ทำเนียบรัฐบาล 23 ส.ค.-“พล.อ.ประวิตร” พอใจจุดความร้อนในประเทศลดลง ขอบคุณทุกหน่วยงานร่วมแก้ไขปัญหามลพิษ ฝุ่นละอง ขอช่วยกันขับเคลื่อนต่อ ห่วงกระทบสุขภาพประชาชน
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคงเป็นประธานการประชุมผ่านระบบ VDO conference สรุปผลและถอดบทเรียน (After Action Review : AAR)การป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละออง ปี 2564 ซึ่งมีผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้แทนทุกจังหวัดเข้าร่วมการประชุมฯ โดยมีกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นฝ่ายเลขานุการในการประชุม ได้สรุปสถานการณ์การป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละออง ปี 2564 จำนวนจุดความร้อนภายในประเทศลดลงร้อยละ 50 และจำนวนวันที่ PM 2.5 เกินมาตรฐานลดลง 19 จังหวัด และไม่เกินค่ามาตรฐานเลยถึง 6 จังหวัด
พล.อ.ประวิตร กล่าวขอบคุณทุกผู้แทนจากทุกหน่วยงานที่ให้ความร่วมมือในการแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละอองเป็นอย่างดี ทำให้จุดความร้อนและฝุ่นละอองในปีที่ผ่านมาลดลง ซึ่งปัญหาไฟป่า หมอกควันและฝุ่นละอองเป็นปัญหาที่รัฐบาลให้ความสำคัญเนื่องจากส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน ให้ทุกหน่วยงานบูรณาการทุ่มเทสรรพกำลัง องค์ความรู้และทรัพยากร เพื่อควบคุมแหล่งกำเนิดและปริมาณฝุ่นละอองไม่ให้สูงเกินเกณฑ์มาตรฐาน และปฏิบัติงานป้องกันแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละออง บนหลักการ “ขยายผล พัฒนา ขจัดปัญหา”กำหนดเป้าหมายการป้องกันและแก้ไขปัญหา ไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองในปี 2565 ต้องดีขึ้นกว่าปีที่ผ่านมาไม่น้อยกว่าร้อยละ 20
พล.อ.ประวิตร สั่งการให้ทุกหน่วยงานดำเนินการตามแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ “การแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง” และแผนเฉพาะกิจเพื่อการแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง 12 ข้อ อย่างเคร่งครัดและต่อเนื่อง ให้มีการบัญชาการและสั่งการผ่านคณะอนุกรรมการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควันและฝุ่นละออง เพื่อสนับสนุนการบริหารจัดการสาธารณภัยของประเทศ ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดยกระดับ Single Command ในการติดตามสถานการณ์และบูรณาการสั่งการป้องกันและแก้ไขปัญหาในจังหวัดอย่างเคร่งครัด โดยสั่งการไปถึงระดับตำบล อำเภอ อบต. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และให้ลงพื้นที่ดูแลอย่างใกล้ชิด ส่งเสริมการมีส่วนร่วมกับทุกภาคส่วน
“ขอให้ทุกหน่วยวางแผนจัดกำลังพล อุปกรณ์เครื่องมือและงบประมาณให้เพียงพอต่อการปฏิบัติงาน โดยเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครต้องได้รับการคุ้มครองความปลอดภัยในระดับสูงสุด ขยายผลการบริหารจัดการเชื้อเพลิงแบบครบวงจร ทั้งการนำเชื้อเพลิงในพื้นที่ป่ามาใช้ประโยชน์ เพื่อลดการเผาในที่โล่ง และการประยุกต์ใช้แอปพลิเคชันบริหารจัดการการเผา ขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควันข้ามแดนตามกลไกอาเซียน ประชาสัมพันธ์เชิงรุกสร้างการรับรู้กับประชาชน และเตรียมความพร้อมด้านสาธารณสุข เพื่อให้ผลการดำเนินงานมีความสำเร็จ ลดผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนให้มากที่สุด” พล.อ.ประวิตร กล่าว.-สำนักข่าวไทย