กรุงเทพฯ 3 ก.ย.-ณ เวลานี้ ในสภาฯ มีคะแนนเสียงทั้งหมด 480 คะแนน จากจำนวนจริง 482 คน เนื่องจากมี ส.ส.ภูมิใจไทย ป่วยโควิด 1 คน และ ส.ส.พลังประชารัฐ ต้องกักตัว 1 คน ทำให้วันพรุ่งนี้คะแนนเสียงของฝ่ายรัฐบาลจะหายไป 2 เสียง และหากจะผ่านไว้วางใจไปได้ ต้องได้มากกว่า 240 เสียง
ยังต้องจับตา 10 กว่าชั่วโมง ก่อนจะถึงเวลาโหวตนายกรัฐมนตรี และ 5 รัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้ (4 ก.ย.) ซึ่ง ณ เวลานี้ ในสภาฯ มีคะแนนเสียงทั้งหมด 480 คะแนน จากจำนวนจริง 482 คน เนื่องจากมี ส.ส.พรรคภูมิใจไทย ป่วยโควิด 1 คน และมี ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ต้องกักตัว 1 คน ทำให้ในวันพรุ่งนี้คะแนนเสียงของฝ่ายรัฐบาลจะหายไป 2 เสียง และหากจะผ่านไว้วางใจไปได้ จะต้องได้มากกว่า 240 เสียง
ตรวจสอบเสียงฝั่งรัฐบาล 268 เสียง อยู่ที่พลังประชารัฐมากที่สุด 118 เสียง รองลงมา คือ ภูมิใจไทย 60 เสียง ประชาธิปัตย์ 48 เสียง ชาติไทยพัฒนา 12 เสียง เศรษฐกิจใหม่ 5 เสียง รวมพลังประชาชาติไทย 5 เสียง พลังท้องถิ่นไท 5 เสียง ชาติพัฒนา 4 เสียง รักผืนป่าฯ 2 เสียง และกลุ่มพรรคเล็ก 9 เสียง
ส่วนฟากฝั่งฝ่ายค้านมี 212 เสียง เพื่อไทย 134 เสียง ก้าวไกล 53 เสียง เสรีรวมไทย 10 เสียง ประชาชาติ 7 เสียง เพื่อชาติ 5 เสียง เศรษฐกิจใหม่ 1 เสียง (มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์) พลังปวงชนไทย 1 เสียง และไทยศรีวิไลย์ 1 เสียง
มาย้อนดูผลการลงมติอภิปรายไม่ไว้วางใจ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เมื่อ 2 ครั้งก่อนหน้านี้ ครั้งแรก เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 63 นายกรัฐมนตรีได้รับความไว้วางใจไปด้วยคะแนน 272 เสียง ไม่ไว้วางใจ 49 เสียง และงดออกเสียง 2 เสียง ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 64 ไว้วางใจ 272 เสียง (เท่ากับครั้งแรก) ไม่ไว้วางใจ 206 เสียง และงดออกเสียง 3 เสียง .-สำนักข่าวไทย