ส.ส.มองงบพลังงานไม่มีโครงการเพื่อประชาชน

รัฐสภา 20 ส.ค.-“ชวน” เตือน ส.ส.รักษามาตรฐานสภาฯ ทำตามข้อบังคับการประชุม หลังมี ส.ส.ไม่เข้าใจการแปรญัตติ ขณะสภาฯ ถกงบ ก.พลังงาน ชี้ปล่อยปละละเลยไม่มีโครงการเพื่อประชาชน


การประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 วาระที่ 2 และ 3 วันที่ 3 เริ่มพิจารณามาตรา 18 งบประมาณกระทรวงพลังงาน จำนวน 1,873,129,300 บาท ทั้งนี้ ก่อนเริ่มการประชุม นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า สมาชิกส่วนใหญ่ได้ยึดตามแนวข้อบังคับ ซึ่งการแปรญัตติอาจมีบางท่านทำไม่ได้ด้วยความไม่เคยชิน แต่ขอเตือนอีกครั้งว่า การเตือนนี้ไม่ได้จุกจิกจู้จี้ แต่เพื่อให้ทุกคนได้รักษามาตรฐานของสภาฯ สมาชิกย่อมมีสิทธิในการอภิปราย เพราะเป็นการแปรญัตติ แต่ในข้อบังคับหากไม่ได้แปรญัตติ และไม่ได้สงวนความเห็น ก็อภิปรายได้เฉพาะถ้อยคำที่มีการเปลี่ยนแปลงตามข้อบังคับ ถ้าเข้าใจจุดนี้จะได้ปฏิบัติภารกิจได้อย่างสมบูรณ์มากขึ้น เพราะบันทึกทุกคนที่อภิปรายจะเป็นประวัติศาสตร์วันข้างหน้า หากคนมาอ่านก็จะได้เข้าใจว่า สมาชิกท่านนี้รู้กฎเกณฑ์หรือไม่

จากนั้นได้เข้าสู่วาระการประชุมพิจารณามาตรา 18 งบประมาณกระทรวงพลังงาน โดยนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ในฐานะคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 กล่าวว่า กรรมาธิการฯ ปรับลดงบกระทรวงพลังงานไม่มาก ซึ่งในส่วนของตนได้สงวนความเห็นกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (2) แผนงานยุทธศาสตร์พัฒนาความมั่นคงทางพลังงาน รายการเงินอุดหนุนการชดเชยส่วนต่างการซื้อน้ำมันดิบของการไฟฟ้าแห่งประเทศไทย 100 ล้านบาท


“รับทราบข้อมูลว่า กระบวนการน้ำมันปาล์มที่นำเข้ามาโดยไม่ถูกต้อง และปิดบังอำพรางบางส่วน บางครั้งก็สวมสิทธิโดยมิชอบ นำน้ำมันภายนอกเข้ามาทำราคาน้ำมันปาล์มให้สูงขึ้น หากสังเกตจะพบว่า ช่วงหลังๆ น้ำมันปาล์มมีราคาแพง แม้จะมีเงินชดเชยเงินอุดหนุนให้กับกรมพัฒนาพลังงานฯ ก็ไม่ได้หมายความว่า ตลาดค้าน้ำมันปาล์มดิบที่นำมาใช้มีความไม่ชอบมาพากลในกระบวนการอยู่ และมีมูลค่าที่สูงมาก จึงอยากให้ ส.ส. ผู้ที่เป็น กมธ.ได้ติดตามและตรวจสอบ เพื่อให้ผลประโยชน์ของประเทศไม่รั่วไหล และให้ประชาชนใช้สินค้าที่มีราคายุติธรรม พร้อมทั้งให้กระบวนการทุจริตถูกปราบปราม” นายเรืองไกร กล่าว

นายเกียรติ สิทธีอมร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายว่า ได้สงวนความเห็นขอตัดลดงบกระทรวงพลังงาน 10% ซึ่งได้ตั้งโจทย์ไว้ตั้งแต่ในวาระ 1 อาทิ นโยบายของกระทรวงพลังงาน เป็นประโยชน์สูงสุดกับประชาชนหรือไม่ น้ำมันแพง ของแพง ก๊าซ ค่าไฟ ขนส่งแพง กระทบประชาชนทั้งสิ้น เอกสารงบฯ ระบุว่า ตัวชี้วัดสำคัญที่สุด คือ การตั้งราคาพลังงานไปยึดโยงกับรายได้ของครัวเรือน ซึ่งมันไม่ได้ ประเทศมีพลังงานและทรัพยากรธรรมชาติเพียงส่วนหนึ่ง มันต้องเกลี่ยต้นทุน ไม่ใช่เอาต้นทุนไปเทียบกับกำลังซื้อของประชาชนเป็นหลัก ตรงนี้มันผิดแต่ต้น จึงอยากถามว่า กรรมาธิการฯ ซักถามหรือไม่ว่า นโยบายกระทรวงฯ เป็นอย่างนี้หรือไม่

“ผมบอกว่าให้ช่วยไปดูราคาหน้าโรงกลั่นของเราที่แพงกว่าภูมิภาคนี้ ตั้งแต่ปี 61, 62, 63 และ 64 เห็นชัดว่าสูงกว่าทุกปี ซึ่งปี 64 สูงกว่าถึง 61% และราคาก๊าซ ผมก็ชี้ให้เห็นในคราวที่แล้วว่า หลักคิดของราคาก๊าซ ไปคิดอ้างอิงราคาตลาดทั้งที่ประเทศไทยมีก๊าซส่วนหนึ่งในประเทศ มีต้นทุนต่ำกว่า คำตอบคือ สำนักปลัดฯ ออกมาชี้แจง ซึ่งอยู่ในรายงานการประชุมกรรมาธิการฯ ว่า จะปรับลดเงินเข้ากองทุนอนุรักษ์พลังงาน จาก 10 สตางค์ เป็น 5 สตางค์/ลิตร ท่านได้ดูหรือเปล่าว่าลดแค่นี้พอหรือไม่ อีกประการคือ ไม่ได้บอกว่าจะทำเมื่อไหร่ พูดลอยๆ กรรมาธิการฯ พอใจหรือ เพราะนี่คือทุกข์ของประชาชน” นายเกียรติ กล่าว


นายเกียรติ กล่าวว่า เรื่องก๊าซธรรมชาติ สำนักนโยบายและแผนพลังงาน ระบุไว้ในรายงานการประชุมว่า เปิดเสรีก๊าซธรรมชาติ ปตท.เป็นผู้ดำเนินการ คำถามคือ เรามีกำกับดูแลกิจการพลังงานทำไม ท่านเขียนในรายงานของท่านอย่างนั้น แล้วท่านพอใจกับคำตอบนี้หรือว่า ปตท.จะเป็นผู้ดำเนินการในแง่ซึ่ง ปตท.เป็นเพียงตัวละครตัวหนึ่ง แต่กรรมาธิการท่านไปบันทึกไว้ในรายงาน ผมก็ต้องตั้งคำถามกับกรรมาธิการ เพราะตรงนี้เป็นงานของกรรมาธิการ ไม่เกี่ยวกับกระทรวงแล้ว ทำไมกรรมาธิการยอมรับคำพูดและคำตอบเช่นนี้ มันผิดตั้งแต่ต้น และอีกเรื่องคือ กรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) บอกว่า ปรับราคาหน้าโรงกลั่น 50 สตางค์/ลิตร ปรับไปตั้งแต่วันที่ 17 มิ.ย.63 ท่านได้ไปดูหรือไม่ว่า ปรับหน้าโรงกลั่นก็จริง แค่ค้าปลีก ที่ปั๊มไม่มีการปรับ และกำไรยังอยู่ในระบบทั้งหมด

“ถ้ากระทรวงฯ ตอบมาอย่างนี้ มันไปได้หรือ กรรมาธิการฯ ยังอนุมัติให้หรือ คำตอบมีบันทึกไว้ในรายงานการประชุมเช่นกันว่า มาถามอะไรเรื่องราคาประเทศไทยมันแพง เพราะราคาแต่ละประเทศต่างกัน เนื่องจากภาษีต่างกัน ผมไม่ได้พูดเรื่องเหล่านี้ ผมบอกว่าราคาหน้าโรงกลั่นไม่เกี่ยวกับภาษีในประเทศเลย คำตอบเหล่านี้มันหลงทาง ท่านกรรมาธิการฯ ได้โต้แย้งไปหรือไม่ ในมุมหนึ่งถ้าผมเป็นกรรมาธิการอยู่ ผมคิดว่า คำพูดอย่างนี้มันดูถูกกรรมาธิการ และราคาขายปลีกไม่ลดลงเลย ได้ตั้งคำถามกลับไปหรือเปล่า ต้นทุนพลังงานคือต้นทุนสินค้าทุกประเภท กระทบชีวิตประชาชน กระทบค่าไฟ นี่คือเรื่องใหญ่ ผ่านไปง่ายๆ ไม่ได้ พอผมอ่านรายงานการประชุมยิ่งกังวลไปอีก ผมไม่มีอะไรมาก แต่ขอคำชี้แจงว่า เวลาท่านเรียกเจ้าหน้าที่กระทรวงฯ มาอธิบายใน กมธ. เขาชี้แจงมาแบบนี้ แล้วท่านยอมรับคำชี้แจงแบบนี้หรือเปล่า หรือมีแนวทางที่แนะนำไป แต่ไม่ได้บันทึกในรายงานการประชุมหรือเปล่า” นายเกียรติ กล่าว

นายณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ ส.ส.สงขลา พรรคภูมิใจไทย อภิปรายว่า ขอเสนอปรับลดงบประมาณปี 2565 ของกระทรวงพลังงานลง 7% ทั้งนี้ ตนไม่รู้จัก รมว.พลังงาน เป็นการส่วนตัว และไม่มีธุรกิจเกี่ยวกับพลังงาน ไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อนในกระทรวงฯ แต่ตนเป็นผู้หนึ่งที่ใช้พลังงานทุกรูปแบบ และได้รับผลกระทบทุกครั้งกับนโยบายของกระทรวงพลังงาน ปัจจุบันวิกฤติเศรษฐกิจการลงทุนของไทยตกต่ำ ธุรกิจที่อยู่รอดคือกลุ่มพลังงาน แม้ผลประกอบการจะลดลง ซึ่งกระทรวงพลังงานถูกปรับลดเพียงแค่ 10 ล้านบาท จากงบประมาณที่ขอไว้ เป็นการปรับลดลงน้อยมากแบบมีนัยสำคัญ โดยกระทรวงฯ ขอรับงบประมาณแบบชาญฉลาด ตั้งงบประมาณผูกพันประจำปีเกือบทุกโครงการ

“ไม่ว่าจะโครงการเล็กหรือใหญ่ ใช้วิธีการจากบริษัทมหาชนข้างนอกมาทำงบประมาณ เช่น การเช่ารถประจำตำแหน่งของเลขานุการรัฐมนตรี จำนวน 1.5 ล้านบาท โดยทำเป็นงบต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2561-2565 อีกทั้งการจัดซื้อรถตู้ การจัดซื้อรถหกล้อ 1 ตัน การจัดซื้อรถกระบะ การจัดซื้อรถบรรทุก ใช้วิธีการเดียวกันหมด คือ งบผูกพัน จำนวน 20-30 คัน ที่ กมธ.ไม่สามารถตัดได้ เพราะถ้าตัดจะกระทบกับการใช้จ่ายงบต่อเนื่อง รวมถึงโครงการพัฒนาเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานด้านพลังงานทดแทนก็ตั้งรายจ่ายค่าจ้างศึกษาความเหมาะสม และการสำรวจ ก็เป็นงบผูกพันต่อเนื่องไว้เกือบทุกโครงการ และราคาน้ำมันยังขึ้นต่อเนื่องในวิกฤติโควิดด้วย จึงถามว่า ทำไมราคาน้ำมัน แก๊ส ไฟฟ้า จึงสูงขึ้นเรื่อย ๆ และเป็นงบทิพย์ที่ไม่สามารถตัดได้จริง ดังนั้น ตนจึงขอปรับลดลง 7%” นายณัฏฐ์ชนน กล่าว

นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เนื่องจากปัญหาเรื่องราคาค่าไฟฟ้าที่ประชาชนไม่ได้รับความเป็นธรรม ตนเสนอปรับลดงบประมาณกระทรวงพลังงานลง 7% เพราะกรรมาธิการปรับลดงบประมาณกระทรวงนี้ลงน้อยมาก จึงขอถามกรรมาธิการว่า ได้ทำหน้าที่ดูแลให้ความเป็นธรรมเรื่องราคาพลังงานกับประชาชนมากน้อยเพียงใด

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ขอเสนอให้ปรับลดลง 10% ซึ่งกระทรวงนี้เหมือนจะของบประมาณมาน้อย ดูเหมือนน่าสงสาร และแลดูสวยงาม แต่เอาเข้าจริงเป็นงบประมาณที่มาก เพราะส่วนใหญ่มีรายรับ ความเป็นจริงไม่ควรให้งบกับกระทรวงนี้เลย แต่เป็นกระทรวงสำคัญและมีความจำเป็น เพราะหน่วยงานในกระทรวงนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินภาษีของประชาชน ที่ผ่านมามีบริษัทเอกชนที่เข้ามาลงทุนในไทยแล้วก็ฟ้องอนุญาโตตุลาการต่อกระทรวงพลังงาน มีการจ้างทนายเกือบ 1,000 ล้านบาท จากต่างประเทศ เพื่อสู้คดีที่ฟ้องรัฐบาลไทย ซึ่งกระทรวงพลังงานก็ต้องเอาเงินภาษีประชาชนไปจ้างทนายความเพื่อสู้คดี

“ถ้าเอาเงินงบที่ตั้งมาไปลดค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าแก๊ส ไม่มีปัญหา แต่ตั้งงบมาเพื่อไปจ่ายทนาย ถามว่าใครเป็นคนผิด ใครพลาดก็จะต้องไปทวงตั้ง 7 ชั่วโคตร รัฐบาลผิดพลาด แต่ใช้ภาษีของประชาชนจ้างทนาย และราคาปาล์มน้ำมันที่ลดลง แต่รัฐบาลกลับแก้ปัญหาด้วยการสั่งการให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตซื้อปาล์มจากภาคใต้มาโรงไฟฟ้าบางปะกง ผมขอฟ้องประชาชนว่า เงินที่ตั้งทั้งหมดไม่ได้เป็นการลงทุน แต่ไปใช้เรื่องที่ทำผิดพลาดทั้งสิ้น รวมทั้งถามว่า กระทรวงพลังงานปล่อยปละละเลยเอื้อกับกลุ่มทุนหรือไม่ หากทำตรงไปตรงมาไม่มีใครว่า อย่างไรก็ตาม รายละเอียดและข้อมูลทั้งหมด ขอให้ รมว.พลังงาน พิจารณาและดำเนินการ ทั้งนี้ ประเด็นที่เกี่ยวข้องขอให้ติดตามต่อในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ” นายจิรายุ กล่าว

นายอุบลศักดิ์ บัวหลวงงาม ส.ส.ลพบุรี พรรคเพื่อไทย ในฐานะกรรมาธิการฯ อภิปรายว่า ในพื้นที่ จ.กำแพงเพชร และ จ.เพชรบูรณ์ พบว่ามีการสำรวจปริมาณน้ำมัน โดยทุกคืนจะพบการขนน้ำมันออกจาก 2 พื้นที่ดังกล่าว โดยระบุว่าเพื่อการวิจัย แต่ข้อเท็จจริงพบว่านำไปขายให้ประเทศเพื่อนบ้าน จึงทำให้ในประเทศเมียนมามีน้ำมันราคาถูก ทั้งที่ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีน้ำมันมากสุดในอาเซียน จึงขอปรับลดงบประมาณกระทรวงพลังงาน เพื่อปรับแผนการบริหารงานให้ดูแลประชาชนที่เป็นผู้บริโภคน้ำมันแพงที่สุด การจัดตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปี ควรตั้งงบชดเชยหรือเหลื่อมล้ำระหว่างภูมิภาคกับพื้นที่เมืองให้ราคาเท่ากัน โดยรัฐบาลต้องชดเชยตัวเลขเหลื่อมล้ำค่าพลังงาน

จากนั้นที่ประชุมได้ลงมติมาตรา 18 โดยเสียงข้างมาก 230 เสียง เห็นชอบตาม กมธ.เสียงข้างมาก ต่อ 109 เสียง งดออกเสียง 1 เสียง ก่อนที่ประชุมจะพิจารณามาตรา 19 งบประมาณรายจ่ายของกระทรวงพาณิชย์ต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกฯ รับคลิปเสียงจริง ซัด “ฮุนเซน” ปล่อยหวังรัฐบาล-กองทัพแตกแยก

ทำเนียบ 18 มิ.ย.- นายกฯ รับคลิปเสียงคุย “ฮุนเซน” เป็นของจริง แจงปมบอกแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นฝ่ายตรงข้าม เป็นเทคนิคการเจรจาต่อรองสร้างสันติภาพ หลัง “ฮุนเซน” โกรธ ชี้จุดประสงค์หวังสร้างคะแนนนิยมรัฐบาลกัมพูชาที่ไม่สนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ รับไม่ไว้ใจ จากนี้ไม่ขอคุยส่วนตัว ปัดตอบสัมพันธ์ 2 ตระกูล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงด่วนกรณีมีคลิปเสียงสนทนาระหว่างที่พูดคุยกับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เผยแพร่ออกมาผ่านโซเชียลมีเดีย โดยยอมรับว่าเป็นคลิปจริง เป็นการคุยกันเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งตนได้ทราบข้อมูลจากล่ามที่แปลว่า ทางสมเด็จฮุน เซน โกรธแม่ทัพภาคที่ 2 ที่มีการพูดกันก่อนหน้านั้น เมื่อได้คุยกัน ตนจึงบอกว่า แม่ทัพภาคที่ 2 พูดกันแบบนี้ ในเมื่อเราทั้งไทยและกัมพูชาเป็นฝั่งตรงข้ามกันอยู่แล้ว ในตอนนั้นก็ต้องพูดแบบนี้ อย่าไปคิดเลย ซึ่งเป็นสิ่งที่พยายามจะทำความเข้าใจ เพราะทางฝั่งสมเด็จฮุน เซน โกรธเรื่องนี้ และเป็นเทคนิคในการพูดหลังไมค์หลังบ้านแบบส่วนตัว ซึ่งการคุยโทรศัพท์ก็ไม่ควรเอามาเปิดเผย เพราะเป็นเทคนิคในการเจรจาพูดคุยต่อรอง ส่วนตัวคิดว่า ตนทำเพราะมีจุดมุ่งหมายและมีประเด็นที่จะรักษาไว้ซึ่งความสงบสุขของบ้านเมืองและรักษาอธิปไตยของไทยไว้ ให้ผลประโยชน์อยู่กับประเทศชาติและประชาชน ตนก็คุยด้วยความซอฟต์และความนุ่มนวล เพราะบางทีเวลาคุยกันส่วนตัวก็เรียกกันลุงหลาน […]

ทบ.ติดแฮชแท็กเซฟ มทภ.2

กทม. 18 มิ.ย.- ทบ.ติดแฮชแท็กเซฟ มทภ.2 ส่วนหน้าสโมสรกองทัพบก ถ.วิภาวดีรังสิต ขึ้นข้อความให้กำลังใจผ่านจอแอลอีดี ขณะที่เพจโซเชียลกองทัพ แห่โพสต์ข้อความ #ศักดิ์ศรีของทหาร 18 มิ.ย.68 ภายหลังจากที่มีคลิปเสียงการพูดคุยระหว่าง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภาและอดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา หลุดออกมา และมีการพูดถึง พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ว่าอยู่ฝั่งตรงข้าม ล่าสุดเพจเฟซบุ๊กของหน่วยทหารต่างๆ อาทิ กรมกิจการพลเรือนทหารบก ได้โพสต์ข้อความว่า พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เรื่อง #ศักดิ์ศรีของทหาร 1. ทหาร คือ ผู้ที่ได้รับเกียรติอย่างสูงจากประชาชนทั้งชาติ ให้เป็นสุภาพบุรุษ ถืออาวุธเพื่อป้องกันประเทศ 2. ทหาร เป็นผู้เสียสละประโยชน์สุขส่วนตัว เพื่อความผาสุกของประชาชนและความอยู่รอดของชาติ 3. ทหาร คือ ผู้ที่รักและบูชาเกียรติยศมากกว่าเงิน นอกจากนี้ เพจ Smart Soldiers Strong […]

“อนุทิน” บอก “จบแล้วครับนาย” ขออย่าปรามาส จะเป็นฝ่ายค้านให้ดู

กทม. 18 มิ.ย.-“อนุทิน” สั่ง จนท.ขนของออกจากกระทรวง บอก “จบแล้วครับนาย” ไม่ต้องคุยนายกฯ หลัง “หมอมิ้ง” ยื่นไพ่ใบสุดท้าย ขออย่าปรามาส จะเป็นฝ่ายค้านให้ดู เตรียมซ้อมกับ “ไอซ์ รักชนก” เวลา 13.35 น. วันที่ 18 มิ.ย.68 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์หลังนายกฯ ระบุว่ายังไม่แจ้งเงื่อนไขการปรับ ครม. ว่า ตนยังไม่ได้ยิน ซึ่งเมื่อวานนี้ได้คุยกับ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกฯ ซึ่งเราก็บอกท่าทีเราไปแล้ว เมื่อถามว่า การขนของออกจากห้องทำงาน ถือเป็นการปิดประตูเจรจาหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ได้คุยกับ นพ.พรหมินทร์ ชัดเจนแล้วว่า เราคงไม่ได้เปลี่ยนอะไร และ นพ.พรหมินทร์ ได้ย้ำเงื่อนไขของพรรคเพื่อไทยว่าเป็นแบบนี้ เมื่อถามต่อว่า ต้องคุยกับนายกฯ อีกครั้งหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตนยังไม่ได้คุยกับนายกฯ และเมื่อวาน […]

“ฮุน เซน” ปล่อยแล้ว คลิปเสียงฉบับเต็ม 17 นาที

กัมพูชา 18 มิ.ย. – “ฮุน เซน” ปล่อยแล้ว คลิปเสียงคุย “แพทองธาร” ฉบับเต็ม 17 นาที เผยบันทึกเสียงสนทนาเพื่อความโปร่งใส ส่งต่อให้บุคคลอื่นราว 80 คน เว็บไซต์ขแมร์ ไทม์ส รายงานว่า “นายฮุน เซน” ประธานวุฒิสภากัมพูชาเปิดเผยผ่านสื่อโซเชียล มีเนื้อหาระบุว่า “เมื่อเย็นวันที่ 15 มิถุนายน ผมได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีของไทยเป็นเวลา 17 นาที 6 วินาที โดยมีนายเคลียง ฮวต รองผู้ว่าราชการกรุงพนมเปญ ทำหน้าที่ล่ามแปลภาษา ซึ่งตามปกติแล้วเพื่อหลีกเลี่ยงการเข้าใจที่คลาดเคลื่อนหรือตีความหมายผิดในเรื่องที่เป็นทางการ จึงจำเป็นต้องทำการบันทึกเสียงสนทนาเพื่อความโปร่งใส รวมถึงเพื่อวัตถุประสงค์ภายในของกัมพูชาด้วย และจากนั้นเป็นต้นมา ตนเอง ก็ได้แชร์เทปเสียงสนทนานี้ให้กับบุคคลอื่นๆ ราว 80 คน ที่รวมถึงสมาชิกคณะกรรมการถาวรของพรรค คณะทำงานวุฒิสภา หน่วยงานเฉพาะกิจด้านการต่างประเทศ หน่วยงานด้านการศึกษาและการเข้าถึงกลุ่มกิจการชายแดน และสมาชิกกองกำลังติดอาวุธ ซึ่งในจำนวนคนเหล่านี้อาจมีความเป็นไปได้ที่จะมีบางคนที่ไม่พอใจนายกรัฐมนตรีของไทย ฮุน เซนโพสต์ต่อว่า “แต่หลังจากการสนทนาผ่านไปเพียงไม่กี่ชั่วโมง ผู้นำไทยกลับออกมากล่าวหาผู้นำกัมพูชาอย่างเปิดเผยว่าทำงานการเมืองอย่างไม่เป็นมืออาชีพ และขับเคลื่อนประเด็นทางการเมืองผ่านทางเฟซบุ๊ก […]

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางแห่งบริเวณตะวันออก-อีสานตอนบน-ใต้ฝั่งตะวันตก

กรุงเทพฯ 20 มิ.ย. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคตะวันออก ภาคอีสานตอนบน และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% ส่วนมากช่วงบ่ายถึงค่ำ กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยจะเริ่มมีฝนเพิ่มขึ้น โดยมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคตะวันออก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ทั้งนี้ เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย เริ่มมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมประเทศเวียดนามตอนบน สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย เดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากในช่วงระหว่างบ่ายถึงค่ำ อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-38 องศาเซลเซียส.-สำนักข่าวไทย

9 ทันโลก : “คลิปเสียง” อาวุธทางการเมืองในกัมพูชา

กัมพูชา 19 มิ.ย. – กรณีคลิปเสียงที่นายฮุน เซน เปิดเผยออกมา หลายท่านคงสงสัยว่า เขาเคยใช้วิธีนี้กับใครอีกหรือไม่ รายงาน 9 ทันโลก วันนี้ พาไปติดตามการปล่อยคลิปเสียงในฐานะเครื่องมือทางการเมืองในกัมพูชา. – สำนักข่าวไทย

รทสช.มอบหมาย “พีระพันธุ์” นำมติพรรคคุยนายกฯ ก่อน

รทสช. 19 มิ.ย.- “รวมไทยสร้างชาติ” ยังไม่เผยมติพรรค มอบหมาย “พีระพันธุ์” นำมติคุยนายกฯ ก่อน หลังมีการวิเคราะห์สถานการณ์การเมืองเกือบ 2 ชม. นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทย เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค โดยมีนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะเลขาธิการพรรค พร้อมด้วยกรรมการบริหารพรรค ประกอบด้วย นายปรากรมศักดิ์ ชุณหะวัณ นายดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุล นายชื่นชอบ คงอุดม นายวิสุทธิ์ ธรรมเพชร เข้าร่วมประชุม ขณะที่นายวิทยา แก้วภราดัย ติดภารกิจ ส่วนนายเกรียงยศ สุดลาภา นายทะเบียนพรรค และนายเกชา ศักดิ์สมบูรณ์ ไม่ได้รับเชิญเข้าร่วม ซึ่งทั้งนายเกรียงยศ และนายเกชา อยู่กลุ่ม 18 ของนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะรองหัวหน้าพรรค จากนั้นเวลา 19.00 น. นายพีรพันธุ์ เดินทางออกจากพรรค […]

มทภ.2 ลั่นทหารยังเป็นเสาหลักไม่เปลี่ยน มุ่งป้องกันประเทศทุกวิถีทาง

นครราชสีมา 19 มิ.ย. – ท่วมท้น! กำลังใจหลั่งไหลสู่ “พล.ท.บุญสิน” และทหารชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านแม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวขอบคุณ ลั่นทหารยังเป็นเสาหลักไม่เปลี่ยนแปลง มุ่งมั่นป้องกันประเทศชาติทุกวิถีทาง ขอให้ประชาชนไว้วางใจ ช่วงบ่ายวันนี้ (19 มิ.ย.68) ที่สโมสรร่วมเริงไชย กองทัพภาคที่ 2 จ.นครราชสีมา สถานศึกษาและบริษัทเอกชน นำสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็นมามอบให้กับ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ และส่งต่อธารน้ำใจไปยังทหารที่ประจำอยู่แนวชายแดนไทย-กัมพูชา นอกจากนี้ นักเรียนจากโรงเรียนราชสีมาวิทยาลัย และโรงเรียนสุรธรรมพิทักษ์ ยังนำข้อความจากใจของนักเรียนที่เขียนให้กำลังใจแม่ทัพภาคที่ 2 มามอบให้ด้วย ด้านแม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวขอบคุณ และบอกว่าจะรีบนำสิ่งของไปมอบให้โดยเร็ว พร้อมยืนยันว่า กองทัพภาคที่ 2 ยังทำหน้าที่เหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ฝ่ายบริหารก็แก้ปัญหาทางการเมือง ส่วนความมั่นคงของชาติ ทั้ง 3 เหล่าทัพ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มุ่งมั่นป้องกันประเทศชาติทุกวิถีทางที่จะไม่ให้เสียดินแดน ขอให้พี่น้องประชาชนไว้วางใจ สิ่งที่ตนพูดไปแล้วก็ตามนั้น. – สำนักข่าวไทย