รัฐสภา 31 ส.ค.-“ศิริกัญญา” ระบุ นายกฯ คลั่งอำนาจ พาศก.ชาติลงเหว คนตกงาน หนี้ครัวเรือนท่วมประเทศ เมินเฉยรายได้รากหญ้า ปล่อยเกิดความเหลื่อมล้ำ
น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายญัตติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ว่า ไม่ไว้วางใจพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ด้วยข้อกล่าวหาคลั่งอำนาจจนพาเศรษฐกิจชาติต้องลงเหว ขอแสดงความยินดีที่พล.อ.ประยุทธ์ทำให้ประเทศไทยติดอันดับในหลายเรื่อง ทั้งติดอันดับโลกของประเทศที่ฟื้นตัวจากโควิด-19 ช้าที่สุดในโลก ธนาคารแห่งประเทศไทยบอกว่าเศรษฐกิจจะกลับมาโตในแทร็กเดิม ก่อนโควิด-19 อีกครั้งในปี 2570 แต่ถ้าพล.อ.ประยุทธ์ ยังเป็นนายกฯ อยู่ ตนคิดว่าอาจจะต้องนานกว่านั้น
น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า Gallup World Poll จัดอันดับว่าแรงงานไทยถูกลดจำนวนชั่วโมงทำงานมากที่สุดในโลก และมีค่าตอบแทนลดลงมีสัดส่วนสูงที่สุดในโลก ตัวเลขการว่างงานของไทยในไตรมาส 2 ปรากฏว่าอัตราว่างงานลดลงจากไตรมาส 1 ทำให้มีคนว่างงานอยู่ 730,000 คน แต่อัตราการว่างงานของไทยนับคนทำงานแค่ชั่วโมงเดียวด้วย ยังไม่นับคนที่ถูกพักงานจาก โควิด-19 หรือกักตัวด้วย คาดว่าจะสูงถึง 3,400,000 คน ดังนั้นเงินที่รัฐบาลกู้ไปแล้ว 1.5 ล้านล้านบาทนั้น ไม่พอที่จะทำให้เหวรายได้ของประชาชนตื้นขึ้น เพราะถูกใช้ไปอย่างสะเปะสะปะไร้ทิศทาง
“นี่คือความเหลื่อมล้ำที่อัปลักษณ์ที่สุดที่เกิดขึ้นระหว่าง คนจนกับคนรวย คนจนมีปัญหามาก หากต้องการจะตรวจเชื้อ โควิด-19 ก็หาชุดตรวจยาก บางคนติดโควิค-19 ก็ไม่มีเตียง หลายคนต้องเสียชีวิตไปก่อนด้วยซ้ำ ซึ่งคาดว่าคนที่ตายไปจะต้องเป็นคนที่มีรายได้น้อยเป็นแน่ ความอัปลักษณ์นี้เห็นตำตาอยู่ทุกวันว่า สถานการณ์แบบนี้สามารถหลีกเลี่ยงได้แน่นอน ถ้าเราไม่ได้มีผู้นำที่ห่วงอำนาจอย่างทุกวันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ คุมโควิด-19 อย่างอำมหิตมาก เพราะมีเรื่องการบริหารวัคซีนที่ทั้งผิดพลาด ช้าไป น้อยไป และไม่หลากหลาย” น.ส.ศิริกัญญา กล่าว
น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์กอดตัวเลขความสำเร็จทางสาธารณสุข โดยกดตัวเลขติดเชื้อให้เท่ากับศูนย์ แลกกับความล่มสลายของระบบเศรษฐกิจ คราวนี้ระบาดหนัก แต่ล็อกน้อยกว่า และเยียวยาน้อยกว่าเดิม นอกจากนี้ยังมาเยียวยาคนในระบบประกันตน ตามมาตรา 33 เมื่อสายเกินไป เพราะคนงานได้ถูกปลดไปหมดแล้ว ส่วนเงินกู้ก็เอาไปทำโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ หรือคนละครึ่ง และยังถูกละเลงลงจังหวัดอย่างไร้ยุทธศาสตร์
“รายงานความเสี่ยงทางการคลัง ที่จะออกมาในทุกเดือนมีนาคมของทุกปี แต่ปี 2564 ไม่ออก เมื่อสอบถามไปถึงสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีก็ทราบว่า กลายเป็นเอกสารลับ ทั้งที่ไม่มีเหตุผลที่เป็นความลับ ดิฉันจึงตั้งข้อสังเกตว่า อาจจะมาจากสภาพคล่องทางการเงินครั้งที่ไม่มีความแน่นอนจากการจัดเก็บรายได้ หรือจะเป็นเรื่องเงินคงคลังลดต่ำสุดในรอบ 10 ปีใกล้เคียงกับช่วงวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์หรือไม่” น.ส.ศิริกัญญา กล่าว
น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า หลายฝ่ายเสนอแนะแนวทางให้กู้เงินเพิ่ม แต่ดูเหมือนว่าพล.อ.ประยุทธ์ ยังไม่กล้ากู้เงินมาเพิ่มให้ทันกาล ทุกวันนี้ยังไม่กล้าแก้กรอบเพดานหนี้สาธารณะให้เกิน 60% เพราะกลัวโดนโจมตีทางการเมือง กลัวเสียคะแนนนิยม กลัวโดนเพื่อนล้อว่าเก่งแต่กู้ หรือเป็นนักกู้สู้ 10 ทิศ วิกฤตครั้งนี้หนักหนากว่าทุกครั้ง ประชาชนก็จะลืมตาอ้าปากอีกครั้งไม่ได้ ถ้าเราไม่มีมาตรการความช่วยเหลือหรือการอัดฉีดกระตุ้นมากพอ แต่พล.อ.ประยุทธ์กลับไม่ยอมทำสิ่งเหล่านี้เพราะเสี่ยงในทางการเมือง
“นายกฯ ต้องหยุดขโมยอนาคตของประเทศ ตนจึงขอยกตัวอย่างเสนอแนะต่อนายกฯ เช่น กรณีรัฐมนตรีของประเทศมองโกเลีย ลาออก เพราะประชาชนประท้วงที่ไม่สามารถจัดการ โควิด-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นายกรัฐมนตรีของสโลวาเกีย ลาออก เพราะแอบตกลงซื้อวัคซีนจากรัสเซีย ที่สหภาพยุโรปไม่รับรอง รัฐมนตรีอิตาลี ก็ลาออกหลังถูกวิจารณ์ว่า รับมือโควิด-19 ไม่ได้ จนพรรคร่วมรัฐบาลถอนตัว นายกรัฐมนตรีของมาเลเซียก็ลาออก เพราะจัดการโควิด-19 ล้มเหลว กรณีสุดท้ายคือ นายกรัฐมนตรีสวีเดนพ้นจากตำแหน่ง เพราะพ่ายโหวตอภิปราย ไม่ไว้วางใจ” น.ส.ศิริกัญญา กล่าว.-สำนักข่าวไทย