fbpx

ปภ.รายงานยังมีน้ำท่วมขัง 13 จังหวัด

กทม. 17 ต.ค.- ปภ.รายงานสถานการณ์อุทกภัยในภาพรวม 13 จังหวัด ประสานเร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัย

17 ต.ค.64 เวลา 09.30 น. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยในภาพรวม 13 จังหวัด โดยอิทธิพลพายุ “คมปาซุ” ตั้งแต่วันที่ 15 – 17 ต.ค. 64 ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก 5 จังหวัด 7 อำเภอ 22 ตำบล 59 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 2,698 ครัวเรือน สถานการณ์คลี่คลายแล้ว 2 จังหวัด ยังคงมีสถานการณ์ 3 จังหวัด (ลพบุรี ปราจีนบุรี และนครนายก) ขณะที่อิทธิพลพายุ“ไลออนร็อก” ตั้งแต่วันที่ 8 – 14 ต.ค. 64 ทำให้เกิดอุทกภัยในพื้นที่ 9 จังหวัด 20 อำเภอ 90 ตำบล 416 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 7,931 ครัวเรือน สถานการณ์คลี่คลายแล้ว 7 จังหวัด ยังคงมีสถานการณ์ 2 จังหวัด (จันทบุรี และตราด) ส่วนอิทธิพลพายุ “เตี้ยนหมู่” ตั้งแต่วันที่ 23 ก.ย. – 7 ต.ค. 64 ทำให้เกิดอุทกภัย รวม 33 จังหวัด รวม 225 อำเภอ 1,201 ตำบล 8,218 หมู่บ้าน 1 เขตเทศบาล ประชาชนได้รับผลกระทบ 333,367 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 14 ราย สถานการณ์คลี่คลายแล้ว 24 จังหวัด ยังคงมีสถานการณ์ 9 จังหวัด (ขอนแก่น มหาสารคาม นครราชสีมา ลพบุรี สุพรรณบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี) ซึ่ง ปภ.ได้ร่วมกับจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่สำรวจความเสียหายและให้การช่วยเหลือประชาชนต่อไป


กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) รายงานจากอิทธิพลพายุ “คมปาซุ” ซึ่งได้อ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความอากาศต่ำ และร่องมรสุมพาดผ่านภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตอนล่าง ขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ตั้งแต่วันที่ 15 -17 ต.ค. 64 ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ 5 จังหวัด ได้แก่ เพชรบูรณ์ ชัยภูมิ ลพบุรี ปราจีนบุรี และนครนายก รวม 7 อำเภอ 22 ตำบล 59 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 2,698 ครัวเรือน สถานการณ์คลี่คลายแล้ว 2 จังหวัด ยังคงมีสถานการณ์ 3 จังหวัด 5 อำเภอ 14 ตำบล 38 หมู่บ้าน 1,848 ครัวเรือน ดังนี้

  1. ลพบุรี น้ำไหลหลากเข้าท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอสระโบสถ์ และอำเภอโคกสำโรง ระดับน้ำลดลง
  2. ปราจีนบุรี น้ำป่าไหลหลากและน้ำเอ่อล้นเข้าท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองปราจีนบุรี และอำเภอประจันตคาม ระดับน้ำลดลง
  3. นครนายก น้ำจากคลองสันทรีย์เอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมอำเภอปากพลี ระดับน้ำลดลง

ขณะที่อิทธิพลพายุ “ไลออนร็อก” ตั้งแต่วันที่ 8 – 14 ต.ค. 64 ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก ในพื้นที่ 9 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ ลำปาง เลย เพชรบูรณ์ ปราจีนบุรี จันทบุรี ตราด ชุมพร และระนอง รวม 20 อำเภอ 90 ตำบล 416 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 7,931 ครัวเรือน สถานการณ์คลี่คลายแล้ว 7 จังหวัด ยังคงมีสถานการณ์ 2 จังหวัด 7 อำเภอ 23 ตำบล 109 หมู่บ้าน 3,317 ครัวเรือน ดังนี้


  1. จันทบุรี น้ำท่วมขังในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเขาคิชฌกูฎ อำเภอมะขาม อำเภอขลุง อำเภอเมืองจันทบุรี และอำเภอแหลมสิงห์ ระดับน้ำลดลง
  2. ตราด น้ำท่วมขังในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองตราด และอำเภอเขาสมิง ระดับน้ำลดลง

ในส่วนของผลกระทบจากพายุ “เตี้ยนหมู่” ตั้งแต่วันที่ 23 ก.ย. – 7 ต.ค. 64 ทำให้มีพื้นที่ประสบอุทกภัยรวม 33 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง ตาก สุโขทัย พิษณุโลก เพชรบูรณ์ พิจิตร กำแพงเพชร เลย ขอนแก่น มหาสารคาม ชัยภูมิ ยโสธร นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี ปราจีนบุรี สระแก้ว จันทบุรี นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท ลพบุรี สระบุรี สุพรรณบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี และนครปฐม รวม 225 อำเภอ 1,201 ตำบล 8,218 หมู่บ้าน 1 เขตเทศบาล ประชาชนได้รับผลกระทบ 333,367 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 14 ราย (ลพบุรี 11 ราย เพชรบูรณ์ 2 ราย ชัยนาท 1 ราย) ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว 24 จังหวัด ยังคงมีสถานการณ์ 9 จังหวัด รวม 40 อำเภอ 285 ตำบล 1,570 หมู่บ้าน 83,047 ครัวเรือน ดังนี้

  1. ขอนแก่น น้ำท่วมขังในพื้นที่ 7 อำเภอ ได้แก่ อำเภอโคกโพธิ์ชัย อำเภอชนบท อำเภอพระยืน อำเภอมัญจาคีรี อำเภอบ้านแฮด อำเภอบ้านไผ่ และอำเภอเมืองขอนแก่น ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ ระดับน้ำลดลง
  2. มหาสารคาม มวลน้ำจากจังหวัดขอนแก่นไหลเข้าท่วมพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอโกสุมพิสัย อำเภอกันทรวิชัย และอำเภอเมืองมหาสารคาม ระดับน้ำทรงตัว
  3. นครราชสีมา น้ำท่วมขังในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภอโนนสูง อำเภอพิมาย อำเภอคง อำเภอประทาย อำเภอชุมพวง และอำเภอเมืองยาง ระดับน้ำลดลง
  4. ลพบุรี น้ำท่วมขังในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองลพบุรี และอำเภอบ้านหมี่ ระดับน้ำลดลง
  5. สุพรรณบุรี ยังมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอบางปลาม้า และอำเภอสองพี่น้อง ระดับน้ำลดลง
  6. สิงห์บุรี น้ำท่วมขังในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภออินทร์บุรี อำเภอเมืองสิงห์บุรี และอำเภอพรหมบุรี ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ ประมาณ 15-25 ซม. บางพื้นที่ประชาชนเริ่มกลับเข้าทำความสะอาดที่พักแล้ว
  7. อ่างทอง ยังมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองอ่างทอง อำเภอไชโย อำเภอป่าโมก อำเภอวิเศษชัยชาญ และอำเภอสามโก้ ระดับน้ำลดลง
  8. พระนครศรีอยุธยา น้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมในพื้นที่ 10 อำเภอ ได้แก่ อำเภอผักไห่ อำเภอเสนา อำเภอบางบาล อำเภอพระนครศรีอยุธยา อำเภอบางไทร อำเภอบางปะอิน อำเภอมหาราช อำเภอนครหลวง อำเภอบางปะหัน และอำเภอบางซ้าย ปัจจุบันยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำน้อย คลองโผงเผง และคลองบางบาล ซึ่งอยู่นอกคันกั้นน้ำ ระดับน้ำลดลง
  9. ปทุมธานี น้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมในพื้นที่ริมน้ำ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองปทุมธานี และอำเภอสามโคกปัจจุบันยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งอยู่นอกคันกั้นน้ำ ระดับน้ำลดลง

ภาพรวมสถานการณ์คลี่คลายในหลายพื้นที่ แต่ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ อยู่ระหว่างการเร่งระบายน้ำ ซึ่งกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ประสานจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยสำรวจและประเมินความเสียหาย เพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลัง ฯ สำหรับประชาชนสามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM และสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เรือสินค้าชนสะพานพังในสหรัฐ

บัลติมอร์ 26 มี.ค.- สื่อในสหรัฐรายงานว่า เกิดเหตุเรือสินค้าชนสะพานสำคัญในเมืองบัลติมอร์ รัฐแมริแลนด์ ทำให้สะพานพังลงไปในแม่น้ำ เว็บไซต์บิสซิเนสส์ อินไซเดอร์รายงานว่า มีผู้โพสต์คลิปผ่านเอ็กซ์ (X) ในช่วงเช้าวันนี้ตามเวลาสหรัฐ เป็นภาพเหตุการณ์ขณะที่เรือลำใหญ่ชนกับคานรองรับของสะพานฟรานซิส สกอตต์ คีย์ (Francis Scott Key Bridge) เห็นกลุ่มควันลอยขึ้นจากเรือ จากนั้นสะพานได้ทยอยพังลงไปในแม่น้ำ ขณะที่สำนักงานเครื่องกลเบย์แอเรียถ่ายทอดสดทางยูทูบเมื่อเวลา 01:28 น.วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น เห็นเรือลำใหญ่ชนสะพานดังกล่าว จากนั้นเมื่อเวลา 03:00 น.เห็นโครงสร้างสะพานแตกเป็นส่วน ๆ และจมอยู่ในแม่น้ำ บิสซิเนสส์ อินไซเดอร์ได้ตรวจสอบแผนที่การเดินเรือในเว็บไซต์เวสเซิล ไฟน์เดอร์ (VesselFinder) พบว่า เมื่อเวลา 02:50 น.วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น เรือดาลี (Dali) ซึ่งเป็นเรือบรรทุกสินค้าติดธงชาติสิงคโปร์ ยังคงจอดนิ่งอยู่ใต้สะพาน สะพานแห่งนี้เปิดใช้งานเมื่อเดือนมีนาคม 2520 มีความยาวทั้งหมด 2,632.3 เมตร.-814.-สำนักข่าวไทย

ศาลยกฟ้อง “ชวน หลีกภัย” หมิ่นประมาท “ทักษิณ”

“ชวน” อดีตนายกรัฐมนตรี เผยศาลยกฟ้องคดี “ทักษิณ” ฟ้องหมิ่นประมาท ชี้มีสิทธิ์วิจารณ์เหตุการณ์ที่ได้ประสบมาเพราะเป็นนักการเมืองและเป็นอดีตนายกรัฐมนต

“ทนายตั้ม” แฉเส้นทางเงินเว็บพนันโยง “ส่วยตัวท็อป” น็อก “บิ๊ก ตร.”

“ทนายตั้ม” นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ตั้งโต๊ะเปิดหลักฐานแฉขบวนการส่วยตัวท็อปแบบม้วนเดียวจบ โยงบิ๊กตำรวจรับเงินเว็บพนัน

ข่าวแนะนำ

ออกหมายเรียก “บิ๊กโจ๊ก” รอบ 3 หากไม่มา ชงศาลออกหมายจับ

คณะพนักงานสอบสวนชุดทำคดีเว็บพนันออนไลน์ “BNK Master” ออกหมายเรียก “บิ๊กโจ๊ก” รอบ 3 กำหนดเข้าพบ 1 เม.ย.นี้ หากยังไม่มาเตรียมขอศาลออกหมายจับ

รถไฟฟ้าสายสีเหลืองแจงเหตุขัดข้อง ชิ้นส่วนตัวยึดรางร่วง

รถไฟฟ้าสายสีเหลือง แจงเหตุหยุดเดินรถและมีเศษวัสดุตกหล่น พบชิ้นส่วนตัวยึดรางร่วงหล่นลงมา ช่วงสถานีกลันตัน-สวนหลวง ร.9 มีรถยนต์ 9 คัน และจักรยานยนต์ 3 คัน ได้รับความเสียหาย ไม่มีผู้บาดเจ็บ

ให้ประกันตัว “จักรภพ” นัดพบพนักงานสอบสวน 22-23 เม.ย.

ตำรวจกองปราบฯ อนุญาตประกันตัว “จักรภพ เพ็ญแข” วางหลักทรัพย์ข้อหาละ 200,000 บาท นัดหมายพบพนักงานสอบสวน 22-23 เม.ย.นี้

“ทนายตั้ม” มอบหลักฐานแฉเส้นทางการเงินเว็บพนันโยง “บิ๊ก ตร.” ให้ “บิ๊กเต่า”

“ทนายตั้ม” นายษิทรา เบี้ยบังเกิด นำหลักฐานมอบให้กับ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง หลังออกมาแฉเส้นทางการเงินเว็บพนันโยงถึงบิ๊กตำรวจ