‘คณะก้าวหน้า’ โชว์ผลงาน- ลุยต่อเลือกตั้ง อบต. ท้องถิ่นดีกว่านี้ได้

ขอนแก่น 17 ต.ค.- ท้องถิ่นดีกว่านี้ได้ ! “คณะก้าวหน้า” โชว์ผลงานความสำเร็จ – ลุยต่อเลือกตั้ง อบต. – หนุน 210 ทีมทุกภูมิภาค “ธนาธร” ลั่นขอใช้อำนาจที่มอบให้ไปทำให้คุณภาพชีวิตพี่น้องประชาชนดีขึ้น !


เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม ที่ จ.ขอนแก่น คณะก้าวหน้า นำโดย ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า พร้อมทีมกรรมการบริหาร ประกอบด้วย ชำนาญ จันทร์เรือง, ไกลก้อง ไวทยการ, ชัน ภักดีศรี และพรรณิการ์ วานิช ร่วมงานแสดงวิสัยทัศน์ในการสนับสนุนผู้สมัครรับเลือกตั้งท้องถิ่นในระดับองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) พร้อมทั้ง เปิดตัวทีมผู้สมัครนายก อบต.ในนามคณะก้าวหน้าในพื้นที่ จ.ขอนแก่น โดยรูปแบบงานเป็นการแถลงของธนาธร พูดถึงการเมืองท้องถิ่นที่คณะก้าวหน้าให้การสนับสนุนจนได้รับการเลือกตั้งให้เป็นฝ่ายบริหาร โดยเฉพาะในส่วนของการทำงานตามนโยบายที่หาเสียงไว้ จนเป็นผลสำเร็จน่าพอใจ ทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ดีขึ้น อาทิ น้ำประปาดื่มได้, การจัดการขยะ, การจัดทำพื้นที่สาธารณะ, การท่องเที่ยวชุมชน, การใช้เทคโนโลยีมารับข้อร้องเรียนเพื่อแก้ปัญหาอย่างทันท่วงที, การจัดทำเว็บไซต์ที่ตอบโจทย์การใช้งานประชาชน เปิดเผยข้อมูลรัฐ รวมถึงหลักสูตรการศึกษาที่เกี่ยวกับการพัฒนาทักษะที่จำเป็นในศตวรรษที่ 21 ในเทศบาลที่มีโรงเรียนในสังกัด ขณะที่ในช่วงท้ายมีการเปิดตัวผู้สมัครนายก อบต.ในพื้นที่ จ.ขอนแก่น 

ธนาธร กล่าวว่า การเมืองท้องถิ่นสำคัญและส่งผลกระทบโดยตรงต่อวิถีชีวิตของพี่น้องประชาชน แต่ทว่าที่ผ่านมากลับถูกละเลย ไม่ได้รับความสนใจเท่าที่ควร การพัฒนาด้านต่างๆ จึงไม่ได้เป็นไปอย่างมีมาตรฐาน คณะก้าวหน้าเราเชื่อว่า พวกเรามีความรู้ความสามารถที่จะพัฒนาให้ชีวิตคนไทยดีขึ้น เราอยากที่จะนำความรู้ความสามารถนั้นมาช่วยเหลือพี่น้องประชาชน และเราได้ทำให้เห็นแล้ว ในระยะเวลา 150 วันที่ผ่านมา กับเทศบาลที่เราให้การสนับสนุน ที่ได้รับความไว้วางใจให้ไปเป็นผู้บริหาร ไม่ว่าจะเป็นโครงการน้ำประปาดื่มได้ ที่เทศบาลตำบล (ทต.) อาจสามารถ จ.ร้อยเอ็ด จากแต่เดิมน้ำขุ่น สกปรก มีกลิ่น วันนี้เราได้เข้าไปพัฒนาปรับปรุง จนได้น้ำที่ใสสะอาด และผ่านมาตรฐานของกรมอนามัยเรียบร้อย อยู่ในขั้นตอนการออกใบรับรองอย่างเป็นทางการว่าเป็นน้ำประปาที่ดื่มได้ หรือเรื่องการจัดการขยะ ที่ผ่านมาหลายเทศบาลมีปัญหาเป็นอย่างมาก เตาเผาขยะไม่ได้มาตรฐาน บ่อฝังกลับที่ต่อให้เพิ่มพื้นที่อย่างไรก็ยังไม่เพียงพอ ซึ่งเรื่องนี้ ทต.ขวาว อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด และ ทต.หนองแคน อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ก็มีโครงการจัดการที่ต่างกันไปแต่น่าสนใจมาก เช่น ทต.ขวาว มีโครงการรักษ์ขวาว ไปเน้นจัดการที่ต้นทางของขยะคือตลาดเทศบาล แจกถุงผ้า พ่อค้าแม่ค้าลดราคาให้กับผู้ที่นำภารชนะมาเอง รวมถึงการคัดแยกขยะอย่างละเอียดถึง 10 ประเภทขยะ ขณะที่ ทต.หนองแคน ก็มีโครงการกองทุนขยะรีไซเคิลเพื่อการฌาปนกิจ ซึ่งได้รับความสนใจจากประชาชนเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ หลายๆ เทศบาลก็นำเทคโนโลยีรับเรื่องร้องเรียนที่ชื่อฟองดูว์ ไปให้ประชาชนในพื้นที่ตัวเองได้ใช้ ทำให้สามารถเข้าไปแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชนได้อย่างทันท่วงที เป็นต้น


“ที่ผมพูดมาทั้งหมดสำหรับโครงการต่างๆ ที่เทศบาลของเราได้ทำไปแล้วนั้น ก็เพื่อจะบอกว่าประเทศไทยดีกว่านี้ได้ สามารถสร้างบ้านเมืองดีกว่านี้ได้ คนไทยมีศักยภาพ มีความรู้ มีความทะเยอะทะยานอยากเห็นบ้านเมืองของเราน่าอยู่ คนมีคุณภาพชีวิตดี มีสิ่งแวดล้อมที่ดี ลูกหลานมีการศึกษาที่มีคุณภาพและตอบโจทย์กับชีวิต ซึ่งการเมืองท้องถิ่นเป็นเครื่องมือที่สำคัญมากที่จะทำเรื่องเหล่านี้ นี่ขนาดที่ผ่านมา เราเจอสถานการณ์โควิด เจอสถานการณ์บ้านเมืองไม่ดี และที่สำคัญคือการจัดสรรงบประมาณให้กับท้องถิ่นที่มีอยู่น้อยมากๆ เรายังสามารถทำได้ขนาดนี้ ถ้าสถานการณ์ทุกอย่างคลี่คลาย ถ้างบประมาณได้รับการจัดสรรอย่างเท่าเทียมเป็นธรรม ผมเชื่อว่าท้องถิ่นของเรา บ้านของเรา จะพัฒนาก้าวหน้าไปกว่านี้ได้อีกมาก” ธนาธร กล่าว 

ธนาธร กล่าวว่า วันอาทิตย์ที่ 28 พฤศจิกายนนี้ จะเป็นอีกหนึ่งวันสำคัญ เพราะจะเป็นการเลือกตั้ง อบต. ในรอบ 8 ปี คณะก้าวหน้าสนับสนุนผู้สมัครนายก อบต. ทั้งสิ้น 210 อบต. ทุกภูมิภาคทั่วประเทศ โดยในพื้นที่ภาคอีสานนั้นมากที่สุด เราหวังว่าความสำเร็จต่างๆ ของเทศบาลที่เราได้ทำมาแล้วนั้น จะเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้สมัครนายก อบต.ของเราทุกคนที่จะไปทำงานอย่างเต็มที่เพื่อบ้านเกิดของตัวเอง เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ของตัวเอง อย่าเพิ่งสิ้นหวังกับประเทศนี้ อย่าคิดว่าประเทศไทยถอยมาสุดทางแล้ว และในครั้งนี้ เราหวังว่าจะได้ความไว้วางใจจากประชาชน เลือกนายก อบต.ที่คณะก้าวหน้าให้การสนับสนุน เพื่อที่เราจะได้ใช้อำนาจนั้น ไปใช้ทำให้คุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนทุกคนดีกว่าที่เป็นอยู่นี้.-สำนักข่าวไทย 


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

มทภ.2 ยันไม่เคยสั่งกำลังพลไปเก็บศพเขมร อย่าเชื่อข่าวปลอม

5 ส.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 ยืนยันไม่เคยมีคำสั่งให้กำลังพลไปเก็บศพชาวกัมพูชา บริเวณชายแดน ขออย่าหลงเชื่อข่าวปลอม เมื่อวันที่ 5 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า จากกรณีที่สื่อโซเชียลมีเดียได้ลงข้อความอันเป็นเท็จ ที่ทำให้พี่น้องประชาชนเข้าใจผิดว่า แม่ทัพภาคที่ 2 ได้สั่งให้กำลังพลไปเก็บศพชาวกัมพูชาที่อยู่บริเวณชายแดนนั้น ตนยืนยันว่าไม่เป็นความจริง และไม่เคยมีคำสั่งให้กำลังพลไปปฏิบัติอย่างนั้น ผู้เสียชีวิตนั้นเป็นชาวกัมพูชา ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับทางประเทศไทย “ผมไม่เคยมีคำสั่งแบบนี้ และขอยืนยันว่า ข่าวที่ออกมานั้นเป็นข่าวปลอม ขอให้พี่น้องประชาชนอย่าได้หลงเชื่อ“ แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าว.-313-สำนักข่าวไทย

ทหารไทยยอมรับได้กลิ่นศพทหารกัมพูชาจริง

ศรีสะเกษ 5 ส.ค. – วันนี้ยังมีการเก็บกู้ระเบิดที่กัมพูชายิงเข้ามาในพื้นที่พลเรือนฝั่งไทย ส่วนเมื่อคืนนี้ (4 ส.ค.) เป็นคืนแรกของการประชุม GBC ชุด ชรบ.หมู่บ้านแนวชายแดน อ.กันทรลักษ์ จึงออกตรวจตราเข้มข้น ขณะที่ทหารแนวหน้ายอมรับได้กลิ่นศพทหารกัมพูชาจริง ทีมข่าวมีโอกาสได้พูดคุยกับทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา สอบถามถึงเรื่องที่กำลังเป็นประเด็น คือกลิ่นศพของทหารกัมพูชา ทหารยอมรับว่ามีกลิ่นจริง และมีศพทหารกัมพูชาถูกทิ้งไว้จริง แต่ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะอยู่ในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ หากมีหน้ากากอนามัยเชื่อว่าจะช่วยบรรเทาได้บ้าง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีหน้ากาก N95 ส่งถึงพื้นที่บ้างแล้ว พร้อมขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ส่งกำลังใจ ทหารยังพร้อมปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ วันนี้ทีมข่าวยังเกาะติดภารกิจเก็บกู้ระเบิดที่กัมพูชายิงใส่พื้นที่พลเรือนของไทยใน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ จุดแรก จรวด BM-21 ถูกกัมพูชายิงตกใส่ลงทุ่งนาของชาวบ้าน พื้นที่ ต.ทุ่งใหญ่ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม วันเดียวกับที่ยิงใส่ปั๊ม ปตท.บ้านผือ โดยห่างกันราว 1 กิโลเมตร ส่วนอีกจุดเป็นการทำลายลูกจรวด PG-7 ที่ถูกยิงจากเครื่องยิงจรวด RPG ตกลงในสวนยางพาราของชาวบ้าน ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ ที่ถูกพบในสภาพพร้อมทำงาน จุดนี้อยู่ห่างจากชายแดนกัมพูชาเพียง […]

เปิดศักยภาพ Gripen เขี้ยวเล็บใหม่กองทัพอากาศไทย

5 ส.ค. – เปิดคุณสมบัติโดดเด่นของ “กริพเพน” เครื่องบินรบฝูงใหม่ ซึ่งกองทัพอากาศและประเทศไทยกำลังจะทำสัญญาจัดซื้อจากสวีเดน .-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ขึ้นภูมะเขือ ย้ำกำลังพลไม่ประมาท นำร้องเพลงชาติไทย

5 ส.ค.- แม่ทัพภาค 2 ตรวจเยี่ยมภูมะเขือ ย้ำกำลังพลไม่ประมาท ปกป้องอธิปไตย พร้อมร่วมร้องเพลงชาติ เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 5 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่หน่วยเฉพาะกิจที่ 1 กองกำลังสุรนารี พื้นที่ภูมะเขือ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ โดยได้ทำการเดินลาดตระเวน ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจกำลังพลที่วางกำลังฐานปฏิบัติการ ทั้งนี้ มีพระสงฆ์จำนวน 3 รูปจากวัดใกล้เคียง มารอแม่ทัพภาคที่ 2 เพื่อมอบวัตถุมงคลและให้กำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ พร้อมให้พรกำลังพลทุกนาย ให้แคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตรายต่างๆ จากนั้นแม่ทัพภาคที่ 2 ได้ฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ในพื้นที่ภูมะเขือ โดยเน้นย้ำให้อยู่ในความไม่ประมาท ปฏิบัติหน้าที่รักษาอธิปไตยของชาติ ด้วยความปลอดภัยและให้ดูแลรักษาสุขภาพให้ดี จากนั้น พล.ท.บุญสิน ได้ให้กำลังพลเปลี่ยนธงชาติไทยผืนใหญ่กว่าเดิม นำร้องเพลงชาติบนยอดภูมะเขือร่วมกัน ก่อนเดินทางกลับได้มอบเครื่องอุปโภคบริโภคและถ่ายรูปร่วมกับกำลังพล -สำนักข่าวไทย