เร่งสร้างความเข้าใจปชช.ตามแผนคุมโรคแนวใหม่

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.-โฆษกกอ.รมน. เผยผอ.รมน.กำชับให้เร่งสร้างความรู้ความเข้าใจประชาชน ตามแผนการควบคุมโรคแนวใหม่ที่สมดุล 10 ข้อ ดำเนินชีวิตด้วยความปลอดภัยจากโควิด


พล.ต.ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร(กอ.รมน.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ปัจจุบันมีแนวโน้มทรงตัวและกำลังคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น ผู้ติดเชื้อรายวันมีจำนวนลดลงอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับผู้ที่ได้รับการรักษาพยาบาลจนหายป่วยมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ซึ่งผลดังกล่าวเกิดจากการบูรณาการและประสานความร่วมมือของเจ้าหน้าที่อาสามัครและประชาชนทุกภาคส่วนร่วมกันให้ความช่วยเหลือและป้องกันโรคแก่ประชาชน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผอ.รมน.มอบหมายให้กอ.รมน.ภาคและกอ.รมน.จังหวัด รวมทั้งเครือข่ายมวลชนของกอ.รมน.ทั่วประเทศร่วมสนับสนุนส่วนราชการจังหวัดต่าง ๆ สร้างความรู้ความเข้าใจถึงนโยบายการดูแลการแก้ปัญหาโควิค – 19 ให้ทั่วถึง สามารถเข้าถึงข้อมูลได้โดยง่าย ให้ประชาชนดำเนินชีวิตอยู่ร่วมกับโรคโควิด – 19 อย่างปลอดภัย

โฆษกกอ.รมน. กล่าวว่า สำหรับแผนการควบคุมโรคแนวใหม่ที่สมดุลกับการดำเนินชีวิตที่ปลอดภัย จากโรคโควิด – 19(Smart Control and Living with COVID-19) มีมาตรการ 10 ข้อ ได้แก่ 1. การยกระดับมาตรการป้องกันส่วนบุคคล (D-M-H-T-T-A) เป็นมาตรการการป้องกันแบบครอบจักรวาล (Universal Prevention for Covid – 19) โดยใช้ชีวิตประจำวันอย่างระมัดระวังตัวเองสูงสุด เสมือนว่าผู้คนรอบข้างมีโอกาสเป็นผู้ติดเชื้อทั้งสิ้น การออกจากบ้านเมื่อจำเป็น การเว้นระยะห่าง สวมหน้ากากอนามัยทับด้วยหน้ากากผ้า ล้างมือสม่ำเสมอ หลีกเลี่ยงการใช้มือสัมผัสหน้ากากอนามัย ผู้ที่เป็นกลุ่มเสี่ยงและผู้มีโรคเรื้อรังควรหลีกเลี่ยงการออกจากบ้าน ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อพื้นผิวที่ถูกสัมผัสบ่อย ๆ แยกของใช้ส่วนตัว ทานอาหารร้อน ปรุงสุกใหม่ หากสงสัยว่ามีความเสี่ยงควรตรวจด้วยชุด (ATK) ด้วยตนเองหรือไปรับการตรวจรักษาที่สถานพยาบาลใกล้บ้าน


“2. ทุกคนต้องเข้ารับการฉีดวัคซีนให้เร็วที่สุด โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุสูงและผู้ที่มีกลุ่มเสี่ยงโรคประจำตัว 7 กลุ่มโรคซึ่งปัจจุบันรัฐบาลได้ดำเนินการจัดหาวัคซีนได้จำนวนมาก เพื่อดำเนินการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนตามเป้าหมายประมาณ 140-150 ล้านโดส ภายในสิ้นปีนี้ 3. ประชาชนทุกคนควรจะต้องดำเนินการตรวจโควิคด้วยตนเอง โดยใช้ชุดตรวจ (ATK – Antigen Test Kit) ซึ่งปัจจุบันสามารถเข้าถึงได้ง่ายและราคาถูก และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) จะนำชุดตรวจโควิคด้วยตนเอง มาแจกจ่ายให้กับประชาชนจำนวน 8.5 ล้านโดส ในห้วงเดือนกันยายนนี้” พล.ต.ธนาธิป กล่าว

โฆษกกอ.รมน. กล่าวว่า 4. การสร้างความรู้ความเข้าใจกับโรงงาน สถานประกอบการและแคมป์ก่อสร้าง ให้ปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรคแนวใหม่ ทั้งนี้หากเกิดการแพร่ระบาด สามารถให้เกิดขึ้นในวงจำกัด และมีมาตรการดูแลอย่างครบวงจรตั้งแต่การตรวจคัดกรอง การแยกกัก และการรักษาผู้ป่วย ซึ่งจะทำให้ไม่จำเป็นต้องปิดทั้งโรงงาน การดำเนินการการผลิตบางส่วนสามารถกระทำไปได้โดยไม่สะดุด 5. การสร้างความรู้ความเข้าใจ การจัดการสภาพแวดล้อมของพื้นที่ ที่มีชุมชนแออัดอาจจะทำให้เป็นแหล่งการแพร่ระบาดและเกิดผู้ติดเชื้อเป็นจำนวนมาก(คลัสเตอร์) ด้วยวิธีการคัดกรองการตรวจด้วยชุดตรวจโควิคด้วยตนเอง พร้อมกับการจัดสภาพแวดล้อมและมาตรการอย่างเข้มงวด และมีการตรวจคัดกรองเป็นประจำ เพื่อหยุดการแพร่ระบาดตั้งแต่เริ่มต้น

“6. การใช้องค์ความรู้ถึงการจัดสภาพแวดล้อมของกิจการที่มีความเสี่ยงให้ปราศจากโควิด-19 (Covid-Free Setting) โดยมีองค์ประกอบที่สำคัญ คือ สภาพแวดล้อมปราศจากโควิด – 19 Covid-Free Environment เช่น ระบบระบายอากาศ การจัดสถานที่ไม่ให้มีการแออัด พนักงานปราศจากโควิด Covid-Free Personnel เช่น การเข้าถึงวัคซีน และการตรวจจากชุดตรวจโควิคด้วยตนเอง (ATK) ลูกค้าปราศจากโควิค –19 Covid-Free Customer เช่น การแสดงผลฉีดวัคซีน หรือผลการตรวจจากชุดตรวจโควิดด้วยตัวเอง (ATK) 7. การจัดสถานที่การทำงานไม่ให้แออัดและการเดินทางที่ไม่ปลอดภัย รวมถึงการคัดกรองโรคด้วยชุดตรวจ (ATK) ซึ่งจะเกิดประโยชน์ต่อองค์กรขนาดใหญ่ที่มีพนักงานเป็นจำนวนมาก สามารถป้องกันการแพร่ระบาดในสถานที่ทำงาน และป้องกันการติดเชื้อไปยังครอบครัว ซึ่งจะทำให้เป็นจุดเสี่ยงต่อผู้สูงอายุที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงมีโรคประจำตัว และเด็กที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีน” พล.ต.ธนาธิป กล่าว


โฆษกกอ.รมน. กล่าวว่า 8. การให้ความสำคัญในการจัดกิจกรรม สถานที่ และบริการสาธารณะต่างๆ ภายในมาตรการ 3 C คือ การไม่จัดให้เกิดพื้นที่เสี่ยง 3 ประการได้แก่ “แออัด – ใกล้ชิด – ปิดอับ” (Crowded Places Close-Contact Setting, Confined & Enclosed Spaces) ซึ่งเป็นสภาพแวดล้อมที่เป็นปัจจัยเสี่ยงในการแพร่ระบาดได้สูง 9. การให้ความสำคัญในการจัดบริการควบคุมโรคเชิงรุก การเข้าถึงกลุ่มเสี่ยงและกลุ่มเปราะบางในพื้นที่และชุมชนระบาด ด้วยวิธีการใช้หน่วยเคลื่อนที่ค้นหาเชิงรุก CCRT (Comprehensive COVID-19 Response Team) ทั้งการตรวจคัดกรอง การนำผู้ป่วยออกมารักษา การฉีดวัคซีน โดยเฉพาะกับผู้ป่วยติดเตียง หรือผู้ที่ไม่สามารถขอรับความช่วยเหลือได้ด้วยตนเอง

“10. การใช้ชุดตรวจโควิคด้วยตนเอง (ATK) ด้วยการตรวจคัดกรองเชิงรุกอย่างรวดเร็ว เพื่อให้ได้รับทราบผลการตรวจอย่างรวดเร็ว สามารถแยกผู้ป่วยและผู้ที่มีความเสี่ยงได้ทันที ซึ่งจะทำการรักษาผู้ป่วยได้อย่างรวดเร็ว รวมไปถึงการสร้างระบบแยกกับที่บ้านและที่ชุมชน (Home Isolation & Community Isolation) กรณีที่ผู้ป่วย ที่ไม่มีอาการหรืออาการไม่รุนแรง ซึ่งจะทำให้ผู้ป่วยมีอาการหนักพอปานกลาง สามารถเข้ารับการตรวจได้รวดเร็วขึ้น บรรเทาภาระของการครองเตียง ซึ่งจะทำให้มีโอกาสรักษาหายเป็นปกติได้เร็วยิ่งขึ้น” พล.ต.ธนาธิป กล่าว

โฆษกกอ.รมน. กล่าวว่า พล.ท.สันติพงศ์ ธรรมปิยะ รองเลขาธิการกอ.รมน. ในฐานะผอ.ศรมน.ประชุมติดตามสถานการณ์การป้องกันและแก้ไขโควิค -19 อย่างใกล้ชิด โดยกำชับให้กอ.รมน.ภาคและกอ.รมน.จังหวัดให้ความสำคัญเร่งด่วนตามนโยบายของผอ.รมน. ใช้ทรัพยากรและเครื่องมือสื่อสารกระจายอย่างทั่วถึงในพื้นที่ ผ่านผู้นำชุมชน สร้างความรู้ความเข้าใจให้กับประชาชนแบบเข้าใจง่าย เพื่อให้ประชาชนใช้ชีวิตในรูปแบบใหม่ ซึ่งถือว่าจะเป็นการลดยอดของผู้ติดเชื้อลงได้ โดยขอให้ประชาชนได้ติดตามประกาศและปฏิบัติตามมาตรการของศบค.อย่างเคร่งครัด จึงขอเชิญชวนให้ประชาชนทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนได้นำหลักการและแนวคิดการควบคุมโรคแนวใหม่ไปปรับใช้กับองค์กร ชุมชน และครอบครัว เพื่อจะส่งผลให้โรคติดต่อร้ายแรงนี้ได้หายไปจากประเทศ และคนในชาติจะกลับมาใช้ชีวิตความเป็นอยู่ได้อย่างปกติสุขต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

New Zealanders march towards Wellington to protest Indigenous treaty bill

ชาวเมารีเต้นฮากาประท้วงร่าง กม.นิวซีแลนด์

เวลลิงตัน 15 พ.ย.- ผู้คนในหลายเมืองทั่วนิวซีแลนด์เข้าร่วมการเดินขบวนมุ่งหน้าไปยังกรุงเวลลิงตัน เพื่อประท้วงร่างกฎหมายลิดรอนสิทธิของชนพื้นเมือง โดยมีการเต้นฮากาที่เป็นวัฒนธรรมของชาวเมารีในระหว่างการประท้วงด้วย รัฐสภานิวซีแลนด์ผ่านความเห็นชอบในเบื้องต้นเมื่อวานนี้ เรื่องการตีความใหม่สนธิสัญญาอายุ 184 ปี ที่มกุฎราชกุมารอังกฤษกับหัวหน้าชาวเมารีมากกว่า 500 คนลงนามในปี พ.ศ.2383 กำหนดเรื่องการปกครองนิวซีแลนด์ร่วมกัน ซึ่งเป็นแนวทางในการออกกฎหมายและนโยบายของประเทศมาจนถึงปัจจุบัน ความเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้เกิดการชุมนุมประท้วงตามเมืองต่าง ๆ ทั่วนิวซีแลนด์ โดยมีการจัดเดินขบวนเป็นเวลา 9 วันมุ่งไปยังกรุงเวลลิงตัน คาดว่าขบวนจะถึงเมืองหลวงในวันที่ 19 พฤศจิกายน ตำรวจแถลงวันนี้ว่า มีคนประมาณ 10,000 คน เข้าร่วมการเดินขบวนในเมืองโรโตรัว ห่างจากกรุงเวลลิงตันไปทางเหนือราว 450 กิโลเมตร ผู้ประท้วงแต่งกายในชุดชนพื้นเมือง มีการเต้นฮากาที่เป็นวัฒนธรรมของชาวเมารี โดยได้รับการต้อนรับจากคนจำนวนมากที่มาโบกธงเมารีและร่วมร้องเพลง.-814.-สำนักข่าวไทย

วัดอรุณฯ เนืองแน่น นักท่องเที่ยวแห่ร่วมงานลอยกระทง

นักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติแน่นวัดอรุณฯ ร่วมงานประเพณีลอยกระทง 2567 “ลอยกระทง วิถีไทย ปลอดภัย ใส่ใจสิ่งแวดล้อม” มีน้องหมูเด้ง Thai Cuteness นำนักท่องเที่ยวแต่งชุดไทยสืบสานคุณค่าวัฒนธรรม นางสาวไทย(ดินสอสี) ชวนรำวงลอยกระทง 6 ภาษา ผลักดันเทศกาลไทยสู่ World Event หมุดหมายสำคัญของนักท่องเที่ยวทั่วโลก

“เจ๊พัช” ขอโทษรัฐมนตรีน้ำ ยืนยันไม่รู้จักส่วนตัว

“กฤษอนงค์” โพสต์ขออภัยรัฐมนตรีน้ำและคุณพ่อ ปมคลิปเสียงแอบอ้าง พร้อมขอน้อมรับผิดไว้แต่เพียงผู้เดียว แจงเป็นการสนทนาแนวทางส่งเสริมอาชีพเท่านั้น

“จิราพร” มอบทนายนำคลิปเข้าแจ้งจับนักร้องเรียนหญิงอ้างชื่อรีดทรัพย์

ทนายความ “รมต.” นำคลิปเข้าแจ้งจับนักร้องเรียนหญิง อ้างชื่อเรียกรับเงินกลุ่ม “ดิไอคอน” ยืนยันไม่เคยรู้จักกัน

ข่าวแนะนำ

หมายจับกฤษอนงค์

ศาลอนุมัติหมายจับ “กฤษอนงค์” 2 ข้อหา-เตรียมขอหมายค้นบ้านพัก

ศาลอนุมัติหมายจับ “กฤษอนงค์” 2 ข้อหา “กรรโชกทรัพย์ และเป็นตัวกลางเรียกรับสินบน” หลังตำรวจนำสำนวนขอศาลอาญาคดีทุจริตฯ ขออนุมัติหมายจับเมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมา (16 พ.ย.) เตรียมขอหมายค้นบ้านพัก 2 แห่ง ใน กทม. และปทุมธานี

ซูเปอร์มูน

ทั่วโลกแห่ชมซูเปอร์มูนครั้งสุดท้ายของปีนี้

เมื่อคืนที่ผ่านมาผู้คนทั่วโลกมีโอกาสได้ชมดวงจันทร์ที่เรียกว่าซูเปอร์มูนซึ่งเกิดขึ้นเป็นครั้งสุดท้ายของปีนี้