กระทรวงกลาโหม 20 ต.ค.- นายกฯ ย้ำ ศบค.ส่วนหน้า ไม่ใช่การรวบอำนาจ ทุกอย่างยังดำเนินการเหมือนเดิม ชี้ ตั้ง “พล.อ.ณัฐพล” ทำหน้าที่บูรณาการการทำงาน ไม่ก้าวก่ายการทำหน้าที่ใคร ขณะที่การเปิดประเทศต้องหารือมาตรการระหว่างประเทศ ไม่ใช่ทุกประเทศเข้าไทยได้หมด
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึง การตั้งศบค.ส่วนหน้าว่า ตนได้กำชับไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) และกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ถึงการบริหารจัดการภาคใต้ เพื่อลดการสูญเสีย รวมถึงการเยียวยา ทั้งนี้ได้เน้นย้ำให้เฝ้าระวังเรื่องความปลอดภัย เพราะประเทศไทยมีปัญหาหลายด้าน ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมาตั้งแต่ตนเองเป็น ผบ.ทบ. และรอง ผอ.รมน.สนับสนุนเรื่องเหล่านี้มาตลอด เพราะเป็นกลไกของทุกรัฐบาล หน่วยงานเหล่านี้จะต้องไปเสริมการปฏิบัติงานของกระทรวงอื่นๆด้วย เช่น ทหารที่ทำหน้าที่ป้องกันการลักลอบตามแนวชายแดน เพื่อป้องกันการระบาดโควิด-19 ด้วยการประสานกับประเทศเพื่อนบ้าน จึงฝากความเห็นใจ และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทหารตามแนวชายแดน
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า สำหรับ ศบค.ส่วนหน้า ประชาชนก็ให้ความร่วมมือ ยืนยันว่า ไม่ใช่การรวบอำนาจ ทุกอย่างยังดำเนินการเหมือนเดิม โดย พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ ที่ปรึกษา นายกฯ และผอ.ศบค.ส่วนหน้า ลงไปทำหน้าที่เพียงแค่บูรณาการการทำงาน เพราะมีกฎหมายในการทำงานอยู่แล้ว ความจริงไม่ได้เข้าไปก้าวก่ายการทำหน้าที่ของใคร เพียงแต่เข้าไปดูแลให้เกิดความทั่วถึงในเรื่องการสกัดกั้นการแพร่ระบาดโควิด-19
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึง การเปิดประเทศในวันที่ 1 พ.ย.นี้ นั้น ย้ำว่ายังมีอีกหลายประเทศที่จะประกาศออกไป เช่นเดียวกับประเทศอื่นๆที่จะเข้ามาไทย ไม่ได้หมายความว่าทุกประเทศจะเข้ามาได้ทั้งหมด ขึ้นอยู่กับการหารือร่วมกันระหว่างประเทศต้นทาง และปลายทางว่า มาตรการที่เรากำหนดไปเขาตกลงด้วยหรือไม่ ถ้าไม่ตกลงด้วยเขาก็ไม่เข้ามาอยู่แล้ว ครั้งแรกอาจจะให้เข้ามาได้ไม่กี่ประเทศ หรืออาจจะหลายประเทศ ทุกอย่าง ต้องขึ้นอยู่กับมาตรการของไทยที่ต้องนำไปเปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆที่มีการประกาศเช่นเดียวกัน ย้ำว่า ไทยจำเป็นต้องอยู่กับโควิด-19 ให้ได้ เศรษฐกิจจะได้ดีขึ้น สมาคมผู้ประกอบการท่องเที่ยวต้องปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด ถ้าเปิดแล้วเกิดมีปัญหาก็ต้องปิด ซึ่งก็ไม่อยากปิดทั้งหมด เพราะประชาชนเดือดร้อน แม้จะมีการเยียวยาก็ไม่เพียงพอ แต่เพื่อให้ดำรงชีพอยู่ได้
ส่วนปัญหาความขัดแย้งในภูมิภาค ก็ได้พูดคุยกันในที่ประชุมสภากลาโหม เพราะมีความขัดแย้งหลายพื้นที่ใกล้กับประเทศไทย ทั้งนี้ ไทยต้องดำรงความเป็นศูนย์กลางของอาเซียนให้ได้ เพื่อความเป็นกลางและสร้างสมดุล เพราะมีทั้งประเทศมหาอำนาจ ประเทศขนาดกลางจะขยายอิทธิพลเข้ามาในภูมิภาคอาเซียนแล้ว ไทยต้องเป็นแกนกลางของอาเซียนให้ได้ ทั้งเรื่องการค้า เศรษฐกิจ การค้าเสรีที่เป็นหลักการสากล.-สำนักข่าวไทย