fbpx

เปิดเบื้องลึก นายกฯ สั่งปลด “ธรรมนัส”

กรุงเทพฯ 10 ก.ย.-นายกฯ ลั่นปรับ “ธรรมนัส” ออกจากตำแหน่ง ขณะที่เจ้าตัวแถลงลาออก พร้อมกับบอกว่าเดินไปในทิศทางเดียวกันกับนายกฯ ไม่ได้


เมื่อวานนี้ (9 ก.ย.) เกิดข่าวใหญ่ในวงการการเมือง หลังจากที่ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า เปิดแถลงข่าวเมื่อเวลาประมาณ 15.30 น. เกี่ยวกับการลาออกจากรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ท่ามกลางกระแสข่าวปัญหาความภายในพรรคพลังประชารัฐและขัดแย้งกับนายกรัฐมนตรี

ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า ชี้แจงเหตุผลที่ลาออกว่า รู้สึกอึดอัดใจกับการบริหารราชการแผ่นดินไม่ได้เป็นไปตามที่คาดการณ์ จึงขอกลับไปอยู่จุดเดิมเป็นเพียงสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดพะเยา เลือกทางเดินด้วยตัวเอง ต้องการทำการเมืองเพื่อประเทศชาติบ้านเมืองจริง ไม่ใช่มารองรับหรือทำอะไรเพื่อคนบางกลุ่ม พร้อมฝากถึงพี่น้องประชาชนทุกจังหวัดว่าวันนี้ตัดสินใจแล้วว่าจะเลือกเส้นทางการเมืองใหม่ โดยเลือกผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน และจะต่อสู้ในเวทีการเมืองอย่างเต็มที่ ซึ่งวันนี้ขอกราบขอโทษประชาชนที่ไม่สามารถทำตามที่ได้สัญญาไว้ได้ทำงานเพื่อพี่น้องประชาชน


เมื่อถามว่าเหตุส่วนหนึ่งเป็นเพราะทำงานกับพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ไม่ได้แล้วหรือไม่? ร้อยเอกธรรมนัส ยอมรับว่า เดินไปในทิศทางเดียวกันไม่ได้ ที่จริงแล้วก่อนลงมติอภิปรายไม่ไว้วางใจมีการหารือกับพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ว่าจะลาออก แต่หัวหน้าพรรคห้ามไว้ แต่ตนก็ต้องขัดคำสั่งหัวหน้าเพราะไตร่ตรองดูแล้วว่า ทางเดินชีวิตตน เดินเพื่อประชาชน ต้องเดินไปอีกไกล ดังนั้นตนตัดสินใจเด็ดขาดด้วยตนเอง

อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นไม่ถึงครึ่งชั่วโมงในการแถลงข่าว ปรากฏว่าราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ประกาศลงนามโดยนายกรัฐมนตรี ซึ่งเนื้อหาภายในนั้นมีข้อความว่า “นายกรัฐมนตรีได้กราบบังคมทูลว่า สมควรให้รัฐมนตรีบางคนพ้นจากความเป็นรัฐมนตรี เพื่อความเหมาะสมและบังเกิดประโยชน์แก่ราชการ จึงได้ให้ 2 รัฐมนตรี พ้นจากตำแหน่ง คือ 1.ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ 2.นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน

หลังจากนั้นผู้สื่อข่าวได้สัมภาษณ์นายกรัฐมนตรีเกียวกับประเด็นดังกล่าว ซึ่งพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ระบุว่า ตนได้ข่าวว่ามีรัฐมนตรีลาออก ซึ่งร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า เคยออกมาพูดไว้ว่าไม่เป็นรัฐมนตรีก็ได้ เพราะเป็น ส.ส.ก็ได้ และที่ผ่านมาก็ช่วยงานกันมาตลอด ซึ่งต่อไปคงเป็นเรื่องของพรรคที่จะหารือกันว่าจะหาใครมา


ส่วนที่ก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรี เคยระบุว่าจะไม่มีการปรับ ครม. ครั้งนี้ถือว่าสถานการณ์เปลี่ยนเป็นการปรับแล้วใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี พยักหน้า และระบุว่า ให้รอดูฟังข่าวอีกข่าว หนึ่งที่จะออกมา

ผู้สื่อข่าวถามว่า การลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯ ของร้อยเอกธรรมนัส ครั้งนี้เป็นการถูกปลดหรือลาออก นายกรัฐมนตรี หยุดคิดแล้วตอบคำถามสื่อว่า “ก็เขาลา จะมายังไง จะไปยังไง เขาก็ลาออกไปแล้ว ผมไม่ตอบ”

ผู้สื่อข่าวยังสอบถาม นายกรัฐมนตรีอีกว่าเป็นผลพวงจากกรณีการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่คิดจะล้มนายกฯ ในสภาหรือไม่ นายกรัฐมนตรี ย้อนกลับผู้สื่อข่าวว่า ข่าวก็มาจากสื่อทั้งนั้น ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี สบายใจขึ้นหรือไม่หลังปรับรัฐมนตรีออก 2 คน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ปรับแล้วเป็นไง…จะให้ปรับออกทั้งหมดเลยหรือไม่

ผู้สื่อข่าวยังถามว่า หลังจากนี้จะทำให้แนวทางของ “3 ป.” เปลี่ยนแปลงไปหรือไม่ เพราะร้อยเอกธรรมนัส เปรียบเป็นทายาททางการเมืองของ 3 ป. นายกฯ ได้ย้อนถามสื่อว่า แล้วยังไง? มันมีเกมอะไรหนักหนา และหลังจากนี้จะเป็นศัตรูกันหรือไม่ นายกรัฐมนตรี ไม่ตอบคำถามสื่อและเดินออกจากโพเดียมทันที

สำหรับร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า อายุ 56 ปี อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็น ส.ส.สังกัดพรรคพลังประชารัฐ โดยที่ผ่านมาผ่านการเมืองมาอย่างโชกเชนก่อนที่จะเข้ามาร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐในปี 2561 จากนั้นได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส.จังหวัดพะเยา และได้รับการแต่งตั้งเป็น รมช.เกษตรและสหกรณ์ อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นได้เข้าไปพัวพันกับข่าวคราวคดียาเสพติดที่ออสเตรเลีย แต่ศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยว่าไม่พ้นสภาพ ส.ส. และการเป็นรัฐมนตรี

ทั้งนี้ ในการประชุมพรรพลังประชารัฐ เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ร้อยเอกธรรมนัส ได้รับเลือกให้เป็นเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ แทนที่ของนายอนุชา นาคาศัย ซึ่งหลังจากนี้ต้องจับตามองว่า การลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีของร้อยเอกธรรมนัส จะส่งผลสะเทือนภายในพรรคพลังประชารัฐมากน้อยเพียงใด.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

“สารวัตรแจ๊ะ” ยื่นฟ้องหมิ่น “ทนายรัชพล” กล่าวหาจับแพะติดคุกฟรีปีกว่า

“สารวัตรแจ๊ะ” พร้อมทนายความ ยื่นฟ้องหมิ่นประมาททนายดัง และฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท ยันไม่ได้นําตัวไปเซฟเฮาส์ ด้านทนายเผยพบหลักฐานทนายคู่กรณีบีบผู้เสียหายกลับคําให้การ แบ่งเงินคนละครึ่ง

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยไทยตอนบนอากาศร้อนจัด-กลางวันฟ้าหลัว

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีอากาศร้อนจัดกับมีฟ้าหลัวตอนกลางวัน แนะหลีกเลี่ยงการทำงานหรือการประกอบกิจกรรมในที่โล่งแจ้งเป็นระยะเวลานาน ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อากาศร้อนจัดบางแห่ง โดยมีฝนฟ้าคะนอง 10%

ญาติคาใจ ตำรวจทำเกินกว่าเหตุ

เหตุการณ์ตำรวจ สภ.จอหอ จังหวัดนครราชสีมา ขับรถกระบะไล่ล่า เฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์คนร้ายคดีลักทรัพย์ จนมีผู้เสียชีวิต 2 ราย ญาติคาใจการทำหน้าที่ของตำรวจว่า น่าจะทำเกินกว่าเหตุ ไม่เป็นไปตามยุทธวิธี ล่าสุด ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา สั่งตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว

คลี่ปมฆ่าโหดหนุ่มไทใหญ่ ทิ้งศพเชียงใหม่

ขมวดปมเข้ามาเรื่อยๆ สำหรับคดีฆ่าโหดใช้ค้อนปอนด์ทุบหัวหนุ่มไทใหญ่ลากขึ้นรถนำศพไปทิ้งที่ อ.แม่ริม เชียงใหม่ ล่าสุดเจ้าหน้าที่แกะรอยกล้องวงจรปิด พบรถที่กลุ่มคนร้ายใช้ขนศพ จ่อออกหมายจับอย่างน้อย 3 คน คาดปมสังหารจากเรื่องทะเลาะวิวาท

ไฟไหม้โกดังพระราม 2 เหตุร้อนจัด สารเคมีติดไฟเอง

กระทรวงอุตสาหกรรม เผยสาเหตุไฟไหม้โกดังย่านพระราม 2 มาจากอากาศร้อนจัด ทำให้สารไทโอยูเรียไดออกไซด์ติดไฟเอง เตือนสถานประกอบการให้แยกสารเคมีที่ติดไฟเองได้หรือสามารถทำปฏิกิริยาออกจากกัน หวั่นเกิดเหตุซ้ำ เพราะอากาศยังคงร้อนจัดต่อเนื่อง