ทำเนียบรัฐบาล 1 ก.ย.-ศบค.ห่วงเกิดคลัสเตอร์คนงานก่อสร้าง หลังทยอยกลับ กทม. กำชับเข้มงวดทุกพื้นที่ตั้งแต่วันนี้ ยังไม่อนุญาตให้เล่นดนตรีในสถานบันเทิง ขอทุกภาคส่วนร่วมมือตามมาตรการควบคุมโควิดแนวใหม่ ฟื้นฟูเศรษฐกิจ ยันไม่ได้บังคับ ขีดเส้นพร้อม 1 ต.ค.
พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19 : ศบค.) แถลงว่า ที่ประชุมศบค.เตรียมเสนอให้ฉีดวัคซีนในกลุ่มคนอายุ 50 ปีขึ้นไป นอกจากกลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปี ที่เป็นกลุ่มเสี่ยงโควิด19 ทั้งนี้ แม้ตัวเลขผู้ติดเชื้อจะลดลง แต่ยังต้องเฝ้าระวังกลุ่มเสี่ยงต่อเนื่อง และสุ่มตรวจพื้นที่เสี่ยงในทุกจังหวัด ทั้งชุมชน ตลาดสด ตลาดนัด รวมทั้งความเสี่ยงของแคมป์คนงานก่อสร้างเมื่อเปิดแคมป์ คนงานจะเดินทางกลับมา ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจคัดกรอง และเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด โดยระดมฉีดวัคซีนให้คนงานในแคมป์
“ขอย้ำว่าขอให้ตรวจสอบว่าคนงานในแคมป์ฉีดวัคซีนหรือยัง รวมทั้งสถานีบริการโดยสารสาธารณะต้องร่วมกันเฝ้าระวังอย่างเข้มงวดทุกจังหวัดตั้งแต่วันนี้(1 ก.ย.) เป็นต้นไป เบื้องต้นสำหรับแรงงานที่ฉีดไม่ครบ ทางสำนักโยธาธิการจะเป็นเจ้าภาพร่วมกับกระทรวงแรงงานตรวจป้องกันการเกิดคลัสเตอร์แคมป์คนงานขึ้นอีก” ผู้ช่วยโฆษกศบค. กล่าว
พญ.อภิสมัย กล่าวว่า ที่ประชุมศบค.ให้ความเห็นชอบมาตรการควบคุมโรคโควิดแนวใหม่ เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจอย่างปลอดภัย ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.เป็นต้นไป โดยจะมีผล 29 จังหวัดควบคุมสูงสุดและเข้มงวดแล้ว ยืนยันว่าไม่ได้เป็นการบังคับ แต่เป็นการขอความร่วมมือในส่วนสถานประกอบการ ให้กระทำตามแนวทาง 1. เรื่องสุขาภิบาลสิ่งแวดล้อม สามารถเข้าไปศึกษาข้อมูลได้กับเว็บไซต์กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุขว่าต้องทำอย่างไรบ้าง
“2.ส่วนพนักงานในร้านและเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ต้องฉีดวัคซีนและจัดหาชุดตรวจ ATK ตรวจอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งผู้ประกอบการในพื้นที่กทม.และปริมณฑลมีความพร้อม แต่อีก 23 จังหวัดสีแดงเข้มอาจยังไม่พร้อม ต้องขออภัย ส่วนการกระจายฉีดวัคซีน สถานประกอบการที่ยังไม่พร้อม สามารถขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานเกี่ยวข้อง เพื่อให้มีความพร้อมให้ได้ภายในวันที่ 1 ต.ค.นี้ และ 3.ส่วนลูกค้าที่เข้าใช้บริการ ก็อนุญาตให้ผ่อนผันก่อนได้ ยืนยัน มาตรการนี้ เป็นการขอความร่วมมือ ไม่ใช่การบังคับ” ผู้ช่วยโฆษกศบค. กล่าว
พญ.อภิสมัย กล่าวว่า ที่ประชุมศบค.ย้ำมาตรการดังกล่าวต้องพร้อมทั้ง 3 ส่วน คือ สถานที่ พนักงานและลูกค้า ร้านผู้ประกอบการเมื่อทำได้ จะเป็นต้นแบบให้กับพื้นที่อื่น ๆ ต่อไป เน้นในพื้นที่กทม.และปริมณฑลที่มีความพร้อมมากกว่าก่อน ส่วนไหนที่ต้องปรับแก้ก็ค่อยปรับแก้ไขกันไป เพื่อเฟื้นฟูเศรษฐกิจอย่างปลอดภัย และเป็นการเตรียมความพร้อมตลอดเดือนกันยายนเพื่อให้พร้อมจริง ๆ ในเดือนตลาคมนี้ ทั้งนี้ สถานประกอบการที่พร้อม ขอให้เสียสละเป็นร้านต้นแบบนำร่องเลยก็ได้ โดยอาจขึ้นป้ายระบุว่าพนักงานได้รับการตรวจ ATK แล้ว
ส่วนสถานประกอบการที่พร้อมจะเปิดให้เล่นดนตรีด้วยได้หรือไม่ ผู้ช่วยโฆษก ศบค. กล่าวว่า ที่ประชุมศบค.หารือกันแล้ว โดยขอว่าในช่วง 14 วันนี้นับตั้งแต่ 1-14 กันยายนยังไม่อนุญาตให้แสดงหรือเล่นดนตรี เพราะเกรงว่า จะทำให้ลูกค้าอยู่ในร้านนานขึ้นเพื่อฟังดนตรี ขณะที่นักดนตรีที่ไปแสดงจากที่อื่นและเดินทางมาจะเป็นการเสี่ยงที่เป็นจุดแพร่เชื้อได้ ดังนั้น ขอให้รอก่อน ยังไม่สามารถให้ทำได้.-สำนักข่าวไทย