แคลงใจผลสอบ“เนตร”ผิดวินัยไม่ร้ายแรง

กรุงเทพฯ 6 ก.ย.-“เชาว์” งงกก.สอบ “เนตร” สรุปผิดวินัยไม่ร้ายแรง ปม ไม่ฟ้องคดีบอส อยู่วิทยา ตอกย้ำความคลางแคลงองค์กรอัยการ หวัง กอ. ประชุม 10 ก.ย. พลิกสำนวน ลงโทษอย่างสาสม ฟื้นศรัทธา-ปฏิรูประบบตรวจสอบภายใน


นายเชาว์ มีขวด อดีตรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ Facebook Chao Meekhuad เรื่องผลสอบนายเนตร นาคสุข ตอกย้ำความคลางแคลงองค์กรอัยการ รอวัดใจ กอ. ฟัน ฟื้นศรัทธา ปชช. มีเนื้อหาระบุว่า  หลังการเปลี่ยนแปลงตัวประธานคณะกรรมการอัยการ เป็นนายพชร ยุติธรรมดำรง  ท่านออกมาประกาศขึงขังจะทำความจริงให้ปรากฏ ฟันไม่เลี้ยงหากพบอัยการคนใดไปเกี่ยวพันกับการค้าสำนวน เข้าด้วยช่วยเหลือคดีนายวรยุทธ หรือ บอส อยู่วิทยา ขับรถชนตำรวจเสียชีวิต ผมก็พอมีความหวังว่า การเอาจริงเอาจังล้างบ้านตัวเอง จะช่วยฟื้นศรัทธาประชาชน ทำให้องค์กรอัยการยืนหยัดได้อย่างมีศักดิ์ศรี สมเป็นทนายแผ่นดินได้ แต่ล่าสุดมีข่าวว่าคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ที่มีนายกายสิทธิ์ พิศวงปราการ กรรมการอัยการผู้ทรงคุณวุฒิ เป็นประธาน สรุปสำนวนว่า นายเนตร  มีความผิดวินัยไม่ร้ายแรง เพราะไม่พบการทุจริต แต่เป็นความบกพร่องในการปฏิบัติหน้าที่ ผมก็เกิดความไม่มั่นใจ และเชื่อว่าสังคมก็เกิดความคลางแคลงสงสัยด้วยเช่นเดียวกัน

“ได้แต่หวังว่าในวันที่ 10 กันยายน ซึ่งจะมีการประชุมคณะกรรมการอัยการ จะพิจารณาเรื่องนี้อย่างรอบคอบ ลำพังแค่จะลงโทษด้วยการงดบำเหน็จหรือไม่เลื่อนขั้นเป็นระยะเวลา 2 ปี และไม่เสนอโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นอัยการอาวุโส ซึ่งหมายถึงต้องพ้นจากราชการก่อนอายุ 70 ปีนั้น ไม่มีความหมายอะไรเลย เนื่องจากเป็นความประสงค์ของนายเนตรอยู่แล้ว เพราะก่อนหน้านี้ได้ยื่นหนังสือลาออกเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม ปีที่แล้ว แต่อัยการสูงสุดระงับการลาออกเอาไว้ สิ่งที่เกิดขึ้นกำลังทำให้ระบบตรวจสอบภายในของอัยการถูกตั้งคำถามมากขึ้น อำนาจอัยการสูงสุด ที่มีมากกว่าคณะกรรมการอัยการ ก็เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่ทำให้ระบบ กอ.ขาดความศักดิ์สิทธิ์ หากต้องการกอบกู้องค์กร ไม่เพียงต้องลากคอคนทำผิดมาลงโทษ ยังต้องลากไส้ให้เห็นว่ามีใครสมรู้ร่วมคิดบ้าง ไม่ว่าบุคคลนั้นจะใหญ่โตแค่ไหนก็ตาม และที่สำคัญถึงเวลาปฏิรูปกระบวนการตรวจสอบภายในของสำนักงานอัยการสูงสุดเสียที” นายเชาว์ระบุ.-สำนักข่าวไทย 


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รถทัวร์โดยสารชนท้ายเทรลเลอร์ เสียชีวิต-บาดเจ็บจำนวนมาก

รถทัวร์โดยสารชนท้ายรถบรรทุกเทรลเลอร์ บนถนนสาย 304 จังหวัดปราจีนบุรี ทำให้ไฟลุกไหม้รถทัวร์โดยสาร เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจำนวนมาก

ชาวบ้านยอมรับค่าเยียวยาหลังละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดิน

ชาวบ้านยอมรับการเยียวยา บ้านละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดินใน จ.ระยอง หลังถมที่สูงมิดหลังคาของเพื่อนบ้าน และรับปากจะเร่งแก้ไขให้ทันหน้าฝนที่จะถึงนี้ แต่ชาวบ้านยังหวั่นใจ หากแก้ไขไม่ทันก็ยังจะเดือดร้อน น้ำจะไหลลงมาบ้านที่อยู่ต่ำกว่า

“พีช” หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายแล้ว

“นายกเบี้ยว” พร้อมลูกชาย หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายก่อนแล้ว จึงฝากจดหมายขอโทษไว้ ด้าน “กัน จอมพลัง” ยอมถอย ให้สองฝ่ายพูดคุย แต่ต้องเป็นรูปธรรม

ข่าวแนะนำ

รวบทันควัน คนร้ายบุกเดี่ยวชิงเงินธนาคาร

จับแล้ว คนร้ายบุกเดี่ยวชิงทรัพย์ธนาคารกลางเมืองเชียงใหม่ ได้เงินสดกว่า 40,000 บาท ก่อนวิ่งหลบหนี ล่าสุดจนมุมตำรวจรวบตัวได้ที่ศาลาริมทางข้างถนน

โป๊ปฟรังซิส สิ้นพระชนม์แล้ว ขณะพระชนมายุ 88 พรรษา

สำนักวาติกัน แถลงผ่านทางโทรทัศน์ของสำนักวาติกันว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกันสิ้นพระชนม์แล้วในวันนี้

Pope inaugurated the Holy Year on Christmas Eve on December 24, 2024

เปิดพระประวัติโป๊ปฟรังซิส

วาติกัน 21 เม.ย.- เว็บไซต์ข่าวโทรทัศน์ซีเอ็นบีซี (CNBC) ของสหรัฐ เปิดพระประวัติที่น่าสนใจ 10 ประการของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกัน ที่สิ้นพระชนม์วันนี้ (21 เม.ย.68) ขณะมีพระชนมายุ 88 พรรษา ประการที่ 1 ทรงเป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันและเยสุอิตคนแรก สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส มีพระนามเดิมว่า ฮอร์เก มาริโอ เบร์โกกลิโอ ประสูติวันที่ 17 ธันวาคม 2479 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา เป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันคนแรกของพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก แตกต่างจากผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปาเกือบ 200 คน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากอิตาลี ทรงมาจากนอกทวีปยุโรปในฐานะพระสันตะปาปาพระองค์ที่ 266 และเป็นนักบวชคณะเยสุอิตคนแรกที่ขึ้นดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปา ประการที่ 2  ทรงมีพื้นเพมาจากอิตาลี แม้ว่าสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสประสูติในอาร์เจนตินา แต่ท่านมีมรดกทางชาติพันธุ์จากอิตาลี จากการที่บิดามารดาเป็นผู้อพยพชาวอิตาลี บิดาทำงานเป็นนักบัญชีในทางรถไฟ ขณะที่มารดาอุทิศตนให้กับการเลี้ยงลูกทั้ง 5 คน ประการที่ 3 ทรงศึกษาด้านเคมีและปรัชญา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสศึกษาปรัชญาและมีปริญญาโทในด้านเคมีจากมหาวิทยาลัยบัวโนสไอเรส ทรงศึกษาในโรงเรียนเทคนิคและได้ฝึกอบรมเป็นช่างเทคนิคเคมี ก่อนเข้าเรียนที่โรงเรียนสอนศาสนาแห่งอัครสังฆมณฑลบิญญา เดโวโต […]