ชลบุรี 17 ก.ย.-นายกฯ ลงพื้นที่แหลมฉบัง จ.ชลบุรี ติดตามการดำเนินโครงการ Factory Sandbox ป้องกันการแพร่ระบาดในโรงงาน ขอสถานประกอบการและพนักงานร่วมมือกันปฏิบัติตามมาตรการป้องกัน
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกลาโหม พร้อมด้วยนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ลงพื้นที่ตรวจติดตามการดำเนินโครงการ Factory Sandbox พร้อมกล่าวมอบนโยบายและตรวจเยี่ยมการฉีดวัคซีนของ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ จำกัด (แหลมฉบัง) อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี โดยพบกับผู้บริหารและนักลงทุนญี่ปุ่น เพื่อหารือแนวโน้มการลงทุนและการส่งออก
![](https://tna.mcot.net/wp-content/uploads/2021/09/นายก-2-1-1024x683.jpeg)
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่ได้มาตรวจเยี่ยมในวันนี้ ซึ่งสิ่งที่ต้องทำความเข้าใจกัน คือเรื่องการเดินหน้าการประกอบการธุรกิจรถยนต์ ซึ่งบริษัทมิตซูบิชิ เป็นหนึ่งในหลายบริษัทที่มีประสิทธิภาพสูง
นายกรัฐมนตรีกล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมาได้มีโอกาสพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ซึ่งต้องขอบคุณที่ให้การช่วยเหลือไทยมาโดยตลอด และหลังจากนี้ญี่ปุ่นก็มีความยินดีที่จะร่วมมือกับประเทศไทยต่อไป ในเรื่องเทคโนโลยีต่างๆ ในฐานะมิตรประเทศมาอย่างยาวนาน โดยบริษัทมิตซูบิชิก็จะเป็นตัวอย่างให้กับสถานประกอบการอื่นๆ และขอให้ดูแลประชาชนคนไทยเหมือนครอบครัวเดียวกัน
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี ได้ตรวจเยี่ยมการฉีดวัคซีนให้กับพนักงานพร้อมกับพูดคุยว่า ขอให้ทุกคนอย่าเดินทางไปในพื้นที่เสี่ยง และให้มีมาตรการป้องกัน ซึ่งดีกว่าการรักษา และยินดีกับพนักงานที่อยู่ในสถานประกอบการที่มีคุณภาพ มีความห่วงใยพนักงาน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ จำกัด (แหลมฉบัง) มีการจ้างงานพนักงาน 4,500 คนตั้งอยู่ภายในนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง เป็นฐานการผลิตรถยนต์ และเป็นศูนย์การผลิตนอกประเทศญี่ปุ่นที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของมิตซูบิชิ โดยผลิตได้ 424,000 คันต่อปี สามารถส่งออกไปกว่า 120 ประเทศ ถือเป็นฐานการผลิตในประเทศที่มีความสำคัญต่อการเติบโตในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และระดับโลกด้วย
ขณะที่ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ของบริษัทมิตซูบิชิ พบจำนวน 234 ราย รักษาหาย 198 รายและ อยู่ระหว่างการรักษา 36 ราย ซึ่งล่าสุดได้มีการตรวจ RT-PCR วันที่ 14 กันยายนที่ผ่านมา พบมีผู้ติดเชื้อยืนยัน 36 ราย
โครงการ Factory Sandbox เป็นหนึ่งโครงการนำร่องในการป้องการและควบคุมการแพร่ระบาดในโรงงาน ซึ่งเฟสแรก ดำเนินการไปแล้วใน 4 จังหวัด ประกอบด้วย นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรสาคร และชลบุรี ในส่วนเฟสสองขยายต่ออีก 3 จังหวัด คือ พระนครศรีอยุธยา ฉะเชิงเทรา และสมุทรปราการ ถือเป็นมาตรการภาครัฐในการดูแลคุณภาพชีวิตของผู้ใช้แรงงานและเดินหน้าสถานประกอบการ ช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ทั้งนี้ โครงการ Factory Sandbox จะนำใช้กับโรงงานขนาดใหญ่ที่มีแรงงานมากกว่า 500 คนขึ้นไป เป็นสถานประกอบกิจการที่ผลิตเพื่อการส่งออก ควบคู่กับการดำเนินการ Bubble and Seal จัดให้มีการตรวจหาเชื้อแบบ RT-PCR จำนวน 1 ครั้ง ให้ลูกจ้างทั้งหมด และตรวจแบบ Self-ATK (Antigen Test Kit) ทุก 7 วัน พร้อมจัดสรรให้ได้รับวัคซีน เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ด้วย.-สำนักข่าวไทย