“เรืองไกร” จี้กกต.เร่งเอาผิด ยุบพท.

สำนักงานกกต. 26 ต.ค.-“เรืองไกร” ร้องกกต.ยุบพรรคเพื่อไทย คลิป “ทักษิณ” วิดีโอคอลงานเลี้ยงส.ส. ยันเปิดวิกิพีเดีย ไม่ใช่วันเกิด “เกรียง” ตามที่อ้าง  เผยเนื้อหาชี้นำผิดกฎหมายพรรคการเมืองชัดเจน


นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ยื่นคำร้องต่อกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ขอให้ตรวจสอบพิจารณาเสนอยุบพรรคเพื่อไทยกรณีเผยแพร่คลิป ภาพ และเสียงระหว่างนายเกรียง กัลป์ตินันท์วีดีโอคอลกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เนื่องจากเป็นกระทำการเข้าข่ายฝ่าฝืน พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 28 คลิปดังกล่าวมีความยาว 3 นาที แต่เนื้อที่กล่าวกันคือการถามถึงตำแหน่งหัวหน้าพรรคการเมือง

“ต่อมานายเกรียงให้สัมภาษณ์ยอมรับแล้วยังอธิบายต่อว่ามีการพูดถึงแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีด้วย กรณีนี้จึงไม่ใช่เรื่องที่นายเกรียงอธิบายภายหลังว่าเป็นการเลี้ยงเนื่องในวันเกิด ซึ่งผมเปิดวิกิพีเดีย พบประวัติวันเกิดของนายเกรียงคือวันที่ 27 พฤศจิกายน ไม่ใช่วันที่12 ตุลาคมตามที่อ้างว่าเป็นการเลี้ยงวันเกิด” นายเรืองไกร กล่าว


นายเรืองไกร   กล่าวว่า จากการที่ค้นข้อมูลเพิ่มเติม ยังพบเฟซบุ๊ก “ธร ศศิวิมล” ที่ใช้ชื่อภาษาอังกฤษของบุคคลหนึ่งที่เป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย เมื่อค้นข้อมูลในเฟซบุ๊กต่อไปพบว่าโพสต์ภาพงานเลี้ยง ซึ่งไม่ใช่เลี้ยงวันเกิดและอธิบายความว่า “ส.ส.พรรคเพื่อไทยครึ่งร้อยร่วมงานเลี้ยงสังสรรค์ ซึ่งไฮไลท์อยู่ที่การวีดีโอคอลเข้ามาของทักษิณ ชินวัตร เสียดายไม่ได้นั่งอยู่ในงาน แต่รู้ว่าหลังพูดจบ ส.ส.ครึ่งร้อยที่อยู่ในงานหัวใจพองโตขึ้นสามเท่า”

“ตามภาพยังปรากฏภาพของนายภูมิธรรม เวชชชัย และนายเกรียง พร้อมแก้วไวน์ และอาหาร ภาพนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.พรรคเพื่อไทย นายไชยา พรหมา นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายประเสริฐ จันทรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย และนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย แต่ไม่มีเค้กวันเกิด และเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นวันที่ 12 ตุลาคม 2564  คือวันที่พรรคเพื่อไทยมีมติขับนายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุกับน.ส.พรพิมล ธรรมสารออกจากพรรค จึงไม่แน่ใจว่าวันเวลาเกี่ยวเนื่องกันหรือไม่ ซึ่งคลิปที่ปรากฏล้วนเป็นเรื่องที่พูดประเด็นการเมือง ส่วนเวลาตั้งข้อสังเกตว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นช่วงเที่ยง แต่โพสต์เมื่อเวลา 23.00 น.” นายเรืองไกร กล่าว  

นายเรืองไกร กล่าวว่า ได้นำพยานเอกสาร พยานบุคคล มายื่นต่อกกต. เมื่อ กกต.ตรวจสอบแล้วต้องเชิญตนมาให้ถ้อยคำอีกครั้งหนึ่ง และกกต.ต้องเชิญพยานบุคคลที่เกี่ยวข้อง ส่วนนายทักษิณคงเชิญมาไม่ได้เพราะอยู่ต่างประเทศ แต่จากคลิปเห็นว่ากกต.สามารถพิจารณาได้ เนื่องจากตามมาตรา 92 ของพ.ร.ป.พรรคการเมืองเป็นโทษทางการเมือง เป็นอำนาจของนายทะเบียนพรรคการเมือง และกกต.ที่จะส่งศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อวินิจฉัยต่อไป


นายเรืองไกร กล่าวว่า อีกประเด็นที่ตามมาคือการประชุมพรรค ซึ่งนำลายมือชื่อที่สื่อระบุว่าเป็นของอดีตนายทักษิณ ที่เขียนคำว่า “พรรคเพื่อไทย” หรือคำว่า “พรุ่งนี้เพื่อไทย” มาใช้ในเฟซบุ๊กของพรรคและเฟซบุ๊กของสมาชิกพรรค เป็นการนำลายมือชื่อมาใช้ในกิจกรรมของพรรคการเมืองหรือไม่ เพราะในข้อบังคับพรรคเพื่อไทย นายทักษิณเป็นผู้สนับสนุนพรรคไม่ได้ เป็นผู้ช่วยหาเสียงก็ไม่ได้ เนื่องจากติดขัดเรื่องคุณสมบัติสมาชิกพรรค หลังจากนี้ผมจะติดตามว่านายเกรียงบินไปพบนายทักษิณหรือไม่

“ขอให้กกต.ตรวจสอบด้วยความเป็นธรรม และฝากไปถึงบรรดาพรรคการเมืองที่ทำกิจกรรมใด ๆ ท่านต้องคำนึงกฎหมาย ทั้งพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.   พรรคการเมือง ท่านต้องมีความรู้สึกคิดถึงอยู่ตลอดเวลา ไม่ใช่เช้า บ่าย ลงมติตามข้อบังคับพรรคขับสมาชิกเสร็จ กลางคืนไม่คำนึงแล้ว ขอให้พึงระมัดระวัง อันนี้มีเหตุจำเป็นต้องทำหน้าที่ในฐานะปวงชนชาวไทยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 50” นายเรืองไกร กล่าว

นายเรืองไกร อ้างถึงคำวินิจฉัยของ กกต.ตั้งแต่ปี 2561-2564   โดยมาตรา 28  มี 3 คำ ครอบงำ ควบคุม ชี้นำ เพราะฉะนั้นในพจนานุกรมให้ความหมายแตกต่างกันหมด  ซึ่งตนมองเรื่องชี้นำ ส่วนกรณีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีระบุว่าไม่ใช่การครอบงำ แต่เป็นเพียงการพูดคุยกันเท่านั้น จะเป็นการพูดเร็วเกินไปหรือไม่ เป็นสิทธิของนายวิษณุ แต่เห็นว่านายวิษณุยังไม่สมควรพูด เพราะยังดูเนื้อหาไม่ละเอียด

ส่วนความคืบหน้าของการยื่นเรื่องยุบพรรคเพื่อไทยที่นายเรืองไกรมายื่นต่อกกต.หลายครั้งแล้ว นายเรืองไกร กล่าวว่า กำลังตรวจสอบอยู่  2  พรรคคือก้าวไกลและเพื่อไทย  วานนี้ (25 ต.ค.) กกต.โทร.มาประสานแล้ว คำร้องยื่นสอบของพรรคเพื่อไทยสอบไปแล้วครั้งหนึ่ง อยู่ระหว่างเชิญมาคือกรณีหนังสือของนายสมพงษ์ที่บอกว่ามติพรรคให้ ส.ส.ต้องโหวตไม่ไว้วางใจ ซึ่งตนต้องดู 2 มิติคือ 1. การโหวตอยู่ในอาณัติมอบหมายหรือไม่ 2. ส.ส. 7 คนที่ถูกขับ 2 คนที่อาศัยข้อบังคับพรรคมาอ้างเหตุ ที่จริงแล้วเหตุมาจากหนังสือของนายสมพงษ์หรือไม่ ส่วนของพรรคพลังประชารัฐและประชาธิปัตย์ กรณีทุจริตการเลือกตั้งในภาคใต้ เจ้าหน้าที่กำลังจะมีหนังสือแจ้งมาที่ตน ยืนยันว่าดำเนินการต่อ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไฟไหม้รถยนต์ อดีต สส.ศิริโชค วอดทั้งคัน

สงขลา 5 ก.ค.-“ศิริโชค” อดีต สส.ปชป. เผยเหตุระทึก รถยนต์ PHEV ไฟลุกไหม้วอดทั้งคันกลางดึก ทั้งที่ไม่ได้ชาร์จ ภาพคลิปเหตุการณ์ไฟไหม้รถยนต์ส่วนตัวของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งจอดอยู่บริเวณบ้านพักที่ อ.นาทวี จ.สงขลา ช่วงตี 3 เมื่อเช้ามืดที่ผ่านมา (5 ก.ค.68) โดยเพจเฟซบุ๊ก “ศิริโชค โสภา” ได้โพสต์คลิปเหตุการณ์ พร้อมระบุข้อความว่า “อุทาหรณ์สยอง! ผมตื่นมากับเปลวเพลิงกลางดึก-ไฟลุกท่วมรถ PHEV ทั้งคัน ทั้งที่ไม่ได้ชาร์จ! เช้ามืดวันนี้ ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมเสียง “ปะทุ” ดังสนั่นกลางความเงียบของตีสาม…เมื่อรีบวิ่งออกมาดู สิ่งที่ผมเห็นคือเปลวไฟสีส้มแดงกำลังลุกโชนอย่างบ้าคลั่งจากรถยนต์ PHEV ที่จอดนิ่งหน้าบ้าน ตอนนั้นผมไม่ได้เสียบชาร์จไว้ด้วยซ้ำ-จอดไว้เฉยๆ แต่จู่ๆ ไฟกลับลุกขึ้นมาเอง โดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้าแม้แต่นิดเดียว รถดับเพลิงต้องใช้เวลาหลายนาทีกว่าจะควบคุมเพลิงได้ และเมื่อไฟดับลง… สิ่งที่เหลืออยู่คือซากรถที่ไหม้เกรียมทั้งคันนี่ไม่ใช่แค่ความเสียหาย แต่คือคำเตือนที่น่ากลัวสำหรับผู้ใช้รถ EV และ PHEVแม้ไม่ได้ชาร์จ แม้จอดนิ่ง แบตเตอรี่ก็ยังมีโอกาสลุกไหม้ได้เองโดยไม่ทันตั้งตัว ไฟฟ้าเงียบ-แต่มันเผาผลาญทุกอย่างได้ในพริบตา ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ […]

ตาขับรถทับศีรษะหลานวัย 1 ขวบ ดับสลด

สุราษฎร์ธานี 5 ก.ค. – สุดสลด ตาขับรถกระบะไม่ทันดู เหยียบศีรษะหลานสาว วัย 1 ขวบ 5 เดือนเสียชีวิตคาที่ ตายายร้องไห้แทบขาดใจ สุดสลด ตาขับรถกระบะไม่ทันดู เหยียบศีรษะหลานสาว วัย 1 ขวบ 5 เดือนเสียชีวิตคาที่ หลังจากที่ตากลับจากซื้อของที่ตลาด เมื่อมาถึงบ้านซึ่งเปิดเป็นร้านขายของชำในอำเภอพระแสง จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ขนของลงจากรถเสร็จ ระหว่างจะนำรถไปจอดไม่ทันสังเกตว่าหลานวิ่งอ้อมรถมา รู้อีกทีล้อรถหน้าด้านคนขับเหยียบเข้าที่ศีรษะของหลานแล้ว ทำให้หลานเสียชีวิตทันที เมื่อเห็นร่างหลาน ตาและยายร้องไห้แทบขาดใจ เพราะเลี้ยงหลานคนนี้มาตั้งแต่เล็กๆ ก่อนนำร่างส่งชันสูตรที่โรงพยาบาลพระแสงต่อไป.- สำนักข่าวไทย

อ.อ๊อด ชี้เป็นเหตุการณ์ที่ไม่ปกติ กรณีรถยนต์ไฟฟ้า อดีตสส.สงขลา ไฟไหม้

นครปฐม 5 ก.ค. – อาจารย์อ๊อด นักวิชาการสาขาเคมีอินทรีย์ แสดงความคิดเห็นว่า กรณีรถยนต์ไฟฟ้าของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา เกิดไฟไหม้ ถือเป็นเหตุการณ์ไม่ปกติ และแบตเตอรี่อาจจะมีปัญหา จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก Sirichok Sopha หรือ นายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ แชร์ประสบการณ์ โดยระบุข้อความว่า “เช้ามืดวันนี้ ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมเสียง “ปะทุ” ดังสนั่นกลางความเงียบของตีสาม…เมื่อรีบวิ่งออกมาดู สิ่งที่ผมเห็นคือเปลวไฟสีส้มแดงกำลังลุกโชนอย่างบ้าคลั่งจากรถยนต์ PHEV ที่จอดนิ่งหน้าบ้าน รถคันนี้ซื้อจากศูนย์หาดใหญ่เมื่อ 2 ปีก่อน ผมใช้งานตามปกติ และที่สำคัญคือ ตอนนั้นผมไม่ได้เสียบชาร์จไว้ด้วยซ้ำ-จอดไว้เฉยๆแต่จู่ๆ ไฟกลับลุกขึ้นมาเอง โดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้าแม้แต่นิดเดียวรถดับเพลิงต้องใช้เวลาหลายนาทีกว่าจะควบคุมเพลิงได้ และเมื่อไฟดับลง… สิ่งที่เหลืออยู่คือ ซากรถที่ไหม้เกรียมทั้งคันนี่ไม่ใช่แค่ความเสียหาย แต่คือคำเตือนที่น่ากลัวสำหรับผู้ใช้รถ EV และ PHEVแม้ไม่ได้ชาร์จ แม้จอดนิ่ง แบตเตอรี่ก็ยังมีโอกาสลุกไหม้ได้เองโดยไม่ทันตั้งตัวไฟฟ้าเงียบ-แต่มันเผาผลาญทุกอย่างได้ในพริบตา” รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ หรือ อาจารย์อ๊อด นักวิชาการสาขาเคมีอินทรีย์ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายนวัตกรรมและกิจการเพื่อสังคม […]

สพฐ. จัดทีมนิติกรช่วยครูการเงิน

กทม. 5 ก.ค.-สพฐ. จัดทีมนิติกรช่วยครูการเงิน กรณีถูกชี้มูลร่วมลงชื่อเบิกจ่ายค่าอาหารกลางวัน วันที่ 4 กรกฎาคม 2568 ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เปิดเผยว่า ตามที่มีรายงานข่าวผ่านสื่อสังคมออนไลน์ กรณีข้าราชการครูผู้รับผิดชอบงานการเงินของโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดกาญจนบุรี ได้ร้องขอความเป็นธรรมภายหลังถูกชี้มูลความผิดร่วมกับอดีตผู้อำนวยการโรงเรียน จากการลงนามในเอกสารเบิกจ่ายค่าอาหารกลางวัน โดยยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนร่วมในการกระทำความผิดนั้น สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงร่วมกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาต้นสังกัด และยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่มีคำสั่งลงโทษทางวินัยออกโดยเขตพื้นที่ฯ แต่อย่างใด สำหรับการดำเนินการในขั้นต่อไป สพฐ. ได้จัดเตรียมนิติกรจากส่วนกลาง เพื่อสนับสนุนการให้คำปรึกษาทางกฎหมายและการรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ครูสามารถใช้สิทธิในการอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) ตามมาตรา 99 แห่งพระราชบัญญัติ ป.ป.ช. พ.ศ. 2561 ได้อย่างเต็มที่ เลขาธิการ กพฐ. ระบุว่า กรณีนี้สะท้อนถึงความจำเป็นที่ต้องทบทวนบทบาทภาระงานของครูในภารกิจที่ไม่เกี่ยวข้องกับการจัดการเรียนการสอน โดยเฉพาะงานด้านการเงินและพัสดุ ซึ่งมีความซับซ้อนและมีความเสี่ยงเชิงกฎหมายสูง สพฐ. จึงอยู่ระหว่างการปรับปรุงระบบสนับสนุนภายในโรงเรียน เพื่อให้โครงสร้างงานสนับสนุนมีความเหมาะสมกับวิชาชีพครูมากยิ่งขึ้น “ข้าราชการครูที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสุจริตจะไม่ต้องเผชิญกระบวนการตามลำพัง สพฐ. พร้อมอยู่เคียงข้างและสนับสนุนในทุกขั้นตอน เพื่อให้สามารถใช้สิทธิและเข้าถึงความเป็นธรรมได้อย่างมั่นใจครับ” เลขาธิการ กพฐ. กล่าว.-416.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

รวบ “สังข์” ผู้ต้องหาแหกห้องขัง สภ.เมืองสกลนคร

6 ก.ค.- ตำรวจบุกรวบ “สังข์” ผู้ต้องหาคดีอาวุธปืนและยาเสพติด หลังก่อเหตุแหกห้องขัง สภ.เมืองสกลนคร จนมุมบนขบวนรถไฟ ขณะเตรียมหลบหนีเข้ากรุงเทพฯ ตำรวจสอบสวนกลาง หรือ CIB จับกุมนายเกียรติศักดิ์ หรือ สังข์ อายุ 39 ปี ผู้ต้องหาคดีอาวุธปืนและยาเสพติด ได้บนขบวนรถไฟ ขณะเตรียมหลบหนีเข้ากรุงเทพฯ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวมาลงบันทึกการจับกุมที่ สน.เตาปูน และอยู่ระหว่างการควบคุมตัวกลับมาดำเนินคดีที่ สภ.เมืองสกลนคร นายเกียรติศักดิ์ ก่อเหตุหลบหนีจากห้องควบคุม สภ.เมืองสกลนคร เมื่อช่วงเช้ามืดของวันที่ 13 มิถุนายน เจ้าหน้าที่พบเบาะแสหลบซ่อนตัวบนเทือกเขาภูพาน ขณะเดียวกันโซเชียลพากันแชร์ภาพนายเกียรติศักดิ์ พบว่า เป็นบุคคลอันตรายที่อาจมีอาวุธ หากใครพบเห็นห้ามเข้าใกล้ ทั้งนี้ สภ.เมืองสกลนคร ได้ปูพรมค้นหาตามล่าตัวและตั้งรางวัลนำจับ เป็นเงิน 3 หมื่นบาทให้กับผู้แจ้งเบาะแส .-สำนักข่าวไทย

เจ้าอาวาสวัดดังพิษณุโลก ย่องลาสิกขา หลังพัวพันข่าวดัง

พิษณุโลก 6 ก.ค.- “พระ ส.” เจ้าอาวาสวัดดัง จ.พิษณุโลก ย่องลาสิกขาเงียบ หลังพัวพันข่าวดัง ขณะทางวัดยังไม่แถลงชี้แจงเกี่ยวกับสาเหตุ เจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่งในจังหวัดพิษณุโลก ได้ลาสิกขาอย่างเงียบ ๆ โดย พระครูวิโรจน์ธรรมากร เจ้าอาวาสวัดกรุงกรัก เจ้าคณะตำบลท่านางงาม เขต 2 เลขานุการเจ้าคณะอำเภอบางระกำ เป็นผู้ทำพิธีลาสิกขาให้พระ ส. ท่ามกลางกระแสข่าวว่าเป็นสามีคนแรกของหญิงสาวที่รู้จักในฉายา “น้องดอกไม้” หรือสีกา ก. และยิ่งได้รับความสนใจเมื่อมีข้อมูลระบุว่า น้องดอกไม้มีบุตรสาววัย 13 ปี ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ในอดีตของพระ ส. ขณะทางวัดยังไม่มีการออกแถลงชี้แจงเกี่ยวกับสาเหตุของการลาสิกขา แต่แหล่งข่าวใกล้ชิดเผยว่าเป็นการตัดสินใจส่วนตัวของเจ้าอาวาส เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของวัดและศาสนา -สำนักข่าวไทย

น้ำโขงใกล้แตะ 9 เมตร สทนช.เตือนเฝ้าระวัง

บึงกาฬ 6 ก.ค.- “แม่น้ำโขง” ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง ใกล้แตะ 9 เมตร สทนช. เตือนเฝ้าระวังน้ำหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขัง ที่จังหวัดบึงกาฬ เกิดฝนตกติดต่อกันกว่า 2 สัปดาห์ เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมาตอนบนและ สปป ลาว ตอนบน ประกอบกับ สปป ลาว มีฝนตกลงอย่างต่อเนื่อง และมีมวลน้ำเหนือจากจังหวัดเลย จังหวัดหนองคาย ไหลลงมาสมทบ ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำโขงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเช้าวันนี้ จุดวัดระดับน้ำบ้านพันลำ วัดได้ 8.60 เมตร เพิ่มขึ้นจากวานนี้ 30 เซนติเมตร แต่ยังอยู่ในระดับปกติ ส่วนที่ประตูระบายน้ำ ข้างสำนักงาน ตม.บึงกาฬ เจ้าหน้าทีเทศบาลได้เปิดประตูระบายน้ำ เพื่อให้น้ำที่สะสมตามท่อระบายน้ำต่างๆ ในเขตเทศบาลเมืองไหลลงสู่แม่น้ำโขง เช่นเดียวกับบริเวณด่านพรมแดนศุลกากร เรือโดยสารขนส่งสินค้าและเรือขนส่งผู้โดยสารไทย-ลาว ต้องใช้ความระมัดระวังในการเดินเรือ เนื่องจากน้ำโขงไหลแรงและมีเศษวัชพืช เศษขยะไหลมากับสายน้ำ พร้อมขยับปรับระดับโป๊ะเทียบท่าให้อยู่ในระดับพอดี และผูกเชือกมัดโยงให้แน่นหนาเพื่อความปลอดภัย ขณะที่สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ หรือ สทนช. เฝ้าระวังน้ำหลาก ดินโคลนถล่ม […]

ชวนร่วมมหกรรม “ซอฟต์พาวเวอร์” ฟังวิสัยทัศน์จาก 3 นายกฯ

ทำเนียบรัฐบาล 6 ก.ค.-รัฐบาลเชิญร่วมงานมหกรรม Soft Power ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ “SPLASH – Soft Power Forum 2025” ระหว่าง 8-11 กรกฎาคม 2568 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ร่วมรับฟังการแสดงวิสัยทัศน์ 3 นายกรัฐมนตรีไทย แลกเปลี่ยนมุมมองและแบ่งปันประสบการณ์สร้าง “มูลค่าทางวัฒนธรรม” นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลบูรณาการความร่วมมือยกระดับซอฟต์พาวเวอร์ไทยสู่ตลาดโลกอย่างเป็นรูปธรรม จัดงาน Soft Power ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ “SPLASH – Soft Power Forum 2025” ระหว่างวันที่ 8-11 กรกฎาคม 2568 เวลา 10.00-20.00 น. Hall 1-4 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ภายใต้ความร่วมมือของกระทรวงวัฒนธรรม กรมส่งเสริมวัฒนธรรม คณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ คณะกรรมการพัฒนาและอนุกรรมการทุกสาขา โดยประสานพลังภาครัฐ เอกชน ชุมชน […]