รัฐสภา 1 ก.ย.- เพื่อไทย ชี้นายกฯ บริหารวัคซีนผิดพลาด ล็อกดาวน์ไม่มีแบบแผน ทำไทยเป็นคนป่วยแห่งเอเชีย ตัวเลขหนี้พุ่งสูง เอื้อประโยชน์เจ้าสัวไทยรวยขึ้น จี้ออกจากตำแหน่ง
การประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล เป็นวันที่สอง โดยมีนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่ามาตรการล็อกดาวน์ที่ผ่านมา สร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจ 2 ถึง 3 แสนล้านบาทต่อเดือน เป็นการล็อกดาวน์ไม่มีแบบแผนเยียวยา รัฐบาลยังบอกหากสถานการณ์ไม่คลี่คลาย จะล็อกดาวน์แบบอู่ฮั่นโมเดล ซึ่งถ้าล็อกดาวน์ กทม. และปริมณฑลแบบนั้น กทม.ที่เป็นศูนย์กลางทุกอย่าง เศรษฐกิจจะเดินอย่างไร ถือว่ารัฐบาลเอาแต่พูด แต่ไม่เข้าใจเศรษฐกิจ เพราะจะทำให้มีตัวเลขว่างงานในระบบเกือบล้านคน เด็กจบใหม่หลายล้านคนจะหางานทำไม่ได้ จึงไม่แปลกใจที่เด็กออกมาขับไล่รัฐบาล นี่คือความล้มเหลวการบริหารเศรษฐกิจของนายกรัฐมนตรี ความเสียหายเหล่านี้ต้องใช้เวลาหลายสิบปี เพื่อฟื้นความสามารถการแข่งขันกลับมา ทั้งทีประเทศไทยเคยเป็นเป้าหมายนักลงทุนทั่วโลก แต่ 8 ปีที่ผ่านมาจากการบริหารงานของรัฐบาล ทำให้เราเป็นคนป่วยแห่งเอเชียจากการบริหารผิดพลาดเรื่องวัคซีน จึงไม่สามารถฟื้นตัวเมื่อเศรษฐกิจโลกกลับมาเป็นบวก
นายจุลพันธ์ กล่าวว่า การบริหารงานของนายกรัฐมนตรี ทำให้หนี้ครัวเรือนสูงที่สุดกว่า 90% ทุกครัวเรือน ทุกหมู่บ้านมีแต่หนี้นอกระบบเต็มไปหมด ไม่ต่างอะไรกับการเอาถุงดำมาคลุมหัวคนไทยให้ตาย ขณะที่หนี้ภาคธนาคารก็น่าห่วง ตัวเลขเอ็นพีแอลสูงขึ้นจากการที่ธุรกิจล้ม แต่หนี้ยังอยู่ การมีผู้นำผิดสักคน นำประเทศลงเหว คนไทยยากจน แต่เจ้าสัวกลุ่มหนึ่งรวยขึ้น 8 ปีที่ผ่านมา 10 อันดับคนรวยที่สุดในไทย รวยเพิ่มขึ้นถึง 1.2 ล้านล้านบาท นายกรัฐมนตรีมีแต่ขายฝัน และหลายประเทศนายกรัฐมนตรีประกาศลาออก เพราะบริหารโควิด-19 ผิดพลาด แต่นายกรัฐมนตรีไทย ไม่ออกจากตำแหน่ง ดังนั้นขอไม่ไว้วางใจให้พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯต่อไปและต้องออกจากตำแหน่ง
ขณะที่นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย อภิปรายย้ำถึงความล้มเหลวทางด้านเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยว ที่ได้รับความเสียหายจากความล้มเหลวในการแก้ไขโควิด-19 พร้อมกับเป็นตัวแทนประชาชนฟ้องพล.อ.ประยุทธ์ ว่าผิดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 47 และ มาตรา 55 ว่าด้วยการทำหน้าที่ของรัฐต่อการป้องกันโรคระบาดและการให้ประชาชนได้สิทธิเข้าถึงการรักษา และฟ้องตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่
“ขอให้ตัวแทนนายกรัฐมนตรีเตรียมรับเอกสาร ความโกรธแค้นบรรจุคราบน้ำตาประชาชน ความสิ้นหวังของประชาชน ขอให้หยุดเหยียบเบรคประเทศ เพื่อให้ประเทศเดินหน้า และให้คนอื่นมาเหยียบคันเร่งประเทศไทย ท่านออกไปเถอะครับ” นายจักรพล กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างที่นายจักรพล กล่าวปิดอภิปรายนั้น ส.ส.พรรคเพื่อไทยที่นั่งในบริเวณใกล้เคียง ได้ถือกระดาษที่พิมพ์รูปหน้าของพล.อ.ประยุทธ์ พร้อมข้อความว่า หยุดยุทธ์ แสดงต่อที่ประชุมด้วย.-สำนักข่าวไทย