ชัยนาท 15 ก.ย.-นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ จ.ชัยนาท มอบนโยบายการบริหารจัดการน้ำ เร่งแก้ไขปัญหาครบทุกมิติ กำชับให้ส่วนราชการและ ส.ส. เตรียมแผนเผชิญเหตุไว้ล่วงหน้า
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ประชุมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์น้ำในเขื่อนเจ้าพระยาและการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา ที่ห้องประชุม สำนักงานชลประทานที่ 12 จังหวัดชัยนาท อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท โดยการระบายน้ำเจ้าพระยามีศักยภาพการระบายน้ำฝั่งตะวันตกและฝั่งตะวันออก รวม 625 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที แยกเป็น ฝั่งตะวันตกมีศักยภาพการระบายน้ำ 465 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และฝั่งตะวันออกมีศักยภาพการระบายน้ำ 160 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งคาดว่าปลายเดือนกันยายนจะมีปริมาณฝนมากขึ้น แต่ยังสามารถระบายน้ำลงสู่พื้นที่ต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ส่งผลกระทบในภาพรวม
สำหรับจังหวัดชัยนาท มีแผนงาน โครงการภายใต้แผนงานบูรณาการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ จำนวน 54 โครงการงบประมาณ 1,334.84 ล้านบาท พื้นที่ชลประทานรับประโยชน์ 92,694 ไร่ ประชาชนได้รับประโยชน์ 2,948 ครัวเรือน พื้นที่ที่ได้รับการป้องกัน 8,000 ไร่ สามารถเพิ่มปริมาณน้ำเก็บกัก 8.80 ล้านลูกบาศก์เมตรและเพิ่มแนวป้องกันตลิ่ง 1.95 กม.
นายกรัฐมนตรี มีความห่วงใยประชาชน และต้องการรับฟังปัญหา เพื่อนำข้อมูลในพื้นที่ไปแก้ไขปัญหาอย่างบูรณาการ พร้อมนำบทเรียนที่ผ่านมาเป็นแนวทางในการบริหารจัดการน้ำเพื่อแก้ไขปัญหาครบทุกมิติทั้งน้ำแล้งและน้ำท่วม โดยนายกรัฐมนตรีมีความตั้งใจจะลงให้ครบทุกพื้นที่ด้วย
นายกรัฐมนตรี ยังกำชับให้ส่วนราชการและ ส.ส. ในพื้นที่นำประสบการณ์ ข้อมูลเดิมมาบริหารจัดการ เตรียมแผนให้พร้อม โดยเฉพาะต้องเตรียมแผนเผชิญเหตุไว้ล่วงหน้า สร้างการรับรู้ให้ประชาชนเข้าใจ ขณะเดียวกันก็เน้นย้ำเรื่องการกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ เพื่อเปิดทางน้ำ ให้มีการระบายอย่างมีประสิทธิภาพ แต่ต้องไม่เกิดผลกระทบในวงกว้างต่อพื้นที่เศรษฐกิจ รวมทั้งต้องมีการวางแผนกักเก็บน้ำไว้ใช้เพื่อการเกษตรในฤดูแล้ง ในพื้นที่นอกเขตชลประทาน เพื่อให้มีน้ำเพียงพอต่อการทำเกษตร
นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า รัฐบาลมีความตั้งใจที่จะแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนให้ดีที่สุด และพร้อมให้การสนับสนุนแผนงานโครงการ ต่างๆ ที่สอดคล้องกับการแก้ไขปัญหาในภาพรวม เกิดประโยชน์ต่อประชาชนอย่างแท้จริง จากนั้น นายกรัฐมนตรีพร้อมคณะได้ตรวจสถานการณ์น้ำในเขื่อนเจ้าพระยา เพื่อเตรียมรับน้ำเหนือหลากและวางแผนป้องกันพื้นที่เจ้าพระยาตอนล่าง ณ เขื่อนเจ้าพระยา.-สำนักข่าวไทย