“อนุดิษฐ์” จ่อซักฟอก “บิ๊กตู่” ปมจัดหายุทโธปกรณ์ ทอ.มีพิรุธ

พรรคเพื่อไทย 30 ส.ค.- “อนุดิษฐ์” เตรียมอภิปรายไม่ไว้วางใจ “พล.อ.ประยุทธ์” ปมจัดหายุทโธปกรณ์ ทอ. มีพิรุธ

น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะ กมธ.ป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติผิดมิชอบ (ป.ป.ช.) สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบการจัดหายุทโธปกรณ์ของกองทัพอากาศ 3 โครงการ ได้แก่ โครงการพัฒนาและปรับปรุงระบบป้องการทางอากาศ ระยะที่ 7 ( N-SOC C2) โครงการพัฒนาการป้องกันฐาน ที่ตั้งทางทหารของกองทัพอากาศ (GBAD) และโครงการจัดหาทดแทนวิทยุพื้นดิน-อากาศ มูลค่ารวมเกือบ 3 พันล้านบาทว่า ขณะนี้ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงครบถ้วนอยู่ระหว่างสรุปรายงานให้คณะกรรมาธิการ ป.ป.ช.พิจารณาต่อไป ซึ่งในเบื้องต้นพบว่าการจัดหายุทโธปกรณ์ครั้งนี้ มีความไม่ชอบมาพากลหลายประการ ตั้งแต่การสั่งการให้เปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์และขอบเขตของโครงการเดิม ทั้งๆ ที่เป็นเป้าหมายหลักที่ผ่านความเห็นชอบจากหน่วยงานปกป้องงบประมาณและออกเป็นกฎหมายแล้ว โดยการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวไม่ปรากฏหลักเกณฑ์แนวทางปฏิบัติ และ ทอ.ไม่เคยดำเนินการลักษณะเช่นนี้มาก่อน ซึ่งตามระเบียบ ทอ.จะต้องเสนอเรื่องไปที่ คณะกรรมการวินิจฉัยปัญหาการจัดซื้อจัดจ้าง และการบริหารพัสดุภาครัฐ เพื่อพิจารณาแนวทางปฏิบัติ ตามพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 มาตรา 29 เพื่อความถูกต้อง แต่กลับพบว่ามีสั่งการจากผู้ใหญ่ให้เร่งรัดดำเนินการในลักษณะเร่งรีบและข้ามขั้นตอน โดยผู้รับผิดชอบโครงการระบุในคำให้การชัดเจนว่า มีความกังวลต่อการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงสาระสำคัญของ TOR และไม่มั่นใจว่า ทอ.สามารถดำเนินการเปลี่ยนแปลงเองได้ จึงทำหนังสือสอบถามไปยังหน่วยงานภายใน ทอ.ที่เกี่ยวข้องเพื่อขอคำปรึกษา และทุกฝ่ายแนะนำว่าให้ดำเนินการตามระเบียบและกฎหมายที่กำหนด แต่ในที่สุด ทอ.ก็ไม่ได้ทำเช่นนั้น เพราะฝ่ายเสธ.ผบ.ทอ.แจ้งว่าให้ผู้รับผิดชอบโครงการเดินหน้าได้เลย เพราะเป็นสั่งการจาก ผบ.ทอ. และตนเองได้สอบถามกรมบัญชีกลางทางโทรศัพท์ให้แล้วว่าสามารถดำเนินการได้ ดังนั้นผู้รับผิดชอบโครงการจึงเปลี่ยนแปลงรายละเอียดและกำหนดขอบเขตโครงการขึ้นมาใหม่ โดยไม่เคยมีหนังสือสอบถามไปที่คณะกรรมการวินิจฉัยปัญหาการจัดซื้อจัดจ้างฯ โดยสถานะของทุกโครงการในปัจจุบันอยู่ระหว่างการหาผู้ดำเนินการ ยกเว้นโครงการจัดหาทดแทนวิทยุพื้นดิน-อากาศ ที่เปิดซองได้ผู้ชนะเรียบร้อยแล้ว ซึ่งการเพิกเฉยไม่ปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย และพฤติกรรมที่ฝ่ายเสธ.ผบ.ทอ.สั่งการตรงไปยังคณะกรรมการ TOR ถือเป็นการแทรกแซงกรรมการผู้เชี่ยวชาญในแต่ละโครงการหรือไม่ ใครอยู่เบื้องหลังการสั่งการ และการจัดซื้อจัดจ้างถูกต้องโปร่งใสหรือไม่ มีผลประโยชน์ทับซ้อนหรือไม่ ทำไมกระทรวงกลาโหมจึงนิ่งเฉยไม่ลงมาตรวจสอบ ขณะนี้กรรมาธิการฯ มีข้อมูลในมือครบถ้วนแล้ว


เมื่อถามว่า จะนำเรื่องนี้ไปอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลหรือไม่ น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม คงไม่สามารถปฏิเสธความรับผิดชอบในการบริหารงานที่บกพร่อง ผิดพลาด ไร้ประสิทธิภาพ และอาจปล่อยปละละเลยให้เกิดการทุจริตในครั้งนี้ได้ เพราะการจัดหา 3 โครงการที่ต้องใช้งบประมาณแผ่นดินเกือบ 3 พันล้านบาท และได้ผ่านการพิจารณาของหน่วยงานที่ปกป้องงบประมาณ ทั้งกระทรวงกลาโหม สำนักงบประมาณ และ รัฐสภา มาเรียบร้อย แต่หน่วยงานรับงบประมาณกลับนำรายละเอียดและขอบเขตของโครงการมายำใหญ่โดยไม่สนใจระเบียบและกฎหมายแบบนี้ ตนเองไม่เชื่อว่าจะมีข้าราชการคนไหนกล้าทำกันเองนอกจากจะมีผู้ใหญ่สั่งการ เพราะมีทั้งการแทรกแซงกรรมการ การกำหนด TOR ที่กำกวมยากต่อการตีความ ขบวนการกำหนดราคากลางที่ไม่ปกติ และที่สำคัญคือการตัดเนื้องานที่อนุมัติโดยกระทรวงกลาโหม และตัดเนื้องานตามนโยบายของรัฐบาล บางโครงการตัดบางส่วน และบางโครงการก็ตัดออกทั้งหมด ซึ่งการกระทำเช่นนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยถ้าไม่ฮั้วกัน ดังนั้นตนเองจะนำเรื่องนี้จัดชุดใหญ่อภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมอย่างแน่นอน

เมื่อถามว่า การออกมาฉายหนังตัวอย่างแบบนี้ไม่กลัวข้อสอบรั่วหรือ น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ใช่ความลับเพราะตนเองได้แถลงความคืบหน้าของการตรวจสอบออกมาเป็นระยะ แต่ที่น่าแปลกใจก็คือ ทอ.ก็ยังเดินหน้าโครงการเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ส่วนหน่วยแม่คือกระทรวงกลาโหมที่มี พล.อ.ประยุทธ์ เป็นเจ้ากระทรวง ก็ไม่ได้ลงมาระงับยับยั้งหรือสั่งการให้มีการตรวจสอบแต่อย่างไร ซึ่งที่ผ่านมาคณะกรรมาธิการ ปปช. ได้เรียกผู้เกี่ยวข้องมาชี้แจงและได้เรียกเอกสารหลักฐานมาตรวจสอบทั้งหมดแล้ว โดยทุกครั้งได้มีหนังสือแจ้งไปยังกองทัพอากาศ ซึ่งหาก พล.อ.ประยุทธ์ ใส่ใจย่อมทราบข้อเท็จจริงได้ไม่ยาก แต่เมื่อไม่ยอมดำเนินการใดๆเลย เรื่องนี้ย่อมเป็นความรับผิดชอบที่ พล.อ.ประยุทธ์ หลีกเลี่ยงไม่ได้ และตนเองขอบอกว่าพยานหลักฐานทั้งหมดที่จะใช้ประกอบการอภิปรายได้มาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ดังนั้นจึงไม่ต้องกลัวเรื่องข้อสอบรั่ว แต่ขอเตือน พล.อ.ประยุทธ์ ให้เตรียมคำชี้แจงต่อสภาฯให้ดีก็แล้วกัน ว่าทำไมจึงปล่อยปละละเลยโครงการจัดหายุทโธปกรณ์ของ ทอ.เกือบ 3 พันล้านบาท ให้บกพร่อง ผิดพลาด ได้ขนาดนี้ หรือจะมีผลประโยชน์ทับซ้อนหรือแอบแฝงที่ ตุ๊กแกหลังตึกไทยคู่ฟ้าเผอิญร้องออกมาตรงกับตุ๊กแกที่ตึกแปดแฉกของทุ่งดอนเมืองพอดีจึงทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ มองไม่เห็นเรื่องนี้.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Cambodia PM Hun Manet in military uniform

กัมพูชาเสนอศาลโลกตัดสินดินแดนพิพาทกับไทย

พนมเปญ 2 มิ.ย.- ผู้นำกัมพูชาเสนอให้นำข้อพิพาททางดินแดนกับไทยให้ศาลโลกตัดสิน และได้สั่งการให้เจบีซีเร่งจัดการหารือกับไทยเรื่องปักปันเขตแดน ด้านกระทรวงต่างประเทศกัมพูชาได้ยื่นหนังสือประท้วงไทยเรื่องเหตุปะทะที่มีทหารกัมพูชาเสียชีวิต เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ขแมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้โพสต์ถ้อยแถลงในสื่อสังคมออนไลน์เมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า เขาได้ตัดสินใจตามที่รับฟังรายงานสรุปจากนายทหารที่ประจำการตามแนวชายแดนไทย หลังจากที่เขากลับจากการปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศ โดยได้สั่งการให้คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมกัมพูชา-ไทยหรือเจบีซี (JBC) เร่งจัดการประชุมกับฝ่ายไทยเพื่อเดินหน้าการสำรวจและปักปันเขตแดนระหว่าง 2 ประเทศ ถ้อยแถลงระบุด้วยว่า กัมพูชากำลังเตรียมบรรจุประเด็นใหม่ไว้ในวาระการประชุมเจบีซี คือ การเสนอให้นำข้อพิพาทยาวนานเรื่องปราสาทตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด ตาเมือนควาย และพื้นที่มอมเบ เข้าสู่การตัดสินชี้ขาดของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือศาลโลกที่กรุงเฮกในเนเธอร์แลนด์ นายกรัฐมนตรีกัมพูชาเตือนว่า การยั่วยุเมื่อไม่นานมานี้ของกลุ่มสุดโต่งเล็ก ๆ ได้จุดชนวนความตึงเครียดและโหมกระพือกระแสรักชาติขึ้นใน 2 ประเทศ เขาหวังว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะสามารถทำงานร่วมกันเพื่อบรรลุทางออกสุดท้ายให้แก่พื้นที่พิพาทอ่อนไหวเหล่านี้ กัมพูชายังคงมุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหาชายแดนด้วยกลไกทางเทคนิคและหลักการทางกฎหมาย แต่ก็สงวนสิทธิที่จะปกป้องบูรณภาพทางดินแดนด้วยทุกวิถีทาง รวมถึงการใช้อาวุธ หากมีความพยายามใช้กำลังทหารรุกรานดินแดนของกัมพูชา ด้านกระทรวงกิจการต่างประเทศและความร่วมมือสากลของกัมพูชาได้ยื่นหนังสือทางการทูตประท้วงไทย ซึ่งมีการเปิดเผยเนื้อหาเมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า กองทัพไทยเปิดฉากยิงทั้งที่ไม่มีการยั่วยุจากที่ตั้งทางทหารของกัมพูชาในหมู่บ้านเตโชมรกต อำเภอจอมกระสานต์ จังหวัดพระวิหารเมื่อราวเวลา 05.30 น.วันที่ 28 มีนาคม ส่งผลให้ทหารกัมพูชาถูกสังหารอย่างไม่เป็นธรรม 1 นาย และเป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพทางดินแดนของกัมพูชา กระทรวงต่างประเทศของกัมพูชาขอประณามอย่างรุนแรงต่อการกระทำดังกล่าวว่า ผิดกฎหมาย รัฐบาลกัมพูชาเรียกร้องให้สอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยทันทีและถี่ถ้วน และต้องนำตัวผู้กระทำผิดมารับโทษ.-814.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ กัมพูชา สั่งระดมทหารประชิดชายแดนไทย

1 มิ.ย. – ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา สั่งระดมกำลังทหารประชิดชายแเดนไทย ขณะเดินทางเยือนญี่ปุ่น พร้อมติดตามสถานการณ์บริเวณชายแดนติดกับไทยอย่างใกล้ชิด หนังสือพิมพ์ขะแมร์ ไทมส์ รายงานว่า ฌอง-ฟรองซัว ตัน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ให้สัมภาษณ์สื่อในประเทศ ระบุว่านับตั้งแต่เกิดเหตุความขัดแย้งตามมแนวชายแดนระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา ซึ่งอยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจเยือนญี่ปุ่น ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จนกระทั่งเดินทางกลับมายังกัมพูชา เมื่อคืนที่ผ่านมา และได้สั่งการด้วยตัวเองให้ระดมกำลังทหารเพิ่มเติมเข้าประชิดชายแดนด้านที่ติดกับไทย เพื่อปกป้องอธิปไตยและพรมแดนกัมพูชา พร้อมกับยืนยันว่าสถานการณ์บริเวณชายแดนด้านที่ติดกับไทย กลับมาสงบเรียบร้อยตามปกติแล้ว นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ยังได้ติดต่อและสั่งการตามสายงานลงไปยังรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกลาโหม ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และเสนาธิการกองทัพบก ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และแจ้งความคืบหน้าให้ทราบอย่างต่อเนื่อง หลังเกิดการปะทะกันครั้งล่าสุดระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย พร้อมกับเรียกร้องประชาชนชาวกัมพูชาเชื่อมั่นการปฏิบัติหน้าที่ของกองทัพและรัฐบาลกัมพูชา ในการปกป้องดินแดน และหาหนทางแก้ไขความขัดแย้งบริเวณชายแดนติดกับไทย โดยยึดผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ และหลังจากนี้ คณะกรรมการพรมแดนของกัมพูชา มีกำหนดพบหารือในช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับรายละเอียดข้อขัดแย้ง และนำเสนอเพื่อเข้าสู่การเจรจาต่อไป.-สำนักข่าวไทย

“โอปอล สุชาตา” คว้ามงกุฎ Miss World 2025

อินเดีย 1 มิ.ย.-“โอปอล สุชาตา” สาวงามตัวแทนจากไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎ Miss World 2025 มาครองได้สำเร็จ เวทีการประกวด Miss World 2025 ครั้งที่ 72 ณ HITEX Convention Center เมืองไฮเดอราบัด รัฐเตลังคานา ประเทศอินเดีย โดย “โอปอล สุชาตา ช่วงศรี” สาวงามตัวแทนจากประเทศไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎมิสเวิลด์มาครองได้สำเร็จ โดยการประกวดในปีนี้มีนางงามจาก 108 ประเทศทั่วโลก เข้าร่วม ทั้งนี้ในรอบ 8 คนสุดท้าย มีนางงามที่ผ่านเข้ารอบได้แก่ บราซิล มาร์ตินีก เอธิโอเปีย นามิเบีย โปแลนด์ ยูเครน ฟิลิปปินส์ และประเทศไทย ซึ่งจนกระทั่ง รอบ 4 คนสุดสุดท้าย มาร์ตีนิก เอธิโอเปีย และ โปแลนด์ ทั้ง 4 […]

ข่าวแนะนำ

“ภูมิธรรม” ปัดขัดแย้งกองทัพ ปมปิดด่าน

2 มิ.ย. – “ภูมิธรรม” ปัดขัดแย้งกองทัพ ปมปิดด่าน ลั่นมีเอกภาพ แจงรัฐบาลเชื่อมั่นท่าที 2 ประเทศลดความรุนแรงได้ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม โพสต์ข้อความชี้แจงทางเฟซบุ๊กส่วนตัว ว่าเรียน สื่อมวลชน ทุกท่าน ตามที่มีข่าวกระจายกันในแวดวงสื่อสังคมออนไลน์ เรื่องความขัดแย้งระหว่างฝ่ายการเมืองกับฝ่ายทหาร ในการจัดการปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา และส่งผลให้เกิดความเข้าใจผิดต่อปัญหาการจัดการระหว่างสองประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการปิดด่านชายแดน ผมขอยืนยันว่า ผมกับกองทัพได้หารือร่วมกันหลายครั้ง และเห็นตรงกันว่าสถานการณ์ปัจจุบัน รัฐบาลทั้งสองประเทศต่างพยายามหาทางออกในการคลี่คลายวิกฤติ โดยยึดผลประโยชน์ประชาชนและอธิปไตยของชาติเป็นสำคัญ เราจึงกำหนดขอบเขตในการหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า และพยายามลดเงื่อนไขที่จะระงับยับยั้งมิให้เหตุการณ์ความขัดแย้งขยายตัวมากไปกว่านี้ สำหรับเรื่องการปิดชายแดนขณะนี้ รัฐบาลเห็นว่าท่าทีและการแสดงออกของทั้งสองประเทศ ยังเป็นการแสดงออกที่สามารถลดระดับความรุนแรงได้ เพราะการปิดด่านชายแดนแม้ไม่ใช่เรื่องการสู้รบทางตรง แต่กลับจะเกิดปัญหาทางด้านเศรษฐกิจ ที่จะกระทบกับวิถีชีวิตประชาชน ทำให้สถานการณ์ยากต่อการคลี่คลาย แต่ขณะเดียวกัน กองทัพก็ตั้งอยู่ในความระมัดระวังและไม่ได้ละเลยในการปกป้องตนเองและอธิปไตยเหนือดินแดน ขณะนี้รัฐบาล ร่วมกับกำลังเหล่าทัพและกระทรวงต่างประเทศ กำลังใช้กลไก JBC เพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหาตามขั้นตอนอยู่ในปัจจุบัน เพื่อให้เกิดเวทีถกเถียงตามข้อเท็จจริงตามกฎหมาย ผมจึงขอเรียนชี้แจงยืนยันว่า รัฐบาลและกองทัพมีความเป็นเอกภาพ และมีพันธะสัญญาที่มั่นคงในการรักษาความสงบสุขให้ประชาชนได้รับประโยชน์ และความปลอดภัยมากที่สุด ขอให้มั่นใจว่าเราจะหลีกเลี่ยงการยกระดับความขัดแย้งที่จะนำไปสู่ความสูญเสียทั้งสองฝ่ายในทุกด้าน ที่ผ่านมา เราร่วมกันใช้ความพยายามอย่างยิ่ง ทั้งการประชุม หารือ […]

แผ่นดินไหวเชียงใหม่ ขนาด 4.5 รอยเลื่อนแม่ทาขยับ

เชียงใหม่ 2 มิ.ย.- ระทึก! แผ่นดินไหว ต.แม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ขนาด 4.5 ลึก 1 กม. ประชาชนแจ้งรู้สึกสั่นไหว 4 จังหวัด สาเหตุเกิดจากกลุ่มรอยเลื่อนแม่ทา ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง แผ่นดินไหวที่ ต.แม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ฉบับที่ 1/2568 กอง​เฝ้า​ระวัง​แผ่นดินไหว​ กรม​อุตุนิยม​วิทยา​รายงาน​ว่า​ เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน พ.ศ.2568 เวลา 14.07 น. เกิดแผ่นดินไหว จุดศูนย์กลางอยู่บริเวณ ต.แม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ขนาด 4.5 ความลึก 1 กิโลเมตร ได้รับแจ้งรู้สึกสั่นไหวบริเวณ จังหวัดเชียงใหม่ พะเยา ลำปาง และแม่ฮ่องสอน โดยสาเหตุเกิดจากกลุ่มรอยเลื่อนแม่ทา ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ สั่งการอำเภอพร้าว และอำเภอใกล้เคียง ลงพื้นที่ตรวจสอบผลกระทบจากแรงสั่นสะเทือน เบื้องต้นยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตและความเสียหาย […]

ศาลออกหมายจับ 6 ผู้ต้องหา ปล้นบุหรี่ไฟฟ้าของกลาง

2 มิ.ย.- ศาลออกหมายจับ 6 ผู้ต้องหา ปล้นบุหรี่ไฟฟ้าของกลาง ย่านท่าเรือคลองเตย ส่วนคนขับรถชน รปภ. เสียชีวิต โดนฆ่าคนตาย เพิ่มอีก 1 ข้อหา 13.00 น. ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา การดำเนินคดี 6 ทรชนผู้ก่อเหตุขโมยบุหรี่ไฟฟ้าของกลางของกรมศุลกากรและก่อเหตุถอยรถตู้พุ่งชนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเสียชีวิต โดย พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ให้ข้อมูลว่า ศาลอาญากรุงเทพใต้อนุมัติออกหมายจับ 6 ผู้ต้องหาในคดีดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับทั้ง 6 คนถูกดำเนินคดีในข้อหา 4 ข้อหา ในแก่ ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ในเคหสถาน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ โดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือให้พ้นการจับกุม ร่วมกันบุกรุกเคหสถานในเวลากลางคืน โดยใช้กำลังประทุษร้าย และกระทำความผิดตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ และซ่องโจร ขณะที่นายสิทธิศักดิ์ หรือแบงค์ ถูกดำเนินคดีเพิ่มอีกหนึ่งข้อหา คือ ฆ่าผู้อื่นเพื่อปกปิดความผิดของตนหรือหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดที่ตนกระทำไว้ ทั้งนี้ หลังศาลอนุมัติออกหมายจับเป็นที่เรียบร้อยแล้ว […]

โควิด-19 ระบาดปักธงชัย ตายแล้ว 2

นครราชสีมา 2 มิ.ย.- เชื้อโควิด-19 แพร่ระบาดที่ อ.ปักธงชัย จ.นคราชสีมา รุนแรงถึงขั้นมีผู้เสียชีวิตแล้ว 2 ราย รัฐบาลเตือนระวังสายพันธุ์ใหม่ NB.1.8.1 แพร่กระจายไว ที่ อ.ปักธงชัย พบผู้เสียชีวิตจากการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 รอบนี้แล้ว 2 ราย ผู้ป่วยรายแรกเป็นชายเสียชีวิตเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม ส่วนรายที่ 2 เสียชีวิตช่วงค่ำวานนี้ เป็นชายอายุ 72 ปี ที่โรงพยาบาลปักธงชัย ไปประกอบพิธีทางศาสนา โควิด-19 แม้จะกลายเป็นโรคประจำถิ่น ขอประชาชนอย่าตื่นตระหนก แต่ต้องรู้จักวิธีการป้องกันตัวเองและดูแลบุคคลในครอบครัวอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนที่สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย โดยเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคมที่ผ่านมา รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แจ้งว่า องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ออกประกาศเตือนหลังพบพฤติกรรมของเชื้อ SARS-CoV-2 สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญใน 3 ภูมิภาคทั่วโลก ได้แก่ แปซิฟิกตะวันตก เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเมดิเตอร์เรเนียนตะวันออก จากเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ NB.1.8.1 ที่กำลังแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว และเชื้อโควิด-19 […]