เปลี่ยนจุดขึ้นฝั่ง ผู้ชุมนุมฯรอลงพื้นที่นนทบุรี


นนทบุรี 30 ก.ย.-นายกฯ เปลี่ยนจุดขึ้นฝั่ง หลังผู้ชุมนุมดักรอท่าน้ำนนท์ ยืนยันน้ำไม่ท่วมสูงเท่าปี 54 ห่วงภาคกลาง-พื้นที่นอกคันกั้นน้ำ กำชับแผนรับมือ-เยียวยา ย้ำ “จะอยู่เพื่อทำงานตรงนี้” ขออย่าทำอะไรที่ไม่เกิดประโยชน์ หลังโควิดเบาบางเตรียมลงพื้นพบประชาชนมากขึ้น

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ขึ้นเรือตรวจการณ์ เพื่อตรวจติดตามสถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา พร้อมรับฟังการบรรยายสรุปสถานการณ์น้ำและการก่อสร้างแนวกำแพงป้องกันน้ำท่วม โดยนายกรัฐมนตรี ได้สอบถามกรมชลประทานถึงการเตรียมแผนรับน้ำท่วมหากมีฝนหรือพายุเข้ามา พร้อมกำชับต้องทำให้ประชาชนรับรู้รับทราบว่าแต่ละจังหวัด หรือแต่ละพื้นที่ได้รับผลกระทบตรงไหน น้ำมาจากไหนและใครจะเดือดร้อนได้รับผลกระทบบ้าง รวมถึงกำชับมาตรการเฉพาะและเตรียมมาตรการเยียวยาตามระดับพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ เพื่อให้ประชาชนได้เตรียมตัว เพราะส่วนใหญ่ยังไม่ค่อยได้เตรียมตัว แต่จะไปโทษประชาชนไม่ได้ จึงต้องไปสื่อสารให้ประชาชนเข้าใจ ทั้งนี้ต้องเตรียมแผนในพื้นที่ทั้งในและนอกพนังกั้นน้ำที่จะได้รับผลกระทบ โดยแยกพื้นที่ว่าเดือดร้อนมากหรือเดือดร้อนน้อย เพื่อดูแลตามมาตรการต่างๆ ซึ่งกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) เป็นหน่วยงานบูรณาการ และจะจัดลำดับความสำคัญเร่งด่วน เพื่อจัดสรรงบประมาณทยอยให้


พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ยอมรับว่ามีความกังวลและห่วงสถานการณ์น้ำในขณะนี้ เพราะประเทศไทยอยู่ในฤดูมรสุมและมีพายุเตี้ยนหมู่เข้ามา ขณะเดียวกันต้องติดตามสถานการณ์โลกด้วยว่าจะเตรียมการรับความพร้อมตรงนี้อย่างไร ซึ่งธรรมชาติเป็นสิ่งที่เราห้ามไม่ได้ แต่สิ่งที่ย้ำเสมอว่าวันนี้โลกร้องเตือนมาแล้วให้เราดูแลถ้าไม่ดูแลก็จะเกิดวิกฤตการณ์ต่างๆเข้ามา ทั้งน้ำท่วม ฝนแล้งหรืออุทกภัยต่างๆ สิ่งสำคัญที่สุดคนไทยต้องเตรียมตัวเตรียมความพร้อมว่าจะอยู่กับธรรมชาติยุคนี้ได้อย่างไร ดังนั้นตัวเองต้องเตรียมการไว้ก่อน ขณะที่รัฐบาลก็พร้อมดูแล

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ตอนนี้เป็นห่วงพื้นที่ภาคกลางและโดยเฉพาะพื้นที่นอกคันกั้นน้ำ แต่ได้รับคำชี้แจงจากกรมชลประทานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าได้มีการระบายน้ำตัดยอดน้ำที่มาจากภาคเหนือตอนล่างนำออกสู่ทะเลให้เร็วขึ้น แต่ช่วงนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศด้วย จึงขอให้ติดตามกรมอุตุนิยมวิทยา ทั้งนี้คิดว่าระบบที่เราเตรียมความพร้อมมาหลายปีที่ผ่านมามีความพร้อม แต่อาจยังไม่ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ จึงต้องเร่งดำเนินการให้เร็วขึ้น สิ่งสำคัญที่สุดการทำโครงการต่างๆต้องผ่านประชามติและผ่านความเห็นชอบของประชาชน ถ้าไม่ผ่านทำไม่ได้ติดปัญหาที่ประชาชนยังไม่เห็นชอบร่วมกัน เพราะอาจมีคนเดือดร้อนหรือไม่เดือดร้อน ขอเพียงความร่วมมือ เพราะนายกฯ บังคับใครไม่ได้ ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย


นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในหลวงรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงสั่งเสมอและในหลวงรัชกาลที่ 10 ทรงห่วง และรับสั่งกับตนเสมอเวลาเข้าเฝ้าฯ ว่าต้องดูแลประชาชนให้มีความสุขและให้ปลอดภัย ให้ประเทศชาติยั่งยืนและเดินไปข้างหน้าให้มีเสถียรภาพ ดังนั้นเราจำเป็นต้องนำเรื่องเหล่านี้มาปฏิบัติ ให้เกิดผลสัมฤทธิ์ขึ้นมาให้ได้
ทั้งนี้นายกรัฐมนตรี ขอบคุณผู้ว่าฯ นายกเทศมนตรีและทุกคน ซึ่งคนในพื้นที่ย่อมรู้ปัญหาดีอยู่แล้ว วันนี้การเดินหน้าประเทศต้องปรับรูปแบบทั้งหมด เพื่อพลิกโฉมประเทศไทยของเรา ทั้งเรื่องน้ำท่วม การแก้ปัญหาความยากจน การแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน หรือเรื่องอื่นๆเยอะแยะไปหมด ยืนยันรัฐบาลจะทำเต็มที่

“สิ่งที่อยากฝากประชาชนไว้ว่า ผมจะอยู่เพื่ออย่างนี้ เพื่อจะทำงานตรงนี้ก็สุดแล้วแต่จะว่ายังไงกันไป ซึ่งวันนี้ไม่ได้ดูเฉพาะเรื่องที่จะมา แต่ดูทุกอย่าง ดูตั้งแต่หน้าตาประชาชนว่ามีความสุขไหม ดูขยะ ดูผักตบชวา ดูชีวิตความเป็นอยู่ ดูสีสันของบ้านของเมือง นี่แหละศักยภาพเราอยู่แล้ว มันต้องหาศักยภาพตรงนี้ให้เจอแล้วเอาสิ่งที่เป็นจุดขายประเทศไทย ไม่ใช่ไปทำอย่างอื่น มันไม่เกิดประโยชน์ทั้งสิ้นไป ทำอะไรก็แล้วแต่เวลานี้”นายกฯ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า วันนี้ขอเปรียบเทียบดูเรื่อง โควิดที่เราบริหารจัดการได้ดีกว่าหลายประเทศที่ยังมีปัญหา เรามีคน คนของเราตั้งกว่า 70 ล้านคนโดยประมาณ ทั้งคนไทยและคนที่มาทำงาน แต่เราฉีดวัคซีนได้เกือบครบแล้ว ในขณะที่ทุกวันนี้บางประเทศยังไม่ครบเลย ซึ่งเป็นประเทศรวยๆด้วยซ้ำไปที่กำลังแพร่ระบาดเยอะแยะไปหมด ดังนั้นสิ่งดีๆ ต้องหาให้เจอ อย่าไปจับผิดกับสิ่งที่กำลังทำอยู่ เพราะยังไงมันก็เจอ เพราะยังไม่เสร็จ


พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้วันนี้ปัญหาหลายอย่างถึงต้องมีปรับแก้กฎหมาย ซึ่งกฎหมายก็ต้องเข้าสภา ดังนั้นฝากฝ่ายนิติบัญญัติช่วยเร่งรัดกฎหมายเหล่านี้ด้วย ทั้งกฎหมายใหม่และกฎหมายไม่ทันสมัยที่ต้องปรับแก้ ดังนั้นอย่ามัวแต่ไปเอากฎหมายอื่นๆที่มีความสำคัญน้อยกว่าเข้าไปพิจารณา เพื่อจะได้แก้ปัญหาประเทศได้โดยเร็ว ซึ่งต้องทำงานด้วยกันบริหารและนิติบัญญัติ

จากนั้นเวลา 15.00น. นายกรัฐมนตรี แวะที่ท่าเรือพิบูลย์สงคราม 4 เพื่อเยี่ยมเยียนและมอบถุงยังชีพให้กับประชาชนที่เดือดร้อน นายกฯ กล่าวว่า”รัฐบาลจะพยายามดูแลความเดือดร้อนให้ได้มากที่สุด รักทุกคนนะจ๊ะ” อีกทั้งมีชาวบ้านตะโกนว่า “ลุงตู่สู้ๆ สู้ตาย” นายกฯ จึงกล่าวตอบว่า”อย่าตายสิ” นอกจากนี้มียังมีชาวบ้าน กล่าวว่า ใครให้ลาออกไม่ต้องออก ให้นายกฯ สู้หัวทะลุฝาไปเลย ทำให้นายกฯ กล่าวตอบว่า”เหรอ จ๊ะ ไม่กลัวหัวแตกเหรอ โอ้โหว นี่ดุเดือดดีนะ” ชาวบ้านจึงกล่าวว่า เห็นนายกฯโดนมาเยอะ นายกฯ กล่าวว่า”เราต้องชิน ต้องดูแลคนไทย ให้เวลาเราหน่อย เราจะทำทุกอย่างที่ทำมาแล้วให้เสร็จ” ทั้งนี้ระหว่างพบประชาชนนายกฯ กล่าวว่า”ความรักความห่วงใยนายกฯ ลอยไปกับอากาศให้คนทั้งประเทศ ใครจะว่าอย่างไรก็ช่าง”พร้อมเอามือตบที่หน้าอก จากนั้นมีชาวบ้านบอกว่า ปี54 น้ำท่วมสูงถึงคอ นายกฯ จึงกล่าวว่า “ปีนี้ไม่ถึงหรอก เราพยายามทำเต็มที่และเราทำเพิ่มเติมมามากจากช่วงนั้น” นายกรัฐมนตรี กล่าว

จากนั้นเวลา 15.30 น. ภายหลังเสร็จสิ้นการตรวจเยี่ยมให้กำลังใจและมอบถุงยังชีพให้ประชาชนที่ชุมชนตลาดขวัญ นายกฯ โดยไม่ได้แวะที่ศาลากลางหลังเก่า เนื่องจากมีกลุ่มผู้ชุมนุมจำนวนมากมาดักรอที่บริเวณท่าน้ำนนทบุรี ทำให้นายกฯ และคณะ เปลี่ยนจุดขึ้นเรือจากเดิมที่กำหนดไว้ว่าจะนั่งเรือมาขึ้นรถเพื่อเดินทางกลับที่ท่าน้ำนนทบุรี แต่ปรากฎว่าระหว่างที่ล่องเรือเพื่อตรวจเยี่ยมและติดตามสถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาอยู่นั้น ก็เป็นขณะเดียวกับที่กลุ่มต่อต้านพล.อ.ประยุทธ์ ได้ทยอยรวมตัวกันจำนวนมากที่บริเวณท่าน้ำนนท์ ทำให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยและส่วนล่วงหน้า รวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่ร่วมกันประเมินโดยมีการแจ้งไปทางเรือของนายกรัฐมนตรี เพื่อประสานกับทีมรักษาความปลอดภัยให้เปลี่ยนจุดขึ้นเรือให้กับนายกรัฐมนตรีพร้อมคณะ เพื่อหลีกเลี่ยงแรงปะทะ จึงเปลี่ยนมาขึ้นเรือที่หน้าอาคารรัฐสภาแห่งใหม่แทน

นายกรัฐมนตรี กล่าวช่วงหนึ่งบนเรือว่า ตอนนี้สถานการณ์โควิด-19 เริ่มเบาลง นายกรัฐมนตรีได้เตรียมวางตารางลงพื้นที่พบประชาชนมากขึ้น และต้องขอโทษประชาชนที่ไม่ได้ไปในหลายจุดที่ได้นัดหมายกันไว้ในวันนี้เพราะไม่อยากจะให้เกิดปัญหา ซึ่งได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้แจ้งเตือนประชาชน 5 จังหวัด ที่จะได้รับผลกระทบเป็นรายพื้นที่ เพื่อเพิ่มความระมัดระวังในสถานการณ์น้ำหลังจากนี้แล้ว

ทั้งนี้ เมื่อเวลา 16.00 น. เรือของนายกรัฐมนตรีและคณะได้มาถึงบริเวณท่าเรือรัฐสภา ซึ่งมีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภามารอให้การต้อนรับก่อนที่ นายกรัฐมนตรี มีสีหน้ายิ้มแย้ม พูดคุยและทักทายกับประธานวุฒิสภา พร้อมกับโบกมือลาเจ้าหน้าที่ที่มารออำนวยความสะดวก ก่อนที่จะเดินทางออกจากรัฐสภาเพื่อกลับที่พักทันทีโดยไม่ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนที่มารออยู่บริเวณดังกล่าว.-สำนักข่าวไทย.

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สมุทรปราการอ่วม! ปิด 25 โรงเรียนหนีน้ำท่วม

สมุทรปราการ 8 ก.ย.- สมุทรปราการอ่วม! ระดับน้ำยังท่วมสูง หลังฝนตกหนักทั้งคืน ด้าน สพท. สั่งปิดแล้ว 25 โรงเรียน ปรับให้สอนแบบออนไลน์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หรือ สพท. สั่งปิด 25 โรงเรียนจังหวัดสมุทรปราการ 1 วัน พร้อมปรับการเรียนเป็นแบบออนไลน์ เพื่อความปลอดภัยของนักเรียนและผู้ปกครอง หลังฝนตกหนักทั้งคืน ถนนสายสำคัญหลายเส้นถูกน้ำท่วม บางแห่งสูงกว่า 30 เซนติเมตร รวมถึงตรอกซอกซอยต่าง ๆ โดยบางพื้นที่น้ำได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ขณะเดียวกันหลายจุดยังคงมีน้ำท่วมขัง ระบายออกไม่ได้ เนื่องจากระดับน้ำในคลองสายหลักสูง ประกอบกับน้ำทะเลหนุน เจ้าหน้าที่เร่งระบายน้ำ หากฝนไม่ตกลงมาซ้ำ คาดว่าบ่ายวันนี้สถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติ ทั้งนี้ มีรายงานว่าเกิดเหตุ หนุ่มวัย 17 ปี เข็นรถจักรยานยนต์ฝ่าน้ำ ถูกไฟรั่วจากแบริเออร์ก่อสร้างบนถนนแพรกษา ช็อตเสียชีวิตต่อหน้าเพื่อนบ้าน เจ้าหน้าที่เร่งสอบหาสาเหตุและป้องกันเหตุซ้ำ -สำนักข่าวไทย

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี 8 เดือน ไม่รอลงอาญา “สส.ลูกเกด” คดี ม.112

กรุงเทพฯ 8 ก.ย. – ศาลสั่งจำคุก 4 ปี “ลูกเกด ชลธิชา” สส.ประชาชน คดี ม.112 คำให้การเป็นประโยชน์ลดโทษเหลือ 2 ปี 8 เดือน ส่าสุดศาลให้กันประกันตัวแล้ว กำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาต วันนี้ ( 8 ก.ย.) ที่ห้องพิจารณา 901 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีดูหมิ่นสถาบัน หมายเลขดำ อ.595/65 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ ฟ้อง น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว หรือลูกเกด สส.พรรคประชาชน จ.ปทุมธานี เป็นจำเลยในความผิด ดูหมิ่นสถาบัน ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.112 , พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฯ ม.4 (3) จากกรณีเมื่อวันที่ 8 พ.ย.63 จำเลยได้โพสต์ข้อความ ลงในเฟซบุ๊กตัวเอง เกี่ยวกับราษฎรสาส์น […]

รื้อทั้งยวง! โผ ครม.อนุทิน 1 เหตุ “ธรรมนัส” คุมท่องเที่ยว ภท.ต้องเกลี่ยใหม่

กรุงเทพฯ 7 ก.ย. – โผ ครม. “อนุทิน 1” รื้อทั้งยวง หลัง “ธรรมนัส” คุมท่องเที่ยว ทำภูมิใจไทยต้องเกลี่ยใหม่ “ไชยชนก” ดีอี “ซาบีดา” วัฒนธรรม รอเปิดคนนอก “กลาโหม-ยุติธรรม” แว่วพลตำรวจโท อดีตรองผู้การภาค 3 ติดโผ จับตา “ศักดิ์ดา” ร่วมด้วย​ ด้าน “นิพนธ์” จ่อดันลูกสาวเป็นรัฐมนตรีป้ายแดง เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับโผ ครม.ล่าสุด พรรคภูมิใจไทยจะได้เก้าอี้รัฐมนตรีส่วนใหญ่ประมาณ 12 ที่นั่ง โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล นั่งนายกรัฐมนตรี ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายทรงศักดิ์ ทองศรี นั่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ นั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นายไชยชนก ชิดชอบ เลขาธิการพรรค จะนั่งตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ขณะที่นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล […]

ชัยภูมิน้ำท่วมหนัก หลังฝนตกตลอดคืน

ชัยภูมิ 7 ก.ย.-น้ำท่วมหนักใน 3 อำเภอของจังหวัดชัยภูมิ หลังฝนตกหนักตลอดทั้งคืน สภาพภายในวัดดอนไผ่ ริมถนนชัยภูมิ-นครสวรรค์ อำเภอบ้านเขว้า จังหวัดชัยภูมิ เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (7 ก.ย.) หลังพายุฝนกระหน่ำตลอดทั้งคืน ระดับน้ำท่วมสูง 50 เซนติเมตร พระสงฆ์ต้องอพยพหนีน้ำท่วมไปฉันอาหารอยู่บนที่สูง ขณะนี้ระดับน้ำยังไม่ลดลง นอกจากนี้ ยังเกิดน้ำท่วมใน 3 อำเภอ คือ อำเภอเมือง ย่านเศรษฐกิจในตัวอำเภอแก้งคร้อ และอำเภอบ้านเขว้า น้ำป่าสีแดงขุ่นไหลเข้าท่วมถนนสาย 225 ชัยภูมิ-นครสวรรค์ รวมถึงร้านค้า บ้านเรือนประชาชน โดยเฉพาะที่วัดกลางโนนแดง และวัดดอนไผ่ สาเหตุมาจากกรมทางหลวงก่อสร้างถนน 4 เลน ตัดผ่านบ้านโนนแดง ต.โนนแดง อ.บ้านเขว้า ทำให้น้ำป่าที่ไหลมาจากเขาภูแลนคา ไม่สามารถไหลไปลงแม่น้ำชีได้.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนไทยตอนบนฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 70%

กรุงเทพฯ 10 ก.ย. – กรมอุตุฯ เตือนไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 70% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือ และตอนบนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส.-สำนักข่าวไทย

กระบะส่งน้ำพุ่งชนเสาไฟล้ม 24 ต้น ทำไฟไหม้ร้านอาหาร บ้าน-ร้านค้าพัง

เชียงใหม่ 8 ก.ย.-วินาศสันตะโร กระบะส่งน้ำพุ่งชนเสาไฟฟ้าล้ม 24 ต้น บนถนนหนองฮ่อ อ.เมืองเชียงใหม่ ทำให้ไฟไหม้ร้านอาหาร บ้าน-ร้านค้ากว่า 10 หลัง พังเสียหาย ส่วนรถเสียหายนับสิบคัน ไฟฟ้าดับเป็นวงกว้าง อุบัติเหตุเกิดขึ้นช่วงบ่ายที่ผ่านมา หลังรถกระบะบรรทุกน้ำดื่มเอกชนพุ่งชนเสาไฟฟ้าบนถนนหนองฮ่อ ต.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ ก่อนถึง สภ.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ ประมาณ 300 เมตร โดยรถกระบะได้พุ่งชนเสาไฟฟ้าจนหักโค่นลงมา ก่อนที่รถจะเกี่ยวเข้ากับสายไฟลากไปอีกหลายสิบเมตร ทำให้สายไฟถูกดึงจนทำให้เสาไฟฟ้าโค่นล้มต่อๆ กันลงมาขวางถนนรวมแล้วกว่า 24 ต้น เสาไฟกิ่งเสียหาย 25 ต้น ทับบ้านเรือนประชาชนและร้านค้าพังเสียหายกว่า 10 หลัง และยังมีรถยนต์ที่จอดไว้ในบ้าน ริมถนน และที่ขับผ่านมา ถูกทับเสียหายเบื้องต้นมากกว่า 10 คัน นอกจากนี้สายไฟฟ้าที่ถูกดึงจนขาดยังทำให้เกิดเพลิงไหม้ร้านอาหารบริเวณดังกล่าวจนวอดเสียหายเกือบทั้งหมด อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นทำให้กระแสไฟฟ้าดับเป็นวงกว้างและสร้างความแตกตื่นตกใจให้กับชาวบ้านเป็นอย่างมาก ขณะที่ตำรวจและหน่วยกู้ภัยเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบรถกระบะสีขาว เป็นรถขนส่งน้ำดื่มอยู่ในสภาพด้านหน้าพังยับ ถังน้ำดื่มตกเกลื่อน พบผู้บาดเจ็บเป็นชาย 2 คน เป็นพนักงานขับรถและคนงานที่นั่งมาด้วย เจ้าหน้าที่ได้ช่วยกันนำออกมาจากรถนำส่งโรงพยาบาล โดยพนักงานที่นั่งมาด้วยบาดเจ็บสาหัสเจ้าหน้าที่ต้องปั๊มหัวใจก่อนเร่งนำส่งโรงพยาบาล […]

ราชทัณฑ์ ย้าย “ทักษิณ” เข้าเรือนจำกลางคลองเปรม

คลองเปรม 9 ก.ย.- ราชทัณฑ์ ย้าย “ทักษิณ” จากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เข้าเรือนจำกลางคลองเปรม ขณะอยู่ในรถคุมขัง “ทักษิณ” ยิ้มเล็กน้อย พร้อมชูนิ้วโป้งขวาให้นักข่าวที่ตะโกนถาม ภายหลังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สั่งบังคับโทษ นายทักษิณ ชินวัตร 1 ปี และส่งตัวเข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ล่าสุด เมื่อเวลา 17.10 น. ที่ผ่านมา ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร มีขบวนรถตู้เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร สีขาว จำนวน 3 คัน คันแรก ทะเบียน 1 นฉ 1576 กรุงเทพมหานคร คันที่สอง ทะเบียน 1 นง 7412 กรุงเทพมหานคร และคันที่สาม ทะเบียน 1 นฉ 1977 โดยทั้งหมดได้เคลื่อนขบวนมุ่งหน้าไปยังเรือนจำกลางคลองเปรม โดยรถตู้คันที่สอง ทะเบียน 1 นง 7412 กรุงเทพมหานคร เป็นรถตู้คันที่นายทักษิณ […]

“พล.อ.ณัฐพล” เข้าพรรคภูมิใจไทย “อนุทิน” พาโชว์ตัวนั่ง รมว.กลาโหม

พรรคภูมิใจไทย 9 ก.ย.- “พล.อ.ณัฐพล” มาตามนัด เข้าพรรคภูมิใจไทย “อนุทิน” พาโชว์ตัวนั่ง รมว.กลาโหม ประกาศให้อำนาจเต็ม ก่อนบินประชุม GBC พรุ่งนี้ ให้กัมพูชารู้ว่าเป็น “เจ้ากระทรวงปืนใหญ่” ด้าน “บิ๊กเล็ก” มั่นใจแก้ปัญหาชายแดนเร็วที่สุด ปัดตอบอึดอัด ทำหน้าที่ด้านการทหารกับรัฐบาลที่แล้ว พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางเข้าพรรคภูมิใจไทย ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม เพื่อพบกับ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เพื่อหารือถึงกรอบแนวทางการทำงาน โดยเฉพาะประเด็นการแก้ไขปัญหาข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา ภายหลังที่ก่อนหน้านี้ มีกระแสข่าวปรากฎชื่อในโผอนุทิน 1 นั่ง “รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม” ในสัดส่วนคนนอก ไม่ได้เกี่ยวข้องกับพรรครวมไทยสร้างชาติ โดยหลังจากการหารือร่วมกัน นายอนุทิน ได้พา พล.อ.ณัฐพล มาโชว์ตัว และให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวอย่างเป็นทาง ถึงการรับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายอนุทิน กล่าวว่า นี่เป็นสิ่งที่ตนปฏิบัติมาโดยตลอดช่วง 2-3 วันนี้ เมื่อตนได้เชิญผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีที่เป็นบุคคลภายนอก จะนำมาแนะนำให้กับประชาชนได้รับทราบ ตนได้ใช้เวลาในการหารือ ในที่สุดขอเชิญรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมในรัฐบาลชุด นส.แพทองธาร […]