“หมอพรทิพย์” ห่วงคนส่งคลิปแฉคดี ‘ผกก.โจ้’ หวั่นถึงขั้นตาย

กทม. 28 ส.ค.- “หมอพรทิพย์” ไม่เชื่อ คดี ‘ผกก.โจ้’ จะขยายผลได้หมด คาดตัดตอนไปที่เรื่องตาย ไม่ไปเรื่องอื่น ห่วงคนส่งคลิปแฉ หวั่นถึงขั้นตาย เชื่อ ร่าง พ.ร.บ.ตำรวจ ไม่ผ่าน ชี้มี กมธ.สายตำรวจบล็อก ท้วงแล้วท้วงอีก

พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) เปิดเผยถึงการจับกุม พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ ผู้กำกับโจ้ อดีต ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ หลังร่วมกับพวกใช้ถุงคลุมศีรษะผู้ต้องหาคดียาเสพติดจนถึงแก่ความตายว่า กังวลลักษณะของคดี เพราะเป็นการเสียชีวิตโดยการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ และเป็นการใช้อำนาจตามบทกฎหมายที่มี ซึ่งการที่มีคนเสียชีวิตในขณะที่จับกลุ่มนั้นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นตลอดเวลา ทั้งที่สากลให้ความสำคัญอย่างมากแต่ประเทศไทยไม่เคยใส่ใจในเรื่องนี้ แม้ว่าจะมีการแก้กฎหมายไปแล้วเมื่อปี 2543 ในการตายที่มีการควบคุมของเจ้าพนักงาน จะมีมาตรการเพิ่มขึ้นมามากมาย แต่ว่าก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลย อย่างเช่นในกรณีนี้ เป็นการตาย แล้วก็ส่งไปชันสูตร แล้วก็บิดเบือนข้อมูล พอศพเผาไปแล้ว ก็ไม่ได้ทำตามกฎหมายข้อนี้


พญ.คุณหญิงพรทิพย์ ยอมรับว่า ห่วงระบบการตรวจสอบในกรณีเช่นนี้ เรายังไม่เคยมีกฎหมายหรือระเบียบโดยเฉพาะ ตลอดเวลาก็ยังคงเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยกันที่เป็นคนสอบสวน และไม่เคยที่จะทำให้เกิดความเป็นธรรมกับคนตายได้ ซึ่งตามสากลจะเน้นหน่วยงานที่เป็นกลางไม่ใช่หน่วยงานเดียวกัน ดังนั้น จากกรณีนี้จะเห็นได้ว่าตำรวจผู้ใหญ่ เหมือนให้โอกาสอย่างไม่ตรงไปตรงมา ขณะเดียวกัน ยังห่วงเรื่องการที่มีอำนาจแล้วไปใช้ประโยชน์ ซึ่งที่เห็นเด่นชัดคือเรื่องยาเสพติด รถหรู เพราะตอนนี้ตนเองติดตามเรื่องของยาเสพติดอยู่

“ทำไมเราจัดการกับต้นตอไม่ได้ ก็เพราะมันมีขบวนการแบบนี้ ก็คือ ล่อซื้อ และ ป.ป.ส.เป็นคนบอกเองว่า ที่จับได้ไม่ใช่ความต้องการจริง แปลว่ามันเหมือนการจัดฉากบางอย่าง เพื่ออะไร เพื่อสินบน เพื่อผลงานช่วงโยกย้ายอะไรประมาณนี้ เพราะฉะนั้น เคสนี้เห็นชัดแต่เรื่องนี้รวมถึงเรื่องรถหรู ถ้าไม่เกิดเรื่องนี้ขึ้น เราก็คงปล่อยให้กระบวนการที่อาจจะเอาเข้ามาเองหรือล่อเข้ามาก็แบบยาเสพติด แล้วก็ได้สินบนนำจับแล้วก็ไปตามซื้อตอนประมูลอีก ซึ่งทั้งหมดนี้ไม่เชื่อโดยสุจริตว่าจะสามารถสืบสวนสอบสวนขยายได้หมด เพราะส่วนใหญ่ก็จะตัดตอนไปที่เรื่องของการตาย ไม่ไปเรื่องอื่น” พญ.คุณหญิง พรทิพย์ กล่าว


พญ.คุณหญิงพรทิพย์ กล่าวถึงร่าง พ.ร.บ.ตำรวจว่า ปัญหาของตำรวจ คือไม่สามารถอำนวยความยุติธรรมได้จริง เพราะว่าตำรวจเป็นต้นสายธาร และปัญหาอีกหนึ่งอย่างก็คือการวิ่งเต้น

“การโยกย้ายตำแหน่งที่ทำให้คนมันเหนื่อยเพราะต้องวิ่งเต้นเพื่อขึ้นสู่ตำแหน่ง ก็เลยทำให้คนไม่อยากมาทำงานพนักงานสอบสวน เขาก็อุตส่าห์ไปเขียนไว้ในรัฐธรรมนูญ แล้วก็บอกบทเฉพาะกาลว่าจะต้องทำให้เสร็จภายในหนึ่งปี แล้วปรากฏว่านายกรัฐมนตรี ก็เป็นผู้ที่รับปาก แต่พอมาดูกระบวนการก็จะเห็นว่าชักเข้าชักออก ตั้งมาไม่รู้กี่ชุด สุดท้าย ร่าง พ.ร.บ.นี้ ไม่ได้พูดเรื่องยุติธรรม แต่พูดเรื่องโยกย้าย แล้วก็ไม่ใช่เรื่องที่จะผ่านได้ง่าย มันเหมือนผสมหลายร่างเข้ามา” พญ.คุณหญิงพรทิพย์ กล่าว

พญ.คุณหญิงพรทิพย์ กล่าวว่า ตอนนี้ในกรรมาธิการตำรวจมีการถกเถียงกันว่าองค์ประกอบของคณะกรรมการ การแบ่งโรงพักชั้นต่างๆ ซึ่งมองว่าเป็นกฎหมายจับฉ่ายมากๆ วนกลับไปกลับมา ซึ่งส่วนตัวมองว่าการพิจารณาแบบนี้ไม่ผ่าน เพราะท้วงแล้วท้วงอีก ตำรวจที่เป็นกรรมาธิการและตำรวจที่มาชี้แจงก็จะบล็อก ทั้งนี้ สิ่งที่กรรมาธิการที่ไม่ใช่ตำรวจต้องการเห็น คือ จะยกระดับงานสอบสวนอย่างไร แต่ก็มีการอ้างว่าฉบับนี้ไม่เกี่ยวกับเรื่องสอบสวนทั้งที่จริงนั้นไม่ใช่ และด้านกระบวนการยุติธรรมก็ไม่โผล่เลย


เมื่อถามถึงความเชื่อมั่นในองค์กรตำรวจหลังจากเกิดคดีดังกล่าวขึ้นมา พญ.คุณหญิงพรทิพย์ เชื่อว่า ภายในองค์กรตำรวจเจ็บปวดกับการที่ทำงานอย่างเต็มที่ แต่มีคนตัดหน้ามีคนมาเตะมาเขี่ยออก และตัวเองจะไม่ทำตามก็ไม่ได้ และพยายามให้อยู่ในขบวนการเดียวกันเพื่อรักษาตำแหน่งและเพื่อไปต่อ มั่นใจว่า มีตำรวจดีเยอะ แต่มีความไม่กล้า จึงอยากเห็นผู้กล้าที่ลุกขึ้นมาทำเพื่อให้ระบบดีขึ้น อย่าสนใจว่าลุกขึ้นมาทำแล้วจะเป็นอย่างไรต่อ เชื่อว่าคนที่เริ่มอาจจะเจ็บแต่ไปต่อได้ แต่ถ้าให้คนอื่นมาปฏิรูปให้ ย่อมเจ็บปวดมากกว่า เพราะคนอื่นไม่สามารถรู้ได้ถึงความจำเป็นของตัวเอง

“ระบบส่วย ก็ไม่ได้ถูกแก้ด้วยกฏหมายนี้ ก็ด้วยความห่วงใยจึงคิดว่า ควรมีตำรวจน้ำดีลุกขึ้นมา ซึ่งตอนนี้กำลังดูว่าเขาจะทำอย่างไรกับคนที่นำคลิปมาให้ ห่วงว่าจะตาย เพราะเขาไม่สนว่าเป็นการกระทำที่ผิด เขาสนแค่ว่าเพราะขัดผลประโยชน์ก็เลยโผล่ออกมา สุดท้ายก็ทำให้องค์กรเสียชื่อ ดังนั้น อย่าทำอะไรให้มันใหญ่โตไปกว่านี้ หันมามองตัวเอง สิ่งหนึ่งที่เห็นชัดตลอดเวลาคือการไม่ฟังผู้น้อย การให้ความเห็นทั้งหมดเป็นผู้ที่อยู่ในระดับบนเท่านั้น” พญ.คุณหญิงพรทิพย์ กล่าว

เมื่อถามถึง ร่าง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พญ.คุณหญิงพรทิพย์ ระบุว่า น่าเสียดาย ซึ่งกระทรวงยุติธรรมโดยกรมคุ้มครองสิทธิ์ฯได้ผลักดันออกมาแต่เป็นลักษณะกฎหมายที่เขียนภาพเสือให้วัวกลัว แต่ไม่มีเสืออยู่จริง เหมือนกับเขียนว่า อย่าอุ้ม อย่าซ้อม แต่ไม่ได้กำหนดกระบวนการตรวจสอบ เพราะการตรวจสอบจะมีทั้งการตรวจร่างกายและการตรวจศพ

“อย่างกรณีดังกล่าว สมมติว่า ไปบอกหมอว่าเสพยาเกินขนาด ก็ทำให้ยาก และถ้าไปเจอคุณหมอที่ไม่ใช่หมอนิติเวช แล้วดูบาดแผลไม่เป็น ก็ไม่สามารถช่วยให้เกิดความเป็นธรรม ดังนั้นกรณีการซ้อมทรมานต้องพูดเรื่องการปวดบาดแผล และต้องหาหน่วยงานกลางที่มารับเรื่อง แต่ถ้าเป็นระบบตำรวจอย่างทุกวันนี้ จะทำคดีก็ให้ตำรวจ จะตรวจศพก็ให้ตำรวจ ไม่มีทางแก้ได้ เพราะฉะนั้นถือว่าร่างกฏหมายฉบับนี้ไม่ครบ ส่วนเรื่องการอุ้มหายก็ไม่มีการพูดถึงเรื่องการติดตามศพนิรนาม เพราะในประเทศไทย เมื่อบอกว่าเป็นศพไร้ชื่อก็ไม่มีความใส่ใจ ส่งไปฝังอย่างไม่มีระบบ ศพนิรนามจึงกลายเป็นหลุมดำหลุมใหญ่ของกระบวนการยุติธรรม ดังนั้น กฎหมายนี้มีจุดอ่อน ก็ไม่รู้ว่า ส.ส.จะผลักดันได้แค่ไหน” พญ.คุณหญิงพรทิพย์ กล่าว .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” สุดชิล ใส่เสื้อฮาวาย เข้าพรรคประชุมแกนนำ

ภูมิใจไทย 6 ก.ย. – “อนุทิน” ว่าที่นายกฯ สุดชิล ใส่เสื้อฮาวายลายใบไม้ เดินทางเข้าที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ประชุมแกนนำในวันหยุด นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ด้วยท่าทีผ่อนคลาย สีหน้ายิ้มแย้ม สวมเสื้อฮาวายลายใบไม้ เมื่อมาถึงผู้สื่อข่าวพยายามขอสัมภาษณ์ แต่นายอนุทิน ขอตัวขึ้นไปประชุมก่อน และระบุว่าขณะนี้ยังไม่มีข่าว ขณะที่พรรคภูมิใจไทย เตรียมความพร้อมในการจัดงานพิธีสำคัญ ภายหลังมีแกนนำพรรค และว่าที่รัฐมนตรีตามโผ ครม.อนุทิน 1 เช่น นายภราดร ปริศนานันทกุล นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ นอกจากนี้ยังมีผู้ที่ส่งช่อดอกไม้มาแสดงความยินดี รวมไปถึงต้นกล้วยไม้สีขาวก้านยาว ในกระถางพลาสติกสีเขียวอ่อนขนาดใหญ่ ประมาณ 1 คนโอบ ติดนามบัตรมีชื่อของนายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด.-314-สำนักข่าวไทย

อุตุฯ เตือน “อีสาน กลาง ใต้” รับมือฝนถล่ม

6 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนภาคอีสาน ภาคกลาง และภาคใต้ รับมือฝนถล่ม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออกบริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี และตราด ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ทะเลอันดามันตอนล่าง และอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศจีนตอนใต้ในช่วงวันที่ 8 – 9 ก.ย. โดยพายุนี้ไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย – สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” บอกฟอร์มทีม ครม.เรียบร้อยแล้ว-เร่งเดินหน้าแก้ปัญหา

พรรคภูมิใจไทย 5 ก.ย.-“อนุทิน” ขอบคุณเสียงโหวตนั่งนายกฯ คนที่ 32 เร่งเดินหน้าแก้ปัญหาทดแทนโอกาสที่เสียไป เผย วินาทีกราบพ่อ เป็นสิ่งแรกที่อยากทำ ฟอร์มทีม ครม.เรียบร้อยแล้ว บอกผมโอเค พรรคร่วมรัฐบาลก็ต้องโอเค นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าที่ทำการพรรคภายหลังร่วมประชุมสภาผู้แทนราษฎร พร้อมเปิดใจเป็นครั้งแรก หลังจากได้รับการโหวตเห็นชอบให้เป็นนายกรัฐมนตรี โดยนายอนุทินได้กล่าวขอบคุณประชาชน ในโอกาสที่ได้รับเสียงสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรี เพราะถือเป็นเสียงของประชาชนที่ได้ใช้สิทธิ์ ผ่านสส. โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สส.พรรคประชาชน และพรรคการเมืองที่ได้ลงคะแนนให้กับตน หรือพรรคที่ไม่ได้ลงคะแนนให้กับตน โดยการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีที่มีนายชัยเกษม นิติสิริ ได้รับการเสนอชื่อโหวตชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แต่เมื่อการโหวตผ่านพ้นไปแล้ว ก็อยากให้ทุกอย่างมันจบไปด้วยดี และอยากให้เราหันหน้าเข้าหากัน เพื่อทำงานให้กับประชาชน ให้กับประเทศ ในการขับเคลื่อนประเทศไทยให้ก้าวไปข้างหน้า ด้วยความรวดเร็ว เพื่อทดแทนโอกาสที่เสียไป ซึ่งตนเชื่อว่าหากเราหันหน้าทำงานด้วยกัน ก็จะทำให้ทะลุเป้าหมายต่างๆ ได้ ส่วนจะผลักดันนโยบายอะไรต่อขอยังไม่ลงรายละเอียด เมื่อถามถึงการเข้าพบนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล ผู้เป็นบิดา หลังจากได้รับการโหวตเลือกเป็นนายกรัฐมนตรี นายอนุทินเล่าว่า นายชวรัตน์ ไม่ค่อยสบาย รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ซึ่งตนก็คิดว่านายชวรัตน์ ก็อยากให้ไปหา จึงเร่งไปกราบเป็นอันดับแรก เมื่อถามว่านายชวรัตน์ให้พรอะไรบ้าง […]

อดีตนายกฯ โพสต์พร้อมทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน-ตรวจสอบรัฐบาล

กรุงเทพ 5 ก.ย.- “แพทองธาร” ระบุ จากวันนี้เพื่อไทยทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานรัฐบาล บอก ไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่ พร้อมขอบคุณผู้สนับสนุน จะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า ตลอดระยะเวลาการทำงานของพรรคเพื่อไทย เราผ่านสถานการณ์ทุกรูปแบบ ทั้งช่วงเวลาแห่งความสุข และช่วงเวลาที่ต้องแบกรับความยากลำบากร่วมกัน แต่สิ่งที่เราไม่เคยละวาง คือความหวัง โอกาส และอนาคตที่ดีกว่าของประชาชน จากวันนี้ เราจะทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล รักษาระบบรัฐสภาให้เดินหน้าตามวิถีทางประชาธิปไตย เราไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่นี้ แต่เราจะรับผิดชอบต่อพี่น้องประชาชน ด้วยความมุ่งมั่นและจิตวิญญาณของพรรคเพื่อไทย ขอบคุณกำลังใจและการสนับสนุนจากทุกท่าน เราทราบดีว่า การเดินทางร่วมกับพรรคเพื่อไทยจนถึงวันนี้ ต้องใช้ความเข้มแข็งและอดทนถึงเพียงไหน เราจะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน .-316 -สำนักข่าวไทย