เตือนแอบอ้างเบื้องสูงให้ระวัง

รัฐสภา 1 ก.ย.-นายกฯ เตือนคนแอบอ้างเบื้องสูงให้ระวังตัว ลั่นเข้าเฝ้าถวายข้อราชการเพียงคนเดียว ยันปรับครม.-ยุบสภาไม่มีในหัวสมอง ปลุกกระแสไม่เอานายกฯ ไม่ใช่สภาพบุรุษ ใครเชื่อก็โง่เต็มที


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกระแสข่าวปรับคณะรัฐมนตรี(ครม.) ว่า ยังไม่ปรับครม.และยังไม่ยุบสภาในขณะนี้

“ยังไม่มีอยู่ในหัวสมองของผม ใครที่ออกมาพูดลักษณะนี้ขอให้ระวังตัวไว้ด้วย เพื่อสร้างความตระหนักในการอภิปรายอะไรก็แล้วแต่ เพราะผมติดตามข่าวจากสื่อมาตลอด ถ้ามีคนทำเช่นนั้นจริง ผมคิดว่าเป็นคนใช้ไม่ได้” นายกรัฐมนตรี กล่าว


ส่วนได้พูดคุยกับพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐแล้วหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คุยกันแล้ว ซึ่งพล.อ.ประวิตรยืนยันว่าไม่มีปัญหาอะไร คุยกันภายในพรรคเรียบร้อยแล้ว แต่ยังมีการปล่อยข่าวพวกนี้ออกมา ตนและพล.อ.ประวิตรก็ไม่สบายใจ

เมื่อถามย้ำว่าแรงกระเพื่อมในพรรคพลังประชารัฐที่เป็นแกนนำรัฐบาล จะเป็นปัญหาหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ไม่ได้มองว่าพรรคใดจะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล แต่คิดว่าสมาชิกทุกคนต้องเข้มแข็ง ยึดมั่นในข้อเท็จจริง หากใครจะกล่าวอะไรทั้งหมด ก็ขออย่าเชื่อ

“ถ้าสงสัยถามนายกฯ ได้ทุกคน นายกฯ อาจจะห่างเขาบ้าง เนื่องจากทำงานคนละบทบาท แต่ผมยินดีให้คำปรึกษา ผมก็เน้นย้ำมาโดยตลอดว่าการทำงานอะไรเกี่ยวกับงบประมาณต้องให้โปร่งใส และถึงมือประชาชนอย่างแท้จริง ส่วนเรื่องที่จะมีใครไปทุจริตต้องไปสอบตามกระบวนการ ขอให้ช่วยกันดูไม่ว่าพรรคใดก็ตาม ผิดมา ผมก็ไม่ไหว ช่วยไม่ได้ เพราะยืนยันแล้วว่าจะต้องไม่ทุจริต” นายกรัฐมนตรี กล่าว


นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้มีข่าวอยู่ 2-3 เรื่อง คือการโหวตล้มนายกรัฐมนตรี ถ้าเป็นเรื่องจริง ถือว่าไม่เป็นสุภาพบุรุษ เพราะเวลานี้ไม่ใช่เวลาที่จะทำเช่นนั้น ทำไปเพื่ออะไร ตนเข้ามา ตนก็ทำงาน 100% ทุกเรื่อง เพราะฉะนั้นการที่จะรวมคะแนนเสียงโหวต ซึ่งจริงหรือไม่จริง ตนไม่ทราบ แต่ถือว่าไม่ใช่สุภาพบุรุษ ถ้าทำแบบนั้น ส่วนเรื่องที่สองที่มีข่าวว่า ตนจะยุบสภา ทุกคนก็ตื่นตระหนกกันไปหมด ยืนยันว่าเป็นการแอบอ้างทั้งสิ้น

เมื่อถามย้ำว่า ได้พูดคุยกับพล.อ.ประวิตรหรือไม่ว่ามาบีบทำไม นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่ได้ถามอย่างนั้น แต่ถามว่ามีข่าวอย่างนี้จริงหรือไม่ ว่าไปอ้างแล้วพูดกันเรื่อยเปื่อย

เมื่อถามย้ำว่า พล.อ.ประวิตรให้ความมั่นใจนายกรัฐมนตรีหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประวิตรยืนยันมาโดยตลอด และตนก็คุยกับพล.อ.ประวิตรตั้งแต่มีกระแสข่าว พล.อ.ประวิตรก็ระบุว่าจะสอบให้ สืบให้

“เมื่อสอบมาก็รายงานผมว่าเป็นเรื่องไม่ดี อาจจะหลบหู หลบตาอะไรหรือเปล่าก็ไม่รู้ วันนี้ผมก็ต้องตามหมดว่าพรรคร่วมรัฐบาลมีด้วยหรือไม่ ซึ่งหัวหน้าพรรคจะช่วยกัน ยืนยันว่าจะไม่มียุบสภา เรากำลังทำงานหนักอยู่ งานสำคัญอยู่แล้วจะยุบสภาไปทำไม จะยุบได้อย่างไร ส่วนกรณีแอบอ้างเปลี่ยนตัว แอบอ้างเบื้องสูง ถือเป็นความผิดร้ายแรง ผมคนเดียวเท่านั้น ที่ได้มีโอกาสถวายข้อราชการ คนอื่นไม่มี โอเคไหม ชัดเจนไหม” นายกรัฐมนตรี กล่าว

เมื่อถามถึงกรณีพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยถูกพรรคพลังประชารัฐทวงคืนเก้าอี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เอาไปทำอะไร เอาไปทำเพื่อเกิดประโยชน์สูงสุดกับประเทศชาติหรือไม่ ส่วนจะมีการเปลี่ยนตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยหรือไม่ พูดไปแล้ว

“จะอยู่ครบเทอมกับพรรคร่วมรัฐบาล ผมบอกกับหัวหน้าพรรค 3-4 พรรค ว่าเราต้องอยู่กันไปให้ได้ก่อนในช่วงนี้ วันหน้าเป็นเรื่องของวันหน้า เรื่องเลือกตั้งก็อีกเรื่องหนึ่ง วันนี้ผมไม่ทราบว่ามีกระบวนการเหล่านี้เกิดขึ้นจริงหรือไม่ แต่ขอร้องว่าการทำอะไรที่ไม่ถูกต้อง ทำสิ่งที่ไม่ดี มันก็เป็นเรื่องของกรรม อันนั้นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง วันหน้าถ้าผมดูแล้วมันใช่ มันจริง แล้วผมจะทำอะไรได้บ้าง” นายกรัฐมนตรี กล่าว

ส่วนได้หารือกับพรรคเล็กแล้วหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่ได้คุยโดยตรง ซึ่งพรรคเล็กพรรคน้อยก็คุยกับหัวหน้าพรรคทั้ง 3 พรรค คุยกันหมด ตนก็ขอบคุณพรรคเล็ก ไม่ใช่ไม่ให้ความสำคัญ อย่าคิดว่า การทำงานร่วมกับรัฐบาล ประเด็นหลักคือเรื่องงบประมาณ ถ้าอย่างนี้กลับไปที่เดิมหมด อันไหนที่ควรได้ก็ควรได้ อันไหนที่ควรให้ก็ให้ โดยการพิจารณาของข้าราชการ

“ไม่ใช่เขียนอะไรมาก็ได้ พอไม่ได้ก็ไม่พอใจ ได้น้อยก็ไม่ชอบ ซึ่งผมไม่ต้องการให้กลับไปที่เดิม วันนี้ก็เห็นสิ่งต่าง ๆ ที่พัฒนามามากพอสมควรในเกือบทุกจังหวัด ซึ่งทุกจังหวัดได้มากน้อยต่างกันเท่านั้น แต่ต้องทำข้อมูลโครงการให้ถูกต้องตามระเบียบ ตามที่ให้ได้ ถ้าให้ไปส่งเดช แล้วติดคุกทีหลังจะว่าอย่างไร ใครจะยอม ผมก็ไม่ยอม เรื่องที่บอกว่าผมทุจริต ก็ไปตรวจสอบมา บางทีก็พูดเอาสนุกเอามันส์กันในสภา ผมคิดว่าประชาชนเข้าใจมากขึ้น เราจะเดินการเมืองกันแบบเดิมไม่ได้แล้ว นี่คือการปฏิรูปการเมือง ซึ่งต้องเริ่มโดยส.ส.ทุกคน ในเมื่ออาสาสมัครเข้ามาทำงานการเมืองก็ต้องทำงานตามที่ประชาชนเขาไว้ใจะท่านก็เป็น ส.ส.และรัฐมนตรีของคนทั้งประเทศ ไม่ใช่เฉพาะพื้นที่ของท่าน การเมืองแบบเดิมไม่น่าจะเกิดขึ้นอีกแล้ว ต้องทำการเมืองแบบใหม่ ที่ทุกคนพูดคุยกันหารือกัน ช่วยกันทำโครงการไปจนถึงคนในพื้นที่ของตนเอง และพื้นที่อื่น ๆ ไม่ใช่แค่เฉพาะพื้นที่ของัวเอง” นายกรัฐมนตรี กล่าว

ส่วนกรณีการเคลื่อนไหวนอกสภาที่พยายามจะบีบรัฐบาล นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พูดไปแล้วว่ามีเหตุผลอะไรไปอ้าง มีข่าวว่านายกรัฐมนตรีจะยุบสภา ต้องทำให้นายกรัฐมนตรีไม่สามารถยุบสภาได้ เอานายกรัฐมนตรีออกตอนนี้ ซึ่งที่มีข่าวมา คือไม่เอานายกรัฐมนตรีแล้ว ขอว่าเรื่องแบบนี้อย่าไปฟัง ใครเชื่อก็โง่แหละ โง่จริง

เมื่อถามว่าเมื่อคืน(31 ส.ค.) สวดมนต์หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนสวดมนต์ทุกวัน และว่า “มีคนบอกว่า ผมสวดมนต์แล้วเอาเจ้าอาวาสมาเป็นนายกรัฐมนตรีดีกว่า นายกฯ จะตามใจได้หรือไม่” .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดรายชื่อทหาร 3 นาย บาดเจ็บ เหยียบกับระเบิด

สุรินทร์ 27 ส.ค.-เปิดรายชื่อทหาร 3 นาย ที่ได้รับบาดเจ็บ เหยียบกับระเบิด บริเวณเนิน 350 ใกล้ปราสาทตาควาย ขณะออกลาดตระเวน เมื่อวันที่ 27 ส.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากการที่ หน่วยทหารจาก พัน.ร.22 ได้จัดกำลังพลออกลาดตระเวนระหว่างฐานปฏิบัติการ บริเวณหน้าบังเกอร์ 11-12 ด้านทิศตะวันตกของปราสาทตาควาย จังหวัดสุรินทร์ ระหว่างปฏิบัติหน้าที่ได้เหยียบกับระเบิดแสวงเครื่องชนิด PMN-2 ส่งผลให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ได้แก่ 1.พลทหาร อดิสร ป้อมกลาง สังกัดสนาม มว.3 ร้อย.ร.221 บาดเจ็บข้อเท้าขวาขาด ขณะนี้อยู่ระหว่างลำเลียงทางอากาศจาก รพ.พนมดงรัก ไปยัง รพ.สุรินทร์ พร้อมชุด Sky Doctor2.จ.ส.อ. ณัฐพงศ์ สีชิน สังกัดสนาม มว.3 ร้อย.ร.221 ถูกสะเก็ดระเบิดเข้าที่แผ่นหลัง อาการบาดเจ็บเล็กน้อย ส่งกลับเข้ารับการรักษาที่ รพ.พนมดงรัก3.พลทหาร ธรรณ์ณธร เทากระโทก สังกัดสนาม มว.3 […]

มทภ.2 ประณามกัมพูชา หลังทหารไทยเหยียบกับระเบิด

กทม. 27 ส.ค.- มทภ.2 ประณามกัมพูชา ละเมิดข้อตกลงหยุดยิง-อนุสัญญาออตตาวาไม่หยุด หลังทหารไทยเหยียบกับระเบิดข้อเท้าขาด 1 นาย ชี้ทุ่นระเบิดมีโครงสร้างพลาสติก เครื่องตรวจหาไม่เจอ เมื่อวันที่ 26 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวประณามกัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิงและอนุสัญญาออตตาวา ต่อเนื่อง หลังวันนี้ เวลาประมาณ 15.45 น. เกิดเหตุ พลทหาร อดิศร ป้อมกลาง สังกัด กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 23 เหยียบกับระเบิด ขณะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ปราสาทตาควาย อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เบื้องต้นได้รับบาดเจ็บ บริเวณขาขวาท่อนล่างขาด หน่วยในพื้นที่ได้เข้าดำเนินการช่วยเหลือ และนำส่งเพื่อรับการรักษาแล้ว พล.ท.บุญสิน ระบุว่า เนิน 350 ปราสาทตาควาย เป็นพื้นที่ที่ทหารกัมพูชาวางกำลังหนาแน่น และมีทุ่นระเบิดรอบพื้นที่ โดยวันนี้ทหารไทยออกลาดตระเวน ซึ่งเครื่องตรวจวัตถุระเบิดตรวจหาไม่เจอ เนื่องจากทุ่นระเบิดดังกล่าวโครงสร้างเป็นพลาสติก คาดเป็นการวางทุ่นระเบิดใหม่ เบื้องต้นได้ทำหนังสือประท้วงไปทางฝ่ายกัมพูชาแล้ว และเตรียมกำหนดแผนทางการทหารต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

“อดีต ผอ.ขนมจีนน้ำปลา” นอนคุก 20 ปี 60 เดือน หลังศาลฎีกายกคำร้องลดโทษ

สุราษฎร์ธานี 27 ส.ค. – ศาลฎีกายกคำร้องลดโทษ ปิดคดีอดีต ผอ.โรงเรียนบ้านท่าใหม่ จ.สุราษฎร์ธานี ปมให้เด็กอนุบาลกินขนมจีนราดน้ำปลา หลังสู้นาน 5 ปี สุดท้ายรับโทษจำคุก 20 ปี 60 เดือน นายสุชาติ กรวยกิตานนท์ รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช.ภาค 8 เป็นประธานแถลงผลคดีที่กล่าวหาอดีตผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านท่าใหม่ อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี ทุจริตเงินอุดหนุนค่าอาหารกลางวันนักเรียนของโรงเรียนบ้านท่าใหม่ ให้เด็กอนุบาลกินขนมจีนราดน้ำปลา และจัดทำเอกสารหลักฐานเกี่ยวกับการจัดซื้อวัสดุเครื่องบริโภคเพื่อประกอบอาหารกลางวันเป็นเท็จ ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2563 และได้ส่งไปให้อัยการสูงสุด ฟ้องผู้ถูกกล่าวหาต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 8 และมีคำพิพากษาให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิด รวม 77 กระทง จำคุก 192 ปี 6 เดือน เมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้ว คงจำคุก 50 ปี ซึ่งอดีต ผอ.คนดังกล่าว ได้ยื่นอุทรณ์ขอลดโทษ ภายหลังศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษาแก้เป็นว่า การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน […]

ยังไม่พบผู้เสียหายและทำผิดกฎหมาย จากกรณีสแกนม่านตาแลกรับเงิน

ทำเนียบ 27 ส.ค.-รองโฆษกรัฐบาล เผยตรวจสอบล่าสุดยังไม่พบผู้เสียหายและทำผิดกฎหมาย จากกรณีสแกนม่านตาแลกรับเงิน เตือนประชาชนอย่าประมาท นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากกรณีที่ได้ระบุถึงจากข้อมูลของสภาองค์กรของผู้บริโภคที่มีการรายงานว่าพบการชักชวนให้ประชาชนสแกนม่านตาแลกรับเงิน 500-1,000 บาท ในพื้นที่ต่างๆ ของประเทศไทย โดยอ้างถึงว่าจะไปแลกเหรียญคริปโต ซึ่งผู้ที่สแกนม่านตาจะได้รับค่าตอบแทนเป็นเงินรายละ 1,000 บาท ภายใน 24 ชั่วโมง ขณะที่ผู้แนะนำสมาชิกจะได้รับเงิน 500 บาทต่อราย สูงสุดไม่เกิน 10 ราย ล่าสุดมีความคืบหน้าว่า สำนักงานคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPC) ตรวจสอบของตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (สอท.) ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า การดำเนินงานของผู้ให้บริการในปัจจุบันถูกต้องตามกฎหมาย และคล้ายกับการดำเนินการในหลายประเทศ ในปัจจุบัน และได้มีการเตรียมประสานกระทรวงดีอีและหน่วยงานอื่นหามาตราการควบคุมข้อมูลอ่อนไหว และยังไม่พบผู้เสียหายหรือกระทำผิดกฎหมาย ทั้งนี้หากพบการละเมิดหรือนำข้อมูลไปใช้ในทางมิชอบ จะดำเนินคดีทันที นายอนุกูล กล่าวว่า เพื่อสร้างความตระหนักรู้เท่าทันต่อความสำคัญของความปลอดภัยที่เหมาะสม รัฐบาลขอย้ำว่า ข้อมูลส่วนบุคคลทางชีวภาพ ถือเป็นข้อมูลส่วนบุคคลขั้นสูงสุด การยินยอมให้เก็บ หรือสแกนจึงควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงความเสี่ยง ดังนี้ 1. การรั่วไหลของข้อมูล หากข้อมูลรหัส Iris Code […]

ข่าวแนะนำ

ดินถล่มหมู่บ้าน อ.แม่แจ่ม ตาย 3 สูญหาย 6

เชียงใหม่ 27 ส.ค. – ฝนที่ตกหนักจากฤทธิ์ของพายุ “คาจิกิ” ทำให้เกิดดินถล่มในหมู่บ้านปางอุ๋ง ซึ่งอยู่บนดอยสูง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ มีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 ราย บาดเจ็บ 15 ราย และยังสูญหายอีก 6 ราย สภาพหมู่บ้านเต็มไปด้วยดินโคลนที่ถล่มลงมาทับบ้านเรือนเสียหายนับร้อยหลัง. – สำนักข่าวไทย

“มาริษ” แจงข้าหลวงใหญ่ UN ปมกัมพูชา

สวิตเซอร์แลนด์ 27 ส.ค.-“มาริษ” เผยคุยรองข้าหลวงใหญ่ UN ปมไทย-กัมพูชา สัญญาณบวก เข้าใจไทยไม่ทำผิดกติการะหว่างประเทศ ไม่เห็นด้วย “ฮุน เซน” อัดเสียงคุยนายกฯ และการใช้สงครามข่าวปลอม นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เข้าพบหารือกับนางนาดา อัล-นาชิฟ (Nada Al-Nashif) รองข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เพื่อแสดงข้อมูลหลักฐานและชี้แจงข้อเท็จจริงต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างไทยกับกัมพูชา นายมาริษ เปิดเผยภายหลังการหารือว่า ได้เล่าให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ฟังถึงการละเมิดสิทธิมนุษยชนของกัมพูชาในหลายประเด็น ซึ่งรองข้าหลวงใหญ่ฯมีความเห็นที่สนับสนุนประเทศไทยในหลายเรื่อง และมีท่าทีที่เป็นห่วงประเทศไทยมาก ซึ่งตนได้ชี้แจงข้อเท็จจริง โดยเฉพาะการที่กัมพูชาใช้โซเชียลมีเดียโจมตีไทยมานานแล้ว มีการให้ข้อมูลว่าไทยลอกเลียนแบบวัดและประวัติศาสตร์ของกัมพูชา ซึ่งไทยพยายามแก้ไขปัญหานี้ด้วยความอดทนอดกลั้น และพยายามชี้แจงให้เห็นว่าเป็นประวัติศาสตร์ที่ก่อตั้งกันมาจากรากเหง้าทางวัฒนธรรมเดียวกัน ไทยต้องการแก้ไขปัญหาไม่ต้องการแสดงความร้าวฉานระหว่างชุมชนและ ประชาชนของทั้งสองประเทศ และเมื่อปัญหาคุกรุ่นมากขึ้นไทยก็พยายาม แก้ปัญหาด้วยการให้กัมพูชามาพูดคุยแบบทวิภาคี เป็นการอธิบายให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ได้เข้าใจว่าไทยปฏิบัติตามกติกา ยึดถือกฎบัตรสหประชาชาติและกฎหมายระหว่างประเทศ และพยายามหาทางให้กัมพูชามาพูดคุยกับไทย ซึ่งไทยกับกัมพูชามีข้อตกลง MOU43 ที่ทั้งสองประเทศจะต้องแก้ปัญหาร่วมกันอย่างสันติวิธี และด้วยความจริงใจ นับเป็นกลไกที่องค์การสหประชาชาติให้ความสำคัญ คือการเจรจาทวิภาคีโดยสันติและจริงใจ โดยไทยยึดมั่นมาโดยตลอด และเป็นเป้าหมายที่สำคัญของไทย นายมาริษ กล่าวว่าตนได้หยิบยกประเด็นที่สมเด็จฮุน เซน อัดเสียงพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีของไทย และนำมาเผยแพร่ในที่สาธารณะ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง […]

“ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว

ศาลอาญาฯ 27 ส.ค. – “ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว เหตุคดีมีอัตราโทษสูง และมีทรัพย์สินมูลค่าความเสียหายสูง พนักงานสอบสวน กองกำกับการ 5 กองบังคับการป้องกันปราบปราม ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ขอฝากขังครั้งแรก พระราชวิสุทธิประชานาถ หรือนายอลงกต พูลมุข ผู้ต้องหาที่ 1 และนายเสกสันน์ ทรัพย์สืบสกุล ผู้ต้องหาที่ 2 ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 1 ฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยินยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าโดยทุจริต, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 2 ฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่รักษาทรัพย์ใดฯ, เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ซึ่งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางอนุญาตให้ฝากขัง 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 27 ส.ค.- 7 ก.ย.นี้ โดยผู้ต้องหาที่ 1 ไม่ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นนี้ ส่วนผู้ต้องหาที่ 2 […]

พลทหารเหยียบกับระเบิดพื้นที่ปราสาทตาควาย

สุรินทร์ 27 ส.ค.-พลทหารเหยียบกับระเบิด ขณะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ปราสาทตาควาย ขาขวาท่อนล่างขาด เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2568 เวลาประมาณ 15.45 น. เกิดเหตุ พลทหาร อดิศร ป้อมกลาง สังกัด กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 23 เหยียบกับระเบิด ขณะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ปราสาทตาควาย เบื้องต้นได้รับบาดเจ็บ บริเวณขาขวาท่อนล่างขาด หน่วยในพื้นที่ได้เข้าดำเนินการช่วยเหลือ และนำส่งเพื่อรับการรักษาแล้ว รายละเอียดอื่นๆ จะรายงานให้ทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย