“หมอพรทิพย์” ห่วงคนส่งคลิปแฉคดี ‘ผกก.โจ้’ หวั่นถึงขั้นตาย

กทม. 28 ส.ค.- “หมอพรทิพย์” ไม่เชื่อ คดี ‘ผกก.โจ้’ จะขยายผลได้หมด คาดตัดตอนไปที่เรื่องตาย ไม่ไปเรื่องอื่น ห่วงคนส่งคลิปแฉ หวั่นถึงขั้นตาย เชื่อ ร่าง พ.ร.บ.ตำรวจ ไม่ผ่าน ชี้มี กมธ.สายตำรวจบล็อก ท้วงแล้วท้วงอีก

พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) เปิดเผยถึงการจับกุม พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ ผู้กำกับโจ้ อดีต ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ หลังร่วมกับพวกใช้ถุงคลุมศีรษะผู้ต้องหาคดียาเสพติดจนถึงแก่ความตายว่า กังวลลักษณะของคดี เพราะเป็นการเสียชีวิตโดยการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ และเป็นการใช้อำนาจตามบทกฎหมายที่มี ซึ่งการที่มีคนเสียชีวิตในขณะที่จับกลุ่มนั้นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นตลอดเวลา ทั้งที่สากลให้ความสำคัญอย่างมากแต่ประเทศไทยไม่เคยใส่ใจในเรื่องนี้ แม้ว่าจะมีการแก้กฎหมายไปแล้วเมื่อปี 2543 ในการตายที่มีการควบคุมของเจ้าพนักงาน จะมีมาตรการเพิ่มขึ้นมามากมาย แต่ว่าก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลย อย่างเช่นในกรณีนี้ เป็นการตาย แล้วก็ส่งไปชันสูตร แล้วก็บิดเบือนข้อมูล พอศพเผาไปแล้ว ก็ไม่ได้ทำตามกฎหมายข้อนี้


พญ.คุณหญิงพรทิพย์ ยอมรับว่า ห่วงระบบการตรวจสอบในกรณีเช่นนี้ เรายังไม่เคยมีกฎหมายหรือระเบียบโดยเฉพาะ ตลอดเวลาก็ยังคงเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยกันที่เป็นคนสอบสวน และไม่เคยที่จะทำให้เกิดความเป็นธรรมกับคนตายได้ ซึ่งตามสากลจะเน้นหน่วยงานที่เป็นกลางไม่ใช่หน่วยงานเดียวกัน ดังนั้น จากกรณีนี้จะเห็นได้ว่าตำรวจผู้ใหญ่ เหมือนให้โอกาสอย่างไม่ตรงไปตรงมา ขณะเดียวกัน ยังห่วงเรื่องการที่มีอำนาจแล้วไปใช้ประโยชน์ ซึ่งที่เห็นเด่นชัดคือเรื่องยาเสพติด รถหรู เพราะตอนนี้ตนเองติดตามเรื่องของยาเสพติดอยู่

“ทำไมเราจัดการกับต้นตอไม่ได้ ก็เพราะมันมีขบวนการแบบนี้ ก็คือ ล่อซื้อ และ ป.ป.ส.เป็นคนบอกเองว่า ที่จับได้ไม่ใช่ความต้องการจริง แปลว่ามันเหมือนการจัดฉากบางอย่าง เพื่ออะไร เพื่อสินบน เพื่อผลงานช่วงโยกย้ายอะไรประมาณนี้ เพราะฉะนั้น เคสนี้เห็นชัดแต่เรื่องนี้รวมถึงเรื่องรถหรู ถ้าไม่เกิดเรื่องนี้ขึ้น เราก็คงปล่อยให้กระบวนการที่อาจจะเอาเข้ามาเองหรือล่อเข้ามาก็แบบยาเสพติด แล้วก็ได้สินบนนำจับแล้วก็ไปตามซื้อตอนประมูลอีก ซึ่งทั้งหมดนี้ไม่เชื่อโดยสุจริตว่าจะสามารถสืบสวนสอบสวนขยายได้หมด เพราะส่วนใหญ่ก็จะตัดตอนไปที่เรื่องของการตาย ไม่ไปเรื่องอื่น” พญ.คุณหญิง พรทิพย์ กล่าว


พญ.คุณหญิงพรทิพย์ กล่าวถึงร่าง พ.ร.บ.ตำรวจว่า ปัญหาของตำรวจ คือไม่สามารถอำนวยความยุติธรรมได้จริง เพราะว่าตำรวจเป็นต้นสายธาร และปัญหาอีกหนึ่งอย่างก็คือการวิ่งเต้น

“การโยกย้ายตำแหน่งที่ทำให้คนมันเหนื่อยเพราะต้องวิ่งเต้นเพื่อขึ้นสู่ตำแหน่ง ก็เลยทำให้คนไม่อยากมาทำงานพนักงานสอบสวน เขาก็อุตส่าห์ไปเขียนไว้ในรัฐธรรมนูญ แล้วก็บอกบทเฉพาะกาลว่าจะต้องทำให้เสร็จภายในหนึ่งปี แล้วปรากฏว่านายกรัฐมนตรี ก็เป็นผู้ที่รับปาก แต่พอมาดูกระบวนการก็จะเห็นว่าชักเข้าชักออก ตั้งมาไม่รู้กี่ชุด สุดท้าย ร่าง พ.ร.บ.นี้ ไม่ได้พูดเรื่องยุติธรรม แต่พูดเรื่องโยกย้าย แล้วก็ไม่ใช่เรื่องที่จะผ่านได้ง่าย มันเหมือนผสมหลายร่างเข้ามา” พญ.คุณหญิงพรทิพย์ กล่าว

พญ.คุณหญิงพรทิพย์ กล่าวว่า ตอนนี้ในกรรมาธิการตำรวจมีการถกเถียงกันว่าองค์ประกอบของคณะกรรมการ การแบ่งโรงพักชั้นต่างๆ ซึ่งมองว่าเป็นกฎหมายจับฉ่ายมากๆ วนกลับไปกลับมา ซึ่งส่วนตัวมองว่าการพิจารณาแบบนี้ไม่ผ่าน เพราะท้วงแล้วท้วงอีก ตำรวจที่เป็นกรรมาธิการและตำรวจที่มาชี้แจงก็จะบล็อก ทั้งนี้ สิ่งที่กรรมาธิการที่ไม่ใช่ตำรวจต้องการเห็น คือ จะยกระดับงานสอบสวนอย่างไร แต่ก็มีการอ้างว่าฉบับนี้ไม่เกี่ยวกับเรื่องสอบสวนทั้งที่จริงนั้นไม่ใช่ และด้านกระบวนการยุติธรรมก็ไม่โผล่เลย


เมื่อถามถึงความเชื่อมั่นในองค์กรตำรวจหลังจากเกิดคดีดังกล่าวขึ้นมา พญ.คุณหญิงพรทิพย์ เชื่อว่า ภายในองค์กรตำรวจเจ็บปวดกับการที่ทำงานอย่างเต็มที่ แต่มีคนตัดหน้ามีคนมาเตะมาเขี่ยออก และตัวเองจะไม่ทำตามก็ไม่ได้ และพยายามให้อยู่ในขบวนการเดียวกันเพื่อรักษาตำแหน่งและเพื่อไปต่อ มั่นใจว่า มีตำรวจดีเยอะ แต่มีความไม่กล้า จึงอยากเห็นผู้กล้าที่ลุกขึ้นมาทำเพื่อให้ระบบดีขึ้น อย่าสนใจว่าลุกขึ้นมาทำแล้วจะเป็นอย่างไรต่อ เชื่อว่าคนที่เริ่มอาจจะเจ็บแต่ไปต่อได้ แต่ถ้าให้คนอื่นมาปฏิรูปให้ ย่อมเจ็บปวดมากกว่า เพราะคนอื่นไม่สามารถรู้ได้ถึงความจำเป็นของตัวเอง

“ระบบส่วย ก็ไม่ได้ถูกแก้ด้วยกฏหมายนี้ ก็ด้วยความห่วงใยจึงคิดว่า ควรมีตำรวจน้ำดีลุกขึ้นมา ซึ่งตอนนี้กำลังดูว่าเขาจะทำอย่างไรกับคนที่นำคลิปมาให้ ห่วงว่าจะตาย เพราะเขาไม่สนว่าเป็นการกระทำที่ผิด เขาสนแค่ว่าเพราะขัดผลประโยชน์ก็เลยโผล่ออกมา สุดท้ายก็ทำให้องค์กรเสียชื่อ ดังนั้น อย่าทำอะไรให้มันใหญ่โตไปกว่านี้ หันมามองตัวเอง สิ่งหนึ่งที่เห็นชัดตลอดเวลาคือการไม่ฟังผู้น้อย การให้ความเห็นทั้งหมดเป็นผู้ที่อยู่ในระดับบนเท่านั้น” พญ.คุณหญิงพรทิพย์ กล่าว

เมื่อถามถึง ร่าง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พญ.คุณหญิงพรทิพย์ ระบุว่า น่าเสียดาย ซึ่งกระทรวงยุติธรรมโดยกรมคุ้มครองสิทธิ์ฯได้ผลักดันออกมาแต่เป็นลักษณะกฎหมายที่เขียนภาพเสือให้วัวกลัว แต่ไม่มีเสืออยู่จริง เหมือนกับเขียนว่า อย่าอุ้ม อย่าซ้อม แต่ไม่ได้กำหนดกระบวนการตรวจสอบ เพราะการตรวจสอบจะมีทั้งการตรวจร่างกายและการตรวจศพ

“อย่างกรณีดังกล่าว สมมติว่า ไปบอกหมอว่าเสพยาเกินขนาด ก็ทำให้ยาก และถ้าไปเจอคุณหมอที่ไม่ใช่หมอนิติเวช แล้วดูบาดแผลไม่เป็น ก็ไม่สามารถช่วยให้เกิดความเป็นธรรม ดังนั้นกรณีการซ้อมทรมานต้องพูดเรื่องการปวดบาดแผล และต้องหาหน่วยงานกลางที่มารับเรื่อง แต่ถ้าเป็นระบบตำรวจอย่างทุกวันนี้ จะทำคดีก็ให้ตำรวจ จะตรวจศพก็ให้ตำรวจ ไม่มีทางแก้ได้ เพราะฉะนั้นถือว่าร่างกฏหมายฉบับนี้ไม่ครบ ส่วนเรื่องการอุ้มหายก็ไม่มีการพูดถึงเรื่องการติดตามศพนิรนาม เพราะในประเทศไทย เมื่อบอกว่าเป็นศพไร้ชื่อก็ไม่มีความใส่ใจ ส่งไปฝังอย่างไม่มีระบบ ศพนิรนามจึงกลายเป็นหลุมดำหลุมใหญ่ของกระบวนการยุติธรรม ดังนั้น กฎหมายนี้มีจุดอ่อน ก็ไม่รู้ว่า ส.ส.จะผลักดันได้แค่ไหน” พญ.คุณหญิงพรทิพย์ กล่าว .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้ใหญ่บ้านมอบตัว คดียิงชายใหม่ของเมียเก่า ดับคากระบะ

นนทบุรี 20 พ.ค. – ผู้ใหญ่บ้านหึงโหด บุกยิงกิ๊กของอดีตภรรยา 6 นัด เสียชีวิตคารถกระบะ มอบตัวแล้ว เบื้องต้นถูกแจ้งหลายข้อหาหนัก ขณะที่เจ้าตัวฝากขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิต นายอานนท์ อายุ 40 ปี ผู้ใหญ่บ้านแห่งหนึ่งใน อ.องครักษ์ จ.นครนายก หึงโหด บุกยิงนายพลาธิป อายุ 34 ปี อาชีพขับรถส่งหมู ซึ่งเป็นกิ๊กของอดีตภรรยา เสียชีวิตภายในรถกระบะที่จอดอยู่ในซอยลาดปลาดุก ถนนบางไผ่-หนองเพรางาย ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เหตุเกิดเมื่อเวลา 21.30 น.ที่ผ่านมา (19 พ.ค.) จากภาพจะเห็นว่าเมื่อเวลา 21.02 น. เห็นผู้ตายขับรถกระบะมาจอดริมทาง ก่อนมีรถกระบะสีดำอีกคันตามมาจอดปิดท้าย จากนั้นผู้ก่อเหตุอยู่ในชุดสวมเสื้อยืดสีดำ กางเกงขาสั้น เดินลงจากรถ ใช้อาวุธปืนยิงใส่ผู้ตายที่ยังนั่งอยู่ในรถ แล้วหลบหนีไป ช่วงสายที่ผ่านมา (20 พ.ค.) พนักงานสอบสวน สภ.บางบัวทอง เบิกตัวนายอานนท์ ผู้ก่อเหตุ มาสอบปากคำเพิ่มเติมอีกครั้ง หลังเมื่อราวตี […]

ขุดลึกลงไป 5 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหาย

กทม. 19 พ.ค.-ทีมค้นหาฝังแผ่นเหล็กชีทไพล์ รอบหลุมเสาเข็ม เพื่อขุดค้นหาผู้ประสบเหตุ ซึ่งขุดลึกลงไป 5 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหาย เวลา 17.00 น. เจ้าหน้าที่ทีมค้นหา ทั้ง กรมป้องกัน และบรรเทาสาธารณะภัย (ปภ.) Usar Thailand เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู และบริษัทรับเหมาเจาะเสาเข็ม ได้ใช้แบคโฮ เริ่มฝังแผ่นเหล็กชีทไพล์ ความยาวประมาณ 16 เมตร รอบหลุมเสาเข็ม 4 ด้าน เพื่อป้องกันดินสไลด์ปิดทับปากหลุมที่รถแบ็คโฮจะทำการขุด เพื่อค้นหาผู้ประสบเหตุ โดยการฝั่งแผ่นชีทไพล์ รอบหลุมเสาเข็ม เนื่องจากการประเมินของเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญทางด้านวิศวกรรม พบว่าดินที่สไลด์ลงมาส่งผลกระทบรุนแรงต่อโครงสร้างอาคาร และเสาไฟฟ้า ในบริเวณที่เกิดเหตุ ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันปัญหาอาคารทรุดตัว เอน และ พังถล่ม จึงจำเป็นต้องนำแผ่นชีทไพล์มากั้น ก่อนทำการขุดดิน และเริ่มค้นหาผู้ประสบเหตุ และหลังจากฝังชีทไพล์ เสร็จสิ้นในเวลา 18.30 น. โดยก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ได้นำเครื่องโซน่า ลงไปในหลุม เพื่อค้นหาร่างผู้ประสบเหตุ ซึ่งจากการใช้ โซน่าสแกน ร่างของผู้ประสบเหตุ ฝังอยู่ในหลุมลึก […]

พบศพ “ดีเจเตเต้” ถูกอุ้มมัดมือไพล่หลังทิ้งกลางไร่อ้อย

กาญจนบุรี 18 พ.ค. – พบแล้วศพ “ดีเจเตเต้” ถูกอุ้มมัดมือไพล่หลัง นำศพทิ้งกลางไร่อ้อย เมืองกาญจน์ หลังครอบครัวแจ้งช่วยตามหาตัวตั้งแต่คืนวันที่ 14 พ.ค. ตั้งปมสังหารเรื่องชู้สาว ความคืบหน้ากรณี “ดีเจเตเต้” ถูกขับรถตามประกบ ก่อนอุ้มขึ้นรถหายตัวไป เหตุเกิดเมื่อเวลา 03.53 น. ของวันที่ 14 พ.ค. ภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่งริมถนนแสงชูโต ต.ท่ามะขาม อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ซึ่งหลังเกิดเหตุพ่อของดีเจเตเต้ ได้ออกมาอัดคลิปลงเฟซ บุ๊กเพื่อขอความช่วยเหลือในการตามหาตัวลูกชายที่หายตัวไป ก่อนที่ล่าสุดจะพบว่า กลายเป็นศพอยู่กลางไร่อ้อยเชิงเขาบ้านทุ่งนานางหรอก โดยวันนี้เวลาประมาณ 10.30 น. นายธนพล เสือส่าน กำนันบ้านทุ่งนานางหรอก ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบศพอยู่บริเวณไร่อ้อย หมู่ 3 บ้านทุ่งนานางหรอก ต.ลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี คนที่ไปเจอ เป็นน้าชายของนายกอล์ฟคนในหมู่บ้าน ที่ออกไปหาของป่าแล้วไปเจอศพ ในสภาพนอนตะแคง ถูกมือถูกมัดไขว้หลัง แล้วมาบอกหลานชายคือนายกอล์ฟไปดูด้วยกัน แล้วนายกอล์ฟจึงแจ้งให้กำนันทราบ ทางกำนันก็แจ้งเรื่องต่อไปยังตำรวจ สภ.ลาดหญ้า ซึ่งเบื้องต้นศพสวมเสื้อผ้าตรงกับที่เป็นข่าว […]

หาความจริง “แก๊งแม่ชีพันล้าน” ยันไม่ใช่เรื่องจริง

สมุทรสาคร 18 พ.ค. – วงการสงฆ์ยังไม่แผ่ว กระแสแก๊งแม่ชีพันล้านโผล่อีก สำนักพุทธลงตรวจสอบแล้ว แม่ชีที่ถูกกล่าวหา ตอบได้ทุกคำถาม ยืนยันไม่ใช่เรื่องจริง จากกระแสเมื่อวานนี้ (17 พ.ค.) มีเพจหนึ่งนำภาพกลุ่มแม่ชีหลายภาพพร้อมกองธนบัตร และภาพแม่ชีที่แอดมินระบุอ้างว่าเป็นการใส่วิกผม มาโพสต์ลงโซเชียล พร้อข้อความเขียนแจงอย่างละเอียดว่า กรณีมีเพจดังโพสต์ภาพแม่ชีพร้อมข้อความระบุข้อความเด็ดว่า ทำนองว่า “แก๊งแม่ชีพันล้านคุมวัดเบ็ดเสร็จไร้เงาพระ! 1. แม่ชี 2 พี่น้องบริหารวัดลำพังไม่มีไวยาวัจกร ไม่มีกรรมการ ไม่มีมัคทายก ครอบครองที่ดินนับพันไร่แต่ชื่อเจ้าของไม่ใช่วัด บางแปลงเป็นชื่อแม่ชี อาจเข้าข่าย “ถือครองแทน” หรือใช้วัดบังหน้า? ยอดกฐินปีละเกือบ 100 ล้าน! รายชื่อผู้บริจาคซ้ำๆ เดิมๆ ส่วนใหญ่เป็นแม่ชี-คนในวัด ไม่มีอาชีพ ไม่มีธุรกิจ แต่ “บริจาคเป็นล้านทุกปี” ระบบโบนัสแม่ชีสาวช่วยหาทุนได้มาก พาเที่ยวรีสอร์ตหรูปีละครั้ง ใส่วิกเต็มยศ นั้น วันนี้ผู้สื่อข่าวพร้อม นส.สวาท แซ่ตัน ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา จ.สมุทรสาคร นายอิทธิธร สีเหลือง นักวิชาการศาสนาปฏิบัติการ เดินทางไปที่วัดที่แม่ชีในภาพบวชอยู่ ต.บางโทรัด […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ หารือภาคท่องเที่ยวอังกฤษ เปิดตลาดใหม่ ดึง นทท.เข้าไทย

ลอนดอน 22 พ.ค. – นายกฯ หารือภาคท่องเที่ยวอังกฤษ เปิดตลาดท่องเที่ยวใหม่ ดึงนักท่องเที่ยวเข้าไทย ตั้งเป้าปี Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year 2025 ทำให้เป็น Tourism Hub ระดับโลก ชี้ 4 เดือนแรก นักท่องเที่ยวยุโรปเข้าไทยแล้วกว่า 3.5 ล้านคน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี หารือร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) บริษัทท่องเที่ยวของสหราชอาณาจักร ผู้บริหารสายบิน เป็นต้น เพื่อผลักดันการท่องเที่ยวของไทย จากนั้น น.ส.แพทองธาร โพสต์ข้อความทางโซเชียลมีเดียว่า ปีนี้ไทยตั้งเป้าเป็นปี Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year 2025 ทำให้ไทยเป็น Tourism Hub ระดับโลก ที่ผ่านมารัฐบาลทำแคมเปญหลายอย่าง โดยเฉพาะการมุ่งเป้าทำให้การใช้จ่ายจากนักท่องเที่ยวต่างชาติต่อคนต่อทริป (Spending […]

ปลาติดเชื้อจากสารเคมีปนเปื้อนในแม่น้ำกก

เชียงราย 22 พ.ค. – วิกฤติน้ำกก หลังพบสารหนู-สารเคมีปนเปื้อนจากการทำเหมืองแร่ ลุกลามไปแม่น้ำสายและแม่น้ำโขงแล้ว ล่าสุดตรวจพบปลาในแม่น้ำมีอาการผิดปกติที่ผิวหนัง ส่วนช้างอาบน้ำในน้ำกกมีผื่นและตุ่มใส ติดเชื้อจนเกิดแผล หลังจากมีการตรวจสอบหาสารหนู และสารเคมีอื่นๆ ในแม่น้ำกก แม่น้ำสาย และแม่น้ำโขง ทำให้พบว่ามีปริมาณเกินกว่ามาตรฐานหมายเท่าตัว จากการทำเหมืองแร่ในรัฐฉาน ประเทศเมียนมา และตรวจพบปลาในแม่น้ำมีอาการผิดปกติที่ผิวหนัง ซึ่งทางกรมประมงได้ติดตามการติดเชื้อของปลาในแม่น้ำทั้ง 3 สาย โดยนำปลาที่ชาวประมงพื้นบ้านจับได้จากแม่น้ำกก แม่น้ำสาย และแม่น้ำโขง นำมาตวรจสอบหาสารตกค้าง และเชื้อโรคที่ปลาได้รับ เพื่อป้องกันการติดเชื้อสู่มนุษย์ หากนำไปบริโภค นายสมเกียรติ เขื่อนเชียงสา นายกสมาคมแม่น้ำเพื่อชีวิต เปิดเผยว่าสมาคมพยายามจะมอนิเตอร์ปลาในแม่น้ำกก แม่น้ำรวก แม่น้ำโขง เพื่อติดตามว่ามีการติดเชื้อแพร่กระจายไปถึงไหนบ้าง เพื่อจะเก็บตัวอย่างรีบส่งให้กับทางกรมประมง ในการตรวจหาสาเหตุภายในของปลาว่ามีเชื้ออะไรบ้าง ซึ่งต้องใช้เวลาในการตรวจสอบ ป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบต่อผู้ใช้น้ำ ซึ่งขณะนี้เกิดความวิตก และกังวลใจของชาวประมงที่ได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก ที่ต้องหาปลาในแมน้ำ เมื่อเกิดสถานการณ์ขึ้นการค้าขายปลาเกิดผลกระทบ ทางเศรษฐกิจในชุมชน คนไม่นิยมปลาจากแม่น้ำ ทำให้ขาดรายได้เลี้ยงชีพ นอกจากนี้ที่บ้านรวมมิตร ตำบลแม่ยาว อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย พบว่าน้ำในแม่น้ำกกมีลักษณะขุ่นจัด เมื่อเทียบกับลำห้วยสาขาที่ไหลลงสู่แม่น้ำ ซึ่งมีน้ำใสกว่ามาก เทศบาลตำบลแม่ยาวได้เร่งติดตั้งป้ายเตือนประชาชน […]

“ยิ่งลักษณ์” โพสต์ตัดพ้อ ต้องชดใช้หนี้ที่ไม่ได้ก่อ

กรุงเทพฯ 22 พ.ค.-“ยิ่งลักษณ์” โพสต์หลังศาลปกครองสูงสุด สั่งชดใช้ 10,028 ล้านคดีจำนำข้าว ตัดพ้อ ต้องชดใช้หนี้ที่ไม่ได้ก่อ รับภาระหนี้จากฝ่ายปฏิบัติ ลั่นหนี้หมื่นล้านชดใช้ทั้งชีวิตยังไงก็ไม่มีวันหมด ทำเพื่อชาวนากลับมีบทสรุปที่เจ็บปวด นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความภายหลัง ศาลปกครองสูงสุด มีคำพิพากษาให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และอดีตฐานะประธานกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติต้องชดใช้ค่าเสียหายส่วนระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ หรือจีทูจี 10,028 ล้านบาท ว่า “เรียน พี่น้องประชาชนที่เคารพ วันที่ 22 พฤษภาคมปีนี้ เป็นวันครบรอบ 11 ปี รัฐประหาร ซึ่งถือเป็นการยึดอำนาจอธิปไตยของประชาชนทั้งประเทศ และเป็นวันที่ศาลปกครองสูงสุด อ่านคำวินิจฉัยให้ดิฉันต้องชดใช้หนี้กว่า 10,000 ล้านบาท จากคดีระบายข้าว ทั้งที่ดิฉันไม่ได้เป็นจำเลยในคดีนี้ และศาลปกครองกลางได้เคยวินิจฉัยว่าดิฉันไม่ต้องชดใช้ค่าเสียหายในกรณีดังกล่าวมาแล้ว จากคำตัดสินของศาลปกครองสูงสุดในวันนี้ ทำให้ดิฉันต้องชดใช้หนี้ที่ตัวเองไม่ได้ก่อ ความเป็นหัวหน้าฝ่ายบริหารที่ต้องมารับภาระหนี้ที่เกิดจากการระบายข้าวของฝ่ายปฏิบัติ โดยที่ตัวเองไม่ได้เกี่ยวข้องกับกระบวนการเหล่านั้นแต่อย่างใด และศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ก็พิพากษาในคดีของดิฉันว่า ปล่อยปละละเลยในการบริหารโครงการรับจำนำข้าวเท่านั้น นโยบายรับจำนำข้าว เป็นนโยบายของพรรคเพื่อไทย และเป็นนโยบายที่คณะรัฐมนตรีแถลงต่อรัฐสภา ซึ่งรัฐธรรมนูญกำหนดให้ต้องปฏิบัติ มีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจประเทศจากฐานราก […]

ศาลปกครองสูงสุด สั่ง “ยิ่งลักษณ์” ชดใช้หมื่นล้านบาท

22 พ.ค. – ศาลปกครองสูงสุด พิพากษาให้ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี ชดใช้ความเสียหาย 10,028 ล้านบาท จากคดีโครงการรับจำนำข้าว ที่ ก.คลัง ยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาศาลปกครองกลาง ศาลปกครองสูงสุดนัดออกบัลลังก์ อ่านคำพิพากษาคดีที่กระทรวงการคลัง ยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาศาลปกครองกลางที่สั่งเพิกถอนคำสั่งกระทรวงการคลังที่ 1351 /2559 ลงวันที่ 13 ตุลาคม 2559 ที่ให้นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ชดใช้ค่าสินไหมทดแทน กรณีปล่อยให้มีการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว และเพิกเฉยไม่ระงับยับยั้งความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่ราชการ เป็นเงิน 35,717 ล้านบาท ศาลปกครองสูงสุด พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลปกครองชั้นต้น ให้เพิกถอนคำสั่งกระทรวงการคลังเฉพาะส่วน ให้ชดใช้จำนวน 10,028 ล้านบาท และเพิกถอนคำสั่งยึดอาญัติทรัพย์สิน เพื่อขายทอดตลาด และคำสั่งอื่น โดยเห็นว่า คำสั่งดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมาย คำอุทธรณ์ฟังขึ้นบางส่วน ศาลพิจารณาว่าไม่ต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนในการจำนำข้าวเปลือกนาปี แต่ต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนความเสียหายการระบายข้าวโดยวิธีการขายแบบรัฐต่อรัฐหรือ จีทูจี จากความเสียหาย 20,057 ล้านบาท เพราะประมาทเลินเล่อ ก่อให้เกิดความเสียหาย และต้องกำหนดสัดส่วนรับผิด ร้อยละ 50 […]