นศ.ขอเปิดพื้นที่หาทางออกวิกฤติการเมือง

รัฐสภา 16 ก.ย.- 7 มหาวิทยาลัยภาคอีสาน ยื่นจดหมายเปิดผนึก ขอสภาฯ เปิดพื้นที่พูดคุยหาทางออกวิกฤติการเมือง-ตรวจสอบการกระทำเจ้าหน้าที่รัฐต่อผู้ชุมนุม

นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานกรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร รับหนังสือจากตัวแทนองค์การนิสิตนักศึกษา สโมสรนิสิตนักศึกษา และกลุ่มนิสิตนักศึกษา 7 มหาวิทยาลัย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่ขอให้เปิดพื้นที่ในการหารือพูดคุยเพื่อแสวงหาทางออกจากวิกฤติทางการเมือง และขอให้ตรวจสอบการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐต่อผู้ชุมนุม


ตัวแทนกลุ่มนิสิตนักศึกษา ได้อ่านจดหมายเปิดผนึก ระบุว่า สืบเนื่องจากสถานการณ์ทางการเมืองในปัจจุบันที่ประชาชนและนิสิตนักศึกษาจากทั่วทุกภูมิภาค ได้มีการนัดชุมนุมเพื่อเสนอข้อเรียกร้องต่อรัฐบาล พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เรื่องการบริหารจัดการสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19  และเรียกร้องให้มีการจัดหาวัคชีน mRNA เพื่อนำเข้ามาเป็นนวัคซีนหลักในการฉีดให้กับบุคลากรด่านหน้าและประชาชนทั่วประเทศ โดยเป็นการผลักดันข้อเรียกร้องผ่านการชุมนุมแสดงสัญลักษณ์ทางการเมืองในพื้นที่กรุงเทพมหานครและในต่างจังหวัดอยู่เป็นระยะนั้น   อย่างไรก็ตาม ปรากฏว่า รัฐบาลยังไม่ได้ตอบสนองต่อข้อเรียกร้องดังกล่าวของประชาชนได้เท่าที่ควร   จึงเกิดการชุมนุมของประชาชนและนิสิตนักศึกษาโดยสงบปราศจากอาวุธ อันเป็นการใช้สิทธิเสรีภาพตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 

 ทั้งนี้ การชุมนุมได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง  แต่ในช่วงต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมาได้มีการปักหลักชุมนุมของประชาชน บริเวณแยกสามเหลี่ยมดินแดง กรุงเทพมหานคร  และปรากฎว่าเกิดความรุนแรงขึ้น  อาทิ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ใช้กำลังเข้าสลายการชุมนุมของประชาชน ด้วยวิธีการที่รุนแรงจนเกิดความเสียหายต่อชีวิตทรัพย์สิน และจิตใจของประชาชนที่มาชุมนุมและที่อาศัยอยู่บริเวณโดยรอบ การใช้อำนาจทางกฎหมายในการจับกุมควบคุม กักตัวประชาชนผู้เห็นต่างทางการเมือง  การใช้อำนาจตามกฎหมายเพื่อคุกคามสิทธิ เสรีภาพของสื่อมวลชนจนไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ สิ่งที่เกิดขึ้นเหล่านี้  หากไม่ได้รับการแก้ไขด้วยใจจริงและไม่ได้เปิดพื้นที่การมีส่วนร่วมของทุกฝ่ายก็จะทำให้ประเทศกลับไปสู่วังวน ความขัดแย้งอย่างไม่มีที่สิ้นสุด


ดังนั้น องค์การนิสิตนักศึกษา สโมสรนิสิตนักศึกษา และกลุ่มนิสิตนักศึกษา 7 มหาวิทยาลัย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือนั้น ประกอบด้วย มหาวิทยาลัยขอนแก่น มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี มหาวิทยาลัยนครพนม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี มหาวิทยาลัยมหาสารคาม มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตเฉลิมพระเกียรติ จ.สกลนคร มหาวิทยาลัยราชภัฎบุรีรัมย์   จึงขอให้คณะกรรมาธิการฯพิจารณาดำเนินการแสวงหาข้อเท็จจริงตามกระบวนการทางกฎหมาย  เพื่ออำนวยความเป็นธรรมให้เกิดแก่ประชาชน และให้ข้อเท็จจริงได้ปรากฏต่อสาธารณะ   โดยการเปิดและจัดพื้นที่ในการพูดคุย เจรจา เพื่อหาทางออกทางการเมืองร่วมกันระหว่างเยาวชน นิสิตนักศึกษา และประชาชน ร่วมกับรัฐบาล เจ้าหน้าที่รัฐ องค์กรนิติบัญญัติ องค์กรตุลาการ และองค์กรอิสระ อันเป็นการหลีกเลี่ยงความรุนแรงที่จะเกิดขึ้นกับทุกฝ่าย โดยยึดแนวทางตามหลักสันติวิธีเพื่อดำเนินการแสวงหาทางออกร่วมกัน   ซึ่งขั้นตอนนี้อาจต้องเกิดขึ้นในลักษณะบ่อยครั้ง ทั้งที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการ แต่จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องกระทำด้วยความจริงใจ และต้องใช้ความอดทน ซึ่งทางองค์การและสโมสรนิสิตนักศึกษาเห็นว่าเป็นช่องทางที่ดี และเหมาะสมที่สุดช่องทางหนึ่ง

นอกจากนี้ ขอใช้อำนาจทางนิติบัญญัติเพื่อแสวงหาข้อเท็จจริงและตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ   ว่าเป็นการกระทำที่รุนแรงเกินกว่าเหตุ ทั้งเป็นการกระทำโดยชอบหรือขัดต่อกฎหมายหรือไม่ประการใด โดยยึดตามหลักสิทธิมนุษยชนสากล และกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (ICCPR) ทั้งดำเนินการลงโทษตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หากปรากฎข้อเท็จจริงว่าเจ้าหน้าที่ได้กระทำเกินกว่าเหตุและมีมูลเหตุชัดแจ้งว่าการกระทำเหล่านั้นมีความผิดจริง  โดยนำเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเพื่อพิจารณาตามบทบัญญัติของกฎหมายเป็นลำดับต่อไป ตลอดจนขอให้พิจารณาทบทวนการใช้อำนาจตามกฎหมายในการจับกุม ควบคุม กักตัว ประชาชน ที่เข้าร่วมในการชุมนุม  อันเป็นการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ  เนื่องจากได้ปรากฎภาพจากสื่อมวลชนอยู่เป็นระยะว่าเจ้าหน้าที่ๆ ได้จับกุมประชาชนและเยาวชนเพื่อนำไปดำเนินคดี จึงใคร่ขอให้ท่านได้ใช้ดุลยพินิจประกอบกับบทบัญญัติแห่งกฎหมายในการทบทวนการกระทำดังกล่าวของเจ้าหน้าที่ ว่ามีความเหมาะสมและชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ประการใด รวมถึงขอให้มีการสื่อสารไปยังทุกฝ่ายทั้งต่อเจ้าหน้าที่รัฐและประชาชน ในการแสดงออกทางการเมืองโดยสันติวิธีมีให้มีการใช้ความรุนแรง เพื่อลดความสูญเสียที่จะเกิดต่อชีวิตและทรัพย์สิน

ด้านนายครูมานิตย์ ระบุว่า พรรคเพื่อไทยได้เห็นความสำคัญในเรื่องนี้อยู่แล้ว และสืบเนื่องจากสถานการณ์ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นเหมือนไม่มีท่าทีที่จะดีขึ้น จึงเกรงว่า จะเกิดความรุนแรงมากขึ้นด้วย ดังนั้น จึงเห็นพ้องว่า ทุกฝ่ายควรพูดคุยเจรจาหาทางออกกัน ดังนั้น จะรีบนำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่ที่ประชุมพรรคเพื่อไทยด้วย และมอบหมายส่วนที่เกี่ยวข้องดำเนินการต่อไปโดยทันที.- สำนักข่าวไทย  


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“โรม” ตั้งกระทู้ถามปมคุณสมบัติ ปธ.กสทช.

“โรม” ตั้งกระทู้ถาม ปม คุณสมบัติ ปธ.กสทช. ปูดคนรัฐบาลมีความสัมพันธ์กับ กสทช. เรื่องจึงไม่ขยับ ด้าน “ประเสริฐ” ปัดดองเรื่อง ขณะนี้ยื่นศาลรธน.ตีความแล้ว รอคำวินิจฉัย ยืนยันรัฐบาลแยกแยะเรื่องส่วนตัวจากการทำงาน ยึดประโยชน์ประชาชน

“อนุทิน” สั่งยกระดับเข้มงวดเข้าออกจุดผ่านแดนไทย

“อนุทิน” สั่งยกระดับความเข้มงวดในการเข้าออกจุดผ่านแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน ป้องกัน ปราบปราม ยาเสพติด อาชญากรรมทุกประเภท ภายใต้ปฏิบัติการ “Seal Stop Safe” ตามนโยบายนายกรัฐมนตรี

จับเว็บพนัน

ทลายเครือข่ายเว็บพนัน 2 จุด กลางกรุง มีนักแสดงตัวประกอบเอี่ยวด้วย

ตำรวจไซเบอร์ ทลายเครือข่ายเว็บพนัน 2 จุด กลางกรุง พบเงินหมุนเวียนเดือนละ 100 ล้าน มีนักแสดงตัวประกอบร่วมขบวนการ

เปิดใจผู้รอดชีวิตจากรถบัสมรณะ 18 ศพ

โศกนาฏกรรมรถบัสมรณะ 18 ศพ สร้างความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ให้กับชาว อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ วันนี้ทีมข่าวสำนักข่าวได้สัมภาษณ์เปิดใจผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ราวกับปาฏิหาริย์

ข่าวแนะนำ

“แพทองธาร” บอกเป็นนายกฯ GEN Y อยากให้ทุกคนเข้าใจ

“แพทองธาร” พร้อมแจงฝ่ายค้านตั้งหัวข้อซักฟอกภาวะผู้นำ ย้อนต้องเป็นผู้นำให้ได้ก่อน แล้วค่อยพูดถึงคนอื่น บอกเป็น “นายกฯ GEN Y” พร้อมแจงให้ประชาชนเข้าใจข้อมูลที่แท้จริง ยังไม่บอกใครเป็นองค์รักษ์ ส่วน “ทักษิณ” เข้าบ้านพิษณุโลก ถกวิเคราะห์สถานการณ์เศรษฐกิจโลก หลัง “ทรัมป์” นั่งปธน.

เสือแก่งกระจาน

4 เสือป่าแก่งกระจาน​อวดโฉมผ่านกล้องดักถ่าย​ สะท้อน​ความ​อุดมสมบูรณ์

เสือ​ 4 ชนิด ปรากฏ​ตัวผ่าน​กล้อง​ดัก​ถ่าย​ในอุทยาน​แห่งชาติ​แก่งกระจาน​ สะท้อน​ความ​อุดม​สมบูรณ์ของระบบนิเวศ​ อันเป็นผลจากการลาดตระเวนเชิงคุณภาพ​ที่เข้มข้นในผืนป่ามรดก​โลก

จดหมายอุยกูร

ราชทัณฑ์ ยันจดหมายผู้ต้องขังไม่มีตราประทับของเรือนจำ

ราชทัณฑ์ แจงจดหมายผู้ต้องขังจากเรือนจำจะไม่มีตราประทับของเรือนจำ และผู้ต้องขังชาวอุยกูร์ยืนยันไม่เคยเขียนจดหมายฉบับดังกล่าว ชี้เป็นจดหมายที่ทำขึ้นมาอย่างไม่ถูกต้อง

ล่าโจรชิงทอง 102 บาท กลางห้างดังแม่สอด

โจรสวมชุดไรเดอร์ควงปืนพกสั้นบุกชิงทองร้านทองกลางห้างดัง อ.แม่สอด จ.ตาก ใช้เวลาเพียง 1 นาที กวาดทองคำรูปพรรณน้ำหนักรวม 102 บาท ก่อนขี่จักรยานยนต์หลบหนีไป