กทม. 28 ส.ค.- รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย รอดู ใครจะกล้ายกมือโหวตสวนประชาชนในการอภิปรายไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลที่กำลังจะเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 31 ส.ค.-3 ก.ย.และลงมติวันที่ 4 ก.ย.ว่า เกือบ 8 ปี ที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ครองอำนาจล้มเหลวแทบทุกด้าน คำสัญญาปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง เป็นเพียงข้ออ้างในการยึดอำนาจ การปฏิรูปตำรวจ เห็นชัดที่สุดว่าเป็นเพียงไอโอชวนเชื่อที่ว่างเปล่า การแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ผิดพลาดล้มเหลวซ้ำซากเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่ประชาชนจะไม่ทนอีกต่อไป การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลครั้งนี้ พรรคร่วมฝ่ายค้านและกระบวนการมีส่วนร่วมภาคประชาชนพร้อมที่สุดครั้งหนึ่ง สวนทางกับรัฐบาลที่กำลังอยู่ในภาวะเปราะบาง ขาลงเต็มสูบ การอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้พรรคร่วมฝ่ายค้านไม่ได้ขาดแคลนข้อมูล แต่ข้อมูลเยอะมาก เมื่อจัดระเบียบข้อมูลแล้วจะนำไปสู่การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลที่ครอบคลุมครบถ้วน ประชาชนที่ติดตามการอภิปรายจะรอดูว่ามีนักการเมืองคนใด พรรคใด กล้ายกมือไว้วางใจรัฐบาล สวนประชาชน ที่ไม่ไว้วางใจ ไม่เชื่อมั่นรัฐบาล เลิกไอโอ เลิกพูดได้แล้วว่าประเทศไหนก็ติดโควิด ต้องดูความเป็นจริงด้วยว่า เมื่อมีปัญหาสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ บริหารจัดการแบบแก้ปัญหา หรือแก้แบบซ้ำเติมสถานการณ์ หลายสถาบันจากต่างประเทศทั้ง นิเคอิ เอเชีย , บลูมเบิร์ก ต่างก็ประเมินว่าไทยรั้งท้ายอันดับโลกดัชนีฟื้นตัวจากโควิด ประชาชนตั้งคำถามว่า ถ้าไม่มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่จะลดลงหรือไม่ มาตรการคลายล็อกดาวน์จะเกิดขึ้นในช่วงนี้หรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้มีคำถามมาตลอดว่า การล็อกดาวน์แบบไม่มียุทธศาสตร์รองรับ ไม่ได้ตอบโจทย์การแก้ปัญหา
“4 กันยายน ประชาชนจะรอดูว่าใครบ้างที่กล้าโหวตไว้วางใจรัฐบาล ถ้ากล้ายกมือโหวตสวนประชาชน เท่ากับว่าไม่ได้ยินเสียงร้องไห้ ไม่รับรู้ความสูญเสีย เดือดร้อนทุกข์เข็ญของประชาชน ติดทะลุล้าน ตายทะลุหมื่น ยิ่งกว่าใบเสร็จ รัฐบาลไปไม่ได้แล้ว” นายอนุสรณ์ กล่าว .-สำนักข่าวไทย