ทำเนียบรัฐบาล 7 ก.ย.-“อนุชา” ให้เป็นหน้าที่มหาเถรสมาคมตัดสินความเหมาะสม 2 พระชื่อดังไลฟ์สด ชี้ความเห็นต่างในสังคม เป็นเรื่องปกติ
นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) กล่าวถึงกรณีพระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ และ พระมหาสมปอง ตาลปุตฺโต สนทนาธรรมผ่านไลฟ์ในโซเชียลมีเดีย ว่า เป็นเรื่องของทางศาสนา ส่วนตนเป็นฆราวาส คงไม่เหมาะสมที่จะวิจารณ์ว่าถูกผิด เหมาะสมหรือไม่ เชื่อว่าเรื่องนี้เป็นกระแสในสังคมที่มีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย เป็นเรื่องปกติ เพราะความคิดของคน ไม่สามารถตัดสินได้
“เป็นเรื่องของมหาเถรสมาคมที่ต้องตัดสินหรือไปดูแลขอบเขตขอบข่ายของการเทศนาและแสดงธรรมเทศนาว่าเหมาะสมหรือไม่อย่างไร สิ่งสำคัญคือเราในฐานะคนพุทธ ศาสนาเป็นเสาหลักที่ยึดถือว่าอย่างยาวนาน ถ้าตรงนี้ยังคงอยู่และเจริญรุ่งเรือง ผมก็คิดว่าความขัดแย้งต่าง ๆ เป็นเรื่องปกติอย่างเสรีในระบอบประชาธิปไตย แต่ทุกอย่างต้องอยู่ในขอบเขตของกฎหมายและความเหมาะสม อยู่ในกรอบของแต่ละส่วน ขออย่าดึงศาสนาลงมาเกี่ยวข้องกับหลายส่วน ๆ เลย ในฐานะฆราวาส อยากเห็นคนไทยอุปถัมภ์ค้ำชูศาสนา ให้เป็นที่พึ่งของบ้านเมือง” นายอนุชา กล่าว
นายอนุชา กล่าวว่า ให้นโยบายกับมหาเถรสมาคม(มส.) ดำเนินการตามกรอบอำนาจหน้าที่ อย่าพยายามไปวิพากษ์วิจารณ์ เพราะ มส.ก็คือฆราวาส และมส.ก็ต้องดูแลเรื่องกิจของสงฆ์ต่าง ๆ ทั้งนี้ มองว่า หากการกระทำต่าง ๆ ไม่มีอะไรแอบแฝงหรือนำศาสนาเข้าไปเกี่ยวข้องหรือแอบแฝง ชักนำความคิดเห็น ต้องให้มส.วิเคราะห์ตัดสินอีกครั้ง
“ทุกอย่างมีความเห็นออกเป็นสองฝ่าย ดังนั้น คนทำต้องคิดได้และคิดออกว่าต้องทำอย่างไร ต้องรู้ว่าทำให้สังคมแบ่งเป็นสองฝ่ายหรือไม่ อยากขอร้องว่าศาสนาเป็นเสาหลัก อยากให้ทุกคนประคับประคองในช่วงที่บ้านเมืองต้องการความสงบสุขสันติ เพื่อให้ชีวิตทุกคนเจริญรุ่งเรืองมีสติปัญญญา” นายอนุชา กล่าว
นายอนุชา กล่าวถึงปัญหาในพรรคพลังประชารัฐ ว่า จบแล้ว ไม่มีปัญหา ทุกอย่างเป็นไปตามวิธีทางของตัวมันเอง ภายในกลุ่มสามมิตรก็ไม่มีอะไรทุกอย่างเหมือนเดิม
“ส่วนกรณีที่ มีกระแสข่าวว่า ส.ว.เตรียมลงมติคว่ำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญถือเป็นสิทธิของส.ว. สำหรับพรรคพลังประชารัฐ ต้องเป็นความคิดเดียวกัน อะไรที่เป็นมติ ก็ต้องเป็นไปตามนั้น” นายอนุชา กล่าว.-สำนักข่าวไทย