ศบค.ยกเลิกเคอร์ฟิวทั่วประเทศ เว้นแดงเข้ม 7 จว.

ทำเนียบรัฐบาล 29 ต.ค.-ศบค.ยกเลิกเคอร์ฟิวทั่วประเทศ ยกเว้นโซนแดงเข้ม คง 5 ทุ่ม-ตี 3 ปรับพื้นที่สีแดงเข้มเหลือ 7 จังหวัด-พื้นที่แดงเพิ่มเป็น 38 จังหวัด ขณะ กทม.-ปริมณฑล WFH ร้อยละ70


นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงผลการประชุมศบค.ชุดใหญ่ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีแลรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะ ผอ.ศบค.เป็นประธาน ว่า ศบค.เห็นชอบปรับระดับของพื้นที่สถานการณ์ย่อยในพื้นที่ทั่วราชอาณาจักร ดังนี้ พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (แดงเข้ม) เดิม 23 จังหวัด ปรับลดเป็น 7 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดจันทบุรี จังหวัดตาก จังหวัดนครศรีธรรมราช จังหวัดนราธิวาส จังหวัดปัตตานี จังหวัดยะลา และจังหวัดสงขลา

 “พื้นที่ควบคุมสูงสุด (สีแดง)เดิม 30 จังหวัด ปรับเพิ่มเป็น 38 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดกาญจนบุรี จังหวัดขอนแก่น จังหวัดชลบุรี จังหวัดชุมพร จังหวัดเชียงราย จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดฉะเชิงเทรา จังหวัดตรัง จังหวัดตราด จังหวัดนครปฐม จังหวัดนครนายก จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดนครสวรรค์ จังหวัดนนทบุรี จังหวัดปทุมธานี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดปราจีนบุรี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพัทลุง จังหวัดพิจิตร จังหวัดพิษณุโลก จังหวัดเพชรบุรี จังหวัดเพชรบูรณ์ จังหวัดระนอง จังหวัดระยอง จังหวัดราชบุรี จังหวัดลพบุรี จังหวัดสตูลจังหวัดสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรสงคราม จังหวัดสมุทรสาคร จังหวัดสระบุรี จังหวัดสระแก้ว จังหวัดสุพรรณบุรี จังหวัดสุราษฎร์ธานี จังหวัดอ่างทอง จังหวัดอุดรธานี และจังหวัดอุบลราชธานี” โฆษก ศบค. กล่าว


นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ส่วนพื้นที่ควบคุม (สีส้ม) จากเดิม 24 ปรับเป็น  23 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดกาฬสินธุ์ จังหวัดกำแพงเพชร จังหวัดชัยนาท จังหวัดชัยภูมิ จังหวัดบุรีรัมย์ จังหวัดพะเยา จังหวัดแพร่ จังหวัดมหาสารคาม จังหวัดแม่ฮ่องสอน จังหวัดยโสธร จังหวัดร้อยเอ็ด จังหวัดลำปาง จังหวัดลำพูน จังหวัดเลย จังหวัดสิงห์บุรี จังหวัดสุโขทัย จังหวัดสุรินทร์ จังหวัดหนองคาย จังหวัดหนองบัวลำภู จังหวัดอุตรดิตถ์ จังหวัดอุทัยธานี จังหวัดอำนาจเจริญ และจังหวัดศรีสะเกษ พื้นที่เฝ้าระวังสูง(สีเหลือง) 5 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดนครพนม จังหวัดน่าน จังหวัดบึงกาฬ จังหวัดมุกดาหาร และจังหวัดสกลนคร และพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว (สีฟ้า) 4 จังหวัด ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร จังหวัดกระบี่ จังหวัดพังงา และจังหวัดภูเก็ต

“ที่ประชุม ศบค.เห็นชอบยกเลิกการห้ามออกนอกเคหสถานทุกพื้นที่ แต่ยังให้คงในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) เวลา 23.00-03.00 น. และยังคง Work from home อย่างน้อยร้อยะ 50 ในหน่วยงานรัฐ ผู้ประกอบการภาคเอกชนปรับเพิ่มได้ตามความเหมาะสม และยังคงห้ามจัดกิจกรรมรวมกลุ่มคนมากกว่า 50 คน สำหรับสถานรับเลี้ยงเด็กและดูแลผู้สูงอายุให้เปิดแบบไปและกลับ” โฆษกศบค. กล่าว

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า สำหรับสถานที่เล่นกีฬาหรือแข่งขันกีฬา เปิดตามเวลาปกติ แต่ไม่เกินเวลา 22.00 น. กีฬาในร่มไม่มีผู้ชม กีฬากลางแจ้งมีผู้ชมไม่เกิน 25% ส่วนโรงภาพยนตร์ โรงมรสพ การแสดงพื้นบ้าน หรือสถานที่ลักษณะเดียวกัน จำกัดจำนวนผู้ชม ห้ามบริโภคอาหาร พื้นที่มีเครื่องปรับอากาศจำนวนผู้ชม 50% พื้นที่โลก 75% ขณะที่ศูนย์แสดงสินค้า ศูนย์ประชุม หรือสถานที่จัดนิทรรศการ รวมถึงสถานที่ลักษณะเดียวกันในห้างสรรพสินค้า และโรงแรม จัดประชุมไม่เกิน 500 คน ให้เหมาะสมกับขนาดพื้นที่ต้องไม่แออัด สำหรับศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า และซิตี้มอลล์ เปิดได้ตามปกติ แต่ไม่เกินเวลา 22.00 น. งดกิจกรรมส่งเสริมการขาย ปิดบริการตู้เกม เครื่องเล่น ร้านเกม สวนสนุก และสวนน้ำ


โฆษก ศบค. กล่าวว่า ร้านสะดวกซื้อ ตลาด และตลาดนัด เปิดตามเวลาปกติ แต่ไม่เกินเวลา 22.00 น. หากเปิดบริการเครื่องเล่นสวนสนุก ต้องผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ส่วนร้านอาหารทั้งในและนอกศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า หรือสถานที่อื่นใดที่มีร้านอาหาร เปิดตามเวลาปกติ แต่ไม่เกินเวลา 22.00 น. งดจำหน่ายและดื่มสุราในร้าน ส่วนร้านเสริมสวย ร้านนวด สปา สถานเสริมความงาม ร้านสัก เปิดบริการได้ตามปกติ แต่ไม่เกินเวลา 22.00 น. ยกเว้นการใช้ไอน้ำ เนื่องจากสามารถแพร่เชื้อโรคได้

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า สำหรับพื้นที่ควบคุมสูงสุด (สีแดง) ไม่ห้ามออกนอกเคหสถาน  Work from home หน่วยงานของรัฐ ผู้ประกอบการภาคเอกชนดำเนินการได้ตามความเหมาะสม ยกเว้นกรุงเทพฯ และปริมณฑลอย่างน้อย 70% ส่วนการจัดกิจกรรมรวมกลุ่มห้ามจัดกิจกรรมรวมคนมากกว่า 200 คน สถานรับเลี้ยงเด็กและสถานดูแลผู้สูงอายุ เปิดดำเนินการได้ตามปกติ ส่วนสถานที่เล่นกีฬา หรือแข่งขันกีฬา เปิดตามเวลาปกติ แต่ไม่เกินเวลา 23.00 น. กีฬาในร่ม ผู้ชมไม่เกิน 25% กีฬากลางแจ้ง ผู้ชมไม่เกิด 50% ส่วนโรงภาพยนต์ โรงมรสพ การแสดงพื้นบ้าน หรือสถานที่ลักษณะเดียวกัน พื้นที่ที่มีเครื่องปรับอากาศจำกัดจำนวนผู้ชม 75% ส่วนพื้นที่โล่งจำนวนผู้ชมเป็นไปตามขนาดพื้นที่ 

“ส่วนศูนย์แสดงสินค้า ศูนย์ประชุม หรือสถานที่จัดนิทรรศการรวมถึงสถานที่ลักษณะเดียวกันในห้างสรรพสินค้าและโรงแรม สามารถจัดประชุม จัดมหกรรมด้านกีฬาและจัดแสดงสินค้า โดยไม่มีการชิมอาหารไม่เกิน 500 คน ตามขนาดพื้นที่ ขณะที่ศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า ซิตี้มอลล์เปิดได้ตามเวลาปกติ งดกิจกรรมส่งเสริมการขาย เปิดตู้เกม เครื่องเล่น ร้านเกม แต่ไม่เปิดสวนสนุกและสวนน้ำส่วนร้านสะดวกซื้อ ตลาด และตลาดนัด เปิดตามเวลาปกติ ส่วนร้านอาหารทั้งในและนอกศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้าหรือสถานที่อื่นใดที่มีร้านอาหาร บริโภคในร้านได้ เปิดตามเวลาปกติไม่เกินเวลา 23.00 น. และงดการจำหน่ายและงดดื่มสุราในร้าน และร้านเสริมสวย ร้านนวด สปา สถานเสริมความงาม และร้านสัก เปิดบริการได้ตามปกติ แต่ไม่เกินเวลา 23.00 น.” โฆษก ศบค. กล่าว

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ส่วนพื้นที่ควบคุม (สีส้ม) ไม่ห้ามออกนอกเคหสถาน  Work from home หน่วยงานของรัฐ ผู้ประกอบการภาคเอกชนดำเนินการได้ตามความเหมาะสม ยกเว้นกรุงเทพฯ และปริมณฑลอย่างน้อย 70% ห้ามจัดกิจกรรมรวมกลุ่มคนมากกว่า 500 คน สถานรับเลี้ยงเด็กและสถานดูแลผู้สูงอายุ เปิดดำเนินการตามปกติ ส่วนสถานที่เล่นกีฬา หรือแข่งขันกีฬา เปิดบริการได้ตามเวลาปกติจัดการแข่งขันได้แต่จำกัดจำนวนผู้ชม กีฬาในร่มผู้ชมไม่เกิน 50% กีฬากลางแจ้งไม่เกิน 75% ส่วนโรงภาพยนตร์ โรงมรสพ การแสดงพื้นบ้าน หรือสถานที่ลักษณะเดียวกัน เปิดได้ตามปกติ จำนวนผู้ชมตามมาตรการที่กำหนด

“ขณะที่ศูนย์แสดงสินค้า ศูนย์ประชุม หรือสถานที่จัดนิทรรศการ รวมถึงสถานที่ลักษณะเดียวกันในห้างสรรพสินค้าและในโรงแรม จัดประชุมจัดมหกรรมด้านกีฬา จัดแสดงสินค้าชิมอาหารได้และจัดงานอื่นๆ ได้จัดแสดงสินค้าได้ แต่ไม่เกิน1,000 คน ด้านศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า และซิตี้มอลล์ เปิดได้ตามเวลาปกติ เปิดสวนสนุก และสวนน้ำได้ เฉพาะพื้นที่โล่ง ร้านสะดวกซื้อ ตลาด และตลาดนัด เปิดบริการได้ตามเวลาปกติ ส่วนร้านอาหารทั้งในและนอกศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า หรือสถานที่อื่นใดที่มีร้านอาหารบริโภคในร้านได้ เปิดได้ปกติ ให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดพิจารณากำหนดเวลาปิดตามสถานการณ์ในพื้นที่ และงดจำหน่ายและดื่มสุราในร้าน และร้านเสริมสวย ร้านนวดสปา สถานเสริมความงาม และร้านสัก เปิดบริการได้ตามปกติ แต่ไม่เกินเวลา24.00 น.” โฆษก ศบค. กล่าว

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวถึงพื้นที่เฝ้าระวังสูง (สีเหลือง) ห้ามออกนอกเคหสถาน  Work from home  หน่วยงานของรัฐผู้ประกอบการภาคเอกชนดำเนินการได้ตามความเหมาะสม ยกเว้นกรุงเทพฯ และปริมณฑลอย่างน้อย 70% ห้ามจัดกิจกรรมรวมกลุ่มคนมากกว่า 1,000 คน สถานรับเลี้ยงเด็กและสถานดูแลผู้สูงอายุ เปิดดำเนินการตามปกติ ส่วนสถานที่เล่นกีฬา หรือแข่งขันกีฬา เปิดบริการได้ตามเวลาปกติ จัดการแข่งขันได้ แต่จำกัดจำนวนผู้ชม กีฬาในร่มผู้ชมไม่เกิน 75% กีฬากลางแจ้งผู้ชมตามความจุของสนามและมาตรการเว้นระยะห่าง ส่วนโรงภาพยนตร์ โรงมรสพ การแสดงพื้นบ้าน หรือสถานที่ลักษณะเดียวกัน เปิดได้ตามปกติจำนวนผู้ชมตามมาตรการที่กำหนด

“ศูนย์แสดงสินค้า ศูนย์ประชุม หรือสถานที่จัดนิทรรศการ รวมถึงสถานที่ลักษณะเดียวกันในห้างสรรพสินค้าและในโรงแรม สามารถจัดงานได้ตามความเหมาะสม ขณะที่ศูนย์การค้าห้างสรรพสินค้า และซิตี้มอลล์  เปิดบริการได้ตามปกติ ส่วนร้านอาหารทั้งในและนอกศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้าหรือสถานที่อื่นใดที่มีร้านอาหาร สามารถบริโภคในร้านได้ เปิดได้ตามปกติ แต่ให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดหรือคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพฯ พิจารณากำหนดเวลาปิดตามสถานการณ์พื้นที่ และร้านเสริมสวย ร้านนวดสปาสถานเสริมความงาม และร้านสัก เปิดบริการได้ตามปกติ” โฆษก ศบค. กล่าว

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ส่วนพื้นที่เฝ้าระวังและพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยว (สีฟ้า)ทุกกิจกรรม และกิจการ เปิดได้ตามความเหมาะสม จัดกิจกรรมการรวมกลุ่มตามความเหมาะสม  Work from home หน่วยงานของรัฐ ผู้ประกอบการภาคเอกชนดำเนินการได้ตามความเหมาะสม ยกเว้นกรุงเทพฯ และปริมณฑลอย่างน้อย 70% เปิดบริการและจัดการแข่งขันได้ตามปกติตามมาตรการที่กำหนด แต่ในส่วนของร้านอาหารทั้งในและนอกศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้าหรือสถานที่อื่นใดที่มีร้านอาหาร ให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด หรือคณะกรรมการโรคติดต่อ กทม.พิจารณาปิดตามสถานการณ์พื้นที่ ทั้งนี้ มาตรการทั้งหมดจะเริ่มในวันที่ 1 พ.ย.นี้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย

กทม. 18 ก.ย.-เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย คาดไฟฟ้าลัดวงจรและลุกลามไปยังห้องข้างเคียง ไม่พบผู้บาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรง เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 18 ก.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุห้องอาหาร 50 จากตู้ควบคุมวงจรไฟฟ้ามีเพลิงไหม้ (ไฟฟ้าลัดวงจร) และลุกลามไปยังพื้นที่ข้างเคียงตึกกองบัญชา บกทท. บริเวณชั้น6 ข้างห้อง เสธนาธิการทหาร เจ้าหน้าที่เวรยาม และสารวัตรทหาร ได้ช่วยกันใช้ถังดับเพลิงในการดับเพลิงแต่ไม่สามารถเข้าถึงต้นเพลิงในการระงับดับไฟได้ จึงได้ประสานรถตับเพลิงและขอส่วนสนับสนุนรถดับเพลิง นทพ. มาช่วยในการระดับดับเพลิง โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจสอบและดำเนินการระงับเหตุในทันที เบื้องต้นสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ พล.ต.วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ทั้งนี้ ยังไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรงต่อโครงสร้างอาคารแต่อย่างใด กองบัญชาการกองทัพไทย ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างใกล้ชิด และจะรายงานความคืบหน้าให้ประชาชนและสื่อมวลชนรับทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ

กทม. 18 ก.ย.-โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ ขณะ “นายกฯ หนู” ยังนั่งดินเนอร์อาหารอีสานอย่างสบายใจ ท่ามกลางข่าวลือ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 17 ก.ย. มีกระแสข่าวลือว่ากระบวนการทูลเกล้าฯ รายชื่อคณะรัฐมนตรี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี มีปัญหา ถูกตีกลับ เนื่องจากพบรายชื่อว่าที่รัฐมนตรีบางคน ติดปัญหาคุณสมบัตินั้น ล่าสุด แหล่งข่าว ยืนยันว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรี ที่นำทูลเกล้าฯไปนั้น ไม่ได้มีปัญหาแต่ย่างใด ทุกอย่างลงตัวเรียบร้อยตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมาแล้ว โดยเรื่องคุณสมบัติ ได้ผ่านการตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามาแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในช่วง ค่ำวันนี้ (17 ก.ย.) ปรากฏภาพ นายอนุทิน นั่งรับประทานอาหารอีสานอย่างสบายใจ ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งกับคนใกล้ชิด ท่ามกลางข่าวลือที่เกิดขึ้น.-319.-สำนักข่าวไทย

“รังสิมันต์” เบรกกัมพูชากลางวง AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนปมเปิดด่าน

มาเลเซีย 17 ก.ย.- “รังสิมันต์” เบรกกัมพูชา กลางวงประชุม AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนประเด็นขัดแย้งไทย-กัมพูชา หารือปมเปิดด่าน หวั่นเป็นประเด็นการเมือง-ละเอียดอ่อน ชี้ มีกระบวนการ IOT และ GBC อยู่แล้ว นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะผู้แทนรัฐสภาไทยในการประชุมคณะกรรมการบริหาร AIPA กล่าวถึงข้อเสนอของกัมพูชาผ่านเวที AIPA ว่าเป็นการเสนอในระยะเวลากระชั้นชิดเป็นช่วงสุดท้าย ที่เปิดให้ประเทศสมาชิกเสนอวาระเร่งด่วนได้ ดังนั้นทีมไทยแลนด์ที่นำโดยนายฉลาด ขามช่วง เมื่อทราบ ข้อเรียกร้องของกัมพูชาจึงได้เตรียมการในเรื่องนี้ ซึ่งจากเดิมได้เรียกร้อง 2 ข้อ คือ 1. เรื่องเฉลยศึก ที่ทหารกัมพูชาถูกควบคุมตัว ในช่วงเวลาที่มีการปะทะ และ 2. เรื่องการเปิดด่านชายแดน แต่ท้ายที่สุดทางกัมพูชากลับเรียกร้องบนเวที AIPA เพียงเรื่องการเปิดด่านชายแดนเท่านั้น จึงรู้สึกแปลกใจว่าทำไมถึงหยิบยกมาเพียงเรื่องนี้ ในเมื่อกระบวนการของคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว หรือ IOT ผ่านไป และค่อนข้างราบรื่น ดังนั้นการหยิบยกประเด็นดังกล่าวมาพูดคุยอีกครั้ง จากการแก้ปัญหาแบบทวิภาคี ระหว่างไทย และ […]

แม่ใจสลาย รับร่างลูกสาววัย 2 เดือนถูกพิตบูลขย้ำ ส่งชันสูตร

อุทัยธานี 17 ก.ย. – ครอบครัวเศร้า ติดต่อรับร่างลูกสาววัย 2 เดือน ส่งชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต หลังถูกสุนัขพิตบูลลากไปขย้ำหัว ขณะแม่ไปเก็บของเก่าภายในโรงสี เจ้าของคาดเข้าใจผิดคิดว่าเป็นของเล่น นายฉัตรมงคล สุวรรณเศรษฐ์ เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุทัยธานี พร้อมด้วยมารดาของ ด.ญ.กัญญาภัทร อายุเพียง 2 เดือน ผู้เสียชีวิตจากการถูกสุนัขพันธุ์พิตบูลกัด รวมถึงญาติ เดินทางไปรับศพที่โรงพยาบาลหนองฉาง จ.อุทัยธานี ก่อนนำร่างส่งชันสูตร หาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ ทั้งนี้ เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 15.00 น. วานนี้ (16 ก.ย.) ที่โรงรถของบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่ หมู่ 15 บ้านโรงสีใหม่ ต.ทุ่งโพ อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี โดยเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบร่างเด็กน้อย อยู่บริเวณรางระบายน้ำ เจ้าของบ้านนำร่างเด็ก ส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้ แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยที่เกิดเหตุ ยังพบคราบเลือดและร่องรอยลากยาวราว 6 เมตร ไปถึงรางระบายน้ำ นอกจากนี้ ยังพบรถเข็นเด็ก พร้อมของเล่น […]

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” รับ “อันวาร์” ยกหูเชิญถกอาเซียน ยันไม่มีใครแทรกแซงรัฐบาลไทยได้

พรรคภูมิใจไทย 19 ก.ย.- “อนุทิน” รับ “อันวาร์” ยกหูหาเชิญร่วมประชุมอาเซียน ยันไม่มีใครเคลียร์-แทรกแซงรัฐบาลได้ หลัง “ฮุน มาเนต” ขอมาเลเซียเป็นตัวกลาง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ออกมาเปิดเผยว่าได้โทรศัพท์พูดคุยเป็นการส่วนตัว โดยนายอนุทิน ยอมรับว่า เมื่อวานนายอันวาร์ได้โทรมาหา พูดคุยถึงการเชื้อเชิญว่า ถ้าหากตนได้รับตำแหน่งเรียบร้อยแล้วคงจะได้พบกันโดยเร็วที่สุด ซึ่งจะเป็นการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนในช่วงเดือนหน้า ส่วนการพูดคุยถึงสถานการณ์ชายแดนจังหวัดสระแก้ว นายอนุทิน ระบุว่า ไม่ได้มีการพูดคุยในรายละเอียด อีกทั้งตนยังไม่สามารถพูดอะไรได้มาก เนื่องจากยังไม่ได้เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งขณะนี้ก็ยังคงมีรัฐบาลรักษาการ เราให้เกียรติกัน “ผมรับตำแหน่งได้ ก็ต่อเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อน ส่วนเรื่องนโยบาย ข้อสั่งการ ต้องรอการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ซึ่งขณะนี้เราก็ยังรวบรวมข้อมูลที่เป็นประโยชน์ไว้ให้มากที่สุด” นายอนุทิน กล่าว ส่วนกรณีที่นายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ร้องขอไปยังนายอันวาร์ เพื่อให้เข้ามาแทรกแซงการเจรจานั้น นายอนุทิน ยืนยันว่า ไม่มีใครแทรกแซงรัฐบาลไทยและอธิปไตยของไทยได้ ส่วนเรื่องการพูดคุย นายอนุทิน ย้ำว่า เราสามารถทำได้ เพราะเป็นคนที่คุ้นเคยรู้จักกัน […]

“อนุทิน” กินข้าว “อภิสิทธิ์” ขอคำแนะนำอดีตนายกฯ

กทม. 19 ก.ย.- “อนุทิน” โพสต์ภาพร่วมโต๊ะกินมื้อกลางวันคู่กับ “อภิสิทธิ์” บอกขอคำแนะนำอดีตนายกฯ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี โพสต์ภาพรับประทานอาหารกลางวันคู่กับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 27 ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งเป็นการส่วนตัว พร้อมระบุข้อความว่า “ได้รับคำแนะนำที่มีประโยชน์และคุณค่ามากมายจากท่านนายกอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ได้ให้เกียรติมาให้กำลังใจและทานอาหารกลางวันด้วยกันในวันนี้ ขอบพระคุณท่านมากครับ” ทั้งนี้ ถือเป็นความเคลื่อนไหวแรกของนายกรัฐมนตรี หลังจากที่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ของนายอนุทิน เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังมีอีกกระแสข่าว ที่เรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ กลับไปเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ -สำนักข่าวไทย

รวบยกแก๊ง 4 ชาวอังกฤษขับรถชิงทรัพย์ชาวอเมริกัน

ภูเก็ต 19 ก.ย. – วานนี้มีเหตุอุกอาจกลางเมืองภูเก็ต กลุ่มชายฉกรรจ์ขับรถชนรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายก่อนลงไปชิงนาฬิกาหรู มูลค่ากว่า 2 ล้าน เช้านี้ตำรวจรวบผู้ก่อเหตุได้ครบ เชื่อวางแผนทำกันเป็นขบวนการ.-สำนักข่าวไทย

ไทยยึดหลักสากล จัดการปมบ้านหนองหญ้าแก้ว

กระทรวงการต่างประเทศ 19 ก.ย.- “อนุทิน” แจงประธานอาเชียน เหตุบ้านหนองหญ้าแก้ว ไทยยืนยันยึดหลักสากล จัดการปัญหา กัมพูชาขัดข้อตกลงหยุดยิง ใช้ประชาชนเป็นโล่มนุษย์ ไร้มนุษยธรรม ไม่สร้างสรรค์ บิดเบือนข้อเท็จจริง พร้อมเรียกร้องกัมพูชาแสดงความจริงใจในการแก้ปัญหา นายนิกรเดช พลางกูล อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะในพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ที่มีการรื้อถอนสิ่งกีดขวางของฝ่ายไทย และมีการปะทะจนมีเจ้าหน้าที่ไทยได้รับบาดเจ็บ ซึ่งถือเป็นการทำผิดกฎหมายไทยหลายมาตรา โดยย้ำว่าที่ผ่านมาฝ่ายไทยได้ปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัดทุกประการมาโดยตลอด ข้อตกลงนี้เป็นหมุดหมายสำคัญที่จะปูทางไปสู่สันติภาพ แม้สถานการณ์สงบลง แต่กัมพูชายังยั่วยุในรูปแบบต่างๆ ซึ่งขัดข้อตกลงหยุดยิง พร้อมย้ำว่าการวางเครื่องกีดขวางเสริมความมั่นคง เป็นการดำเนินการในอธิปไตยของไทยอย่างชัดเจน โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยอดกลั่น และใช้เวลาชี้แจงกับประชาชนกัมพูชา แต่ไม่เป็นผล ที่สุดเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนของไทยต้องเข้าระงับเหตุตามหลักสากล ตามหลักมนุษยชนการปลุกระดมให้ประชาชนมาเป็นโล่มนุษย์ ขัดกฎหมายระหว่างประเทศ ไร้มนุษยธรรม ขาดความรับผิดชอบ ไม่สร้างสรรค์ และไม่ยึดถือประโยชน์และความปลอดภัยของประชาชนเป็นที่ตั้ง นอกจากนี้ ทั้ง 2 ประเทศให้คำมั่นหยุดยิงไปแล้ว แต่กัมพูชาเลือกเส้นทางจากต่างไทยโดยสิ้นเชิง ไทยมุ่งมั่นแสวงหาสันติภาพ ซึ่งต่างจากกัมพูชาที่แสวงหาความรุนแรง การวางรั้วลวดหนามของฝ่ายไทย เป็นไปเพื่อป้องกันการปะทะ และเพื่อสร้างความปลอดภัยของประชาชนทั้ง 2 ฝ่าย เพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะ และเหตุความรุนแรงอาจนำไปสู่การสูญเสีย […]