“อนุทิน” เผยยอดฉีดวัคซีนสะสมทั้งประเทศเกิน 50 ล้านโดส

กระทรวงสาธารสุข 25 ก.ย. – “อนุทิน” เผยยอดรณรงค์ฉีดวัคซีนถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในวันมหิดล ทะลุ 1.3 ล้านโดส ขณะที่การฉีดวัคซีนสะสมทั้งประเทศเกิน 50 ล้านโดส เข็ม 1 ครอบคลุม 44.45%

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข แถลงว่า หลังจากที่ปีนี้กระทรวงสาธารณสุขมีการรณรงค์ฉีดวัคซีนให้ประชาชนครบ 1 ล้านโดส เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในวันมหิดล ซึ่งได้รับความร่วมมือจากทั้งบุคคลากรทางการแพทย์ และประชาชน ทำให้สามารถฉีดวัคซีนได้มากกว่า 1.3 ล้านโดส ทำให้เห็นถึงประสิทธิภาพการฉีดวัคซีนในระบบสาธารณสุขไทย หากประชาชนร่วมใจและพร้อมมาฉีดวัคซีนระบบสาธารณสุขก็พร้อมให้บริการ


ทั้งนี้การฉีดวัคซีนสะสมทั้งประเทศ วานนี้(24 ก.ย.) จำนวน 50,080,565 โดส ครอบคลุมเข็ม 1 แล้ว 44.45% ขณะที่เมื่อวานนี้ (24 ก.ย.) ยังเป็นการเริ่มฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 หรือบูสเตอร์โดส ให้กับผู้ที่รับวัคซีนซิโนแวคครบ 2 เข็ม เพื่อเสริมความมั่นใจว่าจะมีภูมิต้านทานในระดับที่ปลอดภัยต่อการรองรับสายพันธุ์เดลต้าได้ 1.5 แสนคนยังไม่รวมบุคลากรทางการแพทย์ที่ได้รับวัคซีนบูสเตอร์ไปแล้ว

นายอนุทิน ยังกล่าวถึงสถานการณ์วัคซีนตั้งแต่วันนี้ (25 ก.ย.) ไปจนถึงสิ้นปีนี้ ว่าขอให้มั่นใจกรมควบคุมโรค ได้ดำเนินการจัดหาวัคซีนได้ตามเป้าหมาย โดยจะมีวัคซีนถึงสิ่นเดือนธันวาคม 2564 ประมาณ 125 ล้านโดส และนับตั้งแต่เดือนตุลาคมจะเดินหน้าฉีดวัคซีนให้ครอบครอบคลุมทุกกลุ่มประชากร เพื่อจะได้กลับมาใช้ชีวิตแบบปกติสุข เสริมสร้างรายได้ เศรษฐกิจให้กลับมาโดยเร็ว พร้อมกันนี้ขอขอบคุณบุคลากรทางการแพทย์ที่ทำหน้าที่อย่างสุดความสามารถ ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย มั่นใจว่าทุกคนจะไม่ท้อถอยและต่อสู้กับโรคร้ายนี้จนเอาชนะกันได้


นายอนุทิน ยังกล่าวถึงการจัดซื้อวัคซีนชนิด mRNA ยี่ห้อไฟเซอร์ 30 ล้านโดส ที่รัฐบาลดำเนินการจะเริ่มทยอยเข้ามาช่วงสิ้นเดือนกันยายนไปจนถึงสินปี 2564 เพื่อฉีดให้กับเด็กอายุ 12 ปีขึ้นไป -18 ปี ในการสร้างภุมิคุ้มกันหมู่ให้ได้มากที่สุด ย้ำว่า การฉีดวัคซีนมีผลที่เป็นประโยชน์คุ้มค่ามากกว่าไม่ได้รับวัคซีน ซึ่งวัคซีนที่มีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ไทยได้รับความร่วมมือจาก อเมริกา ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ขณะที่จีนก็บริจาคด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ไทยยังมีโครงการแลกเปลี่ยนวัคซีนกับ สิงคโปร์และภูฎาน และกระทรวงสาธารณสุขได้เตรียมจัดหาวัคซีนให้ประชาชนในปี 2565 เพื่อนำมาใช้ฉีดกระตุ้นภูมิของประชาชนไปเรื่อยๆจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น

นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ผลการรณรงค์ฉีดวัคซีนเมื่อวานนี้(24 ก.ย.) เป็นที่น่าชื่นใจ โดยฉีดได้ทั้งสิ้น 1,300,677โดย แบ่งเป็น เข็มที่ 1 จำนวน 841,769 โดส เข็มที่2 จำนวน 309,429 โดส เข็มที่ 3 จำนวน 149,479 ทั้งนี้ กทม.ฉีดได้มากที่สุด 64,880 โดส รองลงมาคือ ชลบุรี 48,316 โดส อุดรธานี 47,110 โดส นครราชสีมา 44,863 โดส เชียงใหม่ 39,214 โดส ส่วนการฉีดซีนตั้งเป้าให้ครอบคลุมประชากรมากกว่า 50 ล้านคนภายในสิ้นปีนี้

ด้านนายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาะรณสุข กล่าวถึงตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 วันนี้ 11,975 คน แบ่งเป็นติดเชื้อในประเทศ 11,956 คน ระบบเฝ้าระวังและบริการ 10,651 คน ตรวจเชิงรุก 1,213 คน เรือจำ/ที่ต้องขัง 92 คน จากต่างประเทศ 19 คน ผู้ป่วยสะสม 1,549,285 คน หายป่วยกลับบ้าน 14,700 คน หายป่วยสะสม1,408,602คน เสียชีวิต 127 คน เสียชีวิตสะสม 16,143 คน กำลังรักษา 124,540คน ใน รพ.37,807 คน รพ.สนามและอื่นๆ 86,733 คน มีอาการปอดอักเสบ 3,323 คน ใส่เครื่องช่วยหายใจ 729 คน โดยแนวโน้มผู้ติดเชื้อขณะนี้ลดลง ต้องขอบคุณประชาชนที่ให้ความร่วมมือ รวมถึงการฉีดวัคซีน ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขตั้งเป้าจะลดจำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตให้ได้มากที่สุด


นายแพทย์โอภาส ยังกล่าวถึงแผนการจัดหาวัคซีนว่า ตั้งแต่ในช่วงเดือนมิถุนายนวัคซีนทยอยเข้ามาในประเทศมากขึ้น ส่งผลในเดือนกันยายนมีวัคซีนซิโนแวค แอสตราเซเนกาและไฟเซอร์ รวม 15.7 ล้านโดส และวัคซีนทางเลือกซิโนฟาร์ม 10 ล้านโดส เดือนตุลาคมจะมีวัคซีนเข้ามารวม 24 ล้านโดส เดือนพฤศจิกายน 23 ล้านโดส และเดือนธันวาคม 24 ล้านโดส ส่วนแผนการฉีดวัคซีนหลังจากกระทรวงสาธารณสุขได้ปรับสูตรไขว้ทำให้ฉีดวัคซีนได้เพิ่มขึ้น ตั้งแต่เดือน ก.พ.-ก.ย. เข็ม1 สะสม 32 ล้านโดส เดือนตุลาคม 41 ล้านคนหรือความครอบคลุม 58% เดือนพฤศจิกายน 50 ล้านโดส หรือ 71% เดือนธันวาคม 60 ล้านโดส หรือ 85% ส่วนเข็มที่ 2 เดือนตุลาคม 30 ล้านโดส หรือ 45% เดือนพฤศจิกายน 42 ล้านโดส หรือ 60% เดือนธันวาคม52ล้านโดส หรือ 74% .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชิงทอง

สอบเครียด! คนร้ายชิงทอง 113 บาท สารภาพเอาไปจำนำบางส่วน

สอบเครียดทั้งคืน ผู้ต้องหาชิงทอง 113 บาท รับสารภาพนำทองไปจำนำบางส่วน ซื้อเบ้าหลอมเพื่อให้ยากต่อการติดตามของตำรวจ

เมียวดีระส่ำ! ปั๊มเหลือน้ำมันสำรองได้อีก 3-4 วัน

เมียวดีระส่ำหนัก หลังไทยตัดกระแสไฟฟ้า-อินเทอร์เน็ต-น้ำมันข้ามชายแดน โดยเฉพาะน้ำมันขาดแคลนหนัก ปั๊มน้ำมันกว่า 20 แห่ง เหลือน้ำมันสำรองได้อีก 3-4 วัน ประธานหอการค้าเมียวดี เรียกร้องรัฐบาลไทยทบทวน อยากให้ 2 ประเทศ ร่วมกันปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้ถูกจุด

ข่าวแนะนำ

ทำแผนชิงทอง

คุมทำแผนโจรบุกเดี่ยวชิงทอง 113 บาท

คุมตัวทำแผน โจรบุกเดี่ยวชิงทอง 113 บาท ในห้างฯ ย่านลำลูกกา สารภาพนำทองไปจำนำบางส่วน และซื้ออุปกรณ์หลอมทองเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่

จับเรือประมงเมียนมา

จับเรือประมงเมียนมา รุกล้ำน่านน้ำไทย

ศรชล.ภาค 3 จับกุมเรือประมงเมียนมาพร้อมลูกเรือ 13 คน ขณะลักลอบนำเรือประมงจอดลอยลำในทะเลอาณาเขตของไทย บริเวณ จ.ระนอง ใกล้เกาะค้างคาว