ไม่ต้องเคลียร์ “พล.อ.ประวิตร” เห็นหน้าก็รู้ใจ

ทำเนียบฯ 13 ก.ย.- “นายกฯ” ยืนยันไม่ต้องเคลียร์กับ “พล.อ.ประวิตร” ย้ำเห็นหน้าก็รู้ใจ เผยยังไม่คิดนั่งหัวหน้าพลังประชารัฐ เตรียมลงพื้นที่ตรวจราชการพบประชาชนมากขึ้น หลังโควิดคลี่คลาย แจงไม่เกี่ยวเตรียมพร้อมเลือกตั้ง


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ ครั้งที่ 2/2564 ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอร์เร้นท์ ที่ตึกภักดีบดินทร์ โดยมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เข้าร่วม


นายกรัฐมนตรี ยืนยันไม่จำเป็นต้องเคลียร์กับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เพราะเห็นหน้าก็รู้ใจซึ่งกันและกันอยู่แล้ว ย้ำไม่มีปัญหาใดๆทั้งสิ้น โดยเฉพาะการทำงานร่วมกัน ซึ่งการดำเนินการใดๆก็ตาม ขอให้เป็นเรื่องของกติกาและระบอบประชาธิปไตย สิ่งใดที่เป็นอำนาจนายกฯ ที่ตนเองทำได้ ก็จะทำ ย้ำว่าไม่มีวันที่จะไม่เข้าใจกันและกัน ส่วนภาพที่กอด พล.อ.ประวิตร ภายหลังการประชุมนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า “กอดกันทุกวันตั้งแต่เด็กแล้ว”

ส่วนนายกรัฐมนตรีจะไปนั่งเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐหรือไม่นั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ยังไม่ได้คิดถึงขั้นนั้น และยังไม่ถึงเวลา ไม่ควรถามดักหน้าดักหลัง เพราะไม่เกิดประโยชน์ใดๆ ทั้งสิ้นในขณะนี้ เพราะเวลานี้ต้องทำวันนี้ให้ดีที่สุด


นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หลังจากนี้จะเตรียมการจะลงพื้นที่ตรวจราชการมากขึ้น เนื่องจากสถานการณ์โควิดดีขึ้น โดยยึดหลักความปลอดภัยของทุกฝ่าย ซึ่งตนก็ต้องระมัดระวังตนเองให้มาก และยินดีที่จะไปเยี่ยมประชาชนทุกคน โดยขณะนี้เกิดน้ำท่วมในหลายพื้นที่ และมอบหมายให้รัฐมนตรีลงพื้นที่ไปแล้ว ยืนยันว่า รัฐบาลทำหน้าที่ฝ่ายบริหาร ส่วน ส.ส.ทำหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติที่รับฟังปัญหาจากประชาชนมาสะท้อนสู่รัฐบาล ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกัน ส่วนบางเรื่องก็ให้เป็นหน้าที่ของส.ส. และสภาฯ ที่ต้องดำเนินการ

นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า การเมืองกับการบริหารไม่ได้แยกจากกัน เพราะในทางปฏิบัติแยกไม่ได้อยู่แล้ว นายกรัฐมนตรีต้องรับฟังสภาฯ และนโยบายต้องตอบสนองการเมือง เพราะเวลาที่รัฐบาลออกนโยบายต่างๆ ก็รับฟังมาจากความคิดเห็นและปัญหาจากส.ส.ที่รับฟังมาจากประชาชน จากนั้นจึงนำมาสู่การขับเคลื่อน

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การเตรียมลงพื้นที่ ไม่ได้เป็นการเตรียมพร้อมรองรับเลือกตั้งในอนาคต แต่เพื่อไปดูความคืบหน้าแผนการโครงการการต่างๆที่อนุมัติไปแล้ว การใช้จ่ายงบประมาณ ทั้งงบฯเงินกู้และงบฯของรัฐ ว่าเกิดประโยชน์มากน้อยเพียงใด และไปรับฟังความต้องการของประชาชนในพื้นที่ โดยยินดีพบและรับฟังปัญหาจากส.ส.ทุกพรรค เพราะรัฐบาลเป็นของประชาชนทั้งประเทศ จึงไม่แบ่งแยกว่าเป็นพรรคใด


ช่วงท้าย ผู้สื่อข่าวถามว่า ชุดข้าราชการที่ใส่ในวันนี้ (13 ก.ย.) เป็นชุดใหม่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ชุดเก่าหลวม เพราะผอมลง แต่ยืนยันไม่ได้เป็นเพราะความเครียด .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง