“หมอพรทิพย์” ห่วงคนส่งคลิปแฉคดี ‘ผกก.โจ้’ หวั่นถึงขั้นตาย

กทม. 28 ส.ค.- “หมอพรทิพย์” ไม่เชื่อ คดี ‘ผกก.โจ้’ จะขยายผลได้หมด คาดตัดตอนไปที่เรื่องตาย ไม่ไปเรื่องอื่น ห่วงคนส่งคลิปแฉ หวั่นถึงขั้นตาย เชื่อ ร่าง พ.ร.บ.ตำรวจ ไม่ผ่าน ชี้มี กมธ.สายตำรวจบล็อก ท้วงแล้วท้วงอีก

พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) เปิดเผยถึงการจับกุม พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ ผู้กำกับโจ้ อดีต ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ หลังร่วมกับพวกใช้ถุงคลุมศีรษะผู้ต้องหาคดียาเสพติดจนถึงแก่ความตายว่า กังวลลักษณะของคดี เพราะเป็นการเสียชีวิตโดยการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ และเป็นการใช้อำนาจตามบทกฎหมายที่มี ซึ่งการที่มีคนเสียชีวิตในขณะที่จับกลุ่มนั้นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นตลอดเวลา ทั้งที่สากลให้ความสำคัญอย่างมากแต่ประเทศไทยไม่เคยใส่ใจในเรื่องนี้ แม้ว่าจะมีการแก้กฎหมายไปแล้วเมื่อปี 2543 ในการตายที่มีการควบคุมของเจ้าพนักงาน จะมีมาตรการเพิ่มขึ้นมามากมาย แต่ว่าก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลย อย่างเช่นในกรณีนี้ เป็นการตาย แล้วก็ส่งไปชันสูตร แล้วก็บิดเบือนข้อมูล พอศพเผาไปแล้ว ก็ไม่ได้ทำตามกฎหมายข้อนี้


พญ.คุณหญิงพรทิพย์ ยอมรับว่า ห่วงระบบการตรวจสอบในกรณีเช่นนี้ เรายังไม่เคยมีกฎหมายหรือระเบียบโดยเฉพาะ ตลอดเวลาก็ยังคงเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยกันที่เป็นคนสอบสวน และไม่เคยที่จะทำให้เกิดความเป็นธรรมกับคนตายได้ ซึ่งตามสากลจะเน้นหน่วยงานที่เป็นกลางไม่ใช่หน่วยงานเดียวกัน ดังนั้น จากกรณีนี้จะเห็นได้ว่าตำรวจผู้ใหญ่ เหมือนให้โอกาสอย่างไม่ตรงไปตรงมา ขณะเดียวกัน ยังห่วงเรื่องการที่มีอำนาจแล้วไปใช้ประโยชน์ ซึ่งที่เห็นเด่นชัดคือเรื่องยาเสพติด รถหรู เพราะตอนนี้ตนเองติดตามเรื่องของยาเสพติดอยู่

“ทำไมเราจัดการกับต้นตอไม่ได้ ก็เพราะมันมีขบวนการแบบนี้ ก็คือ ล่อซื้อ และ ป.ป.ส.เป็นคนบอกเองว่า ที่จับได้ไม่ใช่ความต้องการจริง แปลว่ามันเหมือนการจัดฉากบางอย่าง เพื่ออะไร เพื่อสินบน เพื่อผลงานช่วงโยกย้ายอะไรประมาณนี้ เพราะฉะนั้น เคสนี้เห็นชัดแต่เรื่องนี้รวมถึงเรื่องรถหรู ถ้าไม่เกิดเรื่องนี้ขึ้น เราก็คงปล่อยให้กระบวนการที่อาจจะเอาเข้ามาเองหรือล่อเข้ามาก็แบบยาเสพติด แล้วก็ได้สินบนนำจับแล้วก็ไปตามซื้อตอนประมูลอีก ซึ่งทั้งหมดนี้ไม่เชื่อโดยสุจริตว่าจะสามารถสืบสวนสอบสวนขยายได้หมด เพราะส่วนใหญ่ก็จะตัดตอนไปที่เรื่องของการตาย ไม่ไปเรื่องอื่น” พญ.คุณหญิง พรทิพย์ กล่าว


พญ.คุณหญิงพรทิพย์ กล่าวถึงร่าง พ.ร.บ.ตำรวจว่า ปัญหาของตำรวจ คือไม่สามารถอำนวยความยุติธรรมได้จริง เพราะว่าตำรวจเป็นต้นสายธาร และปัญหาอีกหนึ่งอย่างก็คือการวิ่งเต้น

“การโยกย้ายตำแหน่งที่ทำให้คนมันเหนื่อยเพราะต้องวิ่งเต้นเพื่อขึ้นสู่ตำแหน่ง ก็เลยทำให้คนไม่อยากมาทำงานพนักงานสอบสวน เขาก็อุตส่าห์ไปเขียนไว้ในรัฐธรรมนูญ แล้วก็บอกบทเฉพาะกาลว่าจะต้องทำให้เสร็จภายในหนึ่งปี แล้วปรากฏว่านายกรัฐมนตรี ก็เป็นผู้ที่รับปาก แต่พอมาดูกระบวนการก็จะเห็นว่าชักเข้าชักออก ตั้งมาไม่รู้กี่ชุด สุดท้าย ร่าง พ.ร.บ.นี้ ไม่ได้พูดเรื่องยุติธรรม แต่พูดเรื่องโยกย้าย แล้วก็ไม่ใช่เรื่องที่จะผ่านได้ง่าย มันเหมือนผสมหลายร่างเข้ามา” พญ.คุณหญิงพรทิพย์ กล่าว

พญ.คุณหญิงพรทิพย์ กล่าวว่า ตอนนี้ในกรรมาธิการตำรวจมีการถกเถียงกันว่าองค์ประกอบของคณะกรรมการ การแบ่งโรงพักชั้นต่างๆ ซึ่งมองว่าเป็นกฎหมายจับฉ่ายมากๆ วนกลับไปกลับมา ซึ่งส่วนตัวมองว่าการพิจารณาแบบนี้ไม่ผ่าน เพราะท้วงแล้วท้วงอีก ตำรวจที่เป็นกรรมาธิการและตำรวจที่มาชี้แจงก็จะบล็อก ทั้งนี้ สิ่งที่กรรมาธิการที่ไม่ใช่ตำรวจต้องการเห็น คือ จะยกระดับงานสอบสวนอย่างไร แต่ก็มีการอ้างว่าฉบับนี้ไม่เกี่ยวกับเรื่องสอบสวนทั้งที่จริงนั้นไม่ใช่ และด้านกระบวนการยุติธรรมก็ไม่โผล่เลย


เมื่อถามถึงความเชื่อมั่นในองค์กรตำรวจหลังจากเกิดคดีดังกล่าวขึ้นมา พญ.คุณหญิงพรทิพย์ เชื่อว่า ภายในองค์กรตำรวจเจ็บปวดกับการที่ทำงานอย่างเต็มที่ แต่มีคนตัดหน้ามีคนมาเตะมาเขี่ยออก และตัวเองจะไม่ทำตามก็ไม่ได้ และพยายามให้อยู่ในขบวนการเดียวกันเพื่อรักษาตำแหน่งและเพื่อไปต่อ มั่นใจว่า มีตำรวจดีเยอะ แต่มีความไม่กล้า จึงอยากเห็นผู้กล้าที่ลุกขึ้นมาทำเพื่อให้ระบบดีขึ้น อย่าสนใจว่าลุกขึ้นมาทำแล้วจะเป็นอย่างไรต่อ เชื่อว่าคนที่เริ่มอาจจะเจ็บแต่ไปต่อได้ แต่ถ้าให้คนอื่นมาปฏิรูปให้ ย่อมเจ็บปวดมากกว่า เพราะคนอื่นไม่สามารถรู้ได้ถึงความจำเป็นของตัวเอง

“ระบบส่วย ก็ไม่ได้ถูกแก้ด้วยกฏหมายนี้ ก็ด้วยความห่วงใยจึงคิดว่า ควรมีตำรวจน้ำดีลุกขึ้นมา ซึ่งตอนนี้กำลังดูว่าเขาจะทำอย่างไรกับคนที่นำคลิปมาให้ ห่วงว่าจะตาย เพราะเขาไม่สนว่าเป็นการกระทำที่ผิด เขาสนแค่ว่าเพราะขัดผลประโยชน์ก็เลยโผล่ออกมา สุดท้ายก็ทำให้องค์กรเสียชื่อ ดังนั้น อย่าทำอะไรให้มันใหญ่โตไปกว่านี้ หันมามองตัวเอง สิ่งหนึ่งที่เห็นชัดตลอดเวลาคือการไม่ฟังผู้น้อย การให้ความเห็นทั้งหมดเป็นผู้ที่อยู่ในระดับบนเท่านั้น” พญ.คุณหญิงพรทิพย์ กล่าว

เมื่อถามถึง ร่าง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พญ.คุณหญิงพรทิพย์ ระบุว่า น่าเสียดาย ซึ่งกระทรวงยุติธรรมโดยกรมคุ้มครองสิทธิ์ฯได้ผลักดันออกมาแต่เป็นลักษณะกฎหมายที่เขียนภาพเสือให้วัวกลัว แต่ไม่มีเสืออยู่จริง เหมือนกับเขียนว่า อย่าอุ้ม อย่าซ้อม แต่ไม่ได้กำหนดกระบวนการตรวจสอบ เพราะการตรวจสอบจะมีทั้งการตรวจร่างกายและการตรวจศพ

“อย่างกรณีดังกล่าว สมมติว่า ไปบอกหมอว่าเสพยาเกินขนาด ก็ทำให้ยาก และถ้าไปเจอคุณหมอที่ไม่ใช่หมอนิติเวช แล้วดูบาดแผลไม่เป็น ก็ไม่สามารถช่วยให้เกิดความเป็นธรรม ดังนั้นกรณีการซ้อมทรมานต้องพูดเรื่องการปวดบาดแผล และต้องหาหน่วยงานกลางที่มารับเรื่อง แต่ถ้าเป็นระบบตำรวจอย่างทุกวันนี้ จะทำคดีก็ให้ตำรวจ จะตรวจศพก็ให้ตำรวจ ไม่มีทางแก้ได้ เพราะฉะนั้นถือว่าร่างกฏหมายฉบับนี้ไม่ครบ ส่วนเรื่องการอุ้มหายก็ไม่มีการพูดถึงเรื่องการติดตามศพนิรนาม เพราะในประเทศไทย เมื่อบอกว่าเป็นศพไร้ชื่อก็ไม่มีความใส่ใจ ส่งไปฝังอย่างไม่มีระบบ ศพนิรนามจึงกลายเป็นหลุมดำหลุมใหญ่ของกระบวนการยุติธรรม ดังนั้น กฎหมายนี้มีจุดอ่อน ก็ไม่รู้ว่า ส.ส.จะผลักดันได้แค่ไหน” พญ.คุณหญิงพรทิพย์ กล่าว .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

‘ฮุน เซน’ ไลฟ์สดกล่าวถึงปัญหาไทย-กัมพูชา

พนมเปญ 27 มิ.ย. – วันนี้นายฮุนเซน ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊กแต่เช้า พูดถึงเรื่องปัญหาความขัดแย้งไทยกับกัมพูชา สรุปประเด็นได้ดังนี้ 7. ประเด็นอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร นายฮุน เซนกล่าวว่า เมื่อตอนที่เดินทางมาเยี่ยมนายทักษิณที่ประเทศไทย เห็นกับตาว่า เวลานายทักษิณจะถ่ายรูปด้วยกัน ต้องหยิบปลอกคอทางการแพทย์มาสวมก่อน พอถ่ายรูปเสร็จก็ถอดออก แล้วไปกินข้าวด้วยกันเป็นปกติ 8.นายฮุน เซนระบุว่า กัมพูชาจะไม่อนุญาตให้ชาวต่างชาติดูหมิ่นกองทัพหรือผู้นำกองทัพ และนายฮุน เซน ถือว่าการกระทำของนางสาวแพทองธาร ต่อแม่ทัพภาคที่ 2 ของไทย ถือเป็นการหมิ่นเบื้องสูง.-810.-สำนักข่าวไทย

เช็กโผ ครม.ล่าสุด นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม

ทำเนียบฯ 27 มิ.ย. – คืบหน้า ครม.ใหม่ นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม โยก “สุดาวรรณ” นั่ง รมว.อว. ขณะที่ หลานชาย สุริยะ “พงศ์กวิน” นั่ง รมว.แรงงาน ความคืบหน้าในการปรับคณะรัฐมนตรี ( ครม.) ชุดใหม่ ล่าสุดมีรายงานว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เตรียมนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว โดยโผ ครม.ล่าสุด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะนั่งควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โดย น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม จะไปดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ส่วนนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะไปดำรงตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรี ควบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายจักรพงษ์ แสงมณี จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ […]

เร่งหาทอง 38 บาท หลังคนร้ายจบชีวิต หนีความผิด

ชลบุรี 27 มิ.ย. – คนร้ายบุกชิงทอง 38 บาท กลางห้างดังชลบุรี โดดคอนโด หนีความผิด หลังก่อเหตุ 2 ชม. ค้นบ้านเจอเอกสารทวงหนี้จำนวนมาก ตำรวจเร่งหาที่ซ่อนทอง ช่วงสายวานนี้ ประมาณ 09.30 น. เกิดเหตุคนร้าย เป็นชาย สวมเสื้อแขนยาวสวมหมวกใส่แมสก์ปิดบังใบหน้า เข้ามาใช้ปืนจี้พนักงานก่อเหตุชิงทอง ห้างทองภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง สาขาบ้านสวน อำเภอเมืองชลบุรี ได้ทองรูปพรรณไปทั้งหมดรวม 38 บาท ซึ่งขณะหลบหนี ดาบตำรวจสมปอง ฟองดา ผบ.หมู่ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนภูธรภาค 2 เห็นเหตุการณ์พอดี พยายามกระโดดขวางและเข้าชาร์จตัวผู้ก่อเหตุ จังหวะนั้นผู้ก่อเหตุ ได้ยิงเพื่อเปิดทางหนึ่งนัด กระสุนโดนหมวกกันน็อกดาบตำรวจสมปอง จนเป็นรู และสามารถแย่งปืนมาได้ แต่ไม่สามารถจับตัวได้ คนร้ายวิ่งหนีออกจากห้างไปอย่างรวดเร็วตำรวจในพื้นที่เร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อติดตามเส้นทางหลบหนี แต่ผ่านไปเพียง 2 ชั่วโมง ประมาณ 11.30 น. ตำรวจ สภ.ดอนหัวฬ่อ ได้รับแจ้งคนตกจากคอนโดมีเนียม จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมกู้ภัย […]

พบระเบิดอีกที่หาดสุรินทร์

ภูเก็ต 27 มิ.ย.-พบระเบิดอีก 1 ชุดที่หาดสุรินทร์ จ.ภูเก็ต ชุด EOD เข้าทำลายแล้ว เร่งค้นหาว่ามีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ หลังคนร้ายรับสารภาพวางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด ภายหลังจากตำรวจจับผู้ต้องหาลอบวางระเบิดสถานที่ท่องเที่ยวทั้งที่จังหวัดภูเก็ตและกระบี่ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ยังได้วางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด คือที่บริเวณหาดสุรินทร์ ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ใกล้กับสถานที่กำลังก่อสร้าง ขณะนี้เจ้าหน้าที่ชุด EOD ตำรวจภูธรภาค 8 ชุดสืบสวนภาค 8 ชุดสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชิงทะเล เจ้าหน้าที่ อบต.เชิงทะเล และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณหาดสุรินทร์ พร้อมอุปกรณ์และเครื่องมือสแกนหาวัตถุต้องสงสัย และเครื่องตรวจจับโลหะ และตรวจพบวัตถุต้องสงสัย 1 ชุด ถูกฝังไว้ใต้ต้นไม้ ใกล้ห้องน้ำ บริเวณที่กำลังมีการปรับปรุงภูมิทัศน์หาดสุรินทร์ ของกรมโยธาธิการและผังเมือง และเจ้าหน้าที่ EOD ใช้ยุทธวิธีในการทำลาย อย่างไรก็ตามขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังค้นหาว่าจะมีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ เพราะจากคำสารภาพของผู้ต้องหา ระบุว่า มีการนำวัตถุต้องสงสัยมาวางไว้ […]

ข่าวแนะนำ

ล่า “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงินกว่า 3 ล้าน

กทม. 1 ก.ค. – ตำรวจยังคงไล่ล่าแก๊งปล้นเงินกลางห้างดังย่านลาดพร้าว ได้เงินไปกว่า 3.4 ล้านบาท ล่าสุดศาลอนุมัติหมายจับแล้ว พบเป็นคนดังโซเชียลสายคุก ฉายา “เสือปุ่น” มีประวัติคดีโชกโชน .-สำนักข่าวไทย

“เจนี่” ถือฤกษ์ดี ปลงผมบวชสามเณรี ญาติมิตรร่วมอนุโมทนา

สระบุรี 1 ก.ค. – “เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ์” วัย 44 ปี ถือฤกษ์งามยามดี เช้าวันนี้ (1 ก.ค.68) ปลงผมบวชสามเณรี ในโครงการบรรพชาสามเณรี รุ่นที่ 3 บริเวณปะรำพิธี ณ ศรีวรญาลัย จ.สระบุรี โดยมีครอบครัว ญาติสนิท ผู้หลักผู้ใหญ่ที่นับถือ และเพื่อนพ้องทั้งในและนอกวงการ ร่วมอนุโมทนา. – สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เร่งสอบบัญชีวัดดัง พบเส้นเงินไหลเข้าสีกาคนสนิทหลายครั้ง

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – “บิ๊กเต่า” เร่งสอบ 5 บัญชี เงินวัดตรีฯ-ทิดอาชว์ พบมีเส้นเงินไหลเข้าสีกาคนสนิทหลักหมื่นถึงหลักแสนบาทหลายครั้ง ส่วนคลิปลับแชทหลุดเป็นหน้าที่สำนักพุทธฯ ตรวจสอบ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เรียกประชุมตำรวจ บก.ปปป. และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. เพื่อติดตามความคืบหน้าการตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายของวัดตรีทศเทพวรวิหาร หลังพบพิรุธพระเทพวชิรปาโมกข์ (อาชว์ อาชฺชวปเสฏฺโฐ) หรือ “เจ้าคุณอาชว์” ได้ลาสิกขาหรือสึก ที่ จ.หนองคาย อย่างกะทันหัน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า จากการเข้าตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายที่วัดตรีทศเทพเมื่อวานนี้ ยังไม่เป็นที่น่าพอใจ ทางวัดให้เอกสารทางบัญชีมาบางส่วน พระหลายรูปกังวลหวาดกลัวจึงไม่ค่อยให้ความร่วมมือเท่าที่ควร แต่ตำรวจได้ประสานรักษาการเจ้าอาวาสวัด เพื่อให้แต่งตั้งไวยาวัจกรใหม่ ซึ่งเชื่อว่าหลังจากนี้จะได้รับความร่วมมือมากขึ้น โดยตำรวจได้ประสานขอรายการเดินบัญชีธนาคารของวัด 5 บัญชี เป็นบัญชีที่เกี่ยวกับเงินกฐิน ค่าเช่าที่จอดรถ ฌาปนกิจศพ ค่าน้ำค่าไฟ และภาพวาดโบราณ และบัญชีที่ต้องสงสัยอีกจำนวนหนึ่ง มาตรวจสอบทั้งหมด รวมถึงบัญชีส่วนตัวของทิดอาชว์ เบื้องต้นตำรวจมีข้อมูลน่าเชื่อได้ว่า ตำแหน่งเจ้าอาวาสไม่ได้มีเงินเยอะ แต่ตำรวจเห็นหลักฐานการโอนเงินบางส่วนไปยังสีกาหญิงหลายรายการ ยอดเงินตั้งแต่หลักหมื่นถึงหลักแสนบาท ซึ่งอาจเป็นเงินของวัด หรืออาจใช้ให้คนอื่นไปโอน […]

นายกฯ แถลงน้อมรับคำวินิจฉัยศาล รธน. ยันเกิน 100% ทำเพื่อประเทศชาติ

ทำเนียบ 1 ก.ค.-นายกฯ แถลงน้อมรับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ พร้อมชี้แจงเต็มที่ ยืนยันเกิน 100% ทำเพื่อประเทศชาติและรักษาอธิปไตย ไม่มีเจตนาอยากได้อะไรเป็นของตัวเอง พร้อมขอโทษ หากวิธีการไม่ถูกใจใครหลายคน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม แถลงภายหลังศาลรัฐธรรมนูญ มีคำสั่งรับคำร้องไว้วินิจฉัย กรณีคลิปเสียงสนทนากับ สมเด็จฮุนเซ็น และให้หยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัย ด้วยมติ 7:2 ว่า ขอน้อมรับคำวินิจฉัยของศาลต่อจากนี้ได้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งระยะเวลานั้นไม่แน่ใจ แต่มีเวลาประมาณ 15 วันที่จะชี้แจง ตนจะทำให้เต็มที่ในการที่จะบอกความตั้งใจที่แท้จริงว่าคลิปเสียงที่หลุดออกมาว่า ความตั้งใจและเจตนาจริงๆ เกิน 100% ว่าตั้งใจทำเพื่อประเทศชาติ เพื่อรักษาไว้เพื่ออธิปไตยของเรา เพื่อรักษาไว้ซึ่งชีวิตของกองทัพและทหารทุกคน เพื่อสันติภาพที่จะเกิดขึ้นในประเทศของเรา ตนมั่นใจในสิ่งนี้มากๆ แต่วิธีการที่ตนเองทำ อาจจะมีทั้งถูกใจหรือไม่ถูกใจใครหลายๆ คน แต่ก็จะพยายามพิสูจน์เรื่องนี้ให้ได้ ว่าเป็นความตั้งใจ เป็นความพยายามเกิน 100% ที่จะทำเพื่อประเทศชาติจริงๆ เจตนาไม่มีอยากได้อะไรของตัวเองเลย และคิดอย่างเดียวว่าทำอย่างไรที่จะไม่ให้เกิดความวุ่นวายและ ทำอย่างไรที่จะไม่ต้องสู้รบกัน ทหารไม่ต้องเสียเลือดเสียเนื้อ และตนก็คงรับไม่ได้หากพูดอะไรกับทางผู้นำและทำให้เกิดผลเสีย เกิดการทะเลาะหรือโกรธเคือง อันนั้นเป็นความตั้งใจจริงๆ ถ้าลองฟังดูจริงๆ ก็จะรู้ว่าไม่ได้มีเจตนาร้ายอะไร เพราะฉะนั้นนี่คือ […]