รัฐสภา 1 ก.ย.-นายกฯ เตือนคนแอบอ้างเบื้องสูงให้ระวังตัว ลั่นเข้าเฝ้าถวายข้อราชการเพียงคนเดียว ยันปรับครม.-ยุบสภาไม่มีในหัวสมอง ปลุกกระแสไม่เอานายกฯ ไม่ใช่สภาพบุรุษ ใครเชื่อก็โง่เต็มที
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกระแสข่าวปรับคณะรัฐมนตรี(ครม.) ว่า ยังไม่ปรับครม.และยังไม่ยุบสภาในขณะนี้
“ยังไม่มีอยู่ในหัวสมองของผม ใครที่ออกมาพูดลักษณะนี้ขอให้ระวังตัวไว้ด้วย เพื่อสร้างความตระหนักในการอภิปรายอะไรก็แล้วแต่ เพราะผมติดตามข่าวจากสื่อมาตลอด ถ้ามีคนทำเช่นนั้นจริง ผมคิดว่าเป็นคนใช้ไม่ได้” นายกรัฐมนตรี กล่าว
ส่วนได้พูดคุยกับพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐแล้วหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คุยกันแล้ว ซึ่งพล.อ.ประวิตรยืนยันว่าไม่มีปัญหาอะไร คุยกันภายในพรรคเรียบร้อยแล้ว แต่ยังมีการปล่อยข่าวพวกนี้ออกมา ตนและพล.อ.ประวิตรก็ไม่สบายใจ
เมื่อถามย้ำว่าแรงกระเพื่อมในพรรคพลังประชารัฐที่เป็นแกนนำรัฐบาล จะเป็นปัญหาหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ไม่ได้มองว่าพรรคใดจะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล แต่คิดว่าสมาชิกทุกคนต้องเข้มแข็ง ยึดมั่นในข้อเท็จจริง หากใครจะกล่าวอะไรทั้งหมด ก็ขออย่าเชื่อ
“ถ้าสงสัยถามนายกฯ ได้ทุกคน นายกฯ อาจจะห่างเขาบ้าง เนื่องจากทำงานคนละบทบาท แต่ผมยินดีให้คำปรึกษา ผมก็เน้นย้ำมาโดยตลอดว่าการทำงานอะไรเกี่ยวกับงบประมาณต้องให้โปร่งใส และถึงมือประชาชนอย่างแท้จริง ส่วนเรื่องที่จะมีใครไปทุจริตต้องไปสอบตามกระบวนการ ขอให้ช่วยกันดูไม่ว่าพรรคใดก็ตาม ผิดมา ผมก็ไม่ไหว ช่วยไม่ได้ เพราะยืนยันแล้วว่าจะต้องไม่ทุจริต” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้มีข่าวอยู่ 2-3 เรื่อง คือการโหวตล้มนายกรัฐมนตรี ถ้าเป็นเรื่องจริง ถือว่าไม่เป็นสุภาพบุรุษ เพราะเวลานี้ไม่ใช่เวลาที่จะทำเช่นนั้น ทำไปเพื่ออะไร ตนเข้ามา ตนก็ทำงาน 100% ทุกเรื่อง เพราะฉะนั้นการที่จะรวมคะแนนเสียงโหวต ซึ่งจริงหรือไม่จริง ตนไม่ทราบ แต่ถือว่าไม่ใช่สุภาพบุรุษ ถ้าทำแบบนั้น ส่วนเรื่องที่สองที่มีข่าวว่า ตนจะยุบสภา ทุกคนก็ตื่นตระหนกกันไปหมด ยืนยันว่าเป็นการแอบอ้างทั้งสิ้น
เมื่อถามย้ำว่า ได้พูดคุยกับพล.อ.ประวิตรหรือไม่ว่ามาบีบทำไม นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่ได้ถามอย่างนั้น แต่ถามว่ามีข่าวอย่างนี้จริงหรือไม่ ว่าไปอ้างแล้วพูดกันเรื่อยเปื่อย
เมื่อถามย้ำว่า พล.อ.ประวิตรให้ความมั่นใจนายกรัฐมนตรีหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประวิตรยืนยันมาโดยตลอด และตนก็คุยกับพล.อ.ประวิตรตั้งแต่มีกระแสข่าว พล.อ.ประวิตรก็ระบุว่าจะสอบให้ สืบให้
“เมื่อสอบมาก็รายงานผมว่าเป็นเรื่องไม่ดี อาจจะหลบหู หลบตาอะไรหรือเปล่าก็ไม่รู้ วันนี้ผมก็ต้องตามหมดว่าพรรคร่วมรัฐบาลมีด้วยหรือไม่ ซึ่งหัวหน้าพรรคจะช่วยกัน ยืนยันว่าจะไม่มียุบสภา เรากำลังทำงานหนักอยู่ งานสำคัญอยู่แล้วจะยุบสภาไปทำไม จะยุบได้อย่างไร ส่วนกรณีแอบอ้างเปลี่ยนตัว แอบอ้างเบื้องสูง ถือเป็นความผิดร้ายแรง ผมคนเดียวเท่านั้น ที่ได้มีโอกาสถวายข้อราชการ คนอื่นไม่มี โอเคไหม ชัดเจนไหม” นายกรัฐมนตรี กล่าว
เมื่อถามถึงกรณีพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยถูกพรรคพลังประชารัฐทวงคืนเก้าอี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เอาไปทำอะไร เอาไปทำเพื่อเกิดประโยชน์สูงสุดกับประเทศชาติหรือไม่ ส่วนจะมีการเปลี่ยนตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยหรือไม่ พูดไปแล้ว
“จะอยู่ครบเทอมกับพรรคร่วมรัฐบาล ผมบอกกับหัวหน้าพรรค 3-4 พรรค ว่าเราต้องอยู่กันไปให้ได้ก่อนในช่วงนี้ วันหน้าเป็นเรื่องของวันหน้า เรื่องเลือกตั้งก็อีกเรื่องหนึ่ง วันนี้ผมไม่ทราบว่ามีกระบวนการเหล่านี้เกิดขึ้นจริงหรือไม่ แต่ขอร้องว่าการทำอะไรที่ไม่ถูกต้อง ทำสิ่งที่ไม่ดี มันก็เป็นเรื่องของกรรม อันนั้นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง วันหน้าถ้าผมดูแล้วมันใช่ มันจริง แล้วผมจะทำอะไรได้บ้าง” นายกรัฐมนตรี กล่าว
ส่วนได้หารือกับพรรคเล็กแล้วหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่ได้คุยโดยตรง ซึ่งพรรคเล็กพรรคน้อยก็คุยกับหัวหน้าพรรคทั้ง 3 พรรค คุยกันหมด ตนก็ขอบคุณพรรคเล็ก ไม่ใช่ไม่ให้ความสำคัญ อย่าคิดว่า การทำงานร่วมกับรัฐบาล ประเด็นหลักคือเรื่องงบประมาณ ถ้าอย่างนี้กลับไปที่เดิมหมด อันไหนที่ควรได้ก็ควรได้ อันไหนที่ควรให้ก็ให้ โดยการพิจารณาของข้าราชการ
“ไม่ใช่เขียนอะไรมาก็ได้ พอไม่ได้ก็ไม่พอใจ ได้น้อยก็ไม่ชอบ ซึ่งผมไม่ต้องการให้กลับไปที่เดิม วันนี้ก็เห็นสิ่งต่าง ๆ ที่พัฒนามามากพอสมควรในเกือบทุกจังหวัด ซึ่งทุกจังหวัดได้มากน้อยต่างกันเท่านั้น แต่ต้องทำข้อมูลโครงการให้ถูกต้องตามระเบียบ ตามที่ให้ได้ ถ้าให้ไปส่งเดช แล้วติดคุกทีหลังจะว่าอย่างไร ใครจะยอม ผมก็ไม่ยอม เรื่องที่บอกว่าผมทุจริต ก็ไปตรวจสอบมา บางทีก็พูดเอาสนุกเอามันส์กันในสภา ผมคิดว่าประชาชนเข้าใจมากขึ้น เราจะเดินการเมืองกันแบบเดิมไม่ได้แล้ว นี่คือการปฏิรูปการเมือง ซึ่งต้องเริ่มโดยส.ส.ทุกคน ในเมื่ออาสาสมัครเข้ามาทำงานการเมืองก็ต้องทำงานตามที่ประชาชนเขาไว้ใจะท่านก็เป็น ส.ส.และรัฐมนตรีของคนทั้งประเทศ ไม่ใช่เฉพาะพื้นที่ของท่าน การเมืองแบบเดิมไม่น่าจะเกิดขึ้นอีกแล้ว ต้องทำการเมืองแบบใหม่ ที่ทุกคนพูดคุยกันหารือกัน ช่วยกันทำโครงการไปจนถึงคนในพื้นที่ของตนเอง และพื้นที่อื่น ๆ ไม่ใช่แค่เฉพาะพื้นที่ของัวเอง” นายกรัฐมนตรี กล่าว
ส่วนกรณีการเคลื่อนไหวนอกสภาที่พยายามจะบีบรัฐบาล นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พูดไปแล้วว่ามีเหตุผลอะไรไปอ้าง มีข่าวว่านายกรัฐมนตรีจะยุบสภา ต้องทำให้นายกรัฐมนตรีไม่สามารถยุบสภาได้ เอานายกรัฐมนตรีออกตอนนี้ ซึ่งที่มีข่าวมา คือไม่เอานายกรัฐมนตรีแล้ว ขอว่าเรื่องแบบนี้อย่าไปฟัง ใครเชื่อก็โง่แหละ โง่จริง
เมื่อถามว่าเมื่อคืน(31 ส.ค.) สวดมนต์หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนสวดมนต์ทุกวัน และว่า “มีคนบอกว่า ผมสวดมนต์แล้วเอาเจ้าอาวาสมาเป็นนายกรัฐมนตรีดีกว่า นายกฯ จะตามใจได้หรือไม่” .-สำนักข่าวไทย