กทม. 3 ต.ค.-นายกฯ สั่งกองทัพ สนับสนุนจังหวัดริมเจ้าพระยา รับมือกับมวลน้ำที่ทยอยระบายออกจากพื้นที่อุทกภัย เสียใจกำลังพลบาดเจ็บ 2 นาย ถูกไฟฟ้าแรงสูงช็อต
พล.อ.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกลาโหมเปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้สั่งการทุกเหล่าทัพ สนับสนุนจังหวัดริมแม่น้ำเจ้าพระยาและป่าสัก รับมือกับมวลน้ำที่ทยอยระบายจากพื้นที่ประสบอุทกภัย เพื่อให้ประชาชนที่อาศัยริมแม่น้ำสายหลักได้รับผลกระทบน้อยที่สุด ขณะเดียวกันได้ย้ำให้ทุกเหล่าทัพ ยังคงให้การช่วยเหลือประชาชนกว่า 229,000 ครอบครัวในทุกพื้นที่ 31 จังหวัดที่ได้รับผลกระทบต่อเนื่องกันไป โดยเฉพาะในพื้นที่ที่เส้นทางคมนาคมถูกตัดขาด ให้สนับสนุนติดตั้งสะพานทางทหารเร่งด่วนให้ประชาชนสามารถสัญจรได้โดยไม่ถูกตัดขาด โดยให้ประสานทำงานร่วมกับส่วนราชการ อาสาสมัครจิตอาสาและภาคเอกชนในพื้นที่ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนประชาชนในพื้นที่ประสบอุทกภัย พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีได้แสดงความเสียใจกับกำลังพลที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส 2 นาย จากอุบัติเหตุไฟฟ้าแรงสูงช็อต ระหว่างนำเครื่องมือช่างลงช่วยเหลือในพื้นที่ อ.คอนสวรรค์ จ.ชัยภูมิ โดยขอให้กองทัพบกให้การช่วยเหลือดูแลการรักษาพยาบาลให้ดีที่สุด พร้อมทั้งขอให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายใช้ความระมัดระวังและปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ประมาท
โฆษกกลาโหม เปิดเผยว่า ตั้งแต่ 23 ก.ย.64 ถึงปัจจุบัน กระทรวงกลาโหมโดยทุกเหล่าทัพ ได้หมุนเวียนกำลังพลกว่า 10,000 นาย พร้อมเครื่องจักรและเครื่องมือช่าง เช่น รถขุดตัก เครื่องสูบน้ำ เรือผลักดันน้ำและสะพานเครื่องหนุนมั่น รวมทั้งยานพาหนะกว่า 750 คัน เช่น รถบรรทุกลำเลียง รถบรรทุกน้ำ รถประปาสนาม รถครัวสนาม และเรือท้องแบนกว่า 200 ลำ พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ สนับสนุนลงให้การช่วยเหลือเร่งด่วนประชาชนใน 31 จังหวัด ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยเป็นพื้นที่วงกว้าง ในการอพยพประชาชนออกจากพื้นที่ประสบภัยไปยังพื้นที่ปลอดภัย และให้การช่วยเหลือประชาชนที่ติดค้างในพื้นที่ ทั้งการแจกสิ่งของบรรเทาทุกข์ อาหารและเครื่องดื่ม รวมทั้งจัดชุดแพทย์เคลื่อนที่ให้การช่วยเหลือดูแลผู้ป่วยและผู้สูงอายุ
ขณะเดียวกัน กำลังพลทหารของทุกเหล่าทัพ ได้ร่วมกันบรรจุกระสอบทรายกว่า 63,500 กระสอบ จัดทำพนังกั้นน้ำและสนับสนุนเครื่องมือช่างเปิดทางน้ำ กำจัดวัชพืชบริเวณประตูน้ำและคอคอดของลำน้ำ รวมทั้งติดตั้งเครื่องสูบน้ำและเรือผลักดันน้ำ 26 ลำ เร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ลงแม่น้ำสายหลักต่างๆ เพื่อลดความเสียหายให้เร็วที่สุด พร้อมทั้งได้ติดตั้งสะพานทางทหาร จำนวน 3 แห่งและซ่อมแซมสะพานในพื้นที่ที่น้ำป่าไหลหลากและเส้นทางถูกตัดขาดในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ เพชรบูรณ์และพะเยา
สำหรับในอีก 13 จังหวัดที่สถานการณ์เริ่มคลี่คลายแล้ว ทุกเหล่าทัพ ได้จัดแบ่งกำลังลงทำงานร่วมกับจิตอาสาและส่วนราชการในพื้นที่ เร่งขนย้ายซากปรักหักพังและทำสะอาดในพื้นที่สาธารณะ พร้อมกับสนับสนุนการลงสำรวจความเสียหายและซ่อมแซมสาธารณูปโภคเร่งด่วนที่จำเป็น โดยจะให้การสนับสนุนช่วยเหลือต่อเนื่องกันไปถึงการฟื้นฟูในพื้นที่ที่ได้รับความเสียหาย เพื่อให้ประชาชนสามารถกลับไปใช้ชีวิตตามปกติได้โดยเร็วที่สุดต่อไป.-สำนักข่าวไทย