เร่งสร้างความเข้าใจปชช.ตามแผนคุมโรคแนวใหม่

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.-โฆษกกอ.รมน. เผยผอ.รมน.กำชับให้เร่งสร้างความรู้ความเข้าใจประชาชน ตามแผนการควบคุมโรคแนวใหม่ที่สมดุล 10 ข้อ ดำเนินชีวิตด้วยความปลอดภัยจากโควิด


พล.ต.ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร(กอ.รมน.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ปัจจุบันมีแนวโน้มทรงตัวและกำลังคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น ผู้ติดเชื้อรายวันมีจำนวนลดลงอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับผู้ที่ได้รับการรักษาพยาบาลจนหายป่วยมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ซึ่งผลดังกล่าวเกิดจากการบูรณาการและประสานความร่วมมือของเจ้าหน้าที่อาสามัครและประชาชนทุกภาคส่วนร่วมกันให้ความช่วยเหลือและป้องกันโรคแก่ประชาชน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผอ.รมน.มอบหมายให้กอ.รมน.ภาคและกอ.รมน.จังหวัด รวมทั้งเครือข่ายมวลชนของกอ.รมน.ทั่วประเทศร่วมสนับสนุนส่วนราชการจังหวัดต่าง ๆ สร้างความรู้ความเข้าใจถึงนโยบายการดูแลการแก้ปัญหาโควิค – 19 ให้ทั่วถึง สามารถเข้าถึงข้อมูลได้โดยง่าย ให้ประชาชนดำเนินชีวิตอยู่ร่วมกับโรคโควิด – 19 อย่างปลอดภัย

โฆษกกอ.รมน. กล่าวว่า สำหรับแผนการควบคุมโรคแนวใหม่ที่สมดุลกับการดำเนินชีวิตที่ปลอดภัย จากโรคโควิด – 19(Smart Control and Living with COVID-19) มีมาตรการ 10 ข้อ ได้แก่ 1. การยกระดับมาตรการป้องกันส่วนบุคคล (D-M-H-T-T-A) เป็นมาตรการการป้องกันแบบครอบจักรวาล (Universal Prevention for Covid – 19) โดยใช้ชีวิตประจำวันอย่างระมัดระวังตัวเองสูงสุด เสมือนว่าผู้คนรอบข้างมีโอกาสเป็นผู้ติดเชื้อทั้งสิ้น การออกจากบ้านเมื่อจำเป็น การเว้นระยะห่าง สวมหน้ากากอนามัยทับด้วยหน้ากากผ้า ล้างมือสม่ำเสมอ หลีกเลี่ยงการใช้มือสัมผัสหน้ากากอนามัย ผู้ที่เป็นกลุ่มเสี่ยงและผู้มีโรคเรื้อรังควรหลีกเลี่ยงการออกจากบ้าน ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อพื้นผิวที่ถูกสัมผัสบ่อย ๆ แยกของใช้ส่วนตัว ทานอาหารร้อน ปรุงสุกใหม่ หากสงสัยว่ามีความเสี่ยงควรตรวจด้วยชุด (ATK) ด้วยตนเองหรือไปรับการตรวจรักษาที่สถานพยาบาลใกล้บ้าน


“2. ทุกคนต้องเข้ารับการฉีดวัคซีนให้เร็วที่สุด โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุสูงและผู้ที่มีกลุ่มเสี่ยงโรคประจำตัว 7 กลุ่มโรคซึ่งปัจจุบันรัฐบาลได้ดำเนินการจัดหาวัคซีนได้จำนวนมาก เพื่อดำเนินการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนตามเป้าหมายประมาณ 140-150 ล้านโดส ภายในสิ้นปีนี้ 3. ประชาชนทุกคนควรจะต้องดำเนินการตรวจโควิคด้วยตนเอง โดยใช้ชุดตรวจ (ATK – Antigen Test Kit) ซึ่งปัจจุบันสามารถเข้าถึงได้ง่ายและราคาถูก และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) จะนำชุดตรวจโควิคด้วยตนเอง มาแจกจ่ายให้กับประชาชนจำนวน 8.5 ล้านโดส ในห้วงเดือนกันยายนนี้” พล.ต.ธนาธิป กล่าว

โฆษกกอ.รมน. กล่าวว่า 4. การสร้างความรู้ความเข้าใจกับโรงงาน สถานประกอบการและแคมป์ก่อสร้าง ให้ปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรคแนวใหม่ ทั้งนี้หากเกิดการแพร่ระบาด สามารถให้เกิดขึ้นในวงจำกัด และมีมาตรการดูแลอย่างครบวงจรตั้งแต่การตรวจคัดกรอง การแยกกัก และการรักษาผู้ป่วย ซึ่งจะทำให้ไม่จำเป็นต้องปิดทั้งโรงงาน การดำเนินการการผลิตบางส่วนสามารถกระทำไปได้โดยไม่สะดุด 5. การสร้างความรู้ความเข้าใจ การจัดการสภาพแวดล้อมของพื้นที่ ที่มีชุมชนแออัดอาจจะทำให้เป็นแหล่งการแพร่ระบาดและเกิดผู้ติดเชื้อเป็นจำนวนมาก(คลัสเตอร์) ด้วยวิธีการคัดกรองการตรวจด้วยชุดตรวจโควิคด้วยตนเอง พร้อมกับการจัดสภาพแวดล้อมและมาตรการอย่างเข้มงวด และมีการตรวจคัดกรองเป็นประจำ เพื่อหยุดการแพร่ระบาดตั้งแต่เริ่มต้น

“6. การใช้องค์ความรู้ถึงการจัดสภาพแวดล้อมของกิจการที่มีความเสี่ยงให้ปราศจากโควิด-19 (Covid-Free Setting) โดยมีองค์ประกอบที่สำคัญ คือ สภาพแวดล้อมปราศจากโควิด – 19 Covid-Free Environment เช่น ระบบระบายอากาศ การจัดสถานที่ไม่ให้มีการแออัด พนักงานปราศจากโควิด Covid-Free Personnel เช่น การเข้าถึงวัคซีน และการตรวจจากชุดตรวจโควิคด้วยตนเอง (ATK) ลูกค้าปราศจากโควิค –19 Covid-Free Customer เช่น การแสดงผลฉีดวัคซีน หรือผลการตรวจจากชุดตรวจโควิดด้วยตัวเอง (ATK) 7. การจัดสถานที่การทำงานไม่ให้แออัดและการเดินทางที่ไม่ปลอดภัย รวมถึงการคัดกรองโรคด้วยชุดตรวจ (ATK) ซึ่งจะเกิดประโยชน์ต่อองค์กรขนาดใหญ่ที่มีพนักงานเป็นจำนวนมาก สามารถป้องกันการแพร่ระบาดในสถานที่ทำงาน และป้องกันการติดเชื้อไปยังครอบครัว ซึ่งจะทำให้เป็นจุดเสี่ยงต่อผู้สูงอายุที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงมีโรคประจำตัว และเด็กที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีน” พล.ต.ธนาธิป กล่าว


โฆษกกอ.รมน. กล่าวว่า 8. การให้ความสำคัญในการจัดกิจกรรม สถานที่ และบริการสาธารณะต่างๆ ภายในมาตรการ 3 C คือ การไม่จัดให้เกิดพื้นที่เสี่ยง 3 ประการได้แก่ “แออัด – ใกล้ชิด – ปิดอับ” (Crowded Places Close-Contact Setting, Confined & Enclosed Spaces) ซึ่งเป็นสภาพแวดล้อมที่เป็นปัจจัยเสี่ยงในการแพร่ระบาดได้สูง 9. การให้ความสำคัญในการจัดบริการควบคุมโรคเชิงรุก การเข้าถึงกลุ่มเสี่ยงและกลุ่มเปราะบางในพื้นที่และชุมชนระบาด ด้วยวิธีการใช้หน่วยเคลื่อนที่ค้นหาเชิงรุก CCRT (Comprehensive COVID-19 Response Team) ทั้งการตรวจคัดกรอง การนำผู้ป่วยออกมารักษา การฉีดวัคซีน โดยเฉพาะกับผู้ป่วยติดเตียง หรือผู้ที่ไม่สามารถขอรับความช่วยเหลือได้ด้วยตนเอง

“10. การใช้ชุดตรวจโควิคด้วยตนเอง (ATK) ด้วยการตรวจคัดกรองเชิงรุกอย่างรวดเร็ว เพื่อให้ได้รับทราบผลการตรวจอย่างรวดเร็ว สามารถแยกผู้ป่วยและผู้ที่มีความเสี่ยงได้ทันที ซึ่งจะทำการรักษาผู้ป่วยได้อย่างรวดเร็ว รวมไปถึงการสร้างระบบแยกกับที่บ้านและที่ชุมชน (Home Isolation & Community Isolation) กรณีที่ผู้ป่วย ที่ไม่มีอาการหรืออาการไม่รุนแรง ซึ่งจะทำให้ผู้ป่วยมีอาการหนักพอปานกลาง สามารถเข้ารับการตรวจได้รวดเร็วขึ้น บรรเทาภาระของการครองเตียง ซึ่งจะทำให้มีโอกาสรักษาหายเป็นปกติได้เร็วยิ่งขึ้น” พล.ต.ธนาธิป กล่าว

โฆษกกอ.รมน. กล่าวว่า พล.ท.สันติพงศ์ ธรรมปิยะ รองเลขาธิการกอ.รมน. ในฐานะผอ.ศรมน.ประชุมติดตามสถานการณ์การป้องกันและแก้ไขโควิค -19 อย่างใกล้ชิด โดยกำชับให้กอ.รมน.ภาคและกอ.รมน.จังหวัดให้ความสำคัญเร่งด่วนตามนโยบายของผอ.รมน. ใช้ทรัพยากรและเครื่องมือสื่อสารกระจายอย่างทั่วถึงในพื้นที่ ผ่านผู้นำชุมชน สร้างความรู้ความเข้าใจให้กับประชาชนแบบเข้าใจง่าย เพื่อให้ประชาชนใช้ชีวิตในรูปแบบใหม่ ซึ่งถือว่าจะเป็นการลดยอดของผู้ติดเชื้อลงได้ โดยขอให้ประชาชนได้ติดตามประกาศและปฏิบัติตามมาตรการของศบค.อย่างเคร่งครัด จึงขอเชิญชวนให้ประชาชนทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนได้นำหลักการและแนวคิดการควบคุมโรคแนวใหม่ไปปรับใช้กับองค์กร ชุมชน และครอบครัว เพื่อจะส่งผลให้โรคติดต่อร้ายแรงนี้ได้หายไปจากประเทศ และคนในชาติจะกลับมาใช้ชีวิตความเป็นอยู่ได้อย่างปกติสุขต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

น้ำทะลักท่วม 4 ชุมชนริมน้ำแม่สาย เดือดร้อนหลายร้อยครัวเรือน

เชียงราย 28 ก.ค. – สถานการณ์น้ำท่วมแม่สายยังวางใจไม่ได้ หลังมวลน้ำจากต้นน้ำแม่สายที่เมียนมา สูงขึ้นต่อเนื่องตลอดทั้งวัน จนน้ำสายทะลักท่วมบ้านเรือนประชาชน 4 ชุมชน ชาวบ้านเดือดร้อนหลายร้อยครัวเรือน บริเวณสะพานมิตรภาพแม่น้ำสายแห่งที่ 1 เจ้าหน้าที่นำรถแบ็กโฮแขนยาวมาตักเศษไม้เศษสวะที่ขวางทางน้ำ ซึ่งระดับน้ำในลำน้ำสายที่กั้นพรมแดนไทย-เมียนมา เพิ่มสูงจนเกือบล้นขึ้นมาบนสะพานแล้ว แต่ยังอยู่ต่ำกว่าแนวป้องกันน้ำท่วมที่ทางกรมการทหารช่างสร้างไว้ แต่น้ำไหลเชี่ยวกราก พัดเอาเศษไม้เศษขยะซัดกระแทกสะพานอย่างอย่างต่อเนื่อง โดยน้ำในลำน้ำสายทรงตัวสูงมาหลายชั่วโมงแล้ว หลังทะลักเข้าท่วมหลายชุมชนชายแดนแม่สายซ้ำรอยปีที่แล้ว แม้ระดับน้ำและสถานการณ์ยังไม่หนักเท่า แต่ต้องเฝ้าระวัง ขณะที่ทางฝั่งจังหวัดท่าขี้เหล็ก ของเมียนมา กำลังถูกน้ำท่วมหนัก จนต้องปิดด่านชายแดนไปก่อน และน้ำที่ผ่านไหลสะพานตอนนี้ ถือว่าเป็นมวลน้ำก่อนใหญ่ก้อนสุดท้ายที่ไหลมาจากต้นน้ำที่หมู่บ้านโจตาดา ประเทศเมียนมา ที่อยู่ห่างจากสะพานมิตรภาพแม่น้ำสายแห่งที่ 1 ไปกว่า 30 กิโลเมตร หากผ่านพ้นค่ำคืนนี้ไปได้และไม่มีฝนตกหนักทางต้นน้ำน่าจะพอเบาใจได้ นายอำเภอแม่สายบอกว่า ตอนนี้อพยพประชาชนกลุ่มเปราะบาง ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียงไปอยู่ตามศูนย์พักพิงและพื้นที่ปลอดภัยแล้ว.-สำนักข่าวไทย

น้ำยืนเดือด ระเบิดตก 8 ลูก วัวตาย 1 ตัว

อุบลราชธานี 28 ก.ค. – ตลอดช่วงบ่ายที่ผ่านมา พื้นที่ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ยังมีรายงานเสียงปืนใหญ่ดังต่อเนื่อง จรวด BM 21 จำนวน 8 ลูก ข้ามตกข้ามมายังฝั่งไทย ทำให้พื้นที่การเกษตรเสียหาย วัวของชาวบ้านตาย 1 ตัว ช่วงบ่ายที่ผ่านมา จรวด BM 21 จำนวน 8 ลูก ตกยังพื้นที่สวนปาล์ม จากนั้นเจ้าหน้าที่เดินทางเข้าไปตรวจสอบพบความเสียหายจากแรงระเบิดหลายจุด อีกทั้งยังทำให้วัวตาย 1 ตัว ด้านเจ้าของวัวได้ให้ข้อมูลว่า แถวหมู่บ้านไม่เคยพบกระสุนเข้ามาตกในพื้นที่ ขณะเกิดเหตุตนกำลังเกี่ยวหญ้าให้วัว ได้ยินเสียงระเบิดดังสนั่น รู้สึกตกใจมาก รีบวิ่งไปดูวัว ซึ่งต่อมาได้ตายระหว่างเคลื่อนย้ายอพยพ อีกทั้งเป็นที่น่าสังเกตว่าเวลา 15.00 น. ซึ่งมีการเริ่มการเจรจาระหว่างรัฐบาลไทยและรัฐบาลกัมพูชา ที่ประเทศมาเลเซีย เสียงปืนได้สงบลงประมาณ 1 ชั่วโมง หลังจากนั้นเมื่อเวลา 16.00 น. ก็เริ่มได้ยินเสียงปืนใหญ่ดังกึกก้องต่อเนื่องอีกครั้ง ส่วนบรรยากาศในตลาดสดแห่งหนึ่งในพื้นที่ปะทะ ยังมีกลุ่มพ่อค้าจิตอาสาช่วยกันจัดเตรียมอาหาร เพื่อนำอาหารไปแจกจ่ายแก่ผู้นำชุมชนรวมถึงเจ้าหน้าที่ โดยได้ตั้งโรงครัว […]

ไทย-กัมพูชา เห็นพ้องหยุดยิงคืนนี้เวลา 24.00 น.

มาเลยเซีย 28 ก.ค.-ผลหารือสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา เห็นพ้องหยุดยิงคืนนี้ เวลา 24.00 น. และกลับไปใช้กลไกทวิภาคีแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง แถลงการณ์ร่วมต่อสื่อมวลชนเกี่ยวกับการประชุมพิเศษที่มาเลเซียเป็นเจ้าภาพ เพื่อหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบันระหว่างกัมพูชาและไทย รัฐบาลของประเทศมาเลเซีย กัมพูชา และไทย ได้ออกแถลงการณ์ร่วมฉบับนี้ ภายหลังจากการประชุมพิเศษที่จัดขึ้น ณ เมืองปูตราจายา ประเทศมาเลเซีย โดยมีนายกรัฐมนตรี ดาโต๊ะ ซรี อันวาร์ อิบราฮิม เป็นประธาน เจ้าภาพ และผู้ร่วมสังเกตการณ์ พร้อมด้วยนายกรัฐมนตรีสมเด็จมหาบวรธิบดี ฮุน มาแนด แห่งกัมพูชา และรองนายกรัฐมนตรีรักษาการนายกรัฐมนตรีของไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย โดยมีสหรัฐอเมริกาเป็นผู้ร่วมจัด และสาธารณรัฐประชาชนจีนเข้าร่วมอย่างแข็งขัน เพื่อส่งเสริมการแก้ไขสถานการณ์ด้วยสันติวิธี นายกรัฐมนตรีฮุน มาแนด และรองนายกรัฐมนตรีภูมิธรรม เวชยชัย ได้แสดงจุดยืนและความตั้งใจที่จะหยุดยิงโดยทันที และคืนสู่สภาวะปกติ ประธานาธิบดีโดนัลด์ เจ. ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา ได้ติดต่อกับผู้นำของทั้งสองประเทศเพื่อเรียกร้องให้หาทางออกอย่างสันติ ส่วนฝ่ายจีนก็ได้ติดต่ออย่างใกล้ชิดกับกัมพูชา ไทย มาเลเซีย และประเทศที่เกี่ยวข้อง เพื่อส่งเสริมการเจรจา การหยุดยิง และการฟื้นฟูสันติภาพ การมีส่วนร่วมและความร่วมมือของทุกฝ่ายสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นร่วมกันในการสร้างสันติภาพ […]

ทหารไทยบึ้มเสาสัญญาณเครือข่าย smart

ศรีสะเกษ 28 ก.ค.-เปิดภาพทหารไทยบึ้มเสาสัญญาณเครือข่าย smart ใช้โดรนทิ้งบอมบ์ที่ตั้งทางทหารกัมพูชา พื้นที่ภูมะเขือ เมื่อวันที่ 28 ก.ค. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา พื้นที่ภูมะเขือ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ภายหลังทหารไทยเข้ายึดพื้นที่ได้ทั้งหมด และมีการทำลายกระเช้าและบันได ที่ทหารกัมพูชาใช้เป็นเส้นทางในการขึ้นมาบนภูมะเขือ ล่าสุดทหารไทยใช้ระเบิดทำลายเสาสัญญาณเครือข่าย smart ของกัมพูชาบนยอดภูมะเขือ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ กองทัพบก ยังเผยแพร่คลิปการใช้โดรนทิ้งระเบิดโจมตีที่ตั้งทางทหารของฝ่ายกัมพูชา บริเวณด้านล่างภูมะเขือ.-313.-สำนักข่าวไทย