ส.ส.มองงบพลังงานไม่มีโครงการเพื่อประชาชน

รัฐสภา 20 ส.ค.-“ชวน” เตือน ส.ส.รักษามาตรฐานสภาฯ ทำตามข้อบังคับการประชุม หลังมี ส.ส.ไม่เข้าใจการแปรญัตติ ขณะสภาฯ ถกงบ ก.พลังงาน ชี้ปล่อยปละละเลยไม่มีโครงการเพื่อประชาชน


การประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 วาระที่ 2 และ 3 วันที่ 3 เริ่มพิจารณามาตรา 18 งบประมาณกระทรวงพลังงาน จำนวน 1,873,129,300 บาท ทั้งนี้ ก่อนเริ่มการประชุม นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า สมาชิกส่วนใหญ่ได้ยึดตามแนวข้อบังคับ ซึ่งการแปรญัตติอาจมีบางท่านทำไม่ได้ด้วยความไม่เคยชิน แต่ขอเตือนอีกครั้งว่า การเตือนนี้ไม่ได้จุกจิกจู้จี้ แต่เพื่อให้ทุกคนได้รักษามาตรฐานของสภาฯ สมาชิกย่อมมีสิทธิในการอภิปราย เพราะเป็นการแปรญัตติ แต่ในข้อบังคับหากไม่ได้แปรญัตติ และไม่ได้สงวนความเห็น ก็อภิปรายได้เฉพาะถ้อยคำที่มีการเปลี่ยนแปลงตามข้อบังคับ ถ้าเข้าใจจุดนี้จะได้ปฏิบัติภารกิจได้อย่างสมบูรณ์มากขึ้น เพราะบันทึกทุกคนที่อภิปรายจะเป็นประวัติศาสตร์วันข้างหน้า หากคนมาอ่านก็จะได้เข้าใจว่า สมาชิกท่านนี้รู้กฎเกณฑ์หรือไม่

จากนั้นได้เข้าสู่วาระการประชุมพิจารณามาตรา 18 งบประมาณกระทรวงพลังงาน โดยนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ในฐานะคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 กล่าวว่า กรรมาธิการฯ ปรับลดงบกระทรวงพลังงานไม่มาก ซึ่งในส่วนของตนได้สงวนความเห็นกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (2) แผนงานยุทธศาสตร์พัฒนาความมั่นคงทางพลังงาน รายการเงินอุดหนุนการชดเชยส่วนต่างการซื้อน้ำมันดิบของการไฟฟ้าแห่งประเทศไทย 100 ล้านบาท


“รับทราบข้อมูลว่า กระบวนการน้ำมันปาล์มที่นำเข้ามาโดยไม่ถูกต้อง และปิดบังอำพรางบางส่วน บางครั้งก็สวมสิทธิโดยมิชอบ นำน้ำมันภายนอกเข้ามาทำราคาน้ำมันปาล์มให้สูงขึ้น หากสังเกตจะพบว่า ช่วงหลังๆ น้ำมันปาล์มมีราคาแพง แม้จะมีเงินชดเชยเงินอุดหนุนให้กับกรมพัฒนาพลังงานฯ ก็ไม่ได้หมายความว่า ตลาดค้าน้ำมันปาล์มดิบที่นำมาใช้มีความไม่ชอบมาพากลในกระบวนการอยู่ และมีมูลค่าที่สูงมาก จึงอยากให้ ส.ส. ผู้ที่เป็น กมธ.ได้ติดตามและตรวจสอบ เพื่อให้ผลประโยชน์ของประเทศไม่รั่วไหล และให้ประชาชนใช้สินค้าที่มีราคายุติธรรม พร้อมทั้งให้กระบวนการทุจริตถูกปราบปราม” นายเรืองไกร กล่าว

นายเกียรติ สิทธีอมร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายว่า ได้สงวนความเห็นขอตัดลดงบกระทรวงพลังงาน 10% ซึ่งได้ตั้งโจทย์ไว้ตั้งแต่ในวาระ 1 อาทิ นโยบายของกระทรวงพลังงาน เป็นประโยชน์สูงสุดกับประชาชนหรือไม่ น้ำมันแพง ของแพง ก๊าซ ค่าไฟ ขนส่งแพง กระทบประชาชนทั้งสิ้น เอกสารงบฯ ระบุว่า ตัวชี้วัดสำคัญที่สุด คือ การตั้งราคาพลังงานไปยึดโยงกับรายได้ของครัวเรือน ซึ่งมันไม่ได้ ประเทศมีพลังงานและทรัพยากรธรรมชาติเพียงส่วนหนึ่ง มันต้องเกลี่ยต้นทุน ไม่ใช่เอาต้นทุนไปเทียบกับกำลังซื้อของประชาชนเป็นหลัก ตรงนี้มันผิดแต่ต้น จึงอยากถามว่า กรรมาธิการฯ ซักถามหรือไม่ว่า นโยบายกระทรวงฯ เป็นอย่างนี้หรือไม่

“ผมบอกว่าให้ช่วยไปดูราคาหน้าโรงกลั่นของเราที่แพงกว่าภูมิภาคนี้ ตั้งแต่ปี 61, 62, 63 และ 64 เห็นชัดว่าสูงกว่าทุกปี ซึ่งปี 64 สูงกว่าถึง 61% และราคาก๊าซ ผมก็ชี้ให้เห็นในคราวที่แล้วว่า หลักคิดของราคาก๊าซ ไปคิดอ้างอิงราคาตลาดทั้งที่ประเทศไทยมีก๊าซส่วนหนึ่งในประเทศ มีต้นทุนต่ำกว่า คำตอบคือ สำนักปลัดฯ ออกมาชี้แจง ซึ่งอยู่ในรายงานการประชุมกรรมาธิการฯ ว่า จะปรับลดเงินเข้ากองทุนอนุรักษ์พลังงาน จาก 10 สตางค์ เป็น 5 สตางค์/ลิตร ท่านได้ดูหรือเปล่าว่าลดแค่นี้พอหรือไม่ อีกประการคือ ไม่ได้บอกว่าจะทำเมื่อไหร่ พูดลอยๆ กรรมาธิการฯ พอใจหรือ เพราะนี่คือทุกข์ของประชาชน” นายเกียรติ กล่าว


นายเกียรติ กล่าวว่า เรื่องก๊าซธรรมชาติ สำนักนโยบายและแผนพลังงาน ระบุไว้ในรายงานการประชุมว่า เปิดเสรีก๊าซธรรมชาติ ปตท.เป็นผู้ดำเนินการ คำถามคือ เรามีกำกับดูแลกิจการพลังงานทำไม ท่านเขียนในรายงานของท่านอย่างนั้น แล้วท่านพอใจกับคำตอบนี้หรือว่า ปตท.จะเป็นผู้ดำเนินการในแง่ซึ่ง ปตท.เป็นเพียงตัวละครตัวหนึ่ง แต่กรรมาธิการท่านไปบันทึกไว้ในรายงาน ผมก็ต้องตั้งคำถามกับกรรมาธิการ เพราะตรงนี้เป็นงานของกรรมาธิการ ไม่เกี่ยวกับกระทรวงแล้ว ทำไมกรรมาธิการยอมรับคำพูดและคำตอบเช่นนี้ มันผิดตั้งแต่ต้น และอีกเรื่องคือ กรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) บอกว่า ปรับราคาหน้าโรงกลั่น 50 สตางค์/ลิตร ปรับไปตั้งแต่วันที่ 17 มิ.ย.63 ท่านได้ไปดูหรือไม่ว่า ปรับหน้าโรงกลั่นก็จริง แค่ค้าปลีก ที่ปั๊มไม่มีการปรับ และกำไรยังอยู่ในระบบทั้งหมด

“ถ้ากระทรวงฯ ตอบมาอย่างนี้ มันไปได้หรือ กรรมาธิการฯ ยังอนุมัติให้หรือ คำตอบมีบันทึกไว้ในรายงานการประชุมเช่นกันว่า มาถามอะไรเรื่องราคาประเทศไทยมันแพง เพราะราคาแต่ละประเทศต่างกัน เนื่องจากภาษีต่างกัน ผมไม่ได้พูดเรื่องเหล่านี้ ผมบอกว่าราคาหน้าโรงกลั่นไม่เกี่ยวกับภาษีในประเทศเลย คำตอบเหล่านี้มันหลงทาง ท่านกรรมาธิการฯ ได้โต้แย้งไปหรือไม่ ในมุมหนึ่งถ้าผมเป็นกรรมาธิการอยู่ ผมคิดว่า คำพูดอย่างนี้มันดูถูกกรรมาธิการ และราคาขายปลีกไม่ลดลงเลย ได้ตั้งคำถามกลับไปหรือเปล่า ต้นทุนพลังงานคือต้นทุนสินค้าทุกประเภท กระทบชีวิตประชาชน กระทบค่าไฟ นี่คือเรื่องใหญ่ ผ่านไปง่ายๆ ไม่ได้ พอผมอ่านรายงานการประชุมยิ่งกังวลไปอีก ผมไม่มีอะไรมาก แต่ขอคำชี้แจงว่า เวลาท่านเรียกเจ้าหน้าที่กระทรวงฯ มาอธิบายใน กมธ. เขาชี้แจงมาแบบนี้ แล้วท่านยอมรับคำชี้แจงแบบนี้หรือเปล่า หรือมีแนวทางที่แนะนำไป แต่ไม่ได้บันทึกในรายงานการประชุมหรือเปล่า” นายเกียรติ กล่าว

นายณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ ส.ส.สงขลา พรรคภูมิใจไทย อภิปรายว่า ขอเสนอปรับลดงบประมาณปี 2565 ของกระทรวงพลังงานลง 7% ทั้งนี้ ตนไม่รู้จัก รมว.พลังงาน เป็นการส่วนตัว และไม่มีธุรกิจเกี่ยวกับพลังงาน ไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อนในกระทรวงฯ แต่ตนเป็นผู้หนึ่งที่ใช้พลังงานทุกรูปแบบ และได้รับผลกระทบทุกครั้งกับนโยบายของกระทรวงพลังงาน ปัจจุบันวิกฤติเศรษฐกิจการลงทุนของไทยตกต่ำ ธุรกิจที่อยู่รอดคือกลุ่มพลังงาน แม้ผลประกอบการจะลดลง ซึ่งกระทรวงพลังงานถูกปรับลดเพียงแค่ 10 ล้านบาท จากงบประมาณที่ขอไว้ เป็นการปรับลดลงน้อยมากแบบมีนัยสำคัญ โดยกระทรวงฯ ขอรับงบประมาณแบบชาญฉลาด ตั้งงบประมาณผูกพันประจำปีเกือบทุกโครงการ

“ไม่ว่าจะโครงการเล็กหรือใหญ่ ใช้วิธีการจากบริษัทมหาชนข้างนอกมาทำงบประมาณ เช่น การเช่ารถประจำตำแหน่งของเลขานุการรัฐมนตรี จำนวน 1.5 ล้านบาท โดยทำเป็นงบต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2561-2565 อีกทั้งการจัดซื้อรถตู้ การจัดซื้อรถหกล้อ 1 ตัน การจัดซื้อรถกระบะ การจัดซื้อรถบรรทุก ใช้วิธีการเดียวกันหมด คือ งบผูกพัน จำนวน 20-30 คัน ที่ กมธ.ไม่สามารถตัดได้ เพราะถ้าตัดจะกระทบกับการใช้จ่ายงบต่อเนื่อง รวมถึงโครงการพัฒนาเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานด้านพลังงานทดแทนก็ตั้งรายจ่ายค่าจ้างศึกษาความเหมาะสม และการสำรวจ ก็เป็นงบผูกพันต่อเนื่องไว้เกือบทุกโครงการ และราคาน้ำมันยังขึ้นต่อเนื่องในวิกฤติโควิดด้วย จึงถามว่า ทำไมราคาน้ำมัน แก๊ส ไฟฟ้า จึงสูงขึ้นเรื่อย ๆ และเป็นงบทิพย์ที่ไม่สามารถตัดได้จริง ดังนั้น ตนจึงขอปรับลดลง 7%” นายณัฏฐ์ชนน กล่าว

นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เนื่องจากปัญหาเรื่องราคาค่าไฟฟ้าที่ประชาชนไม่ได้รับความเป็นธรรม ตนเสนอปรับลดงบประมาณกระทรวงพลังงานลง 7% เพราะกรรมาธิการปรับลดงบประมาณกระทรวงนี้ลงน้อยมาก จึงขอถามกรรมาธิการว่า ได้ทำหน้าที่ดูแลให้ความเป็นธรรมเรื่องราคาพลังงานกับประชาชนมากน้อยเพียงใด

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ขอเสนอให้ปรับลดลง 10% ซึ่งกระทรวงนี้เหมือนจะของบประมาณมาน้อย ดูเหมือนน่าสงสาร และแลดูสวยงาม แต่เอาเข้าจริงเป็นงบประมาณที่มาก เพราะส่วนใหญ่มีรายรับ ความเป็นจริงไม่ควรให้งบกับกระทรวงนี้เลย แต่เป็นกระทรวงสำคัญและมีความจำเป็น เพราะหน่วยงานในกระทรวงนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินภาษีของประชาชน ที่ผ่านมามีบริษัทเอกชนที่เข้ามาลงทุนในไทยแล้วก็ฟ้องอนุญาโตตุลาการต่อกระทรวงพลังงาน มีการจ้างทนายเกือบ 1,000 ล้านบาท จากต่างประเทศ เพื่อสู้คดีที่ฟ้องรัฐบาลไทย ซึ่งกระทรวงพลังงานก็ต้องเอาเงินภาษีประชาชนไปจ้างทนายความเพื่อสู้คดี

“ถ้าเอาเงินงบที่ตั้งมาไปลดค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าแก๊ส ไม่มีปัญหา แต่ตั้งงบมาเพื่อไปจ่ายทนาย ถามว่าใครเป็นคนผิด ใครพลาดก็จะต้องไปทวงตั้ง 7 ชั่วโคตร รัฐบาลผิดพลาด แต่ใช้ภาษีของประชาชนจ้างทนาย และราคาปาล์มน้ำมันที่ลดลง แต่รัฐบาลกลับแก้ปัญหาด้วยการสั่งการให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตซื้อปาล์มจากภาคใต้มาโรงไฟฟ้าบางปะกง ผมขอฟ้องประชาชนว่า เงินที่ตั้งทั้งหมดไม่ได้เป็นการลงทุน แต่ไปใช้เรื่องที่ทำผิดพลาดทั้งสิ้น รวมทั้งถามว่า กระทรวงพลังงานปล่อยปละละเลยเอื้อกับกลุ่มทุนหรือไม่ หากทำตรงไปตรงมาไม่มีใครว่า อย่างไรก็ตาม รายละเอียดและข้อมูลทั้งหมด ขอให้ รมว.พลังงาน พิจารณาและดำเนินการ ทั้งนี้ ประเด็นที่เกี่ยวข้องขอให้ติดตามต่อในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ” นายจิรายุ กล่าว

นายอุบลศักดิ์ บัวหลวงงาม ส.ส.ลพบุรี พรรคเพื่อไทย ในฐานะกรรมาธิการฯ อภิปรายว่า ในพื้นที่ จ.กำแพงเพชร และ จ.เพชรบูรณ์ พบว่ามีการสำรวจปริมาณน้ำมัน โดยทุกคืนจะพบการขนน้ำมันออกจาก 2 พื้นที่ดังกล่าว โดยระบุว่าเพื่อการวิจัย แต่ข้อเท็จจริงพบว่านำไปขายให้ประเทศเพื่อนบ้าน จึงทำให้ในประเทศเมียนมามีน้ำมันราคาถูก ทั้งที่ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีน้ำมันมากสุดในอาเซียน จึงขอปรับลดงบประมาณกระทรวงพลังงาน เพื่อปรับแผนการบริหารงานให้ดูแลประชาชนที่เป็นผู้บริโภคน้ำมันแพงที่สุด การจัดตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปี ควรตั้งงบชดเชยหรือเหลื่อมล้ำระหว่างภูมิภาคกับพื้นที่เมืองให้ราคาเท่ากัน โดยรัฐบาลต้องชดเชยตัวเลขเหลื่อมล้ำค่าพลังงาน

จากนั้นที่ประชุมได้ลงมติมาตรา 18 โดยเสียงข้างมาก 230 เสียง เห็นชอบตาม กมธ.เสียงข้างมาก ต่อ 109 เสียง งดออกเสียง 1 เสียง ก่อนที่ประชุมจะพิจารณามาตรา 19 งบประมาณรายจ่ายของกระทรวงพาณิชย์ต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก-เจ้าคุณประสิทธิ์ สึกแล้ว

พิษณุโลก 16 ก.ค. – พระชั้นผู้ใหญ่ที่พัวพันสีกากอล์ฟยังทยอยสึกเพิ่ม ล่าสุด “เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก” แอบสึกแล้วที่วัดสว่างอารมณ์ จ.ตาก หลังมีข่าวลือสะพัดมาตั้งแต่เช้า ขณะที่ “เจ้าคุณประสิทธิ์” ถอดใจสึกแล้ว พระราชรัตนสุธี เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก เป็นพระชั้นผู้ใหญ่อีก 1 รูป ที่มีชื่อพัวพันกับสีกากอล์ฟ ซึ่งในช่วงเช้ามีข่าวลือว่าจะลาสิกาในวันนี้ ผู้สื่อข่าวไปตรวจสอบตามวัดต่างๆ ในจังหวัดพิษณุโลก โดยเฉพาะที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ วรมหาวิหาร มีตำรวจนอกเครื่องแบบ และเจ้าหน้าที่ มาคอยเฝ้าดูแลตลอดเวลา กระทั่ง เวลา 12.00 น. เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก ปรากฏตัวในชุดขาว คาดว่าไปลาสิกขาที่วัดสว่างอารมณ์ อำเภอบ้านตาก จังหวัดตาก สำหรับพระราชรัตนสุธี มีตำแหน่งเป็นเจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก ผู้อำนวยการวิทยาลัยสงฆ์พุทธชินราช เป็นพระเถระชั้นผู้ใหญ่ของจังหวัดพิษณุโลกที่ได้รับความเคารพอย่างสูงรูปหนึ่ง เพราะมีบทบาทสำคัญและมีคุณูปการขับเคลื่อนงานคณะสงฆ์ให้รุ่งเรือง นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผู้อำนวยการสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ออกมายืนยันเช่นกันว่า ขณะนี้อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลกได้ทำการลาสิกขาแล้ว และวันนี้เจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาท ก็มารายงานตัวกับเจ้าคณะใหญ่หนกลางด้วยเช่นเดียวกัน กรณีเอกสารสำนักพุทธจังหวัดสมุทรสาครหายออกไปจากวัด ซึ่งขณะนี้ได้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพราะขณะนี้ยังไม่ชัดเจนว่าเอกสารยังมีอยู่หรือไม่ และถ้าหากเอกสารหายไปจริงก็ถือว่าเป็นการผิดวินัย และเจ้าอาวาสบกพร่อง ต้องไปดูด้วยว่าสาเหตุที่หายเพราะอะไร เพราะเอกสารทางราชการมีการรับส่งเป็นระบบ […]

เปิดคำสารภาพ “สีกากอล์ฟ”

กทม. 16 ก.ค.-เปิดคำสารภาพ “สีกากอล์ฟ” ด้านอดีตพระมหาบุญเลิศ แฉถูกสีกากอล์ฟ กุเรื่องลวงไปบ้านพัก ซ้ำถูกเชิดเงิน 1 แสน เตรียมเข้าแจ้งความเอาผิดเพิ่ม พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผู้บังคับการป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ผบก.ปปป.) กล่าวถึงความคืบหน้าคดีน.ส.วิลาวัลย์ หรือ สีกากอล์ฟ อายุ 35 ปี ว่า จากการสอบปากคำเมื่อวานที่ผ่านมา เจ้าตัวให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีเป็นอย่างมาก พร้อมให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี ซึ่งในวันพรุ่งนี้ทางพนักงานสอบสวน บก.ปปป. จะนำตัวส่งฝากขังยังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เพื่อฝากขังเป็นผัดแรก ด้านพ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการปราบปราม (รอง ผบก.ป.) กล่าวถึงความคืบหน้าการสอบปากคำ น.ส.วิลาวัลย์ ในส่วนของคดีข่มขืนใจและรีดเอาเงินทิดแหล่ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ ว่า เบื้องต้น สีกากอล์ฟ ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี รวมถึงให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี ซึ่งจากการสอบปากคำเบื้องต้นเจ้าตัวยังคงให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยยอมรับในข้อเท็จจริงว่าเคยมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับพระผู้ใหญ่รูปต่างๆ จริง ส่วนกรณีที่ถูกกล่าวหาว่าข่มขู่รีดเอาเงิน และบังคับทิดแหล่ ให้ร่างหนังสือร้องเรียนเจ้าคุณอาชว์ อดีตเจ้าอาวาสวัดตรีฯ เรื่องการมีเพศสัมพันธ์กับหญิงสาว เจ้าตัวอ้างว่าไม่เป็นความจริง แต่ยอมรับว่าเป็นคนให้ทิดแหล่ร่างหนังสือดังกล่าวจริง เพียงแต่เป็นการไหว้วาน ไม่ได้เป็นการบังคับ […]

มทภ.2 เรียกร้องผู้นำเขมรขอโทษทหารไทยที่ถูกผลักอกล้ม

สุรินทร์ 16 ก.ค.-มทภ.2 สั่ง กกล.สุรนารี จัดระเบียบนักท่องเที่ยวปราสาทตาเมือนธม หารือ พล.ต.เนี๊ยะ ได้ข้อยุติ 3 ประการ เรียกร้องผู้นำกัมพูชาตำหนิหญิงเขมร และขอโทษทหารไทยที่ถูกผลักอกล้ม ลั่นไทยดำเนินคดีอดีตทหารพรานตามกฎหมายแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเกิดเหตุความวุ่นวาย ที่ปราสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ จากกรณีที่ผู้หญิงชาวกัมพูชา เข้ามาด่าทอทหารไทย ในเขตพื้นที่ของไทยวานนี้(15 ก.ค.) ล่าสุด พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้สั่งการให้มีการจัดระเบียบนักท่องเที่ยวที่ขึ้นมาเที่ยวปราสาทตาเหมือนธม เพื่อป้องกันเหตุการณ์ซ้ำรอย ป้องกันกลุ่มคนไม่หวังดี โดยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พ.อ.บุญเสริม บุญบำรุง รอง ผบ.กกล.สุรนารี ได้หารือร่วม พล.ต.เนี๊ยะ วงค์ ผบ.พลน้อย ร.42 เพื่อพบปะหารือ ณ ปราสาทตาเมือนธม โดยมีสรุปผลการพบปะดังนี้ 1.หากมีปัญหาจากนักท่องเที่ยวเกิดขึ้น หากเป็นนักท่องเที่ยวไทย ขอให้ฝ่ายกัมพูชาแจ้งกับฝ่ายไทยเพื่อนำนักท่องเที่ยวออกจากพื้นที่ เช่นเดียวกันหากนักท่องเที่ยวกัมพูชา ก่อปัญหา ขอให้ฝ่ายไทยแจ้ง ฝ่าย กัมพูชาเพื่อให้ฝ่ายกัมพูชา นำตัวนักท่องเที่ยวออกจากพื้นที่ 2.หากมีปัญหาในพื้นที่ การแก้ปัญหาให้ชุดประสานงานในพื้นที่ […]

“แพทองธาร” ยินดีมวยไทยบรรจุในกีฬาทหารโลก 2027

กระทรวงวัฒนธรรม 16 ก.ค.- “แพทองธาร” ยินดีความสำเร็จมวยไทยบรรจุในกีฬาทหารโลก 2027 อย่างเป็นทางการ ชี้ เป็นผลลัพธ์การทำงานอย่างมุ่งมั่นของคกก.ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมซอฟต์พาวเวอร์ด้านกีฬา-กองทัพไทย-สมาคมส่งเสริมกีฬาทหาร (ประเทศไทย) ผลักดันสู่เวทีกีฬาสากล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่ายกระดับมวยไทยสู่เวทีโลกอีกขั้น ดิฉันขอแสดงความยินดีอย่างยิ่ง กับความสำเร็จล่าสุดของประเทศไทย — #มวยไทย ได้รับการบรรจุเป็นหนึ่งในชนิดกีฬาของการแข่งขัน CISM World Summer Games 2027 (กีฬาทหารโลก 2027) อย่างเป็นทางการแล้วค่ะ การแข่งขันกีฬาทหารโลก จัดโดย สภากีฬาทหารระหว่างประเทศ เป็นมหกรรมกีฬาระดับนานาชาติ ปัจจุบันมีประเทศในสมาชิก 141 ถือเป็นเวทีสำคัญที่ทั่วโลกให้การยอมรับ ประเทศไทยเพิ่งเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน 1st CISM Military Muaythai Challenge เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ถือเป็นก้าวแรกของการเปิดเวทีระหว่างประเทศให้มวยไทยเข้าสู่การแข่งขันของกองทัพนานาชาติ การบรรจุมวยไทยในกีฬาทหารโลกครั้งนี้ ถือเป็นความสำเร็จสำคัญของประเทศไทย และเป็นผลลัพธ์จากการทำงานอย่างมุ่งมั่นของคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรม Soft Power ด้านกีฬา ร่วมกับกองทัพไทย และสมาคมส่งเสริมกีฬาทหาร (ประเทศไทย) ที่ผลักดันให้ “มวยไทย” […]