วิปฝ่ายค้านพอใจภาพรวมอภิปรายวันแรก

รัฐสภา 1 ก.ย.-ประธานวิปฝ่ายค้าน พอใจภาพรวมการอภิปรายของฝ่ายค้าน มองซีกรัฐบาลยังตอบไม่ชัดเจน โดยเฉพาะจัดซื้อวัคซีนซิโนแวคและส่วนต่าง ยืนยันจะตามหาใบเสร็จมาเปิดเผย สังหรณ์ใจนายกฯ ไม่ลาออก อาจถูกปลด

นายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวถึงภาพรวมการอภิปรายไม่ไว้วางใจในวันแรก ว่าฝ่ายค้านกำลังพยายามชี้ให้เห็นถึงคนที่อยู่เบื้องหลัง และคนที่เชื่อมโยงผลประโยชน์ของวัคซีนซิโนแวค แต่กลับถูกห้ามอภิปรายพาดพิงถึงบุคคลภายนอกจากประธานการประชุม ทำให้การอภิปรายมีข้อจำกัด  อภิปรายไม่เต็มที่ ไม่สามารถเปิดข้อมูลได้อย่างเต็มที่ ดังนั้นจึงอยากให้มีการปรับข้อบังคับ เพื่อให้อภิปรายได้เต็มที่ หรือให้สมาชิกฝ่ายค้านปรับวิธีการอภิปรายใหม่


ขณะเดียวกันพอใจในการทำงานของฝ่ายค้าน แต่เมื่อวานนี้ (31 ส.ค.)อาจจะยังไม่เข้มข้น ซึ่งจะเข้มข้นในวันนี้ไปจนถึงวันสุดท้าย  และสิ่งที่รัฐบาลปกปิดข้อมูลผู้ติดเชื้อ ซึ่งพรรคฝ่ายค้านมองว่ามีข้อพิรุธ เนื่องจากมีการตรวจที่น้อยลง และมีการแจกชุด ATK ให้ประชาชนตรวจที่บ้าน และพบมีการติดเชื้อจำนวนมาก ซึ่งมองว่ามีผู้ติดเชื้อนอกระบบอีกจำนวนมาก ตัวเลขในระบบจึงน้อยลง เป็นการตกแต่งตัวเลขอำพรางสถานการณ์โควิด

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังตอบคำถามแบบไม่ชัดเจน ยังยืนยันว่า ทำงานได้ดี แก้ปัญหาได้ดี ฐานะการเงินการคลังยังดี เศรษฐกิจแข็งแรงกำลังฟื้นตัว ซึ่งทำให้เห็นว่านายกรัฐมนตรีไม่ยอมรับความจริง ขณะเดียวกันไม่มีการตอบคำถามเรื่องการซื้อขายวัคซีนซิโนแวค ที่รัฐบาลเคยบอกว่า ซื้อแบบจีทูจี ไม่ต้องเสียภาษี  แต่สิ่งที่ฝ่ายค้านอภิปรายมีการเปิดหลักฐานเรื่องการเสียภาษี ซึ่งจากข้อมูลที่ปรากฎทั้งหมดใครเป็นคนโกหกกันแน่ รัฐบาลยังไม่ยอมรับและกลับมากล่าวหาฝ่ายค้านและคนวิจารณ์ด้อยค่าซิโนแวค จึงอยากถามว่า ทำไมถึงผูกมิตรกับจีน ทำไมไม่ผูกมิตรกับวัคซีนยี่ห้ออื่นๆ และยังมีไม่ใส่ใจในการชี้แจง โดยเฉพาะเรื่องส่วนต่างวัคซีน ที่ ครม. อนุมัติ 17 เหรียญต่อโดส และต่อมามีการจัดซื้อที่ลดลงจนถึง 8.5 เหรียญต่อโดส  แต่ ครม.ยังอนุมัติเงินเท่าเดิม  ซึ่งการตอบคำถามยังไม่มีชัดเจน ตอบเพียงว่าเงินที่เหลือก็เข้าคลังไป ซึ่งฝ่ายค้านจะขอหลักฐานการจ่ายเงิน จะตามใบเสร็จมาแสดงให้ได้ เพราะส่วนต่างเป็นเงินจำนวนมาก แต่มากเท่าไหร่ก็ไม่พอกับความสูญเสียที่เกิดขึ้น


ส่วนกรณีที่มีการตั้งคำถามว่า ฝ่ายค้านใช้คำรุนแรงไปหรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่าเป็นการสะท้อนความรู้สึกที่สอดคล้องกับอารมณ์สังคม และระดับของปัญหาที่เกิดขึ้น นายสุทิน ยังกล่าวถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่าจะไม่ยุบสภา และไม่ปรับ ครม.ว่า การพูดลักษณะนี้สะท้อนถึงความดื้อ โอหังคลั่งอำนาจ เพราะยังฟังไม่จบ ถือว่าปิดฉากการรับรู้เป็นโรคแพ้ไม่เป็น ซึ่งจุดจบมี 2 ทางคือ ถ้าไม่ออกก็จะมีคนทำให้ออก หรือการฆ่าคนตาย ถ้าไม่ฆ่าคนอื่น คนอื่นก็ไปฆ่าตัวเอง แต่สังหรณ์ใจว่าจะมีคนปลดมากกว่า.- สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง