ทำเนียบรัฐบาล 25 ส.ค.-ศบค.ระบุแผนฉีดวัคซีนตามเป้าหมายที่วางไว้ วอนประชาชนมั่นใจฉีดแบบไขว้หรือสูตรผสม ลดอาการป่วยหนัก เสียชีวิตได้
พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ( ศบค.) กล่าวถึงเป้าหมายการฉีดวัคซีน ให้ประชาชนทั้งประเทศ 100 ล้านโดสภายในปี 2564 ซึ่งขณะนี้เหลืออีกเพียง 4 เดือน ว่า รัฐบาลตั้งเป้า 100 ล้านโดสจากประชากร 50 ล้านคน อัตราฉีด 15 ล้านโดสต่อเดือน หรือ 5 แสนโดสต่อวัน ซึ่งในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ฉีดได้เกิน 5 แสนโดส ถือว่ายังสามารถดำเนินการได้ตามแผนการจัดการ สำหรับแผนการจัดหาวัคซีน โดยเดือนสิงหาคมจัดหาวัคซีน 13.8 ล้านโดส เดือนกันยายน 15 ล้านโดส เดือนตุลาคมและพฤศจิกายน 17 ล้านโดส ธันวาคม 10 ล้านโดส
ผู้ช่วยโฆษกศบค. กล่าวว่า จากการที่รัฐบาลเจรจากับบริษัทผู้ผลิตแอสต้าซิเนก้า ผู้ผลิตให้คำมั่นว่าจะจัดสรรวัคซีนแอสต้าฯ ให้ประเทศไทยเดือนละ 7 ล้านโดสเป็นอย่างน้อย ตั้งแต่เดือนกันยายนเป็นต้นไป และถ้ามีกำลังผลิตได้มากขึ้น ประเทศไทยจะได้รับการจัดสรรมากกว่านี้ และยังมีวัคซีนไฟเซอร์ ในเดือนกันยายน 2 ล้านโดส ตุลาคม 8 ล้านโดส และพฤศจิกายน-ธันวาคม เดือนละ 10 ล้านโดส
“ทางกระทรวงสาธารณสุขแสดงความเป็นห่วง ผู้สูงอายุและเจ็ดกลุ่มโรคเสี่ยง คือหลายคนไปที่จุดฉีดวัคซีนแล้วมีความไม่มั่นใจวัคซีนซิโนแวค จึงอยากจะสะท้อนให้เห็นตัวเลขของการรายงานของโรงเรียนแพทย์ ว่าการที่ใช้วัคซีนไขว้หรือวัคซีนผสม ฉีดเข็มหนึ่งซิโนแวค แล้วอีก3 สัปดาห์ตามกระตุ้นภูมิด้วยแอสต้าซิเนก้าเข็ม 2 จะช่วยให้มีภูมิคุ้มกันสูง จะช่วยป้องกันโรค อาการป่วยหนักและเสียชีวิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงขอให้ทุกท่านมั่นใจเรื่องการจัดสรรวัคซีนและความปลอดภัย” พญ.อภิสมัย กล่าว.-สำนักข่าวไทย
