พรรคเพื่อไทย 30 ส.ค.- “เพื่อไทย” คาดโทษ ส.ส.โหวตสวนมติ-ขาดประชุม ศึกซักฟอกรัฐบาล ขับออกจากสมาชิกพรรค เชื่อพรรคร่วมฝ่ายค้านมีทิศทางเดียวกัน
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน หรือวิปฝ่ายค้าน นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และ น.ส.อรุณี กาสยานนท์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ร่วมแถลงข่าวเตรียมความพร้อมก่อนการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล
โดยนายประเสริฐ กล่าวว่า การเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลที่จะมีขึ้นในวันที่ 31 ส.ค.นี้ มีความสำคัญอย่างยิ่ง เชื่อว่าจะเป็นการอภิปรายครั้งสุดท้ายของรัฐบาลชุดนี้ พรรคเพื่อไทยมีความประสงค์ให้มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง โดยเฉพาะการเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดนี้ เราจึงเตรียมความพร้อมใน 3 ประเด็น คือ 1.เปิดยุทธการ “หยุดยุทธ์ หยุดโอหัง คลั่งอำนาจ หยุดความพินาศของประเทศ” ชัดเจนว่าเราไม่ต้องการให้ พล.อ.ประยุทธ์ บริหารราชการที่ผิดพลาดล้มเหลวอีกต่อไป 2.พรรคเพื่อไทยกำชับ ส.ส.ทุกคนต้องปฏิบัติตามติพรรคอย่างเคร่งครัด โดย ส.ส.พรรคทุกคนต้องลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีทั้ง 6 คน โดยนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวน้าพรรคเพื่อไทยได้ลงนามคำสั่ง เนื้อหาระบุว่า
“ตามที่พรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมฝ่ายค้าน ได้ยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไป เพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล โดยมีรัฐมนตรีที่ถูกยื่นอภิปรายรวม 6 คน นั้น เพื่อให้การตรวจสอบฝ่ายบริหารด้วยการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจข้างต้นเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นไปตามญัตติที่พรรคได้เสนอไป จึงขอให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคได้ปฏิบัติหน้าที่ของตนในการลงมติให้เป็นไปตามแนวทางและนโยบายของพรรคด้วยการลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีทุกคนที่ถูกอภิปราย ทั้งนี้ หากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคท่านใดฝ่าฝืนไม่มาประชุมเพื่อลงมติหรือลงมติที่ผิดไปจากนโยบายของพรรคข้างต้น พรรคถือว่าสมาชิกผู้นั้นกระทำการอันเป็นการผิดวินัยและจริยธรรมของการเป็นสมาชิกพรรคอย่างร้ายแรงซึ่งมีโทษถึงขั้นให้พ้นจากสมาชิก โดยพรรคจะดำเนินการตามข้อบังคับพรรค อย่างเด็ดขาดต่อไป”หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ระบุ
นายประเสริฐ ยังกล่าวถึง ประเด็นที่ 3 ว่า หลังจากที่พรรคเพื่อไทยได้เปิดแคมเปญ “ลงมติประชาชน รวมพลไล่ประยุทธ์” ผ่าน https://www.change.org/prayutgetout ล่าสุดมีประชาชนร่วมลงชื่อกว่า 3.5 หมื่นคนแล้ว ซึ่งพรรคอยากให้ประชาชนมีส่วนร่วมแสดงออกอย่างสันติวิธี โดยก่อนหน้านี้เราเปิดรับข้อมูลการอภิปรายไม่ไว้วางใจจากประชาชน ซึ่งได้มีประชาชนให้ข้อมูลพรรคเป็นจำนวนมาก และเป็นข้อมูลที่เราได้นำไปประกอบการอภิปรายในครั้งนี้ด้วย ทั้งนี้ ขอเชิญชวนประชาชนติดตามการอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งนี้ด้วย
ด้านนายสุทิน กล่าวว่า พรรคฝ่ายค้านมีความพร้อมที่สุดในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยมีผู้อภิปรายทั้งหมด 34 คน แบ่งเป็น พรรคเพื่อไทย 19 คน พรรคก้าวไกล 6 คน พรรคเสรีรวมไทย 3 คน พรรคประชาชาติ 2 คน พรรคเพื่อชาติ 1 คน พรรคพลังปวงชนไทย 1 คน และจะมีนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเศรษฐกิจใหม่ และนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ซึ่งเวลา 40 ชั่วโมง เป็นการอภิปราย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข 33 ชั่วโมง และรัฐมนตรี 4 คน คนละ 1 ชั่วโมง โดยการอภิปรายจะเริ่มจากนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร เป็นผู้อ่านญัตติ ต่อด้วย นายประเสริฐ เลขาธิการพรรคเพื่อไทยเป็นผู้อภิปรายเปิด จากนั้นจะเป็นแกนนำฝ่ายค้าน และส.ส.พรรคต่างๆทยอยอภิปรายต่อๆกันไป ทั้งนี้ มั่นใจว่า จะจบการอภิปรายคนสุดท้ายไม่เกิน 23.00 น. คือ ตนเอง ซึ่งเป็นผู้สรุปส่วนเนื้อหาสาระในการอภิปรายเป็นเรื่องราวของความสูญเสีย หายนะที่รออยู่ข้างหน้า ทางออกวันนี้ไม่มีอื่นใดนอกจากได้ผู้บริหารที่สู้กับวิกฤติ และหยุดยั้งหายนะให้ได้ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องหยุดโอหังคลั่งอำนาจ
เมื่อถามว่า การโหวตของพรรคร่วมฝ่ายค้านจะต้องมีการพูดกันในวิปฝ่ายค้านหรือไม่ว่าจะต้องลงมติในแนวทางใด นายสุทิน กล่าวว่า ไม่มีอะไรต้องพูด เพราะเชื่อว่าต้องเป็นไปแนวทางเดียวกันคือไม่ไว้วางใจ และเชื่อมั่นว่าจะเป็นไปในทิศทางเดียวกัน.-สำนักข่าวไทย