ปิ่นเกล้า 1 ก.ย.-นายกฯ มอบโฆษกรัฐบาลลงพื้นที่ให้กำลังใจผู้ประกอบการ ร้านค้า ห้างสรรพสินค้าเปิดวันแรก เน้นมาตรการ COVID Free Setting สร้างความมั่นใจบริการด้วยความปลอดภัย ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทยอยลดลงสวนทางกับยอดการฉีดวัคซีนเพิ่มรายวัน
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมนางฐนิวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทย ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมร้านอาหาร Copper ณ The Sense ย่านปิ่นเกล้า ต้นแบบร้านอาหารในยุคโควิด-19 ที่เปิดให้บริการภายใต้ COVID Free Setting เว้นระยะห่าง ระบบระบายอากาศที่ดีมีสุขอนามัยและสะอาดปลอดภัย ผู้ประกอบการและพนักงานฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ครบ ตามเกณฑ์และมีการตรวจคัดกรองด้วยชุดตรวจ ATK ซึ่งผู้ประกอบการและพนักงานดีใจได้กลับมาเปิดกิจการเกือบเหมือนปกติ พร้อมขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่เห็นใจและรับฟังเสียงประชาชน ออกมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบธุรกิจรายย่อยร้านอาหารและเครื่องดื่ม
นายธนกร กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีห่วงใยการประกอบอาชีพของพี่น้องประชาชนโดยเฉพาะผู้ประกอบการรายย่อย ธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่ม ปัจจุบันมีผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหาร ประมาณ 300,000 ราย โดยมีมูลค่าทุนจดทะเบียนของนิติบุคคลที่ประกอบธุรกิจร้านอาหารกว่า 1 แสนล้านบาท ซึ่งที่ผ่านมาคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบ “สินเชื่ออิ่มใจ” วงเงิน 2,000 ล้านบาท ช่วยเหลือผู้ประกอบการร้านอาหารหรือเครื่องดื่มที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ ซึ่งได้มีการอนุมัติสินเชื่อไปแล้ว 5,500 ราย รวมวงเงิน 400 ล้านบาท
นายธนกร กล่าวอีกว่า วันนี้เดินทางมาร้านอาหาร Copper ที่เปิดบริการตามมาตรการ COVID Free Environment เป็นร้านอาหารต้นแบบในยุคโควิด-19 ด้วยการยกระดับมาตรการสิ่งแวดล้อม ได้แก่ การเว้นระยะห่าง มีระบบระบายอากาศที่ดี มีสุขอนามัยและสะอาดปลอดภัย ด้านของผู้ประกอบการและพนักงานต้องได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ครบตามเกณฑ์และตรวจคัดกรองด้วยชุดตรวจ ATK สำหรับลูกค้าที่จะใช้บริการ จะตรวจวัดอุณหภูมิ เช็คอินผ่านแอปพลิเคชันไทยชนะ แสดงผลตรวจการได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ตามเกณฑ์ หรือแสดงผลการตรวจ ATK มีการกำกับดูแลโดยสมาคมภัตตาคารไทยและคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ซึ่งมาตรการ COVID Free Environment นี้ ปัจจุบันเป็นการขอความร่วมมือให้ดำเนินการในพื้นที่นำร่องหรือสถานที่ที่มีความพร้อม มุ่งยกระดับมาตรการป้องกันโควิด-19 สำหรับให้กิจการ/กิจกรรมต่าง ๆ เพื่อให้สามารถกลับมาดำเนินการได้อย่างปลอดภัยและยั่งยืน นายธนกร กล่าวว่าช่วงที่ผ่านมาแนวโน้มผู้ติดเชื้อโควิด-19 มีจำนวนลดลง ขณะเดียวกันผู้หายป่วยแล้วเพิ่มจำนวนมากขึ้น รวมทั้งการฉีดวัคซีนที่ทั่วถึงและเพิ่มขึ้นมากขึ้น ขณะนี้มีผู้ได้รับการฉีดวัคซีนแล้วถึง 32 ล้านโดส ซึ่งมาจากความเชื่อมั่นของภาคเอกชน และประชาชนที่มีต่อมาตรการของรัฐ การปรับมาตรการสำหรับ 1 กันยายนนี้ เป็นไปเพื่อให้ภาคธุรกิจ เอกชน กลับมาทำกิจกรรมทางเศรษฐกิจอีกครั้ง มีการเดินทางของประชาชนตามความจำเป็น ซึ่งทั้งหมดนั้นยังต้องเข้มงวดในมาตรการสาธารณสุข นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลจะเดินหน้าเร่งออกมาตรการขับเคลื่อนเศรษฐกิจควบคู่กับการคุมโควิด-19 เพื่อให้ภาคธุรกิจและประชาชนสามารถกลับมาดำเนินชีวิต และประกอบการในรูปแบบปกติใหม่ได้โดยเร็ว.- สำนักข่าวไทย