เปิดประเทศเดิมพันอนาคตการเมืองนายกฯ

พรรคเพื่อไทย 18ต.ค.-“วรสิทธิ์” จี้รัฐบาลยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉิน – เคอร์ฟิวก่อนเปิดเมือง เชื่อเป็นเดิมพันอนาคตการเมืองของนายกฯ ร่วงหรือรอด ถ้าเหลวก็โยนบาปประชาชนอีก


นายวรสิทธิ์ กัลป์ตินันท์ ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการอุตสาหกรรม สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า จากกรณีที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกรารวงกลาโหม พร้อมเปิดประเทศเพื่อรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ชัดเจนว่าเป็นการเดิมพันครั้งสุดท้ายของพล.อ.ประยุทธ์กับอนาคตทางการเมือง จะรอดหรือจะร่วง

“ถ้ารอด ก็พร้อมเป็นฮีโร่ แต่ถ้าล้มเหลวก็จะอ้างว่าประชาชนไม่ให้ความร่วมมือ ที่ผ่านมาพล.อ.ประยุทธ์ไม่เคยยอมรับว่าตัวเองไม่มีความสามารถและไร้ประสิทธิภาพ แต่ดันทุรังประกาศนโยบาย ซึ่งทุกนโยบายที่ประกาศมา รัฐบาลไม่เคยทำได้เลย จากสถานการณ์การระบาดของโควิดที่เกิดขึ้น ส่งผลกระทบกับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวทั้งระบบ รายได้รวมหายไปไม่ต่ำกว่า 400,000 ล้านบาท แรงงานในภาคอุตสาหกรรมตกงานไม่ต่ำกว่า 1 ล้านคน” นายวรสิทธิ์ กล่าว


 นายวรสิทธิ์ กล่าวว่า การเปิดประเทศในครั้งนี้ รัฐบาลต้องมีมาตรการที่รอบคอบ รัดกุม ซึ่งนโยบายการเปิดประเทศใน 120 วัน แต่ยังไม่สามารถทำได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ เพราะติดขัดหลายเรื่อง โดยเฉพาะการฉีดวัคซีนที่ไม่ได้ตามเป้าหมาย และกระบวนการทำงานของรัฐบาล ที่ยังไม่เอื้อความสะดวกมากเท่าที่ควร ทำให้แม้นายกรัฐมนตรีจะออกมาประกาศกำหนดการเปิดประเทศ ย้ำอีกครั้ง แต่ยังไม่แน่ใจว่าวิธีการทำงานที่เหลืออยู่ในภาคส่วนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงเวลาที่มีประมาณ 2 สัปดาห์ จะสามารถทำได้ทันหรือไม่

นายวรสิทธิ์ กล่าวว่า นโยบายเปิดประเทศถือเป็นนโยบายจากพลเอกประยุทธ์เท่านั้น แต่ภาคปฏิบัติภาคอุตสาหกรรมยังคงมีความกังวล เพราะมองไม่เห็นความจริงใจจากรัฐบาลว่าจะตั้งใจฟื้นการท่องเที่ยวจริงหรือไม่ รวมถึงเจ้าหน้าที่ของรัฐรับนโยบายต่ออย่างไร สามารถตอบคำถามที่ชัดเจนและเป็นไปในทิศทางเดียวกันหรือไม่ ทั้งนี้ หากรัฐบาลยังไม่ยกเลิกพระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินและมาตรการเคอร์ฟิว จะเป็นอุปสรรคสำคัญในการเปิดประเทศ หากนักท่องเที่ยวมาแล้วไม่ได้รับการคุ้มครองจากบริษัทประกัน รวมทั้งมาเที่ยวในประเทศไทยเกินเวลาจะถูกดำเนินคดีหรือไม่ มาตรการเหล่านี้ต้องชัดเจน

“พรรคเพื่อไทยเห็นด้วยที่จะเปิดประเทศ แต่การเปิดประเทศต้องเปิดบนความรับผิดชอบของรัฐบาล ไม่ควรโยนภาระทั้งหมดให้ประชาชน ประกาศเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยว โดยที่  ยังไม่มีกำหนดเปิดโรงเรียน ยังไม่ยกเลิกเคอร์ฟิว ยังไม่ยกเลิกพ.ร.ก. ฉุกเฉิน การฉีดวัคซีนสองเข็มราว 35% ประชากร ครึ่งหนึ่งของเป้า 70%  ผู้ติดเชื้อใหม่วันละ 10,000 คน ท็อปเทนของโลก ไม่มีใครรู้จำนวนตรวจหาเชื้อที่แท้จริงในแต่ละวัน ดังนั้นหากรัฐเดินหน้าเปิดเมืองมาตรการด้านสาธารณสุข การตั้งจุดตรวจคัดกรองนักท่องเที่ยวต้องเข้มข้น และที่สำคัญคือก่อนที่จะถึงเวลานั้นรัฐบาลต้องระดมฉีดวัคซีนให้ประชาชนให้มากที่สุดเพื่อความเสี่ยง และสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนด้วย หากเปิดประเทศบนความไม่พร้อม เสี่ยงกับความล้มเหลวและอาจเกิดหายนะรอบใหม่ให้ประชาชนด้วย” นายวรสิทธิ์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เร่งล่า 4 คนร้ายซุ่มยิงตำรวจ สภ.ยะรัง เสียชีวิต 2 นาย

เร่งล่า 4 คนร้ายซุ่มยิงตำรวจ สภ.ยะรัง เสียชีวิต 2 นาย ขณะที่ ผบ.ตร. อาลัยตำรวจกล้า สั่งต้นสังกัดดูแลสิทธิประโยชน์ เลื่อนเงินเดือนและชั้นยศ

นักโทษกลับใจ

อดีตนักโทษกลับใจ หลังติดคุก 30 ปี โทรคุยกับพ่อทั้งน้ำตา

อดีตนักโทษชีวิตโตมาในคุก ตั้งแต่อายุ 19 จนตอนนี้ อายุ 49 ปี ร่ำไห้กับตำรวจ ขอให้ช่วยพากลับบ้านที่จากมา 30 ปี ตำรวจโทรศัพท์หาพ่อ ให้ 2 พ่อลูกคุยกันทั้งน้ำตา

ตำรวจจีนพาผู้ต้องสงสัยฉ้อโกง 200 ราย กลับจากเมียนมา

พลเมืองจีน 200 รายที่ต้องสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการฉ้อโกง ถูกส่งตัวจากเมืองเมียวดีในเมียนมากลับจีนแล้วเมื่อวานนี้ ภายใต้การคุ้มกันของเจ้าหน้าที่ตำรวจจีน

เด็ก 12 สูบบุหรี่ไฟฟ้า-ดื่มน้ำกระท่อม ทำปอดหาย

ย่าช็อก หลานวัย 12 ปี อาการวิกฤติ ปอดหายเกือบทั้งหมด ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ หลังสูบบุหรี่ไฟฟ้าและดื่มน้ำกระท่อมตั้งแต่ ป.4

ข่าวแนะนำ

สว.ยื่นถอดถอนรัฐมนตรี

สว. จ่อยื่นถอดถอน​ “รมต.” กล่าวหาอั้งยี่-ซ่องโจร

สว. ประกาศสงคราม​ เตรียมยื่นถอดถอน​ “รัฐมนตรี” กล่าวหาอั้งยี่-ซ่องโจร พ่วง​ยื่นอภิปราย-แจ้งความ​-เชิญสอบใน​กมธ.​

ส่งกลับเหยื่อคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนอีก 300 คน

วันที่สองของปฏิบัติการขนเหยื่อคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนจากเมียวดี ข้ามชายแดนไทย ส่งกลับประเทศอีก 300 คน รวม 2 วัน ส่งกลับแล้ว 500 คน เหลือพรุ่งนี้อีก 1 วัน

บุกทลายบ่อนทุนจีนเทากลางเมืองภูเก็ต

ตำรวจภูเก็ตบุกทลายบ่อน ‘กลุ่มจีนเทา’ กลางเมืองภูเก็ต รวบนักพนันชาวจีน 13 ราย พร้อมของกลางกว่า 30 รายการ พบเงินหมุนสัปดาห์เดียวกว่า 5 ล้านบาท