยู่หรือไม่อยู่ เพราะศาลใช้การพิจารณาลับ ทั้งนี้ไม่สามารถพูดอะไรในกระบวนการได้ จะพูดได้แค่มีพยานกี่ปาก […]

ธปท.เผย “คุณสู้ เราช่วย” เฟส 2 มีลูกหนี้เข้าเกณฑ์ 1.8 ล้านราย

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – ธปท.เผย “คุณสู้ เราช่วย” เฟส 2 เพิ่ม “จ่าย ตัด ต้น” พร้อมขยายขอบเขต 2 มาตรการเดิม “จ่ายตรง คงทรัพย์” และ “จ่าย ปิด จบ” มีลูกหนี้เข้าเกณฑ์ 1.8 ล้านราย ยอดนี้ประมาณ 3.1 แสนล้านบาท นางสาวสุวรรณี เจษฎาศักดิ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผย ว่า ภายใต้เศรษฐกิจที่มีความไม่แน่นอนสูง ยังมีลูกหนี้กลุ่มเปราะบางจำนวนมากที่มีปัญหาในการชำระหนี้ และพบว่าลูกหนี้ยังให้ความสนใจเข้าร่วมโครงการอย่างต่อเนื่อง แต่บางส่วนไม่สามารถเข้าร่วมได้เนื่องจากคุณสมบัติไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนด กระทรวงการคลัง สศช. ธปท. ธนาคารพาณิชย์ สถาบันการเงินเฉพาะกิจ รวมถึงผู้ประกอบธุรกิจ non-bank ที่เป็นบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินของธนาคารพาณิชย์ เห็นควรขยายระยะเวลาลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคุณสู้เราช่วยเฟส 1 (เดิมสิ้นสุด 30 มิ.ย.68) และให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติม ภายใต้โครงการ […]

“บิ๊กเต่า” เร่งสอบบัญชีวัดดัง พบเส้นเงินไหลเข้าสีกาคนสนิทหลายครั้ง

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – “บิ๊กเต่า” เร่งสอบ 5 บัญชี เงินวัดตรีฯ-ทิดอาชว์ พบมีเส้นเงินไหลเข้าสีกาคนสนิทหลักหมื่นถึงหลักแสนบาทหลายครั้ง ส่วนคลิปลับแชทหลุดเป็นหน้าที่สำนักพุทธฯ ตรวจสอบ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เรียกประชุมตำรวจ บก.ปปป. และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. เพื่อติดตามความคืบหน้าการตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายของวัดตรีทศเทพวรวิหาร หลังพบพิรุธพระเทพวชิรปาโมกข์ (อาชว์ อาชฺชวปเสฏฺโฐ) หรือ “เจ้าคุณอาชว์” ได้ลาสิกขาหรือสึก ที่ จ.หนองคาย อย่างกะทันหัน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า จากการเข้าตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายที่วัดตรีทศเทพเมื่อวานนี้ ยังไม่เป็นที่น่าพอใจ ทางวัดให้เอกสารทางบัญชีมาบางส่วน พระหลายรูปกังวลหวาดกลัวจึงไม่ค่อยให้ความร่วมมือเท่าที่ควร แต่ตำรวจได้ประสานรักษาการเจ้าอาวาสวัด เพื่อให้แต่งตั้งไวยาวัจกรใหม่ ซึ่งเชื่อว่าหลังจากนี้จะได้รับความร่วมมือมากขึ้น โดยตำรวจได้ประสานขอรายการเดินบัญชีธนาคารของวัด 5 บัญชี เป็นบัญชีที่เกี่ยวกับเงินกฐิน ค่าเช่าที่จอดรถ ฌาปนกิจศพ ค่าน้ำค่าไฟ และภาพวาดโบราณ และบัญชีที่ต้องสงสัยอีกจำนวนหนึ่ง มาตรวจสอบทั้งหมด รวมถึงบัญชีส่วนตัวของทิดอาชว์ เบื้องต้นตำรวจมีข้อมูลน่าเชื่อได้ว่า ตำแหน่งเจ้าอาวาสไม่ได้มีเงินเยอะ แต่ตำรวจเห็นหลักฐานการโอนเงินบางส่วนไปยังสีกาหญิงหลายรายการ ยอดเงินตั้งแต่หลักหมื่นถึงหลักแสนบาท ซึ่งอาจเป็นเงินของวัด หรืออาจใช้ให้คนอื่นไปโอน […]

ข่าวแนะนำ

14 รมต.ใหม่ เข้าทำเนียบถ่ายรูป ก่อนถวายสัตย์ปฏิญาณ

ทำเนียบ 3 ก.ค.- ชื่นมื่น! 14 รมต.ใหม่ เข้าทำเนียบฯ ตั้งแต่ช่วงเช้า ถ่ายรูปทำบัตรประจำตัว ก่อนเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ “อรรถกร” มาถึงคนแรก ปิดท้ายด้วย “นายกฯ แพทองธาร” เตรียมประชุม ครม. นัดพิเศษในช่วงบ่าย แบ่งงานรองนายกฯ ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่ทำเนียบรัฐบาล รัฐมนตรีใหม่ 14 คน ทยอยเดินทางมายังตึกสันติไมตรี เพื่อตรวจเอทีเค ถ่ายรูปทำบัตรประจำตัว ก่อนเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนปฏิบัติหน้าที่ โดยเวลา 07.40 น. รัฐมนตรีที่เดินทางมาเป็นคนแรก คือ นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรสหกรณ์ และ นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จากนั้น นายชัยชนะ เดชเดโช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ตามด้วย นายอนุชา สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายฉันทวิชญ์ ตัณฑสิทธิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ […]

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางพื้นที่ในภาคเหนือ-อีสานตอนบน-ตะวันออก

กรุงเทพฯ 3 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือ ภาคอีสานตอนบน ภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 70% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าว โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดต่างๆ ตามที่ระบุไว้ในรายภาค ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากร่องมรสุมกำลังค่อนข้างแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนบนและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศลาวตอนล่างและเวียดนามตอนกลาง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบน มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบน มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง […]

กู้ร่างครบแล้ว เหตุไฟไหม้โรงงานทิชชู เสียชีวิต 10 ราย

สระบุรี 2 ก.ค. – เหตุไฟไหม้โรงงานกระดาษทิชชู ในนิคมเหมราช จ.สระบุรี ล่าสุดพบร่างที่ 10 ซึ่งเป็นร่างสุดท้าย ถือว่าภารกิจการค้นหาสิ้นสุดแล้ว ปฏิบัติการค้นหาร่างผู้สูญหายกว่า 50 ชั่วโมง ยุติลงแล้ว หลังเกิดเพลิงไหม้อาคารบริษัทผลิตกระดาษทิชชู ตั้งอยู่ในเขตนิคมอุตสาหกรรม ดับบลิว เอช เอ ซอย 8 อำเภอหนองแค จังหวัดสระบุรี ช่วงเที่ยงวันจันทร์ที่ 30 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา ทีมกู้ชีพ กู้ภัยร่วมกตัญญู กู้ภัยสว่างรัตนตรัย และกู้ภัยป่อเต็กตึ๊ง ร่วมกับฝ่ายปกครอง และชุดค้นหาเร่งระดมสรรพกำลัง ปูพรมค้นหาร่างผู้สูญหาย 10 คน นำโดยนายสันทัศน์ รันดาเว นายอำเภอหนองแค ลงพื้นที่เกาะติดการค้นหาผู้สูญหาย ช่วง 10.30 น. มีรายงานจากทีมค้นหามูลนิธิร่วมกตัญญู แจ้งว่า ที่ชั้นบนของอาคารเกิดเหตุ พบร่างผู้สูญหายอีก 1 ร่าง อยู่ในสภาพเหลือแต่กระดูกบริเวณชั้นที่ 2 ฝั่งตะวันตกของโรงงาน ถือเป็นผู้เสียชีวิตจากเหตุเพลิงไหม้รายที่ […]

เร่งคลี่คลายคดีโจรฉกเงิน-ทองคำ วัดม่วง

กทม. 2 ก.ค. – ตำรวจเร่งคลี่คลายคดีโจรวัดม่วง ลักเงินเจ้าอาวาส 10 ล้าน ทองคำ 250 บาท หายล่องหน ขณะที่อดีตพระคนสนิท เผยประตูกุฏิล็อกถึง 5 ชั้น เชื่อฝีมือคนใน พร้อมเรียกร้องตรวจสอบเงินบริจาควัด ความคืบหน้า เหตุคนร้ายย่องลักทรัพย์ เงิน 10 ล้าน-ทองคำหนัก 250 บาท ภายในกุฏิเจ้าอาวาส วัดม่วง ซอยเพชรเกษม 63 ถนนเพชรเกษม แขวงหลักสอง เขตบางแค วันนี้ชุดสืบสวนของ บก.ปปป. ร่วมกับชุดคลี่คลายคดีของ สน.เพชรเกษม เดินทางไปที่วัดม่วงเพื่อตรวจหาหลักฐานเพิ่มเติม แต่เมื่อเดินทางไปที่กุฎิเจ้าอาวาส ปรากฏว่า กุฏิปิดเงียบล็อกกุญแจจากด้านหน้า ไร้เงาเจ้าอาวาส เจ้าหน้าที่ ปปป. จึงพยายามโทรไปหาเจ้าอาวาสแต่ไม่สามารถติดต่อได้ ขณะที่อดีตพระคนสนิทเจ้าอาวาสวัดม่วง เปิดเผยว่า หลังปรากฏข่าว เจ้าอาวาสได้ส่งตัวแทนเข้าแจ้งความว่าเงินและทองคำภายในกุฏิหาย ส่วนตัวตั้งข้อสังเกตว่ากุฏิดังกล่าวไม่มีรอยงัดแงะ และการจะเข้าไปภายในต้องผ่านประตูซึ่งล็อกถึง 5 ชั้น แทบไม่มีความเป็นไปได้ที่บุคคลอื่นจะเข้าไปได้ มองว่าตู้เซฟที่เก็บทรัพย์สินไว้นั้นมีขนาดใหญ่ การจะนำทรัพย์สินภายในออกไปน่าจะทำได้ยาก […]