ทำเนียบรัฐบาล 28 ก.ย.- ครม. เห็นชอบแผนบริหารหนี้สาธารณะปี 65 ยังไม่เกินเพดานหนี้ร้อยละ 70 ของจีดีพี เดินหน้ากู้เงินใหม่ 1.3 ล้านล้านบาท ฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมจากปัญหาโควิด-19
น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2564 ว่า ครม.อนุมัติแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ 2565 ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ซึ่งประกอบด้วย 1.แผนการก่อหนี้ใหม่ วงเงินรวม 1,344,783.84 ล้านบาท 2.แผนการบริหารหนี้เดิม วงเงินรวม 1,505,369.64 ล้านบาท และ 3.แผนการชำระหนี้ วงเงินรวม 339,291.87 ล้านบาท
สำหรับแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ 2565นั้น น.ส.รัชดา กล่าวว่า เป็นกรอบในการกู้เงินสำหรับรัฐบาล รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นของรัฐ โดยมีวัตถุประสงค์ในการกู้เงิน เพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ เพื่อดำเนินโครงการเงินกู้เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมตามมาตรการในการแก้ไขกรณีงบประมาณรายจ่ายลงทุนมีจำนวนน้อยกว่าวงเงินส่วนที่ขาดดุลงบประมาณรายจ่ายประจำปี เป็นการกู้เงินภายใต้แผนงานตาม พ.ร.ก. กู้เงินโควิด-19 เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 และเป็นการกู้เงินเพื่อการลงทุนในโครงการต่าง ๆ อาทิเช่น โครงการรถไฟทางคู่ โครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง โครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โครงการปรับปรุงระบบส่งไฟฟ้า เป็นต้น ซึ่ง รวมถึงกู้เงินมาเพื่อเสริมสภาพคล่องของรัฐวิสาหกิจ และเพื่อปรับโครงสร้างหนี้และการชำระหนี้ของรัฐบาล รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นของรัฐ
น.ส.รัชดา กล่าวถึงการคาดการณ์หนี้สาธารณะ ณ สิ้นเดือนกันยายน 2565 ภายใต้แผนบริหารหนี้สาธารณะว่า จะอยู่ที่ร้อยละ 62.69 ซึ่งไม่เกินร้อยละ 70 ตามกรอบการบริหารหนี้สาธารณะกรอบใหม่ที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ทั้งนี้ กระทรวงการคลังคาดว่า การลงทุนในแผนงานโครงการต่างๆ ตามแผนการบริหารหนี้สาธารณะจะทำให้เกิดการขยายตัวทางเศรษฐกิจ เพื่อรองรับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจภายหลังจากที่สถานการณ์โควิด-19 มีแนวโน้มคลี่คลาย. สำนักข่าวไทย