หน.เสรีรวมไทยเปิด 6 เหตุไม่ไว้ใจนายกฯ

รัฐสภา 31 ส.ค.-“พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์” ระบุพฤติการณ์ 6 ข้อไม่ไว้วางใจ “พล.อ.ประยุทธ์” ชี้ กู้เงินสืบทอดอำนาจ ปรนเปรอกองทัพ ปฏิบัติหน้าที่ขัดรธน. ถาม 7 ปี ยังไม่พอหรือ


พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวอภิปรายพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ว่า ญัตติที่ตนจะอภิปรายคือการบริหารราชการแผ่นดินล้มเหลว ผิดพลาด บกพร่อง ไร้ประสิทธิภาพ ไร้องค์ความรู้ ไร้ภูมิปัญญา ไร้วุฒิภาวะ ไร้จิตสำนึกรับผิดชอบ ไร้คุณธรรม จริยธรรมและไร้ความสามารถที่จะเป็นหัวหน้ารัฐบาลหรือผู้นำประเทศ โดยมีพฤติการณ์ 6 ประเด็น คือ 1.กู้เงินเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในการสืบทอดอำนาจ ตั้งงบประมาณเกินดุลทุกปี

“ตั้งแต่ปี 58-65 ตั้งแต่เป็นนายกฯ กู้เงินทั้งหมด 5,308,000 ล้านล้านบาท มากกว่าสมัยน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกฯ คนกู้ไม่ต้องใช้หนี้ ใครมาเป็นนายกฯ ต่อก็ต้องใช้แทน เป็นการกู้เงินมาใช้ในโครงการต่าง ๆ เพื่อซื้อเสียงล่วงหน้า ถึงเวลาเลือกตั้งจะได้ชนะ หวังสืบทอดเป็นนายกฯ อีกต่อไป ผมขอถามว่า 7 ปีไม่พอหรือ พล.อ.ประยุทธ์ คุณจะเอาอะไรอีก ต้องรู้จักพอบ้าง ที่สำคัญโครงการทั้งหมดตรวจสอบไม่ได้” หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าว


พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า 2.จัดทำงบประมาณโดยไม่เข้าใจปัญหาของประเทศและประชาชน ตั้งแต่ปี 58 ถึงปัจจุบันพล.อ.ประยุทธ์ จัดทำงบประมาณมาแล้ว 8 ครั้ง รวมกว่า 23.5 ล้านล้านบาท และยังทำงบประมาณกลางปีเพิ่มเติมอีก 3 ครั้งในช่วงเป็นรัฐบาลคสช. รวมกว่า 3 แสนล้านล้านบาท

“แทนที่ประเทศชาติจะเจริญยิ่งขึ้น แต่กลับทุจริตมากยิ่งขึ้น เป็นการตั้งงบประมาณไว้เผื่อโจรด้วย แต่ใครจะเป็นโจรบ้างนั้น ผมไม่รู้ ในช่วงสถานการณ์แบบนี้งบประมาณควรไปที่กระทรวงสาธารณสุข แต่งบประมาณกลับไปที่กลาโหมที่ฟาดเรียบ 3.ปรนเปรอแต่กองทัพเพื่อใช้เป็นฐานคุ้มจุนอำนาจของผม ทำไมผมถึงบอกว่ากลาโหมฟาดเรียบ พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ ที่มาจากทหารท่านรู้ดี งบกลาโหมอยู่อันดับที่ 3-4 มาโดยตลอด ผมอยากจะถามว่ามีผลงานอะไรชี้วัดได้ เพราะเอาเงินไปก็ไม่มีผลงาน” หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าว

พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า ในส่วนของสภากาชาดไทยได้รับงบประมาณจากรัฐบาล 8,000 กว่าล้านบาทมากกว่าอีก 7 กระทรวง ส่วนรัฐสภาได้งบประมาณ 8,200 ล้านเช่นกัน ทั้งที่ไม่มีภารกิจอะไรมากมาย ตนไม่ทราบว่าค่าอาหารพวกตนต่อวันเท่าไร ตนไม่อยากไปซอกแซก แต่รู้ว่ามากพอสมควร สงสารประชาชนทำงานทั้งวัน ๆ ละ 300 บาท เบี้ยประชุมกมธ. ส.ส.เข้ามาเซ็นชื่อ และนั่ง 3-5 นาที 1,500 บาท มากไปหรือไม่ นอกจากนั้นกุญแจห้อง ส.ส.ที่ให้ตน บอกอย่าทำหาย สภาใช้กุญแจห้องดอกละ 1 หมื่นกว่าบาท ไม่รวมแม่กุญแจ ตนว่ามากไป การจัดงบประมาณแบบนี้


“4.ปฏิบัติหน้าที่โดยใช้อำนาจขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย ไม่สนใจชีวิตความเป็นอยู่และความทุกข์ยากของประชาชน รัฐธรรมนูญมาตรา 47 บุคคลย่อมมีสิทธิได้รับบริการสาธารณสุขของรัฐ บุคคลย่อมมีสิทธิได้รับการป้องกันและขจัดโรคติดต่ออันตรายจากภาครัฐโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายในสถานการณ์โควิดไม่ว่าจะเป็นหน้ากากอนาคต ยาหรือวัคซีน สถานการณ์การฉีดวัคซีนในไทยเป็นอย่างไร ผมคงไม่ต้องอธิบาย เป็นหน้าที่รัฐต้องดูแลประชาชน เมื่อพล.อ.ประยุทธ์ไม่ส่งอุปกรณ์เหล่านี้ ไปให้ประชาชนเท่ากับทำผิดรัฐธรรมนูญมาตรา 47 ขอให้ประชาชนที่ต้องซื้ออุปกรณ์ป้องกันรักษาโรคหรือซื้อวัคซีนมาฉีดโดยเสียเงินทั้งหมด เอาใบเสร็จที่มีอยู่ไปแจ้งความที่สถานีตำรวจใกล้บ้านได้ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 47 และมีความผิดอาญาตามมาตรา 157 ด้วย” หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าว

พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า ตนเป็นหัวหน้าพรรคเล็ก ๆ เอาเงินเดือน ส.ส.เบี้ยประชุม กมธ.ทั้งหมด 1.3 ล้านบาทไปแจกให้พี่น้องประชาชนที่เดือดร้อนทั้งหมด แต่ไม่ต้องมาประกาศออกสื่อ วันนี้ต้องแจ้งให้ประชาชนทราบ เพราะพล.อ.ประยุทธ์ ประกาศไม่รับเงินเดือน 3 เดือน พล.อ.ประยุทธ์เป็นถึงนายกฯ ไม่รู้รับเงินกี่ทาง ไม่รับเงินเดือนแค่ 3 เดือนแค่นั้นหรือ ซึ่งในขณะที่นายกฯ เวิร์ค ฟอร์ม โฮม ตนก็ลงพื้นที่ช่วยเหลือชาวบ้าน

“5.ใช้กฎหมายและอาวุธที่ซื้อมาจากภาษีประชาชน เป็นเครื่องมือข่มขู่ปราบปรามประชาชน โดยเฉพาะการจับกุมดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ชุมนุม แต่ให้เด็กที่เป็นนักเรียนไปอยู่ในคุกและติดโควิด วันนี้ม็อบเด็กซาเพราะพ่อแม่กลัวลูกติดโควิด ผมทราบข่าวว่ามีการส่งทหารไปข่มขู่บอกพ่อแม่อย่าให้ลูกออกมาชุมนุม ถูกดำเนินคดีและเป็นโควิดต่างๆ พ่อแม่ก็กลัวก็ไม่ให้ลูกออกมา มีการสั่งการให้ตำรวจปราบ และจับกุม ใช้ทั้งกระสุนจริงและกระสุนยาง จนมีคนตาบอดและยัดเยียดข้อกล่าวหาให้เขา 6.ลิดรอนสิทธิเสรีภาพของสื่อมวลชนโดยที่ไม่เคยมีนายกฯ คนใดปฏิบัติเช่นนี้มาก่อน มีการสั่งปิดสื่อ และศาลยกเลิกคำสั่งของนายกฯ เป็นไม้ตายของรัฐบาล แต่คำสั่งดังกล่าวมีความศักดิ์สิทธิ์จริงหรือไม่” หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าว

พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า เดนิส อิวาโนวิช ฟอนวิชัน ปราชญ์ชาวกรีกได้กล่าวว่า “คนโง่”คือภัยอันตรายร้ายแรงเมื่อกลายเป็นผู้มีอำนาจ สอดคล้องกับที่เด็กบอกว่าผู้นำโง่จะพาเราตายกันหมด ตนไม่ได้พูดแต่เป็นสิ่งที่เด็กพูด อีกทั้งในเพจโซเชียลระบุว่าพฤติกรรมของท่านเหมือนขยะแผ่นดิน ประชาชนเขาไม่เอาแล้ว ท่านเคยพูดว่า “มึงลองมาไล่ดูสิ” วันนี้ตนก็จะพูดว่า “ผมมาไล่ท่านแล้ว ให้พ้นจากตำแหน่งไป” พฤตติกรรมต่างๆ ของพล.อ.ประยุทธ์ เป็นพฤติการณ์ที่ไม่เหมาะสม และผิดกฎหมาย จึงไม่เหมาะสมที่จะดำรงตำแหน่งนายกฯ อีกต่อไป ตนจึงไม่ไว้วางใจตั้งแต่วันนี้โดยไม่รอลงคะแนน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

มทภ.2 ยันไม่เคยสั่งกำลังพลไปเก็บศพเขมร อย่าเชื่อข่าวปลอม

5 ส.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 ยืนยันไม่เคยมีคำสั่งให้กำลังพลไปเก็บศพชาวกัมพูชา บริเวณชายแดน ขออย่าหลงเชื่อข่าวปลอม เมื่อวันที่ 5 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า จากกรณีที่สื่อโซเชียลมีเดียได้ลงข้อความอันเป็นเท็จ ที่ทำให้พี่น้องประชาชนเข้าใจผิดว่า แม่ทัพภาคที่ 2 ได้สั่งให้กำลังพลไปเก็บศพชาวกัมพูชาที่อยู่บริเวณชายแดนนั้น ตนยืนยันว่าไม่เป็นความจริง และไม่เคยมีคำสั่งให้กำลังพลไปปฏิบัติอย่างนั้น ผู้เสียชีวิตนั้นเป็นชาวกัมพูชา ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับทางประเทศไทย “ผมไม่เคยมีคำสั่งแบบนี้ และขอยืนยันว่า ข่าวที่ออกมานั้นเป็นข่าวปลอม ขอให้พี่น้องประชาชนอย่าได้หลงเชื่อ“ แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าว.-313-สำนักข่าวไทย

ทหารไทยยอมรับได้กลิ่นศพทหารกัมพูชาจริง

ศรีสะเกษ 5 ส.ค. – วันนี้ยังมีการเก็บกู้ระเบิดที่กัมพูชายิงเข้ามาในพื้นที่พลเรือนฝั่งไทย ส่วนเมื่อคืนนี้ (4 ส.ค.) เป็นคืนแรกของการประชุม GBC ชุด ชรบ.หมู่บ้านแนวชายแดน อ.กันทรลักษ์ จึงออกตรวจตราเข้มข้น ขณะที่ทหารแนวหน้ายอมรับได้กลิ่นศพทหารกัมพูชาจริง ทีมข่าวมีโอกาสได้พูดคุยกับทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา สอบถามถึงเรื่องที่กำลังเป็นประเด็น คือกลิ่นศพของทหารกัมพูชา ทหารยอมรับว่ามีกลิ่นจริง และมีศพทหารกัมพูชาถูกทิ้งไว้จริง แต่ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะอยู่ในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ หากมีหน้ากากอนามัยเชื่อว่าจะช่วยบรรเทาได้บ้าง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีหน้ากาก N95 ส่งถึงพื้นที่บ้างแล้ว พร้อมขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ส่งกำลังใจ ทหารยังพร้อมปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ วันนี้ทีมข่าวยังเกาะติดภารกิจเก็บกู้ระเบิดที่กัมพูชายิงใส่พื้นที่พลเรือนของไทยใน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ จุดแรก จรวด BM-21 ถูกกัมพูชายิงตกใส่ลงทุ่งนาของชาวบ้าน พื้นที่ ต.ทุ่งใหญ่ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม วันเดียวกับที่ยิงใส่ปั๊ม ปตท.บ้านผือ โดยห่างกันราว 1 กิโลเมตร ส่วนอีกจุดเป็นการทำลายลูกจรวด PG-7 ที่ถูกยิงจากเครื่องยิงจรวด RPG ตกลงในสวนยางพาราของชาวบ้าน ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ ที่ถูกพบในสภาพพร้อมทำงาน จุดนี้อยู่ห่างจากชายแดนกัมพูชาเพียง […]

เปิดศักยภาพ Gripen เขี้ยวเล็บใหม่กองทัพอากาศไทย

5 ส.ค. – เปิดคุณสมบัติโดดเด่นของ “กริพเพน” เครื่องบินรบฝูงใหม่ ซึ่งกองทัพอากาศและประเทศไทยกำลังจะทำสัญญาจัดซื้อจากสวีเดน .-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ขึ้นภูมะเขือ ย้ำกำลังพลไม่ประมาท นำร้องเพลงชาติไทย

5 ส.ค.- แม่ทัพภาค 2 ตรวจเยี่ยมภูมะเขือ ย้ำกำลังพลไม่ประมาท ปกป้องอธิปไตย พร้อมร่วมร้องเพลงชาติ เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 5 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่หน่วยเฉพาะกิจที่ 1 กองกำลังสุรนารี พื้นที่ภูมะเขือ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ โดยได้ทำการเดินลาดตระเวน ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจกำลังพลที่วางกำลังฐานปฏิบัติการ ทั้งนี้ มีพระสงฆ์จำนวน 3 รูปจากวัดใกล้เคียง มารอแม่ทัพภาคที่ 2 เพื่อมอบวัตถุมงคลและให้กำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ พร้อมให้พรกำลังพลทุกนาย ให้แคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตรายต่างๆ จากนั้นแม่ทัพภาคที่ 2 ได้ฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ในพื้นที่ภูมะเขือ โดยเน้นย้ำให้อยู่ในความไม่ประมาท ปฏิบัติหน้าที่รักษาอธิปไตยของชาติ ด้วยความปลอดภัยและให้ดูแลรักษาสุขภาพให้ดี จากนั้น พล.ท.บุญสิน ได้ให้กำลังพลเปลี่ยนธงชาติไทยผืนใหญ่กว่าเดิม นำร้องเพลงชาติบนยอดภูมะเขือร่วมกัน ก่อนเดินทางกลับได้มอบเครื่องอุปโภคบริโภคและถ่ายรูปร่วมกับกำลังพล -สำนักข่าวไทย