สำนักงานกกต. 26 ต.ค.-“เรืองไกร” ร้องกกต.ยุบพรรคเพื่อไทย คลิป “ทักษิณ” วิดีโอคอลงานเลี้ยงส.ส. ยันเปิดวิกิพีเดีย ไม่ใช่วันเกิด “เกรียง” ตามที่อ้าง เผยเนื้อหาชี้นำผิดกฎหมายพรรคการเมืองชัดเจน
นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ยื่นคำร้องต่อกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ขอให้ตรวจสอบพิจารณาเสนอยุบพรรคเพื่อไทยกรณีเผยแพร่คลิป ภาพ และเสียงระหว่างนายเกรียง กัลป์ตินันท์วีดีโอคอลกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เนื่องจากเป็นกระทำการเข้าข่ายฝ่าฝืน พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 28 คลิปดังกล่าวมีความยาว 3 นาที แต่เนื้อที่กล่าวกันคือการถามถึงตำแหน่งหัวหน้าพรรคการเมือง
“ต่อมานายเกรียงให้สัมภาษณ์ยอมรับแล้วยังอธิบายต่อว่ามีการพูดถึงแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีด้วย กรณีนี้จึงไม่ใช่เรื่องที่นายเกรียงอธิบายภายหลังว่าเป็นการเลี้ยงเนื่องในวันเกิด ซึ่งผมเปิดวิกิพีเดีย พบประวัติวันเกิดของนายเกรียงคือวันที่ 27 พฤศจิกายน ไม่ใช่วันที่12 ตุลาคมตามที่อ้างว่าเป็นการเลี้ยงวันเกิด” นายเรืองไกร กล่าว
นายเรืองไกร กล่าวว่า จากการที่ค้นข้อมูลเพิ่มเติม ยังพบเฟซบุ๊ก “ธร ศศิวิมล” ที่ใช้ชื่อภาษาอังกฤษของบุคคลหนึ่งที่เป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย เมื่อค้นข้อมูลในเฟซบุ๊กต่อไปพบว่าโพสต์ภาพงานเลี้ยง ซึ่งไม่ใช่เลี้ยงวันเกิดและอธิบายความว่า “ส.ส.พรรคเพื่อไทยครึ่งร้อยร่วมงานเลี้ยงสังสรรค์ ซึ่งไฮไลท์อยู่ที่การวีดีโอคอลเข้ามาของทักษิณ ชินวัตร เสียดายไม่ได้นั่งอยู่ในงาน แต่รู้ว่าหลังพูดจบ ส.ส.ครึ่งร้อยที่อยู่ในงานหัวใจพองโตขึ้นสามเท่า”
“ตามภาพยังปรากฏภาพของนายภูมิธรรม เวชชชัย และนายเกรียง พร้อมแก้วไวน์ และอาหาร ภาพนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.พรรคเพื่อไทย นายไชยา พรหมา นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายประเสริฐ จันทรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย และนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย แต่ไม่มีเค้กวันเกิด และเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นวันที่ 12 ตุลาคม 2564 คือวันที่พรรคเพื่อไทยมีมติขับนายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุกับน.ส.พรพิมล ธรรมสารออกจากพรรค จึงไม่แน่ใจว่าวันเวลาเกี่ยวเนื่องกันหรือไม่ ซึ่งคลิปที่ปรากฏล้วนเป็นเรื่องที่พูดประเด็นการเมือง ส่วนเวลาตั้งข้อสังเกตว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นช่วงเที่ยง แต่โพสต์เมื่อเวลา 23.00 น.” นายเรืองไกร กล่าว
นายเรืองไกร กล่าวว่า ได้นำพยานเอกสาร พยานบุคคล มายื่นต่อกกต. เมื่อ กกต.ตรวจสอบแล้วต้องเชิญตนมาให้ถ้อยคำอีกครั้งหนึ่ง และกกต.ต้องเชิญพยานบุคคลที่เกี่ยวข้อง ส่วนนายทักษิณคงเชิญมาไม่ได้เพราะอยู่ต่างประเทศ แต่จากคลิปเห็นว่ากกต.สามารถพิจารณาได้ เนื่องจากตามมาตรา 92 ของพ.ร.ป.พรรคการเมืองเป็นโทษทางการเมือง เป็นอำนาจของนายทะเบียนพรรคการเมือง และกกต.ที่จะส่งศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อวินิจฉัยต่อไป
นายเรืองไกร กล่าวว่า อีกประเด็นที่ตามมาคือการประชุมพรรค ซึ่งนำลายมือชื่อที่สื่อระบุว่าเป็นของอดีตนายทักษิณ ที่เขียนคำว่า “พรรคเพื่อไทย” หรือคำว่า “พรุ่งนี้เพื่อไทย” มาใช้ในเฟซบุ๊กของพรรคและเฟซบุ๊กของสมาชิกพรรค เป็นการนำลายมือชื่อมาใช้ในกิจกรรมของพรรคการเมืองหรือไม่ เพราะในข้อบังคับพรรคเพื่อไทย นายทักษิณเป็นผู้สนับสนุนพรรคไม่ได้ เป็นผู้ช่วยหาเสียงก็ไม่ได้ เนื่องจากติดขัดเรื่องคุณสมบัติสมาชิกพรรค หลังจากนี้ผมจะติดตามว่านายเกรียงบินไปพบนายทักษิณหรือไม่
“ขอให้กกต.ตรวจสอบด้วยความเป็นธรรม และฝากไปถึงบรรดาพรรคการเมืองที่ทำกิจกรรมใด ๆ ท่านต้องคำนึงกฎหมาย ทั้งพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. พรรคการเมือง ท่านต้องมีความรู้สึกคิดถึงอยู่ตลอดเวลา ไม่ใช่เช้า บ่าย ลงมติตามข้อบังคับพรรคขับสมาชิกเสร็จ กลางคืนไม่คำนึงแล้ว ขอให้พึงระมัดระวัง อันนี้มีเหตุจำเป็นต้องทำหน้าที่ในฐานะปวงชนชาวไทยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 50” นายเรืองไกร กล่าว
นายเรืองไกร อ้างถึงคำวินิจฉัยของ กกต.ตั้งแต่ปี 2561-2564 โดยมาตรา 28 มี 3 คำ ครอบงำ ควบคุม ชี้นำ เพราะฉะนั้นในพจนานุกรมให้ความหมายแตกต่างกันหมด ซึ่งตนมองเรื่องชี้นำ ส่วนกรณีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีระบุว่าไม่ใช่การครอบงำ แต่เป็นเพียงการพูดคุยกันเท่านั้น จะเป็นการพูดเร็วเกินไปหรือไม่ เป็นสิทธิของนายวิษณุ แต่เห็นว่านายวิษณุยังไม่สมควรพูด เพราะยังดูเนื้อหาไม่ละเอียด
ส่วนความคืบหน้าของการยื่นเรื่องยุบพรรคเพื่อไทยที่นายเรืองไกรมายื่นต่อกกต.หลายครั้งแล้ว นายเรืองไกร กล่าวว่า กำลังตรวจสอบอยู่ 2 พรรคคือก้าวไกลและเพื่อไทย วานนี้ (25 ต.ค.) กกต.โทร.มาประสานแล้ว คำร้องยื่นสอบของพรรคเพื่อไทยสอบไปแล้วครั้งหนึ่ง อยู่ระหว่างเชิญมาคือกรณีหนังสือของนายสมพงษ์ที่บอกว่ามติพรรคให้ ส.ส.ต้องโหวตไม่ไว้วางใจ ซึ่งตนต้องดู 2 มิติคือ 1. การโหวตอยู่ในอาณัติมอบหมายหรือไม่ 2. ส.ส. 7 คนที่ถูกขับ 2 คนที่อาศัยข้อบังคับพรรคมาอ้างเหตุ ที่จริงแล้วเหตุมาจากหนังสือของนายสมพงษ์หรือไม่ ส่วนของพรรคพลังประชารัฐและประชาธิปัตย์ กรณีทุจริตการเลือกตั้งในภาคใต้ เจ้าหน้าที่กำลังจะมีหนังสือแจ้งมาที่ตน ยืนยันว่าดำเนินการต่อ.-สำนักข่าวไทย