นายกฯ ยืนยันใช้งบฯ เพื่อประโยชน์ประเทศ ไม่ทุจริต

รัฐสภา 31 ส.ค.-นายกฯ ยืนยันรัฐบาลใช้งบฯ อย่างเหมาะสมเพื่อประโยชน์ประเทศ ไม่มีทุจริต พร้อมให้ตรวจสอบเงินทอนวัคซีน ยันไม่ได้สั่งการให้ใช้อาวุธจริงปราบชุมนุม


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ชี้แจงการอภิปรายของพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวช ส.ส.พรรคเสรีรวมไทยถึงการใช้งบประมาณ ว่า เป็นไปตามขั้นตอนและใช้ประโยชน์ในการพัฒนาประเทศอย่างเต็มที่ ตนไม่สามารถสั่งการอะไรได้ และไม่อยากมีปัญหาเรื่องการทุจริตเหมือนที่ผ่านมา การใช้จ่ายงบกลางเป็นไปตามระเบียบ มีการเสนอเข้าสู่คณะรัฐมนตรี(ครม.) และมีการกลั่นกรองการใช้จ่ายงาบประมาณอย่างรอบด้าน สามารถตรวจสอบได้ตามระบบ ซึ่งการจัดงบฯ แบบขาดดุล เพื่อขับเคลื่อนให้ขยายตัวทางเศรษฐกิจ ก่อให้เกิดการใช้เงินในประเทศ ให้ประชาชนใช้เงินอย่างเพียงพอในช่วงนี้ และต้องใช้ลงทุนในต่างประเทศด้วย ส่วนที่ระบุว่ารัฐบาลไม่มีผลงานอะไรเลย ขอให้ไปย้อนดูว่าที่ผ่านมารัฐบาลได้ทำอะไรบ้าง ประเทศเปลี่ยนแปลงไปมาก ยืนยันว่าดูแลประชาชนกลุ่มเปราะบางทุกกลุ่มอย่างสม่ำเสมอ ไม่ได้น้อยไปกว่าเดิม

“ส่วนงบประมาณกระทรวงกลาโหม เป็นไปตามสัดส่วนแต่ละปีงบประมาณในแต่ละปี ในอดีตที่ผ่านมาจะพบว่าสัดส่วนงบประมาณกระทรวงกลาโหมแต่ละปี ไม่ได้มีจำนวนที่สูงมาก หากเปรียบเทียบในต่างประเทศ และอะไรที่ปรับได้ก็จะปรับให้ตามความจำเป็น มีทหารไว้ทำไม เพราะทหารมีความจำเป็น แม้ไม่ได้รบในขณะนี้ แต่ต้องทำหน้าที่อื่น ๆ ทั้งการดูแลชายแดน ความมั่นคงภายใน ภัยพิบัติ แรงงาน สถานการณ์ต่าง ๆและเรื่องโควิด-19 ด้วย ส่วนการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ เป็นไปเพื่อความปลอดภัยในชีวิตของเจ้าหน้าที่ ซึ่งเป็นลูกหลานคนไทย และต้องมีเครื่องมือที่ทันสมัยทดแทนของเดิมที่หมดอายุ ชำรุด ไม่มีประสิทธิภาพ สิ่งสำคัญคือการต้องมีอาวุธทันสมัย เพราะอนาคตไม่มีความแน่นอน อย่าประเมินว่าการรบจะไม่เกิดขึ้น และอาจเริ่มจากเหตุการณ์เล็ก ๆ ก่อน ดังนั้นต้องวางแผนไว้ล่วงหน้า โดยเฉพาะตามแนวชายแดน อย่ามาอ้างว่ามีไว้ทำไม เพราะหากไม่มีแล้วใครจะมารับผิดชอบ หากเกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้น” นายกรัฐมนตรี กล่าว


นายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่า ภาระหนี้เศรษฐกิจถูกส่งต่อมาจากรัฐบาลอื่น แต่รัฐบาลนี้ยืนยันว่าก่อหนี้ในการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน และทำเพื่อประชาชน และขอให้ดูว่าการก่อหนี้ครั้งนี้จะช่วยเหลือประชาชนมากเท่าใด ส่วนนโยบายและมาตรการต่าง ๆ ที่ออกมาเป็นการสร้างฐานเสียงให้ตนเองอยู่ต่ออีกสมัยหรือไม่ เรื่องนี้ขอให้ขึ้นอยู่กับกระบวนการประชาธิปไตย กระบวนการของสภาฯ เพราะตนไม่สามารถไปหลอกใครได้ เพราะขณะนี้ทุกคนเปิดหูเปิดตาในการรับข้อมูลข่าวสารอยู่แล้ว

“ผมไม่รู้กฎหมายทั้งหมด แต่รู้ว่าสามารถจะบังคับใช้กฎหมายอย่างไร ผมรับฟังทุกหน่วยงาน เช่นเดียวกับการแต่งตั้งภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก็ให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเป็นคนพิจารณา เชื่อว่าผมทำได้ดีกว่าที่ผ่านมา ส่วนเรื่องปัญหาการทุจริต ประกาศไปแล้ว ถ้ามองตัวเลขการดำเนินคดี ทั้งข้าราชการระดับสูง ระดับกลาง ระดับล่าง ทั้งไล่ออก ปลดออก มีคดีจำนวนมาก เพราะมีคดีมาก สมัยก่อนมีคดีมากกว่านี้ แต่ไม่ถูกดำเนินคดี คิดแบบนี้ได้หรือไม่ ลองเปรียบเทียบกัน วันนี้มีใครถูกดำเนินคดีติดคุกตลอดชีวิตหรือไม่ หรือสมัยก่อนมี แต่หนีคดี วันนี้มีมั้ย คิดแบบนี้จะได้เป็นธรรมด้วยกันทั้งสองฝ่าย” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การลงทุนต่าง ๆ กำลังเริ่มดำเนินการ ในช่วงไตรมาสนี้ ตั้งแต่ต้นปี มีการลงทุนสูงขึ้นมีวันนี้ต้องใช้โอกาสนี้ที่บ้านเมืองสงบมีเสถียรภาพ ไม่ใช่สนับสนุนให้มีความวุ่นวาย ทุกคนทราบดีว่าเกิดอะไรขึ้น และขณะนี้กำลังตรวจสอบว่าใครอยู่เบื้องหลังที่ทำให้บ้านเมืองเสียหาย ตนไม่ได้ขู่ใคร เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม ที่สำคัญรัฐบาลไม่มีการก้าวล่วงอำนาจตุลาการ หรือศาล


“การที่จะบอกว่าจะไปใช้อำนาจกับประชาชน เด็ก เยาวชน และใช่ที่ที่ควรจะไปหรือไม่ และวันนี้กฎหมายมีทุกตัว และที่บอกว่าผมใช้อาวุธ ผมไม่เห็นตำรวจถืออาวุธจริงซักคน ท่านมองไม่ออกหรอกว่าไหนอาวุธจริง อาวุธปลอมกระสุนยาง มีแต่ตำรวจถูกยิงทุกวัน แล้วทำไมมองว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ความรุนแรง มันขัดแย้งกับความเป็นจริง ขัดแย้งในภาพ เพราะฉะนั้นอย่าเลือกดูภาพในโซเชียล สุดแล้วแต่ฝ่ายใครจะเอาออกมา ยืนยันไม่มีการสั่งการให้ใช้อาวุธจริงทั้งสิ้น” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี ชี้แจงเรื่องที่ถูกกล่าวหาเรื่องเงินทอนการจัดซื้อวัคซีน ว่า ให้ไปหามาว่าใครเป็นผู้ได้รับ ซึ่งตนยอมรับการตรวจสอบทุกเรื่อง ที่ผ่านมามีเรื่องอะไรก็พร้อมชี้แจงตามข้อเท็จจริง และให้ดำเนินการไปตามกระบวนการ ทั้งนี้ เห็นว่าผู้อภิปรายเข้าใจในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง

“ผมไม่มีธุรกิจหรือญาติพี่น้องทำรีสอร์ทใด ๆ ที่ต้องชี้แจง เพราะผู้อภิปรายเป็นรุ่นพี่ ส่วนตัวเคารพอยู่ แต่ในวันหน้าไม่แน่ว่าจะเคารพกันหรือไม่ เพราะทุกวันนี้เด็กก็คิดเป็นแล้ว ยืนยันว่าผมไม่โกรธเคือง เพราะจะให้ฝ่ายค้านมาชมก็เป็นไปไม่ได้ แต่ให้คำนึงถึงความจริง สิ่งที่ผมพูดมาจากหัวใจ และผมมีประสบการณ์มา 6-7 ปี ซึ่งถือเป็นความแตกต่างที่ผมรู้มากกว่า และผมสวดมนต์ทุกวัน ไม่คิดทำผิด ขอให้เชื่อมั่นรัฐบาลทำหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์ เป็นห่วงประชาชน ทุกเรื่องสามารถชี้แจงได้ โดยเฉพาะสถานการณ์โควิด-19 ยืนยันพิจารณาตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นระยะ ส่วนที่ต้องเวิร์ค ฟอร์ม โฮม 14 วัน เพราะใกล้ชิดคนติดโควิด หมอเลยสั่งให้ทำงานที่บ้าน แต่ยืนยันทำงานทุกวันผ่านระบบออนไลน์” นายกรัฐมนตรี กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดรายชื่อทหาร 3 นาย บาดเจ็บ เหยียบกับระเบิด

สุรินทร์ 27 ส.ค.-เปิดรายชื่อทหาร 3 นาย ที่ได้รับบาดเจ็บ เหยียบกับระเบิด บริเวณเนิน 350 ใกล้ปราสาทตาควาย ขณะออกลาดตระเวน เมื่อวันที่ 27 ส.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากการที่ หน่วยทหารจาก พัน.ร.22 ได้จัดกำลังพลออกลาดตระเวนระหว่างฐานปฏิบัติการ บริเวณหน้าบังเกอร์ 11-12 ด้านทิศตะวันตกของปราสาทตาควาย จังหวัดสุรินทร์ ระหว่างปฏิบัติหน้าที่ได้เหยียบกับระเบิดแสวงเครื่องชนิด PMN-2 ส่งผลให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ได้แก่ 1.พลทหาร อดิสร ป้อมกลาง สังกัดสนาม มว.3 ร้อย.ร.221 บาดเจ็บข้อเท้าขวาขาด ขณะนี้อยู่ระหว่างลำเลียงทางอากาศจาก รพ.พนมดงรัก ไปยัง รพ.สุรินทร์ พร้อมชุด Sky Doctor2.จ.ส.อ. ณัฐพงศ์ สีชิน สังกัดสนาม มว.3 ร้อย.ร.221 ถูกสะเก็ดระเบิดเข้าที่แผ่นหลัง อาการบาดเจ็บเล็กน้อย ส่งกลับเข้ารับการรักษาที่ รพ.พนมดงรัก3.พลทหาร ธรรณ์ณธร เทากระโทก สังกัดสนาม มว.3 […]

มทภ.2 ประณามกัมพูชา หลังทหารไทยเหยียบกับระเบิด

กทม. 27 ส.ค.- มทภ.2 ประณามกัมพูชา ละเมิดข้อตกลงหยุดยิง-อนุสัญญาออตตาวาไม่หยุด หลังทหารไทยเหยียบกับระเบิดข้อเท้าขาด 1 นาย ชี้ทุ่นระเบิดมีโครงสร้างพลาสติก เครื่องตรวจหาไม่เจอ เมื่อวันที่ 26 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวประณามกัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิงและอนุสัญญาออตตาวา ต่อเนื่อง หลังวันนี้ เวลาประมาณ 15.45 น. เกิดเหตุ พลทหาร อดิศร ป้อมกลาง สังกัด กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 23 เหยียบกับระเบิด ขณะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ปราสาทตาควาย อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เบื้องต้นได้รับบาดเจ็บ บริเวณขาขวาท่อนล่างขาด หน่วยในพื้นที่ได้เข้าดำเนินการช่วยเหลือ และนำส่งเพื่อรับการรักษาแล้ว พล.ท.บุญสิน ระบุว่า เนิน 350 ปราสาทตาควาย เป็นพื้นที่ที่ทหารกัมพูชาวางกำลังหนาแน่น และมีทุ่นระเบิดรอบพื้นที่ โดยวันนี้ทหารไทยออกลาดตระเวน ซึ่งเครื่องตรวจวัตถุระเบิดตรวจหาไม่เจอ เนื่องจากทุ่นระเบิดดังกล่าวโครงสร้างเป็นพลาสติก คาดเป็นการวางทุ่นระเบิดใหม่ เบื้องต้นได้ทำหนังสือประท้วงไปทางฝ่ายกัมพูชาแล้ว และเตรียมกำหนดแผนทางการทหารต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

“อดีต ผอ.ขนมจีนน้ำปลา” นอนคุก 20 ปี 60 เดือน หลังศาลฎีกายกคำร้องลดโทษ

สุราษฎร์ธานี 27 ส.ค. – ศาลฎีกายกคำร้องลดโทษ ปิดคดีอดีต ผอ.โรงเรียนบ้านท่าใหม่ จ.สุราษฎร์ธานี ปมให้เด็กอนุบาลกินขนมจีนราดน้ำปลา หลังสู้นาน 5 ปี สุดท้ายรับโทษจำคุก 20 ปี 60 เดือน นายสุชาติ กรวยกิตานนท์ รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช.ภาค 8 เป็นประธานแถลงผลคดีที่กล่าวหาอดีตผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านท่าใหม่ อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี ทุจริตเงินอุดหนุนค่าอาหารกลางวันนักเรียนของโรงเรียนบ้านท่าใหม่ ให้เด็กอนุบาลกินขนมจีนราดน้ำปลา และจัดทำเอกสารหลักฐานเกี่ยวกับการจัดซื้อวัสดุเครื่องบริโภคเพื่อประกอบอาหารกลางวันเป็นเท็จ ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2563 และได้ส่งไปให้อัยการสูงสุด ฟ้องผู้ถูกกล่าวหาต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 8 และมีคำพิพากษาให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิด รวม 77 กระทง จำคุก 192 ปี 6 เดือน เมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้ว คงจำคุก 50 ปี ซึ่งอดีต ผอ.คนดังกล่าว ได้ยื่นอุทรณ์ขอลดโทษ ภายหลังศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษาแก้เป็นว่า การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน […]

ยังไม่พบผู้เสียหายและทำผิดกฎหมาย จากกรณีสแกนม่านตาแลกรับเงิน

ทำเนียบ 27 ส.ค.-รองโฆษกรัฐบาล เผยตรวจสอบล่าสุดยังไม่พบผู้เสียหายและทำผิดกฎหมาย จากกรณีสแกนม่านตาแลกรับเงิน เตือนประชาชนอย่าประมาท นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากกรณีที่ได้ระบุถึงจากข้อมูลของสภาองค์กรของผู้บริโภคที่มีการรายงานว่าพบการชักชวนให้ประชาชนสแกนม่านตาแลกรับเงิน 500-1,000 บาท ในพื้นที่ต่างๆ ของประเทศไทย โดยอ้างถึงว่าจะไปแลกเหรียญคริปโต ซึ่งผู้ที่สแกนม่านตาจะได้รับค่าตอบแทนเป็นเงินรายละ 1,000 บาท ภายใน 24 ชั่วโมง ขณะที่ผู้แนะนำสมาชิกจะได้รับเงิน 500 บาทต่อราย สูงสุดไม่เกิน 10 ราย ล่าสุดมีความคืบหน้าว่า สำนักงานคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPC) ตรวจสอบของตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (สอท.) ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า การดำเนินงานของผู้ให้บริการในปัจจุบันถูกต้องตามกฎหมาย และคล้ายกับการดำเนินการในหลายประเทศ ในปัจจุบัน และได้มีการเตรียมประสานกระทรวงดีอีและหน่วยงานอื่นหามาตราการควบคุมข้อมูลอ่อนไหว และยังไม่พบผู้เสียหายหรือกระทำผิดกฎหมาย ทั้งนี้หากพบการละเมิดหรือนำข้อมูลไปใช้ในทางมิชอบ จะดำเนินคดีทันที นายอนุกูล กล่าวว่า เพื่อสร้างความตระหนักรู้เท่าทันต่อความสำคัญของความปลอดภัยที่เหมาะสม รัฐบาลขอย้ำว่า ข้อมูลส่วนบุคคลทางชีวภาพ ถือเป็นข้อมูลส่วนบุคคลขั้นสูงสุด การยินยอมให้เก็บ หรือสแกนจึงควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงความเสี่ยง ดังนี้ 1. การรั่วไหลของข้อมูล หากข้อมูลรหัส Iris Code […]

ข่าวแนะนำ

ดินถล่มหมู่บ้าน อ.แม่แจ่ม ตาย 3 สูญหาย 6

เชียงใหม่ 27 ส.ค. – ฝนที่ตกหนักจากฤทธิ์ของพายุ “คาจิกิ” ทำให้เกิดดินถล่มในหมู่บ้านปางอุ๋ง ซึ่งอยู่บนดอยสูง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ มีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 ราย บาดเจ็บ 15 ราย และยังสูญหายอีก 6 ราย สภาพหมู่บ้านเต็มไปด้วยดินโคลนที่ถล่มลงมาทับบ้านเรือนเสียหายนับร้อยหลัง. – สำนักข่าวไทย

“มาริษ” แจงข้าหลวงใหญ่ UN ปมกัมพูชา

สวิตเซอร์แลนด์ 27 ส.ค.-“มาริษ” เผยคุยรองข้าหลวงใหญ่ UN ปมไทย-กัมพูชา สัญญาณบวก เข้าใจไทยไม่ทำผิดกติการะหว่างประเทศ ไม่เห็นด้วย “ฮุน เซน” อัดเสียงคุยนายกฯ และการใช้สงครามข่าวปลอม นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เข้าพบหารือกับนางนาดา อัล-นาชิฟ (Nada Al-Nashif) รองข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เพื่อแสดงข้อมูลหลักฐานและชี้แจงข้อเท็จจริงต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างไทยกับกัมพูชา นายมาริษ เปิดเผยภายหลังการหารือว่า ได้เล่าให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ฟังถึงการละเมิดสิทธิมนุษยชนของกัมพูชาในหลายประเด็น ซึ่งรองข้าหลวงใหญ่ฯมีความเห็นที่สนับสนุนประเทศไทยในหลายเรื่อง และมีท่าทีที่เป็นห่วงประเทศไทยมาก ซึ่งตนได้ชี้แจงข้อเท็จจริง โดยเฉพาะการที่กัมพูชาใช้โซเชียลมีเดียโจมตีไทยมานานแล้ว มีการให้ข้อมูลว่าไทยลอกเลียนแบบวัดและประวัติศาสตร์ของกัมพูชา ซึ่งไทยพยายามแก้ไขปัญหานี้ด้วยความอดทนอดกลั้น และพยายามชี้แจงให้เห็นว่าเป็นประวัติศาสตร์ที่ก่อตั้งกันมาจากรากเหง้าทางวัฒนธรรมเดียวกัน ไทยต้องการแก้ไขปัญหาไม่ต้องการแสดงความร้าวฉานระหว่างชุมชนและ ประชาชนของทั้งสองประเทศ และเมื่อปัญหาคุกรุ่นมากขึ้นไทยก็พยายาม แก้ปัญหาด้วยการให้กัมพูชามาพูดคุยแบบทวิภาคี เป็นการอธิบายให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ได้เข้าใจว่าไทยปฏิบัติตามกติกา ยึดถือกฎบัตรสหประชาชาติและกฎหมายระหว่างประเทศ และพยายามหาทางให้กัมพูชามาพูดคุยกับไทย ซึ่งไทยกับกัมพูชามีข้อตกลง MOU43 ที่ทั้งสองประเทศจะต้องแก้ปัญหาร่วมกันอย่างสันติวิธี และด้วยความจริงใจ นับเป็นกลไกที่องค์การสหประชาชาติให้ความสำคัญ คือการเจรจาทวิภาคีโดยสันติและจริงใจ โดยไทยยึดมั่นมาโดยตลอด และเป็นเป้าหมายที่สำคัญของไทย นายมาริษ กล่าวว่าตนได้หยิบยกประเด็นที่สมเด็จฮุน เซน อัดเสียงพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีของไทย และนำมาเผยแพร่ในที่สาธารณะ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง […]

“ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว

ศาลอาญาฯ 27 ส.ค. – “ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว เหตุคดีมีอัตราโทษสูง และมีทรัพย์สินมูลค่าความเสียหายสูง พนักงานสอบสวน กองกำกับการ 5 กองบังคับการป้องกันปราบปราม ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ขอฝากขังครั้งแรก พระราชวิสุทธิประชานาถ หรือนายอลงกต พูลมุข ผู้ต้องหาที่ 1 และนายเสกสันน์ ทรัพย์สืบสกุล ผู้ต้องหาที่ 2 ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 1 ฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยินยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าโดยทุจริต, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 2 ฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่รักษาทรัพย์ใดฯ, เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ซึ่งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางอนุญาตให้ฝากขัง 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 27 ส.ค.- 7 ก.ย.นี้ โดยผู้ต้องหาที่ 1 ไม่ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นนี้ ส่วนผู้ต้องหาที่ 2 […]

พลทหารเหยียบกับระเบิดพื้นที่ปราสาทตาควาย

สุรินทร์ 27 ส.ค.-พลทหารเหยียบกับระเบิด ขณะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ปราสาทตาควาย ขาขวาท่อนล่างขาด เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2568 เวลาประมาณ 15.45 น. เกิดเหตุ พลทหาร อดิศร ป้อมกลาง สังกัด กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 23 เหยียบกับระเบิด ขณะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ปราสาทตาควาย เบื้องต้นได้รับบาดเจ็บ บริเวณขาขวาท่อนล่างขาด หน่วยในพื้นที่ได้เข้าดำเนินการช่วยเหลือ และนำส่งเพื่อรับการรักษาแล้ว รายละเอียดอื่นๆ จะรายงานให้ทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย