ทำเนียบรัฐบาล 8 ก.ย.-ศบค.แจงยอดผู้ติดเชื้อที่ไม่นำการตรวจรวมกับผลตรวจ ATK ไม่ใช่การปิดบัง ชี้ยอดลดเป็นธรรมชาติการระบาดของโรค พร้อมย้ำป้องกันตัวเสมือนทุกคนติดเชื้อ แม้แต่ตัวเอง
นพ.เศวตสรร นามวาท ผู้อำนวยการกองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค ชี้แจงกรณีการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าใช้การตรวจหาเชื้อน้อยไป จึงส่งผลให้ยอดผู้ติดเชื้อลดลงหรือไม่ ว่า การตรวจหาเชื้อที่ผ่านมา โดยเฉพาะในช่วงเดือนสิงหาคม ที่พบผู้ป่วยมากขึ้น ทำให้มีกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูงเกิดขึ้นตามจำนวน การตรวจหาเชื้อจึงต้องเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย ซึ่งขณะนี้จำนวนผู้ป่วยลดน้อยลง กลุ่มสัมผัสเสี่ยงสูงหรือผู้ใกล้ชิดต่าง ๆ จึงลดลงตามลำดับ
“ถือเป็นธรรมชาติของการระบาดในลักษณะดังกล่าว เมื่อผู้ป่วยลดลง ผู้ที่ต้องการตรวจหาเชื้อก็ลดลง ส่งผลต่ออัตราการตรวจในภาพรวม อย่างไรก็ตาม ภาครัฐยังคงเน้นการตรวจเชิงรุกอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหากมีอาการมีปัญหาเกี่ยวกับทางเดินหายใจ เข้าถึงการตรวจได้ หรือหากไม่มีอาการ แต่ใกล้ชิดผู้ป่วย เป็นผู้สัมผัสก็สามารถเข้ารับการตรวจได้” นพ.เศวตสรร กล่าว
ส่วนกรณีการไม่นำผลตรวจของ ATK มารวมกับจำนวนผู้ติดเชื้อ นพ.เฉวตสรร กล่าวว่า เป็นการพิจารณาตามหลักทางวิชาการที่นิยามคำจำกัดความของผู้ติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งอ้างอิงตามหลักปฏิบัติขององค์การอนามัยโลก ทั้งนี้ การแยกจำนวนผู้ติดเชื้อทั้ง 2 ส่วน ภาครัฐได้ติดตามควบคู่กันไป เพื่อใช้วิเคราะห์แนวโน้มและสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่ได้ปิดบังข้อมูล
นพ.เฉวตสรร กล่าวถึงกรณีนักวิชาการตั้งคำถามเรื่องการรายงานตัวเลขการฉีดวัคซีนของ ศบค.ที่ระบุว่า ไทยสามารถฉีดวัคซีนให้ประชาชน เข็มที่ 1 ถึง 50.5% ว่า การทำงานจะติดตามหลายรูปแบบว่าทำงานใกล้เป้าหมายหรือยัง โดยคำว่า 50% เป็นกระดานอันหนึ่งที่เราอยากจะฉีดให้มีภูมิคุ้มกันหมู่ 70% ของคนประมาณ 70 ล้านคน หรือ 50 ล้านคน เราเดินทางไปถึงครึ่งทางหรือยัง ตัวเลข 50% คือจุดที่เราฉีดเข็ม 1 ประมาณ 25 ล้านคน พร้อมขอบคุณข้อสังเกตและจะนำไปปรับปรุงในการนำเสนอให้มีรายละเอียด อธิบายให้ชัด เพื่อไม่ให้เกิดความสับสน ทั้งนี้ ในภาพรวมคือในส่วนของเข็มที่ 1 ที่เราฉีดไปแล้ว คือ 36% ของประชากร
“สำหรับชาวต่างชาติที่อยู่ในประเทศไทย สามารถลงทะเบียนเข้ารับวัคซีนได้ใน 2 ช่องทาง คือ เว็บไซต์ expatvac.consular.go.th ลงทะเบียนกับกระทรวงการต่างประเทศ และแอปฯ “vaccine บางซื่อ” ของศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ” นพ.เฉวตสรร กล่าว
นพ.เฉวตสรร กล่าวย้ำถึงการป้องกันตัวเองว่า ต้องยึดมาตรการอย่างสูงสุดว่า จุดสำคัญของการควบคุมการระบาด ที่เราผ่านการระบาดในช่วงสูงสุดมานี้ เราเห็นแล้วว่า ในช่วงที่มีผู้ติดเชื้อจำนวนเยอะๆ บางทีสอบสวนหาไทม์ไลน์ก็ไม่ชัดเจน เพราะฉะนั้นที่มาของการป้องกันตัวเองแบบสูงสุดทุกที่ทุกเวลา จึงเป็นจุดสำคัญมาก ถือเสมือนหนึ่งว่าไม่ว่าใครก็ตามที่อยู่ใกล้เรา จะสนิทหรือเป็นคนแปลกหน้าก็อาจเป็นผู้ติดเชื้อแฝงอยู่ หรือแม้แต่ตัวเราเอง แม้จะไม่มีอาการเลย ก็อาจเป็นผู้ติดเชื้อแฝงที่อาจจะกระจายหาคนอื่นได้.-สำนักข่าวไทย